“เทพเทือก” โต้สื่อต่างประเทศเข้าใจคลาดเคลื่อน กล่าวหาไทยปะทะเขมรหวังผลการเมืองในประเทศ โยนบัวแก้วเร่งชี้แจง ชี้ “ฮุนเซน” แข็งกร้าวเป็นเรื่องปกติ ไทยต้องอดทน ใจเย็น มั่นใจสุดท้าย 2 ประเทศต้องตั้งโต๊ะเจรจากัน บอกยังไม่คิดไกลไปถึงใช้เวทีอาเซียนเคลียร์ปมขัดแย้ง จวกพวกเจตนาไม่ดีวิจารณ์รัฐบาล กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศแตกคอ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงสื่อต่างชาติวิจารณ์ความขัดแยังไทย-กัมพูชา เป็นเพราะไทยหวังผลการเมืองภายในประเทศ แถมเสนอว่าเงื่อนไขการเจรจาทวิภาคีไม่น่าจะนำมาเป็นเงื่อนไขที่ตายตัวทำให้ไม่มีทางออกว่า การวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องปกติ แต่เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศจะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้ชาวโลกได้เข้าใจว่าแท้ที่จริงแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้น เพราะฉะนั้นจะมาอ้างว่าเหตุที่เกิดขึ้นพราะไทยต้องการให้มีผลทางการเมืองในประเทศนั้นเป็นการวิจารณ์ที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง และพวกเรากันเองที่มีโอกาสที่จะพูดจาในฐานะเป็นคนไทยเจ้าของประเทศก็ต้องให้คนต่างประเทศได้รู้ว่าทั้งหมดที่วิพากษ์วิจารณ์ไปไม่ตรงกับความเป็นจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องชักจะไปสู่เวทีโลก เพราะต่างฝ่ายต่างไปดึงเอาชาติมหาอำนาจมาสนับสนุน นายสุเทพกล่าวว่า เราไม่ได้ไปดึงใครมาสนับสนุน สิ่งที่เราดำเนินการเพียงแต่เป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงของเหตุการร์ที่เกิดขึ้นให้มิตรประเทศทั้งหลายได้เข้าใจเท่านั้นเอง
ต่อข้อถามว่าลู่ทางที่จะพูดคุยกันยังมีอยู่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังมีอยู่เสมอ ตนมั่นใจว่าในที่สุดก็จะนำไปสู่การเจรจากันจนได้ ต้องยอมรับว่าในตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ มันอาจจะยากหน่อย แต่ในที่สุดต้องเจรจากัน เมื่อถามอีกว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นของฝ่ายไทย ไม่ว่ากรณีที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาทำให้บ้านเรือนประชาชนหรือโรงพยาบาลเสียหาย เราจะนำไปฟ้องต่อศาลโลกได้หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็คงเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศที่จะต้องรายงานให้องค์กรระหว่างประเทศไม่ว่าจะเป็นอาเซียน สหประชาชาติได้เข้าใจ แต่ไทยคงไม่มีเจตนาที่จะไปฟ้องร้องอะไรอย่างนั้น
ส่วนท่าทีที่แข็งกร้าวของนายฮุนเซน เมื่อวันที่ 27 เม.ย.จะทำให้การเจรจาเกิดขึ้นได้หรือนั้น นายุสเทพกล่าวว่า มันเป็นเรื่องปกติท่าทีของผูนำกัมพูชาก็อยู่ในลักษณะอย่างนี้ เราก็เห็นอยู่แล้ว จึงต้องใจเย็นและอดทน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงแม้ว่านายฮุนเซนจะออกมาให้สัมภาษณ์ถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้วยถ้อยคำรุนแรง ก็ยังยืนยันว่ายังสามารถพูดคุยกันได้ นายสุเทพกล่าวว่า ในที่สุดก็ต้องพูดคุยกัน เรียนหลายครั้งแล้วว่าสงครามมีแต่ความเสียหาย บาดเจ็บล้มตาย เสียหายทางเศรษฐกิจ เดือดร้อนต่อประชาน และประเทศไทยเราไม่ใช่ชาติที่กระหายสงคราม เราต้องการอยู่กับเพื่อนบ้านอย่างสันติสุข เราต้องยึดแนวนี้ต่อไป
ส่วนสถานการณ์ล่าสุดที่ยังคงมีการปะทะกันตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 27 เม.ย.นั้นก็ยังไม่หยุด แต่ให้ความั่นใจได้ว่าทางกองทัพของเราก็รักษาอธิปไตยของเราอย่างเข้มแข็ง แข็งแรงเพียงพอ และไม่มีเจตนาที่จะรุกรานเพื่อนบ้าน เมื่อถามว่าเรื่องนี้ควรที่จะเข้าไปในเวทีอาเซียนหรือไม่ นายุสเทพกล่าวว่า เรายังมได้คิดไปถึงขนาดนั้น แต่คิดว่าสองประเทศมาคุยกันดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมเดินทางไปเยือนจีน มีรายงานมาหรือไม่ว่ามีโอกาสที่จะได้พบหารือกับ พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมของกัมพูชา นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่มีรายงานมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม ใครจะเป็นหน่วยนำในการแก้ปัญหา เพราะตอนนี้มีการวิจารณ์ว่าความเห็นไม่ค่อยจะตรงกัน นายสุเทพกล่าวว่า คนวิจารณ์เจตนาไม่ดี เรียนยืนยันแล้วว่านายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมปรึกษาหารือทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทยและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอยู่ตลอดเวลา เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่เคยเห็นอะไรขัดแย้งกันเลย ไม่เคยพูดหรือทำอะไรขัดแย้งกัน แต่ก็ดันทุรังไปว่ามีปัญหาได้ คิดว่าไม่เจตนาดีต่อบ้านเมืองเลย
