xs
xsm
sm
md
lg

“สมชัย” จ่อคุยข้อปฏิบัติต่อสถาบันทุกพรรคจันทร์นี้ หวังไม่มีใครใช้เป็นสโลแกน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (แฟ้มภาพ)
กกต.ประชุมร่างแผนปฏิบัติงาน 4 ปี เผยนัดทุกพรรคคุยจันทร์นี้ เน้นค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง การหาเสียง ชี้นำเรื่องสถาบันมาเป็นข้อปฏิบัติไม่ตั้งกฎเป็นข้อห้ามกลัวดูแข็งกร้าวเกิน ซ้ำส่อผิดกฎหมาย เชื่อผู้สมัครมีวิจารณญาณ คาดหลังคุยพรรคจะไม่เอามาใช้เป็นสโลแกน ยันคัตเอาต์ รมต.ถ้าเป็นนโยบายกระทรวงก็ไม่มีปัญหา

วันนี้ (29 เม.ย.) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมประชาพิจารณ์ร่างแผนปฏิบัติงาน 4 ปี ของสำนักงาน กกต. (พ.ศ. 2554-2557) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 395 คน แบ่งเป็นผู้บริหารและพนักงานจากส่วนกลางและภูมิภาค ทั้งนี้ นายสมชัยกล่าวตอนหนึ่งว่า หลังจากที่มีการใช้แผนปฏิบัติงาน ฉบับที่ 1 ตั้งแต่ พ.ศ. 2548-2552 เป็นผลสำเร็จมาแล้วระดับหนึ่งและจะต้องมีการพัฒนาแผนฉบับที่ 2 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการแบบมุ่งสัมฤทธิ์ในระยะ 4 ปี ดังนั้นจึงต้องทบทวนปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การทำงานใหม่ให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น ได้แก่ภารกิจจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น รวมถึงการเลือกตั้งระดับชาติที่จะมีต่อเนื่องในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการเสนอร่างแผนปฏิบัติการ 4 ของสำนักงาน กกต.เปรียบเสมือนเข็มทิศให้สำนักงาน กกต.ก้าวไปสู่การปฏิรูปการเมืองที่เหมาะสมต่อไป

“ที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนคัดค้านนั้น แม้ผมจะเป็น กกต.ก็ยังถูกตั้งกรรมการสอบสวนด้วย แผนปฏิบัติของ กกต.ที่ผ่านมาทำไว้อย่างไร เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วทุกคนก็ไม่มีจิตใจทำงาน ดังนั้นก็ควรจะมองว่าเราจะต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อให้คนที่ทำงานต้องไม่เสียขวัญกำลังใจ แผนอย่างนี้ก็ต้องเร่งก่อนว่าทำอย่างไร ให้เหมือนเป็นแผนเร่งด่วน เช่นที่เรามีการแก้ไขไป การที่ทุกคนจะร้องเรียนได้ก็เป็นการเพิ่มงานให้แก่ กกต.มากมาย โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนได้ค่าทำสำนวนละ 3,000 บาท ก็สามารถสอบพาดพิงให้แตกเป็นหลายสำนวนได้ ต่อมาได้วางระเบียบโดยจะสามารถร้องได้ต้องเป็นตามแบบที่เรากำหนดไม่ใช่ว่าใครจะร้องได้ ปรากฏว่าสามารถขจัดการร้องมากมายให้ลดลงได้ ดังนั้น แผนที่ดีจะทำให้องค์กรสัมฤทธิผลได้ แผน กกต.จะสำเร็จได้ต้องมีแผนล็อบบี้สำนักงานงบประมาณ และมีแผนล็อบบี้ กกต.ด้วย ไม่นั้นแผนจะไม่ผ่าน” นายสมชัยกล่าว

จากนั้น นายสมชัยกล่าวถึงในวันที่ 2 พ.ค.ที่นายกรัฐมนตรี และพรรคการเมืองเตรียมที่จะมาหารือกับ กกต.ถึงระเบียบและข้อควรปฏิบัติระหว่างช่วงเวลาหาเสียงว่า ขณะนี้ กกต.ได้เตรียมหลักการเอาไว้แล้วโดยจะเตรียมหารือกับทุกพรรคการเมืองทั้งในเรื่องค่าใช้จ่าย และการซักซ้อมทำความเข้าใจการหาเสียงโดยเฉพาะการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น เฟซบุ๊ก และการกล่าวอ้างถึงสถาบันมาเป็นประโยชน์ในการหาเสียงว่าจะมีขอบเขตในการจะนำไปหาเสียงได้แค่ไหน อย่างไรก็ตาม กกต.เชื่อว่าจะให้ความชัดเจนต่อผู้สมัครและพรรคการเมืองเพื่อให้ความมั่นใจว่าจะกระทำได้หรือไม่ได้ โดย กกต.อยากฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองเพื่อนำข้อมูลต่างๆที่ได้จากการหารือมาประกอบการพิจารณาว่าระเบียบที่ออกมานั้นจะตึงหรือหย่อนไปหรือไม่

นายสมชัยกล่าวอีกว่า การที่ กกต.ได้ปรับระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงฯ โดยนำเรื่องสถาบันมาไว้ในข้อควรปฏิบัติในการเลือกตั้งนั้น เพราะ กกต.คิดว่าสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมือง ซึ่งนักการเมืองและประชาชนย่อมเทิดทูนไม่ล่วงละเมิดแก่สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว โดยตามหลักนี้ก็ไม่จำเป็นต้องระบุไว้ในระเบียบก็ได้ ซึ่งก็มี กกต.บางคนก็เห็นเช่นนั้น แต่เนื่องจากหลายฝ่ายยังคงมีข้อสงสัยว่าจะควรทำได้แค่ไหนตามที่กฎหมายกำหนด หากกำหนดไว้ในข้อห้ามมิให้ปฏิบัติในการเลือกตั้งอย่างเดียวก็จะทำให้ดูแข็งกร้าวไป จึงเห็นควรใช้เป็นข้อควรที่มิบังควรนำสถาบันไปหาเสียงแทนจะเหมาะสมกว่า ซึ่งหากนำไปไว้ในข้อห้ามนั้นจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นถ้าผู้สมัครจะเทิดทูนสถาบัน เราจะไปขัดขวางการแสดงความจงรักภักดีไม่ได้เพราะจะทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบได้ จึงเห็นควรให้เป็นข้อควรปฏิบัติแทน ซึ่งจะทำให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองตระหนักว่าควรจะทำอย่างไรและเชื่อว่าผู้สมัครจะมีวิจารณญาณมากกว่าบุคคลทั่วไปอยู่แล้ว

“การปรับแก้ให้นำเรื่องสถาบันไว้ในข้อควรปฏิบัตินั้น ข้อควรปฏิบัติจะไม่มีสภาพบังคับเหมือนให้ปฏิบัติเหมือนข้อห้าม แต่ กกต.ก็จะดูว่าจะนำไปสู่การเลือกตั้งที่ไม่สงบเรียบร้อย ส่วนมาตรการอื่นๆ อาจจะนำมาใช้ร่วมด้วยได้ แค่บอกว่ามิบังควรในข้อควรปฏิบัติก็ถือว่าโทษก็ไม่ได้เบาไปกว่าข้อห้าม” นายสมชัยกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีพรรคการเมืองนำประเด็นเทิดทูนสถาบันมาเป็นสโลแกนของพรรคจะทำได้หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ภายหลังวันที่ 2 พ.ค.ที่จะมีการหารือกับพรรคการเมืองแล้ว เชื่อว่าพรรคการเมืองน่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ว่าห้ามเอาเรื่องสถาบันมาเป็นประโยชน์ในการหาเสียง

เมื่อถามว่า มีกกต.บางท่านไม่เห็นด้วยเรื่องในการนำสถาบันมาไว้ในร่างระเบียบ กกต. นายสมชัยกล่าวว่า อาจจะมี กกต.บางท่านไม่รู้สึกไม่สบายใจที่จะมีการระบุไว้ในระเบียบดังกล่าว แต่ถ้าไม่ระบุไว้ กกต.บางท่านก็ไม่สบายใจอีกเช่นกัน ดังนั้นให้เราได้หารือกันในวันที่ 2 พ.ค.นี้ก่อน

เมื่อถามถึงการขึ้นป้ายคัตเอาต์ของกระทรวงทบวงกรมซึ่งอาจเสมือนเป็นการหาเสียงให้พรรคการเมืองในขณะนี้หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า คงต้องให้มาหารือในวันที่ 2 พ.ค.นี้ก่อน เพราะถ้าเป็นนโยบายกระทรวงไม่ได้หาเสียงก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นการหาเสียงก็คงไม่ได้และต้องเอาป้ายดังกล่าวลง ทั้งนี้โดยส่วนตัวมองว่าบางป้ายคัตเอาต์ที่เป็นของกระทรวงบางป้ายก็ควรเอาลง เพราะแม้รูปไม่สำคัญเท่ากับมองไปแล้วสื่อความหมายถึงการหาเสียงหรือไม่ รวมถึงการพูดถึงนโยบายที่จะทำในอนาคตโดยส่วนตัวเห็นว่าเป็นการหาเสียงด้วยซึ่งจะต้องนำป้ายดังกล่าวของกระทรวงลง

เมื่อถามว่า ขณะนี้ใกล้มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งควรดึงป้ายคัตเอาต์ของกระทรวงที่เหมือนเป็นการหาเสียงลงได้แล้วหรือยัง นายสมชัยกล่าวติดตลกว่า “ถ้าคุณ(ผู้สื่อข่าว)จะไปช่วยเอาลงก็ไม่ขัดข้อง”
กำลังโหลดความคิดเห็น