“ประวิตร-กษิต” แจง ครม.เขมรยิงถล่มไทยก่อน จึงได้ตอบโต้ไปตามความเหมาะสม ยันมีคำสั่งตรงจากพนมเปญ หวังดึงนานาชาติเข้ามาไกล่เกลี่ย ปฏิเสธเจรจาระดับทวิภาคีแน่ชัดแล้ว ยืนยันกองทัพพร้อมรักษาอธิปไตย ไม่ให้เสียสักตารางนิ้ว แต่ยังหวังใช้เวทีอาเซียนแจงความจริง
วันนี้ (26 เม.ย.) นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ก่อนที่จะมีการพิจารณาในวาระอื่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงงการปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาควาย และตาเมือนธม โดยได้รายงานว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นกรณีที่ไทยไม่ได้เริ่มก่อน มีการตอบโต้ และไม่ได้ตอบโต้ที่เกินกว่าเหตุ อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ตอนนี้พร้อมตอบโต้อย่างหนัก เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประวิตร ได้แจ้งต่อคณะรัฐมนตรี ว่า กรณีที่เกิดขึ้นเริ่มต้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 06.30 น. ทหารกัมพูชาเข้าพื้นที่ของไทย และเข้ามาดัดแปลงภูมิประเทศ โดยใช้อาร์พีจี และปืนเล็ก ทำให้ทหารไทยโดนอาร์พีจี และปืนเล็ก ตายไป 3 นาย และบาดเจ็บ ซึ่งเขาพยายามใช้อาวุธหนักยิงเข้ามา และเราตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ มีการผลักดัน และแจ้งให้ออกไป แต่ก็มีการปะทะ ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเสียชีวิตทันที และได้รับบาดเจ็บ จากนั้นมีการใช้อาวุธหนักของทั้ง 2ฝ่าย กัมพูชาได้เพิ่มกำลังทหารเข้ามา มีการใช้ปืนใหญ่ รถถัง ซึ่งฝ่ายไทยก็แสดงแนวทางเดียวกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่า เราพร้อมที่จะตอบโต้ จากนั้นมีการยิงกัน เราตอบโต้จากจุดที่เขายิงมา ทหารกัมพูชาเข้าพื้นที่ของไทย และเข้ามาดัดแปลงภูมิประเทศ โดยใช้อาร์พีจี และปืนเล็ก ทำให้ทหารไทยโดนอาร์พีจี และปืนเล็ก ตายไป 3 นาย และบาดเจ็บ ซึ่งเขาพยายามใช้อาวุธหนักยิงเข้ามา และเราตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ มีการตอบโต้กันเรื่อยมา กัมพูชามีการเพิ่มกำลังต่อเนื่อง
นายศุภชัย กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ชี้แจงอีกว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยมีความแม่นยำมากกว่า ปฏิบัติการดีกว่า ทำให้กัมพูชาสูญเสียจำนวนมาก แม้ว่ากัมพูชาจะใช้กำลังอย่างต่อเนื่อง แต่อาวุธที่ใช้ปืนแบบบีเอ็ม 21 ไม่มีการยิงแบบนำวิถี ทำให้สะเปะสะปะ มีชุดหนึ่งยิงเข้ามาใกล้โรงพยาบาลพนมดงรัก ขณะนี้มีการปะทะกัน และมีลักษณะประชิดชายแดน การปะทะยังคงมีอยู่ ซึ่งการปะทะกันในวันที่ 24 เม.ย.เราสามารถยึดอาวุธของฝ่ายกัมพูชาได้จำนวนหนึ่ง จนถึงเมื่อตี 4 ที่ผ่านมา จึงมีการยุติ พล.อ.ประวิตร ก็ได้แจ้งว่า มีทหารไทยเสียชีวิต 5 นาย บาดเจ็บ 27 นาย ส่วนกัมพูชาเสียชีวิต บาดเจ็บจำนวนมาก และมีนายทหารระดับรองผู้บัญชาการกองพลเสียชีวิตด้วย
ขณะนี้มีผู้อพยพประมาณ 3 หมื่นคน พล.อ.ประวิตร ได้ให้ความมั่นใจว่า กองทัพบกจะรักษาจะรักษาอธิปไตย ไม่ให้เสียพื้นที่สักตารางนิ้วเดียว และจะพยายามทำให้สถานการณ์คลี่คลายและสงบโดยเร็วที่สุด
นายศุภชัย กล่าวว่า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งต่อคณะรัฐมนตรี ว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงประชาคมโลก อาเซียน ยูเอ็น ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่กัมพูชาพยายามหลีกเลี่ยงเจรจาทวิภาคี ดึงนานาชาติ่ร่วมปัญหาที่เกิดขึ้น โดยสิ่งที่เกิดผู้นำของกัมพูชามีเจตนาที่จะทำให้การเมืองภายในประเทศเขาเอง ดึงเรื่องนี้ให้นานาชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง นายกษิต ยังแจ้งว่า ในวันที่ 28 เม.ย.จะได้พบกับประธานอาเซียน นายกษิต ยังยืนว่า กรณีดังกล่าวเป็นการสั่งการจากกรุงพนมเปญ ฉะนั้น มีเจตนาเด่นชัด สิ่งที่รัฐบาลไทยพยายามทำ คือ ให้เป็นขัดแย้งระดับพื้นที่ ไม่ใช่ระดับประเทศของ 2 ประเทศ ซึ่งจะทำให้นานาชาติมาร่วมเรื่องนี้ด้วย