“ประพันธ์” ฉงนกระแสปฏิวัติแรง รบกวนบรรยากาศการเลือกตั้ง

กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ตั้งข้อสังเกตุปรากฏแปลก รบ.พร้อมประกาศยุบสภา แต่กระแสข่าวปฏิวัติรายวันร้อนแรง ส่งผลกระทบบรรยากาศการเลือกตั้ง แต่เชื่อการเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นแน่นอน เชื่อเหตุปะทะไทย-เขมร ไม่กระทบยุบสภา ย้ำรัฐบาลมีอำนาจบริหารงานเต็มที่ เปรียบซื้อ-ขายสิทธิ์เหมือนมะเร็งร้ายในระบอบประชาธิปไตย

วันนี้ (29 เม.ย.) ที่โรงแรมทีเคพาเลซ กรุงเทพฯ นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวบรรยายเศษ เรื่องการปกครองในระบอบประชาธิปไตยกับการเลือกตั้ง ให้กับรองอัยการจังหวัด 35 จังหวัดของสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) โดยนายประพันธ์กล่าวโดยมีใจความตอนหนึ่งว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศว่าจะยุบสภาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค. ทำให้ กกต.มีงานค่อนข้างเยอะ แต่ก็น่าแปลกใจว่าทั้งที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งแต่ยังมีกระแสข่าวว่าจะเกิดการเลือกตั้งได้หรือไม่ รวมถึงกระแสข่าวเรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร ทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งประชาชนเกิดความสับสน โดยส่วนตัวแล้วตนเชื่อว่าการเลือกตั้งต้องมีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะว่าการเลือกตั้งเป็นหนทางของประชาธิปไตยที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก

นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นมีการคาดการณ์กันว่าจะเกิดการแข่งขันอย่างรุนแรง เนื่องจากมีหลายสีเสื้อและยังมีความคิดเห็นขัดแย้งกันอยู่ในสังคมอาจทำให้ผู้สมัครลงพื้นที่หาเสียงไม่ได้ในบางพื้นที่ ซึ่ง กกต.เป็นห่วง ดังนั้นจำเป็นต้องมีการหารือ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้ เพราะการเลือกตั้งที่จะถึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง กกต.จำเป็นต้องจัดการเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ส่วนเรื่องการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งโดยเฉพาะการซื้อสิทธิ์ขายเสียงเพื่อให้ได้อำนาจรัฐมา กกต.ต้องพยายามหาทางแก้ไข เพื่อให้เรื่องดังกล่าวมีจำนวนลดลง เพราะเหมือนเป็นมะเร็งร้ายในระบอบประชาธิปไตย เมื่อมีการใช้เงินซื้อเสียงไปแล้ว หากได้อำนาจก็จะกลับไปถอนทุนคืน ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 50 มาตรา 237 ที่มีบทลงโทษอย่างรุนแรงหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง

นายประพันธ์ยังกล่าวถึงปัญหาการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาที่บริเวณชายแดนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง รวมทั้งไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป เพราะกระทบเพียงพื้นที่บริเวณเดียวเท่านั้น หากมีการเลือกตั้งในจุดนั้นก็สามารถย้ายหน่วยเลือกตั้งไปในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยได้ ส่วนที่กังวลว่าหากรัฐบาลยุบสภาแล้วกลายเป็นรัฐบาลรักษาการจะมีอำนาจเต็มทีในการทำงานหรือแก้ไขปัญหาที่บริเวณชายแดนหรือไม่นั้น ในรัฐธรรมนูญไม่มีคำว่ารัฐบาลรักษาการ หากยุบสภารัฐบาลสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติในระหว่างที่ยังไม่มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารงาน เพียงแต่มีข้อห้ามตามาตรา 181 ของรัฐธรรมนูญ คือ 1.เรื่องการโยกย้ายข้าราชการ 2.การใช้งบกลางฉุกเฉิน 3.การอนุมัติโครงการที่มีงบผูกพันและ 4.การใช้ทรัพยากรและบุคลากรของรัฐ แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้ก็สามารถทำเรื่องขอความเห็นชอบมายัง กกต.ได้ เพื่ออนุมัติเป็นกรณีไป