ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ก.พ.ร่วมกับมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด เปิดเวทีเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมเพื่อสร้างประเทศไทยใสสะอาด สร้างเครือข่ายในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนที่จังหวัดเชียงใหม่
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด ได้เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนาเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมเพื่อสร้างประเทศไทยใสสะอาด ครั้งที่ 1 และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ขับเคลื่อนจริยธรรม นำไทยใสสะอาด เทิดไท้องค์ราชัน เมื่อ 1 มี.ค.54 ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ร่วมกับมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด จัดขึ้น ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนกระบวนทัศน์ใหม่ด้านคุณธรรม จริยธรรมระหว่างกลุ่มภาคีประเทศไทยใสสะอาด
รวมทั้งผนึกกำลังการทำความดีเพื่อขยายผลไปสู่องค์กรและเครือข่ายอื่นๆ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยมีกลุ่มภาคีเครือข่ายประเทศไทยใสสะอาดทั้งจากภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ธุรกิจเอกชน ภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน กว่า 400 คน เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้
ประธานมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด เปิดเผยว่า โครงการสัมมนาเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมเพื่อสร้างประเทศไทยใสสะอาดที่เชียงใหม่ ถือเป็นครั้งแรกของโครงการ ซึ่งได้กำหนดจัดขึ้นในทุกภูมิภาค รวม 5 ครั้ง โดยภาคเช้าหลังจากพิธีเปิดและการปาฐกถาพิเศษแล้ว ได้จัดให้มีการอภิปรายในประเด็น ร่วมคิด ร่วมทำ จริยธรรมชาติไทย โดยนายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน, หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นายณรงค์ ตนานุวัฒน์ ประธานกิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ,นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการ ก.พ. ดำเนินการอภิปรายโดย น.ส.รังสิมา จารุภา ที่ปรึกษาระบบราชการไทย สำนักงาน ก.พ.
ซึ่งได้นำเสนอมุมมองสถานการณ์คุณธรรม จริยธรรม และบทบาทภารกิจในการส่งเสริมสนับสนุนคุณธรรมจริยธรรม
ส่วนภาคบ่ายเป็นการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านประสบการณ์การขับเคลื่อนคุณธรรม จริยธรรมและบทบาทความร่วมมือระหว่างองค์กรภาคีเครือข่ายด้านจริยธรรมและป้องกันการทุจริต
ประธานมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคเหนือมีจุดแข็ง คือ สามารถรวมกลุ่มบุคคล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงคาดหวังว่าในอนาคตในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงใหม่จะสามารถผลักดันส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาชน ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสื่อมวลชน เกิดการเรียนรู้และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญที่จะร่วมกันสร้างราชการและประเทศไทยใสสะอาด
โดยชูประเด็นในเรื่องการเชิดชูคุณธรรมเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน การส่งเสริมการใช้หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และการปลูกจิตสำนึกและค่านิยมให้ประชาชนร่วมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ สามารถประกาศให้เป็นจังหวัดใสสะอาด มีผู้คนที่ประพฤติปฏิบัติเป็นคนดีของสังคมได้ในที่สุด
และที่สำคัญให้น้อมนำพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง รู้รักสามัคคี มาประพฤติปฏิบัติ โดยกระทำด้วยความรัก ความเมตตา และดำรงตนอยู่บนพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะสมารถลดกิเลสตัณหาลงได้ ส่งผลถึงความสงบสุขที่เกิดขึ้นในสังคมไทยอีกครั้งหนึ่ง
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด ได้เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนาเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมเพื่อสร้างประเทศไทยใสสะอาด ครั้งที่ 1 และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ขับเคลื่อนจริยธรรม นำไทยใสสะอาด เทิดไท้องค์ราชัน เมื่อ 1 มี.ค.54 ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ร่วมกับมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด จัดขึ้น ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนกระบวนทัศน์ใหม่ด้านคุณธรรม จริยธรรมระหว่างกลุ่มภาคีประเทศไทยใสสะอาด
รวมทั้งผนึกกำลังการทำความดีเพื่อขยายผลไปสู่องค์กรและเครือข่ายอื่นๆ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยมีกลุ่มภาคีเครือข่ายประเทศไทยใสสะอาดทั้งจากภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ธุรกิจเอกชน ภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน กว่า 400 คน เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้
ประธานมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด เปิดเผยว่า โครงการสัมมนาเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมเพื่อสร้างประเทศไทยใสสะอาดที่เชียงใหม่ ถือเป็นครั้งแรกของโครงการ ซึ่งได้กำหนดจัดขึ้นในทุกภูมิภาค รวม 5 ครั้ง โดยภาคเช้าหลังจากพิธีเปิดและการปาฐกถาพิเศษแล้ว ได้จัดให้มีการอภิปรายในประเด็น ร่วมคิด ร่วมทำ จริยธรรมชาติไทย โดยนายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน, หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นายณรงค์ ตนานุวัฒน์ ประธานกิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ,นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการ ก.พ. ดำเนินการอภิปรายโดย น.ส.รังสิมา จารุภา ที่ปรึกษาระบบราชการไทย สำนักงาน ก.พ.
ซึ่งได้นำเสนอมุมมองสถานการณ์คุณธรรม จริยธรรม และบทบาทภารกิจในการส่งเสริมสนับสนุนคุณธรรมจริยธรรม
ส่วนภาคบ่ายเป็นการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านประสบการณ์การขับเคลื่อนคุณธรรม จริยธรรมและบทบาทความร่วมมือระหว่างองค์กรภาคีเครือข่ายด้านจริยธรรมและป้องกันการทุจริต
ประธานมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคเหนือมีจุดแข็ง คือ สามารถรวมกลุ่มบุคคล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงคาดหวังว่าในอนาคตในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงใหม่จะสามารถผลักดันส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาชน ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสื่อมวลชน เกิดการเรียนรู้และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญที่จะร่วมกันสร้างราชการและประเทศไทยใสสะอาด
โดยชูประเด็นในเรื่องการเชิดชูคุณธรรมเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน การส่งเสริมการใช้หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และการปลูกจิตสำนึกและค่านิยมให้ประชาชนร่วมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ สามารถประกาศให้เป็นจังหวัดใสสะอาด มีผู้คนที่ประพฤติปฏิบัติเป็นคนดีของสังคมได้ในที่สุด
และที่สำคัญให้น้อมนำพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง รู้รักสามัคคี มาประพฤติปฏิบัติ โดยกระทำด้วยความรัก ความเมตตา และดำรงตนอยู่บนพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะสมารถลดกิเลสตัณหาลงได้ ส่งผลถึงความสงบสุขที่เกิดขึ้นในสังคมไทยอีกครั้งหนึ่ง
