รองนายกฯ ด้านความมั่นคง กุลีกุจอสถานการณ์ ภาคประชาสังคมไทย อยู่ในขั้น “วิกฤต” แต่ก็ยังเป็นความหวังในการนำพาประเทศผ่านวิกฤตได้ ระบุ ควรให้ประชาชนได้มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเวที “ประชาเสวนา” หรือ “สานเสวนา” พร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาแก้ไขปรับปรุงร่างยุทธศาสตร์ตามธรรมเนียม
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง การเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการส่งเสริมประชาสังคมเพื่อการพัฒนาสังคมแห่งชาติ ว่า ที่ประชุมรับทราบการจัด โครงการเวทีประชาธิปไตยชุมชน เพื่อความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งในระดับภูมิภาค ระดับจังหวัด และระดับอำเภอทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 1.เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเวที “ประชาเสวนา” หรือ “สานเสวนา” ในประเด็นสาธารณะ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบองค์รวมและยั่งยืน ในด้านการจัดการภัยพิบัติ ด้านการจัดสวัสดิการสังคมถ้วนหน้า ด้านความมั่นคงของมนุษย์ ด้านการจัดการหนี้นอกระบบ เพื่อร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหา และทางออกที่เป็นรูปธรรม 2.เพื่อกระตุ้นเตือน สร้างจิตสำนึก ให้เกิดกระแสการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการเห็นความสำคัญของการออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงในการเลือกตั้ง การใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนการสรุปข้อเสนอจากเวทีภาคประชาสังคม เสนอพรรคการเมือง หรือผู้ประสงค์จะเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศ และ 3.เพื่อสร้างเครือข่ายภาคประชาสังคม ราษฎร์ รัฐ ปราชญ์ ศาสตร์ และสื่อในการเชื่อมประชาธิปไตยชุมชน เข้าสู่ประชาธิปไตยระดับประเทศ
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์ภาคประชาสังคมไทยในยุคปัจจุบัน ว่า อยู่ในขั้น “วิกฤต” ทางความคิด ทางการเมือง การปกครอง จึงต้องมีภาคประชาสังคมที่เป็นความหวังสำคัญในการพาไทยผ่านวิกฤต ทั้งนี้ การศึกษาดังกล่าวเสนอให้เห็นถึงประเภท และ บทบาทของประชาสังคมในการขับเคลื่อนสังคมในมิติต่างๆ การวิเคราะห์แนวทางการขับเคลื่อน ผลกระทบและตัวแบบ อันเป็นทิศทางและแนวโน้มของการขับเคลื่อนภาคประชาสังคมไทย ซึ่งผลการทบทวนสถานการณ์ประชาคมไทยดังกล่าวได้นำไปใช้ประโยชน์ในการจัดทำร่างยุทธศาสตร์ส่งเสริมประชาสังคมเพื่อพัฒนาสังคมไทย ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2554-2559) โดยเฉพาะการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ที่เป็นรูปธรรม ซึ่งเน้นการเสริมสร้างพลังความร่วมมือ การเสริมสร้างจิตสำนึกและปัญญาของพลเมือง การเชื่อมประวานภาคเครือข่าย เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงาน ภาคประชาสังคมไทยได้อย่างเข้มแข็ง มั่นคง เป็นเอกภาพ บูรณาการ และยั่งยืน และสามารถนำไปใช้ เพื่อการศึกษาเปรียบเทียบความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ ด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาแก้ไข ปรับปรุงร่างยุทธศาสตร์ ที่สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการ ร่วมกับผู้แทนคณะกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิสรุปจัดทำร่างยุทธศาสตร์ส่งเสริมประชาสังคมเพื่อการพัฒนาสังคมไทย ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2554-2559) เพื่อนำร่างยุทธศาสตร์ฉบับสมบูรณ์เสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมประชาสังคมเพื่อพัฒนาสังคมแห่งชาติ โดยกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการ 30 วัน
