xs
xsm
sm
md
lg

“เทือก” ท้าพวกยุสงครามไปรบ อ้างพื้นที่พระวิหารยังพิสูจน์ไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง (แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ มั่นคง ยันบิ๊กไทยคุยบิ๊กเขมรช่วย “วีระ-ราตรี” มาตลอด ชี้พื้นที่พระวิหารยังไม่สามารถพิสูจน์สิทธิได้ บอก กต.กองทัพประท้วงกลับทำเหมาะสม ยันต้องเจรจา ชี้สถานการณ์ยังไม่ตึงเครียด กระทบกันเป็นปกติ ซัดพวกยุสงครามเดี๋ยวจะเกณฑ์ให้ไปรบ ฉะบางพวกอยากให้เกิดความขัดแย้ง พร้อมสู้ พธม.ฟ้องทำเสียดินแดนในชั้นศาล อ้างเสียกำลัง บช.น.มาเฝ้าม็อบแทนเวลาปราบยาบ้า

วันนี้ (1 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลกัมพูชาได้เปิดทำการพิจารณาคดีต่อนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒน์ไพบูรณ์ สองผู้ต้องหาคดีรุกล้ำแดนและจารกรรมข้อมูลทางทหารของกัมพูชา ว่า ขณะนี้ถือว่ายังไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ มาถึงรัฐบาลไทย ขอให้รอผลการตัดสินออกมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน แต่กรณีนี้ผู้ใหญ่ในประเทศไทยได้พูดคุยกับบรรดาผู้นำกัมพูชาซึ่งได้มีการประสานงานมาโดยตลอด ส่วนผลการตัดสินจะออกมาอย่างไรค่อยมาว่ากันใหม่ อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าการเสนอข่าวกัมพูชาขณะนี้มีลักษณะถูกปลุกเร้าและทำให้น่าตื่นเต้น ทำให้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองภายในประเทศมากเกินไป พื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหารและพื้นที่ใกล้เคียงประมาณ 4.6 ตร.กม. ทั้งไทยและกัมพูชาต่างอ้างสิทธิว่าเป็นของตัวเอง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์สิทธิได้ และเป็นที่มาของการทำเอ็มโอยู 2543 ที่กำหนดว่าต้องไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้าไปดำเนินการจนกว่าจะได้ข้อยุติ เมื่อมีการทำผิดเอ็มโอยูก็ต้องมีการประท้วงกันตามกติการะหว่างประเทศซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของประเทศที่มีชายแดนติดกัน ทางกระทรวงการต่างประเทศจึงต้องทำหนังสือประท้วง

นายสุเทพกล่าวต่อว่า การประท้วงกันถือว่าเป็นเรื่องปกติ และกรณีนี้ตนคิดว่าทางกระทรวงการต่างประเทศและกองทัพได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่มีความเหมาะสมอยู่แล้ว และตนให้การสนับสนุนสิ่งที่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการไป ส่วนที่ในแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศให้มีการรื้อถอนวัดแก้วสิขาคีรีสวาระบางส่วนที่ล้ำแดนเข้ามานั้น มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เวลายื่นคำประท้วงเราก็ต้องดำเนินการตามกฎเกณฑ์และกติกาที่ต้องบอกว่ามีอะไรบ้างที่ผิดไปจากข้อตกลงกันไว้ เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาเมื่อไทยประท้วงไปทางกัมพูชามักจะเพิกเฉยไม่ตอบรับ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ที่เราเป็นเพื่อนบ้านกับหลายประเทศรอบประเทศเรานี้ก็ประท้วงกันมาเป็นประจำ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ปกติสำหรับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไทยกับพม่าก็ประท้วงกันเป็นสิบยี่สิบครั้ง ถ้าดูตามแผนที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นเรื่องใหญ่สำหรับความรู้สึก

รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงกล่าวว่า คิดว่าการแก้ไขปัญหาคืออาศัยความมีเหตุมีผล และให้ตัวแทนของสองประเทศมาพูดจากัน โดยไม่จำเป็นต้องมีคนกลาง ขณะนี้ถือว่าสถานการณ์ยังไม่ถือว่าตึงเครียด เมื่อถามว่าทางการกัมพูชาเผยแพร่ภาพและข่าวว่ามีการเคลื่อนกำลังและรถถังพร้อมอาวุธเข้าประชิดชายแดนไทย-กัมพูชา จะมีปัญหาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ของเราก็อยู่แถวนั้น และยืนยันว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแต่อย่ามายุยงกระเหี้ยนกระหือรือที่จะให้เกิดสงคราม คนที่ยุงให้รบกันต้องถามตัวเองว่าจะเอาหรือไม่หากเกิดปัญหาจริง รัฐบาลจะเกณฑ์ไปเป็นกองหน้าอาสาสมัครไปแสดงความรักชาติ คนที่ทำหน้าที่อยู่ในขณะนี้เป็นลูกหลานคนไทยทั้งนั้น จะไปทำตามอารมณ์ของคนบ้าคลั่งสงคราม หากเกิดบาดเจ็บล้มตายมาใครจะรับผิดชอบ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้สร้างความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่มีคนบางกลุ่มบางชุดที่เขาต้องการอยากให้เกิดความขัดแย้ง แต่ไม่ขอพูดระบุว่าเป็นกลุ่มไหนเพราะจะกลายเป็นตัวจุดชนวนสงครามภายใน

นายสุเทพกล่าวต่อว่า วันนี้ถ้าประชาชนคนไทยติดตามสถานการณ์อย่างจริงจังและไม่ได้ฟังคำยุงยงปลุกปั่นจากฝ่ายไหนทั้งสิ้นก็จะพบความจริงว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ชิดกัน ส่วนที่มีรายงานข่าวว่ากองทัพเคลื่อนกำลังจากภาคตะวันออกเข้าพื้นที่กรุงเทพฯเพื่อเข้ามาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของกลุ่มต่างๆนั้น ตนยืนยันว่า ไม่มีกรณีนี้เกิดขึ้น ไม่ใช่เป็นการทำศึกหลายด้าน ทหารทำหน้าที่ตามปกติในการเตรียมพร้อมวางกำลังในจุดต่างๆ หากเกิดปัญหาจะได้แก้ไขสถานการณ์ได้ และขณะนี้ตนได้รับทราบรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ชักธงชาติขึ้นเสาในบริเวณพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องการปฏิบัติตามปกติ เมื่อฝ่ายหนึ่งมีธงอยู่แล้วอีกฝ่ายหนึ่งก็มีธงบ้าง และยังไม่ได้รับรายงานว่าประชาชนตามแนวชายแดนได้รับความเดือดร้อนอะไร

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมนายสุเทพ นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อธิปไตยของรัฐต่างประเทศว่า ถือว่าเป็นเรื่องดีจะได้ไปพิสูจน์กันในชั้นศาล ดีกว่าไปให้สัมภาษณ์ใส่ร้ายบิดเบือนกันทุกวัน ทำให้คนเข้าใจผิด ไปยื่นฟ้องอย่างนี้ดีกว่าเมื่อความคิดเห็นแตกต่างกันเราก็สู้กันตามกติกา ส่วนการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมในการขอคืนพื้นที่นั้นยอมรับว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร แต่เราก็ต้องเจรจากันต่อไป และถ้าเห็นว่าเมื่อไหร่ที่เหลือบ่ากว่าแรง เราก็ต้องเพิ่มมาตรการ แต่ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ เพียงแต่ทำให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของ บช.น.บางส่วนต้องเสียไปเพราะมาเฝ้าดูแลกลุ่ม ผู้ชุมนุม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้กำลังสามารถทำผลงานในการปราบปรามยาเสพติดได้อย่างยอดเยี่ยม

เมื่อถามว่า เท่าที่ประเมินกลุ่มผู้ชุมนุมจะชุมนุมยืดเยื้อถึงการเลือกตั้งเลยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าตนทำได้อยากจะกราบขอความกรุณาให้กลับบ้านกันวันนี้เลย ใครอยากจะเห็นบ้านเมืองวุ่นวายบ้าง ทุกคนก็อยากเห็นบ้านเมืองเรียบร้อย และเราพยายามแก้ไขสถานการณ์ ไปเรื่อยๆ และจะกำชับให้เจ้าหน้าที่ทำงานให้เข้มแข็งมากขึ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น