xs
xsm
sm
md
lg

กต.ประท้วงเขมรยิงถล่มไทย ละเมิดเอ็มโอยูซ้ำซาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กต. แถลงยืนยันเขมรโจมตีก่อน ส่งผลทหารไทยเสียชีวิต 3 ราย บ้านเรือนประชาชนเสียหาย ต้องอพยพคนเกือบ 10,000 คนออกจากพื้นที่ พร้อมประท้วงเขมร ละเมิดเอ็มโอยู 2543 อีก ยืนยันแก้ปัญหาข้อขัดแย้งโดยกลไกทวิภาคีเท่านั้น

เมื่อเวลา 20.19 น. กระทรวงการต่างประเทศได้ออกถ้อยแถลงเผยแพร่ผ่านเว็ปไซต์ (http://www.mfa.go.th/web/200.php?id=27141) เกี่ยวกับการโจมตีด้วยอาวุธโดยปราศจากการยั่วยุโดยกองกำลังกัมพูชาที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2554 โดยระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศไทยขอเรียนข้อเท็จจริงต่าง ๆ ดังนี้

1. เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2554 ระหว่างเวลา 06.30 – 07.00 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงและใช้อาวุธหนัก ซึ่งรวมถึงปืนครกและปืนใหญ่ โดยปราศจากการยั่วยุเข้าไปในบริเวณปราสาทตาควาย และตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชามุ่งไปทางปราสาทตาเมือนซึ่งตั้งอยู่จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย ทหารกัมพูชาทำการโจมตีดังกล่าวภายหลังจากที่ชุดลาดตระเวนของไทยพบทหารกัมพูชาที่ติดอาวุธกำลังก่อสร้างที่มั่นในบริเวณปราสาทตาควายในดินแดนไทย และแจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน

2. เมื่อเวลา 08.00 น. มีการหารือระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังในพื้นที่ของทั้งสองฝ่ายซึ่งได้ตกลงที่จะหยุดยิง อย่างไรก็ดี เมื่อเวลา 08.30 น. ฝ่ายกัมพูชาเริ่มยิงปืน ครกและปืนใหญ่เข้ามาในดินแดนไทยอีก ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงข้างต้น การยิงโต้ตอบดังกล่าวมีถึงเวลา 09.35 น.

3. การโจมตีด้วยอาวุธโดยปราศจากการยั่วยุโดยทหารกัมพูชาได้ส่งผลให้ทหารไทยเสียชีวิตอย่างน้อย 3 นาย ทหารหลายนายได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหาย ต่อบ้านเรือนของพลเรือนจำนวนมาก รวมทั้งต้องอพยพพลเรือนเกือบ 10,000 คนออกจากพื้นที่

4. ฝ่ายไทยไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน และได้ใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างที่สุดมาโดยตลอด อย่างไรก็ดี เมื่อคำนึงถึงการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ประเทศไทยจึงไม่มีทาง เลือกนอกจากต้องปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพเหนือดินแดน โดยใช้วิธีการที่สมน้ำสมเนื้อภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

5. ประเทศไทยขอประท้วงอย่างรุนแรงต่อการใช้กำลังทหารของฝ่ายกัมพูชาต่อทหารและพลเรือนไทย โดยปราศจากการยั่วยุ และการสร้างที่กำบังซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่า ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ รวมถึงบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วย การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน พ.ศ. 2543 อย่างชัดเจน ประเทศไทยได้ใช้สิทธิในการป้องกันตัวเองบนพื้นฐานของความจำเป็น สมน้ำสมเนื้อ และมุ่งไปยังเป้า หมายทางทหารซึ่งกองกำลังกัมพูชาใช้โจมตีไทยอย่างเคร่งครัดเท่านั้น

6. ประเทศไทยยืนยันความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขประเด็นเขตแดนที่ยังคั่งค้างโดยสันติวิธี และเรียกร้องให้ประเทศกัมพูชาแก้ไขข้อขัดแย้งดังกล่าวโดยอาศัยกลไกทวิภาคีที่ มีอยู่ ซึ่งรวมถึง คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (หรือ GBC) คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (หรือ RBC) ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการชายแดน ทั่วไป และคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (หรือ JBC) ในความเป็นจริงแล้ว ฝ่ายไทยได้หารือกับฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนใน พื้นที่บริเวณปราสาทตาควายระหว่างการประชุม JBC ที่เมืองโบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 7-8 เมษายน 2554 ทั้งนี้ บันทึกผลการหารือของการประชุมดัง กล่าวซึ่งระบุว่าไทยได้แสดงความประสงค์และความพร้อมที่จะเริ่มการสำรวจหลักเขตแดนในพื้นที่ส่วนที่ 5 อันเป็นบริเวณที่ปราสาทตาควายตั้งอยู่ เป็นการแสดง ความจริงใจของฝ่ายไทยที่จะแก้ไขปัญหาเขตแดนโดยสันติวิธีภายใต้กลไกของ JBC นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมของไทยอยู่ในระหว่างการปรึกษาหารือกับฝ่าย กัมพูชาเพื่อให้มีการประชุม GBC และ RBC ในโอกาสแรก




กำลังโหลดความคิดเห็น