“มาร์ค” ขยาด! ฮุนเซนรับปากหยุดยิง ปัดเจรจาระดับรัฐบาล

นายกฯ ไม่สะทกสะท้าน “ฮุนเซน” ด่ากระหายเลือด แต่ยังไม่เชื่อเจรจาระดับพื้นที่หยุดยิงสำเร็จจริง เชื่อ อาจมีวาระซ่อนเร้น ขีดเส้นสั่งเฝ้าติดตามสถานการณ์จนกว่าการประชุมเวทีอาเซียน 7-8 พ.ค.จะแล้วเสร็จ ยัน รบ.ปิดช่องเจรจาชั่วคราว หวั่นเหตุการณ์อาจเปลี่ยนแปลง ขอไม่พูดแผนตอบโต้ หากกัมพูชาไม่ยอมหยุดยิง

วันนี้ (28 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจากับกัมพูชาในเหตุการณ์ปะทะ ว่า วันนี้ได้มีการพบปะกัน และคงจะอยู่ในช่วงที่ต้องดูสถานการณ์ไปอีกสักระยะหนึ่ง ว่า สงบจริงหรือไม่ ซึ่งเราต้องติดตาม และไม่ได้หมายความว่า ช่วงนี้เราอยู่เฉยๆ เราก็ทำหน้าที่ของเรา และต้องดูแลไม่ให้เกิดปัญหาไม่ให้เกิดความเสียเปรียบ เมื่อถามว่า ตอนนี้เขายังเสริมกำลังอยู่ตลอด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราจะติดตามอยู่ตลอด ฉะนั้น จะเป็นตัวที่เราต้องประเมินได้ว่าบ่งบอกเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่า การสรุปสถานการณ์ล่าสุดจากผู้บัญชาการทหารบกที่รายงานมายังนายกฯเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้บอกว่า มีการคุยกันสัญญาณเริ่มไปในทางที่ดีขึ้น แต่เรายังระมัดระวัง และติดตามสถานการณ์ เมื่อถามอีกว่า สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยังออกมากล่าวหารัฐบาลไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นอย่างนั้น สมเด็จฮุนเซน พูดจาลักษณะนั้นมาหลายต่อหลายครั้ง เมื่อถามอีกว่า รู้สึกอย่างไรที่โดนต่อว่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกหรอก

“เพราะคิดว่าคนส่วนใหญ่รู้ว่า อะไรเป็นอะไร เรื่องที่ว่าผมไปกระหายสงครามอะไรนั้น เป็นเรื่องตลก คงไม่มีใครเขาเชื่อ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า สมเด็จฮุนเซนบอกว่า พร้อมเจรจาปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นในระดับทวิภาคี แต่เรื่องของข้อพิพาทปราสาทพระวิหารต้องมีประเทศที่สามเท่านั้น ถึงจะคุยด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นแนวทางของทางกัมพูชา ซึ่งเราทราบอยู่แล้ว ทั้งหมดเตรียมการไว้ทุกทาง การพูดคุยเพื่อให้ปัญหาจบทำได้ แต่ถ้ามีการโจมตีอะไรเข้ามา เราก็ปฏิบัติไปถตามปกติที่เราทำมาแล้ว ซึ่งอันนี้เป็นแนวทางที่ทุกฝ่ายทราบชัดเจนดี ส่วนเรื่องปราสาทพระวิหารนั้นมีการเตรียมการในเรื่องของมรดกโลก และวันนี้ก็ได้คุยกับ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะคู่เจรจาคณะกรรมการมรดกโลก เพื่อเตรียมการหลายด้าน

เมื่อถามว่า คิดว่า เรื่องนี้จะต้องเข้าไปในเวทีอาเซียนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่า เพื่อนๆ ในอาเซียนคงต้องสอบถามอยู่แล้ว แต่หากการพูดคุยกันในวันนี้ไปในทางบวกก่อนประชุมอาเซียน เหตุการณ์น่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เมื่อถามต่อว่า ข้อตกลงนั้นถือเป็นข้อตกลงหยุดยิงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ ขณะนี้เข้าใจว่า เป็นการพูดคุยกันในระดับพื้นที่ และที่พระวิหารก็ไม่ใช่ข้อตกลงอะไร แต่เหตุการณ์ก็สามารถจะยุติลงได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ระดับรัฐบาลจะเข้าไปคุยกันได้เมื่อไร และจะต้องให้สถานการณ์ยุติแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เวลานี้ถ้าการติดตามในพื้นที่ไปในทางที่ดีขึ้นก็อาจจะไปคุยกันอีกทีว่า จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุอีก แต่ในชั้นนี้ไม่อยากให้เราไปพูดอะไรล่วงหน้าจนเกินไป เพราะเราต้องระมัดระวัง และดูว่า ข้อเท็จจริงในพื้นที่เป็นอย่างไร แนวโน้มสถานการณ์จริงๆ เป็นอย่างไร เมื่อถามว่า ประเด็นที่นายกฯจะคุยกับสมเด็จฮุนเซนในการประชุมอาเซียนที่จะมีโอกาสได้พบกันกำหนดไว้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ยัง คงจะดูสถานการณ์ก่อน เพราะจากวันนี้ไปถึงวันที่ 7-8 พ.ค.ก็นานพอสมควรกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อถามว่า หมายถึงอาจไม่จำเป็นต้องคุยกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

เมื่อถามว่า หมายความว่า ถ้ายังไม่หยุดยิงเราก็จะไม่คุยแน่นอนใช่หรือไม่ หรือหยุดแล้วไม่นิ่ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ขอพูดเท่านี้แหละครับ และผมขอย้ำอีกครั้งเมื่อวานอุตสาห์พูดในสภาไปแล้ว ว่า การกำหนดแนวทางจุดยืนการทำงานอะไรต่างๆ คงไม่จำเป็นที่จะต้องแถลง หรือให้สัมภาษณ์กันถี่ทุกเรื่อง ให้คนที่ทำงานได้มีโอกาสไปดำเนินการ และให้ความมั่นใจกับประชาชนได้ว่า เรารักษาประโยชน์ของประเทศไทย ให้ความสำคัญสูงสุดกับการปกป้องอธิปไตย กับความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมอาเซียนครั้งนี้ กัมพูชาจะใช้โอกาสเรียกร้องให้มีการนำกฎบัตรอาเซียนมาไกล่เกลี่ยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นายกฯ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นว่า สถานการณ์เป็นอย่างนั้น และที่ผ่านประธานอาเซียนได้กำหนดแนวทางบทบาทของการอำนวยความสะดวกที่อยู่ในระดับที่เหมาะสม เมื่อถามว่า ให้เวลากี่วันถึงจะบอกได้ว่าสถานการณ์นิ่ง นายกฯ กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงและปัจจัยประกอบกัน อย่างที่บอกคงจะดูเฉพาะสงบเฉยๆ ไม่ได้ ต้องดูการเคลื่อนไหวอื่นๆ ด้วย เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวนั้นหมายถึงการออกมาให้สัมภาษณ์ของฮุนเซนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว