“ประพันธ์” แฉ “เจิมศักดิ์” สมัยไล่ “ทักษิณ” กว่าจะออกมาสู้กับพันธมิตรฯ ได้ก็ตอนที่ประชาชนออกมากันมากแล้ว แถมขอปราศรัยช่วงไพรม์ไทม์พร้อมพ่วงรายการตัวเองหากินไปในตัว พร้อมฝากถึงประชาธิปัตย์หากมีเลือกตั้งแล้วยังส่ง “อภิสิทธิ์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ ถือว่าไม่ให้เกียรติประชาชนเลย ย้ำต้อง “โหวตโน” สั่งสอนให้สำนึก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”
วันนี้ (19 เม.ย.) นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร กล่าวบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า นายสุวิทย์ คุณกิตติ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีที่ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาคณะกรรมการมรดกโลก ว่าคดีปราสาทพระวิหารต้องจัดการเรื่องปัญหาอาณาเขตให้เรียบร้อยก่อน การที่จะไปสนับสนุนกัมพูชาให้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกนั้นไม่เหมาะสม ซึ่งแตกต่างจากแนวทางของกระทรวงการต่างประเทศ เรื่องนี้ก็ถือเป็นการเปิดโปงและตบหน้านายอภิสิทธิ์ ว่าทำไมถึงกุลีกุจออยากให้เขมรได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก และอยากเข้าร่วมบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร นี่คือสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ไม่ยอมรับว่าตัวเองโง่ กลัวเสียหน้า ก็เลยอาศัยความดื้อด้านไม่ยอมรับผิด
นายประพันธ์กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ไม่เคยต่อสู้ทางการเมืองมาเลย แล้วนายเจิมศักดิ์จะเอาไปเปรียบเทียบ พล.อ.เปรม ได้อย่างไร ไม่มีคุณงามความดีอะไรเลย แล้วยังหาว่าตนยกตัวไปเทียบชั้น ตนสู้ในเหตุการณ์ 14 ตุลา และพฤษภาทมิฬ มาก่อน แต่ทั้ง 2 คนนี้ไม่เคยสู้เป็นสู้ตายกับพี่น้องประชาชนมาก่อนเลย คนเหล่านี้ไม่รู้ความจริงและไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรมาโจมตีพันธมิตรฯ
มีคนบอกว่าอย่าไปให้ราคานายเจิมศักดิ์เลย เพราะก็ทำงานแบบนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่คอยปกป้องนายทักษิณ นายเจิมศักดิ์ก็ปกป้องนายอภิสิทธิ์เช่นกัน แก้ตัวให้หมดทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องที่ตัวเองถนัด คือเรื่องสินค้าเกษตร เรื่องข้าว แต่วันนี้หุบปากไม่วิจารณ์ว่าการประกันรายได้ และยกเลิกการจำนำข้าว เป็นนโยบายที่ล้มเหลวและผลาญเงินประชาชนอย่างยับเยิน ช่วยผู้ค้าคนกลาง โรงสี ผู้ส่งออก ไม่ได้ช่วยเกษตรกรเลย และกรณีกระทรวงพาณิชย์ขายข้าวที่จำนำไว้สมัยก่อน การขายนั้นมีการทุจริตเป็นหมื่นล้าน ก็ไม่วิจารณ์เลยว่าใครโกงบ้าง เงินไปตกที่โรงแรมดิเอ็มเมอรัลกี่พันล้าน
โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรยังกล่าวอีกว่า มาวันนี้ที่พันธมิตรฯ วิจารณ์นายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ได้หมายความว่าเห็นดีเห็นงามกับรัฐบาลทักษิณ และลืมเรื่องความเลวความชั่วไปหมด เราไม่มีวันลืม เราไล่เขาไปแล้ว แล้วตนก็คือคนไปชวนอาจารย์เจิมศักดิ์ มาร่วมกันสู้ ไปอ้อนวอนตั้งกี่ครั้ง พอเห็นว่าพันธมิตรฯ มากันเยอะแล้วถึงค่อยออกมา ตอนที่นายสนธิเริ่มรายการแรกๆ จัดที่ธรรมศาสตร์ ที่สวนลุมฯ ไม่ออกมา แล้วพอออกมาก็ติดรายการทีวีของตัวเองมาด้วย ต่อรองว่าถ้าจะขึ้นเวทีต้องอยู่ในช่วงไพรม์ไทม์ 1-2 ทุ่ม แล้วเอารายการตัวเองมาออกด้วย หากินพร้อมเลย
วันนี้ อาจารย์เจิมศักดิ์ ชิงตำแหน่งนายเทพไท เสนพงศ์ เป็นโฆษกส่วนตัวนายกฯ ไปแล้ว ขนาดวันนี้แก้ปัญหาน้ำมันแบบห่วยแตก ยกเลิกภาษีน้ำมันดีเซล จนเงินกองทุนน้ำมันจะหมดแล้วเพื่อหาเสียงให้ตัวเอง ก็ไม่วิจารณ์ แต่ถ้าเป็นนายทักษิณวิจารณ์ไปแล้ว
นายประพันธ์กล่าวว่า ตนเชื่ออย่างหนึ่งว่าวันนี้เปลวเทียนที่พันธมิตรฯ ได้จุดขึ้น ถือว่าเป็นการจุดประกายในการปฏิรูปบ้านเมือง ไม่ต้องห่วง แม้ขณะนี้รัฐบาลพยายามสร้างภาพให้เห็นว่าคนอยากไปเลือกตั้ง แต่อีกไม่กี่วันจะเจอกระแสโหวตโนแข่ง เมื่อเรารณรงค์ไปทั่วประเทศ ต้องโหวตโนสั่งสอนนักการเมืองให้ได้ และการเคลื่อนไหวของเราจะไม่สูญเปล่า เพราะสิ่งที่เราทำเป็นความถูกต้อง
“วันนี้เราจับโกหกนักการเมืองที่ทำหน้าตาดี การศึกษาและชาติตระกูลดี เราแก้ผ้าล่อนจ้อนแล้ว หากมีการเลือกตั้งถ้าประชาธิปัตย์ยังจะเอานายอภิสิทธิ์มาหลอกขายประชาชน ถือว่าประชาธิปัตย์ไม่เคารพและไม่ให้เกียรติพี่น้องประชาชน เอาคนที่ไม่มีความรู้ ไร้ความสามารถ บริหารงานล้มเหลว หน้าด้าน ไม่รักษาสัจจะ แล้วยังจะเสือกไสมาให้ประชาชนเลือก เพราะฉะนั้น ถ้ามีเลือกตั้งเราต้องสั่งสอนให้สำนึกด้วยการโหวตโน เป็นอาวุธที่สำคัญที่เป็นสิทธิของเราต้องใช้ในโอกาสนี้ และครั้งนี้จะเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่มีความหมายอย่างยิ่ง” นายประพันธ์กล่าว
คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน กลับมาพบกันเช่นเคย กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกท่านที่อยู่ทางบ้านและติดตามชมอยู่ต่างประเทศ เมื่อสักครู่คงได้ฟังพี่สนธิ ลิ้มทองกุล พูดกับพี่น้องประชาชนไปแล้วนะครับ หลังจากที่หายหน้าหายตาไปพักหนึ่ง กลับมาก็ไม่ผิดหวัง สนธิ ลิ้มทองกุล สรุปให้พี่น้องได้เห็นแล้วว่า การมาชุมนุมของพวกเรา ณ ที่นี้ได้สร้างคุณูปการให้กับบ้านเมืองแค่ไหน เพียงไร อย่างไร ถ้าจะรวมความทั้งหมดนับแต่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อชาติ เพื่อบ้านเมือง เพื่อความถูกต้องของสังคมมาร่วมกันนั้น ต้องนับได้ว่า พวกเราทุกคนมีส่วนสร้างคุณูปการและสิ่งที่ดีงามให้กับบ้านเมืองมาโดยลำดับ ใครจะมองไม่เห็น แต่ผมเชื่อแน่ว่า ฟ้าดิน และประชาชนผู้มีหัวใจเป็นธรรมและรักความถูกต้อง ย่อมจะมองเห็นในสิ่งที่พวกเราได้ทำครับพี่น้องครับ ปรบมือให้กับตนเองด้วย
และในชีวิตผมคิดว่าพวกเราทุกคนต้องยึดถือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่าการทำความดีนั้น เมื่อตัดสินใจที่จะทำแล้วก็เดินหน้า มุ่งมั่นทำตามความมุ่งมั่นตั้งใจของตน โดยไม่ต้องไปสนใจใยดีว่า การทำความดีนี้จะต้องมีอะไรตอบแทนใช่ไหมครับพี่น้อง และไม่ต้องไปสนใจว่า การทำหน้าที่และทำความดีเพื่อทดแทนคุณแผ่นดินและบ้านเมืองนั้น เราจะได้อะไร เราจะเสียอะไร ไม่ต้องคิด เราไม่เคยเรียกร้องว่าจะเอาอะไรจากประเทศนี้ แต่เราทุกคนต้องการเสียสละและทำให้กับประเทศและประชาชนทุกคนครับพี่น้องครับ นี่คือคนพันธมิตรฯ เพราะฉะนั้นคนที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์ หรือค่อนแคะ ค่อนขอด โจมตี ใส่ร้าย ทำลายกำลังใจ หรือทำลายกระบวนการการต่อสู้ของพวกเรานั้น ในที่สุดเขาก็แพ้พ่ายความจริง และความมุ่งมั่นตั้งใจอันสุดจริตของพวกเรา ดังที่ได้เห็นแล้วว่าวันนี้ คนที่อยู่กับความไม่จริง คนที่อยู่กับความโกหกจอมปลอม เจ้าเล่ห์เพทุบาย หน้าไหว้หลังหลอก และไม่มีความจริงใจกับชาติ กับประชาชน โกหก ตอแหล ปลิ้นปล้อนตลบแตลง กับที่น้องประชาชนเพื่อนร่วมชาติไปวันๆ นั้น ท้ายที่สุดแล้ววันนี้เขากำลังถูกความจริงไล่ล่า และไล่ฆ่าตัวเขาโดยลำดับครับ
เป็นความจริงครับพี่น้องว่า ถ้าหากไม่มีการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ ในวันนี้ และไม่มีการต่อสู้เพื่อรวมพลังกันปกป้องแผ่นดิน โดยหยิบยกประเด็นปัญหาปราสาทพระวิหาร ขึ้นมาเป็นประเด็นในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ จะไม่สามารถทำให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ได้รับรู้ความจริงอื่นๆ อีกมากมายที่รัฐบาลนี้โกหกและปกปิดประชาชนอยู่ เราจะไม่มีวันรู้ และคนส่วนใหญ่ที่อยู่ต่างจังหวัด ต่างประเทศ หรือคนส่วนหนึ่งที่ยังหลงใหล และเคลิ้มไปกับภาพมายาที่นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ได้สร้างวาทกรรม ได้สร้างภาพทางการเมืองไว้กับประชาชนนั้น เราจะไม่มีวันรู้ธาตุแท้ของคนเหล่านี้เลยว่า ใจดำอำมหิต ชั่วช้าสารเลวแค่ไหน
พี่น้องครับ เพียงแค่เรื่องเดียว เมื่อครบรอบ 2 ปีของการลอบสังหาร คุณสนธิ ลิ้มทองกุล พี่น้องเห็นหรือยังครับ จากคำสัมภาษณ์ที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ให้สัมภาษณ์ และเวทีนี้ได้เผยแพร่ไปแล้วนั้น เราจะไม่รู้เลยว่า คดีลอบสังหารคุณสนธิ ลิ้มทองกุล นั้น นายอภิสิทธิ์พยายามขมีขมันทำเป็นเอาอกเอาใจพี่น้องพันธมิตรฯ ทำเป็นเห็นอกเห็นใจนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ได้รับชะตากรรมเช่นนั้น และรับปากรับคำที่จะดำเนินการกับผู้กระทำความผิด และจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้จงได้ ถึงขนาดตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดนี้ แต่แล้วเมื่อวันเวลาผ่านไป ผลการสอบสวนปรากฏชัดว่า หน่วยลอบสังหารเกี่ยวข้องกับใครบ้าง และเกี่ยวข้องกับใครที่นั่งอยู่ในรัฐบาลบ้าง และเกี่ยวข้องกับใครที่ร่วมบงการวางแผนบ้าง นายอภิสิทธิ์ก็หุบปากทันทีครับไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย และเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องนี้ เหยียบเรื่องนี้ไว้ไม่ให้คดีเดินหน้า ท้ายที่สุดไปตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ มาเป็นที่ปรึกษา หรือรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นั่งทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรี แต่หารู้ไม่ว่า ข้อเท็จจริงและความจริงในสำนวนการสอบสวนว่ามีใครบ้างที่เกี่ยวข้องและนั่งเป็นอาชญากรอยู่ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เท่ากับนายอภิสิทธิ์ปกป้องโจร ใช่ไหมครับพี่น้อง คนอย่างนี้ อ.เจิมศักดิ์ บังอาจว่าผมจะยกตนเทียบนายอภิสิทธิ์ ผมไม่บังอาจยกตนเทียบโจรหรอกครับอาจารย์ครับ มันปกป้องทั้งคนชั่ว คนโกง คนขายชาติ อาชญากรปล้นบ้านกินเมืองและฆ่าคน มันยังปกป้องนั่งทับขี้อยู่เลย เลวยิ่งกว่าเลวอีกครับพี่น้อง แล้วมีราคาตรงไหนที่ผมจะต้องยกระดับไปเทียบนายอภิสิทธิ์ ผมไม่อาจไปเทียบ เพราะถ้าผมชั่วขนาดนายอภิสิทธิ์ ผมคงเป็นหัวหน้ารัฐบาลชุดนี้แล้วครับพี่น้อง เพราะรัฐบาลชุดนี้เขาวัดกันที่ ใครชั่ว ใครเลว ใครอำมหิต ใครโกง ใครปล้นชาติเก่งกว่ากันถึงได้เป็นหัวหน้า เขาไม่ได้วัดกันที่คุณงามความดี เขาไม่ได้วัดกันที่ใครกล้าสู้ กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เขาไม่วัดกันตรงนั้น แล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่นายอภิสิทธิ์พูดนั้นเป็นเรื่องโกหก ตอแหล ตลบแตลง ปลิ้นปล้อนกับประชาชนทั้งสิ้น ทุกเรื่องครับ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของคุณวีระ ราตรี ว่าความเลวความอำมหิตมีแค่ไหน กล้าปักปรำคนในชาติของตัวเอง ผลักไสคนในชาติตัวเองไปรับโทษ จองจำอยู่ทุกวันนี้ และวันนี้ทำลืมเหมือนกับทำลืมคดียิง สนธิ ลิ้มทองกุล ไม่มีผิดเลยครับ นี่คือสันดานเลวของนักการเมือง
เราดูคนไม่ต้องดูที่ชาติตระกูล ไม่ต้องดูที่การศึกษา ไม่ต้องดูที่รูปร่างหน้าตา ดูพฤติกรรมและการกระทำของเขาเป็นสำคัญ ใครดี ใครเลว ใครชั่ว ดูที่กรรมและการกระทำเป็นสำคัญครับ คนหน้าตาไม่หล่อ ชาติตระกูลไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนเลว คนหน้าตาดี แต่งตัวดี ใส่สูทผูกเนกไท เลวยิ่งกว่าโจร มหาโจร ยิ่งกว่าทรราชย์ ก็มีมาแล้ว เพราะฉะนั้นเวทีนี้เราเอาความจริงมาสู้ เราเอาความจริงมาพูด
และวันนี้นายอภิสิทธิ์กำลังวิ่งหนีความจริงที่กำลังไล่ล่า และไล่ฆ่า ล่าสุดกรณี นายสุวิทย์ คุณกิตติ ออกมาให้สัมภาษณ์ แล้วบอกว่า คดีปราสาทพระวิหาร และการขึ้นทะเบียนมรดกโลกนั้น ต้องจัดการปัญหาดินแดน อาณาเขต และอธิปไตยของประเทศให้เป็นที่เรียบร้อยก่อน จะไปสนับสนุนให้เขาขึ้นทะเบียนมรดกโลกในสภาพเช่นนี้ย่อมไม่สมควรที่จะกระทำ แนวทางของเขาแตกต่างจากแนวทางของกระทรวงการต่างประเทศ โดยสิ้นเชิง นี่คือคำสัมภาษณ์ของ นายสุวิทย์ คุณกิตติ เรื่องนี้เท่ากับเป็นการเปิดโปง และตบหน้านายอภิสิทธิ์ฉาดเบ้อเร่อ ว่าทำไมกุลีกุจอกระตือรือร้นอยากจะให้เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลก อยากจะเข้าไปมีส่วนร่วมในแผนบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกับเขา นั่นคือความเสียรู้ นั่นคือความโง่เขลาที่นายอภิสิทธิ์ปกปิด โกหก หลอกลวงประชาชน ไม่ยอมรับว่าตัวเองโง่ เพราะอะไรเพราะกูนักเรียนอีต้ม จบออกฟอร์ด ถ้าบอกว่าเสียโง่ มันขายหน้า เลยอาศัยความดื้อด้าน ด้านเข้าไว้อย่างเดียว ไม่ยอมรับ กูไม่ผิด กูไม่ผิด กูไม่โง่ กูไม่ชั่ว กูไม่ทำให้เสียดินแดน แต่ความจริง โง่ ชั่ว ทำให้แผ่นดินเสียไปแล้ว วันนี้จะหันหลังกลับมาอย่างไร มาบอกกับพี่น้องประชาชนว่า ผมผิดไปแล้วสมควรตาย ฆ่าตัวเองแบบนักการเมืองญี่ปุ่น ก็ใจเสาะ และไม่มีความรับผิดชอบ ครับคนแบบนี้ ใจไม่ถึง ในชีวิตไม่เคยต่อสู้อะไรมาเลย และไม่เคยทำคุณงามความดี ไม่เคยทำอะไรเป็นผลสำเร็จในการบริหารชาติบ้านเมือง ทำไม้เจิมศักดิ์จะเอาอภิสิทธิ์ไปเปรียบเทียบกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายอภิสิทธิ์มีคุณงามความดีอำไรบ้างครับพี่น้อง พอผมจะวิพากษ์วิจารณ์นายอภิสิทธิ์ หาว่าผมยกระดับตัวเองเทียบชั้น โธ่เอ๊ยไอ้หนู น้ำหน้าอย่างนายอภิสิทธิ์เคยต่อสู้อะไรกับชีวิตทางการเมืองไม่ได้ขี้ตีนผมเลยครับพี่น้อง ตั้งแต่เราสู้ 14 ตุลาฯ ไอ้นี่ยังไม่เกิดเลย ต้องบอกว่าไอ้หมอนี่ยกระดับเทียบกับผมต่างหากไม่ใช่ผมจะยกระดับเทียบกับมัน เพราะฉะนั้นทั้ง 2 คนไม่เคยสู้มาก่อนเลยกับการเมือง ไม่เคยสู้เป็นสู้ตายกับพี่น้องประชาชน ไม่เคยรู้ว่าความยากลำบาก สิทธิเสรีภาพ และประชาธิปไตยที่ทำให้แกได้มาเลือกตั้งนั้น มันแลกมาด้วยเลือดเนื้อ และชีวิตของพวกเราทั้งนั้น ไม่ว่าเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ เหตุการณ์พฤษภาฯ มีคนเจ็บคนตายมาเท่าใด จึงทำให้พวกคุณมีโอกาสเลือกตั้ง และนั่งเสวยสุขทางการเมืองอยู่ในขณะนี้ นี่คือความจริง
เมื่อวานผมพูดไปแล้ว คนเหล่านั้นไม่รู้ความจริง และไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาโจมตี วิพากษ์วิจารณ์ และทำร้ายทำลายพวกเรา เพราะเราอยู่กับความจริง อยู่กับธรรมะ อยู่กับความถูกต้อง แต่เขาอยู่กับความเท็จ อยู่กับความไม่จริง เขาจะเอาความไม่จริงมาใส่ร้ายเราอย่างไรก็ไม่มีวันตายครับพี่น้องคนอย่างพวกเรา เขากับสุภาษิตว่า คนอย่างพวกเรานั้นเหมือนไม้จันทน์ ยิ่งทุบยิ่งหอม แต่คนอย่างพวกคุณมันไม้รันขี้ไม่ใช่ไม้จันทน์ ประชาชนแค่เห็นก็เบือนหน้าหนีแล้ว เพราะเขารู้ความจริงว่า คุณคือ วิญญูชนจอมปลอม พวกฉวยโอกาส พวกตีกิน เพราะฉะนั้นวันนี้ว่าไปเยอะแล้วเรื่องนี้ เมื่อเช้าผมรอฟังอยู่ว่า 92.25 จะว่าอย่างไร ปรากฏว่าเงียบเหมือนเป่าสากเลยครับ ผมหวังว่าแน่จริงออกมาเลย ออกมาอีกได้ เพราะวันนี้คนที่เขาอ่าน เขาฝากมาเติมให้หน่อย เขาบอกว่า วันนี้อย่าไปให้ราคาเขาเลย เขาก็ทำตัวเหมือนโฆษกแบบเดียวกับนายพร้อมพงศ์ คอยปกป้องทักษิณ ไอ้หมอนี่ก็ทำตัวเป็นโฆษกคอยปกป้องนายอภิสิทธิ์เท่านั้นเอง ไม่ว่านายอภิสิทธิ์จะขี้ จะตด จะเยี่ยว จะทำชั่วทำเลวอย่างไร แก้ตัวให้หมดทุกเรื่อง
แม้กระทั่งเรื่องที่นายคนนี้ถนัด คือเรื่องพืชเกษตร เรื่องสินค้าการเกษตร ทำวิจัยเรื่องข้าว เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องข้าว สมัย ฯพณฯ พล.อ.เปรม เคยแก้ไขปัญหาเรื่องข้าว เรื่องนโยบายคณะกรรมการข้าว วันนี้หุบปากเลยครับ ที่นายอภิสิทธิ์แก้ไขปัญหาเรื่องข้าว ด้วยการประกันรายได้ แล้วยกเลิกการจำนำข้าว ทำไมคุณไม่วิจารณ์ล่ะ การประกันรายได้ข้าวของนายอภิสิทธิ์เป็นนโยบายที่ล้มเหลว และผลาญเงินภาษีประชาชนอย่างยับเยินครับพี่น้อง เป็นการช่วยพ่อค้าคนกลาง เจ้าของโรงสี ผู้ส่งออก ไม่ได้ช่วยเกษตรกรเลยครับ แต่นายเจิมศักดิ์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องข้าวหุบปากไม่กล้าวิจารณ์เรื่องนี้เลยครับ กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวที่จำนำไว้ตั้งแต่สมัยก่อนๆ แล้วก่อนจะยกเลิกนโยบายมาเป็นประกันรายได้ ขายข้าว มีการโกง ทุจริตเป็นหมื่นๆ ล้าน ไม่เห็นวิจารณ์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องข้าว หุบปากเลยครับผู้เชี่ยวชาญเรื่องข้าว ไม่วิจารณ์รัฐบาลอภิสิทธิ์เลย ว่าขายข้าวมีใครโกงบ้าง เงินไปตกที่โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ กี่พันล้าน หุบปากเฉยเลยครับ ไม่เห็นมีข้อมูล ที่ด่าทักษิณ วิจารณ์รัฐบาลทักษิณแต่เช้ายันค่ำวิจารณ์ได้ มาวันนี้ไม่ได้หมายความว่า ที่ผม หรือเวทีนี้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลนายอภิสิทธิ์นั้น ไม่ได้หมายความว่าเราเห็นดีเห็นงามกับรัฐบาลทักษิณไปหมดแล้วลืมเรื่องความเลวความชั่วที่เขาทำไว้กับบ้านเมือง เราไม่เคยลืม เราสู้จนกำจัดเขาไปแล้ว แล้วใครเป็นคนนำต่อสู้ แล้วใครเป็นคนช่วย อ.เจิมศักดิ์ มาเดินขบวน ถ้าไม่ใช่ประพันธ์ คุณมี เพราะฉะนั้นสู้กันมารู้ อาจารย์ต้องรู้ว่าผมเป็นคนอย่างไร กว่าผมจะวิงวอนขอร้องให้บรรดาอาจารย์ออกมาร่วมกันสู้ ไปอ้อนวอนมากี่ครั้งเพื่อให้เห็นแก่ความชั่วของรัฐบาลยุคนั้น ออกมาแล้วท่านก็เห็นว่าพี่น้องพันธมิตรฯ มากันเยอะแล้วเขาถึงออกมา ตอนที่เราเริ่มรายการใหม่ๆ ที่คุณสนธิเริ่มที่หอประชุมเล็กธรรมศาสตร์ จุดเทียนแรกๆ จัดที่สวนลุมพินี เขายังไม่ออกมาจนกระทั่งเขาเห็นคนเยอะ เขาถึงออกมาครับพี่น้อง พอออกมาก็ติดรายการทีวีของเขามาด้วย ถ้าจะขึ้นเวทีต้องอยู่ในช่วงชั่วโมงพาร์ม เวลา 1 ทุ่ม เอารายการของตัวเองถ่ายทอดไปพร้อม หากินไปพร้อม มาชุมนุมไปพร้อม ต้องเป็นเวลาพาร์ม 19.00-20.00 น.และเป็นรายการทีวีประจำของเขา ชุมนุมเสร็จ วันนี้แนะนำพี่น้องให้ไปอ่านบทความของ คุณชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย วันนี้ผมบอกกับเพื่อนๆ ว่า ชัชวาลย์เขียนดีกว่าพูด เวลาพูดอารมณ์ร้อนแรง เวลาเขียนสุขุมนุ่มลึก ละเมียดละไม และเสียดแทงทุกประเด็น คุณชัชวาลย์เขียนไว้ในบทความ เขียนได้ดีมาก แนะนำพี่น้องไปอ่านใน ASTV ผู้จัดการ เขียนถึง อ.เจิมศักดิ์ หลังจากที่ผมพูดถึง อ.เจิมศักดิ์ แล้วชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย คงมันปลายปากกา เลยเขียนบทความลงใน ASTV ผู้จัดการ เมเนเจอร์ออนไลน์ พี่น้องไปเปิดดู บทความชิ้นนี้ไม่ธรรมดา ยอดเยี่ยม ถือว่าเป็นบทความที่ ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย กลั่นปลายปากกาเสียบกลางใจเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รอดูว่าเจิมศักดิ์จะตอบโต้ว่าอย่างไร เขียนดี เขาใช้คำว่า เจิมศักดิ์ ความดีในอดีตกับความเสื่อมในวันนี้ นี่คือชื่อบทความ
วันนี้มีท่านที่ฟังการปราศรัยของผมแล้วโทรมา เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง บอกว่า สงสัยทำไมเราทะเลาะกับคนกันเอง ข้อเท็จจริงเป็นอะไรหรอ ผมก็บอกว่า เราไม่ได้ทะเลาะกับคนกันเอง เรากำลังสู้กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์ อ.เจิมศักดิ์ เป็นโฆษกประจำตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชิงตำแหน่งจาก นายเทพไท เสนพงศ์ ไปแล้วครับพี่น้อง กูมีหน้าที่ทุกเช้า คลื่น 92.25 แก้ตัวให้นายอภิสิทธิ์ทุกประเด็น ขนาดวันนี้ นายอภิสิทธิ์แก้ไขปัญหาน้ำมันแบบห่วยแตกและหน้าด้าน คือ ยกเลิกภาษีสรรพสามิต ให้ผู้ใช้น้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ ขึ้นราคาตามสบาย แต่ราคาน้ำมันดีเซล เอาเงินกองทุนฯ มาโปะไว้จนเงินกองทุนฯ จะหมด เพื่อหาเสียงกับพี่น้องประชาชน ถ้าเป็นสมัยก่อนเจิมศักดิ์วิจารณ์ตายเลยครับ ถ้าเป็นทักษิณทำ แต่นี่ไอ้มาร์คทำ เทวดามาร์คทำ อ.เจิม เลยไม่วิจารณ์อะไรเลยเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่นักวิชาการเขาวิจารณ์ว่า นี่เป็นการแก้ไขเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง โดยเอาเงินภาษีประชาชนไปใช้ และทำให้ประชาชนนิสัยเสียไม่รู้จักประหยัด เพราะฉะนั้นทำไมไม่ปล่อยเป็นไปตามกลไกตลาด ราคาขึ้นลงน้ำมัน ประชาชนเขาบริหารตัวเอง อันไหนถูกอันไหนแพง เขารู้ว่าเขาควรจะใช้แค่ไหน ประหยัดอย่างไร แต่นี่ไม่เอาต้องเอาเงินไปโปะเพื่อช่วยเหลือประชาชน อ้างว่าช่วยเหลือประชาชน แต่แท้ที่จริงคือเอาเงินไปซื้อเสียง ติดสินบนประชาชนล่วงหน้านั่งเองครับ
พี่น้องครับ ผมพูดเรื่อง อ.เจิมศักดิ์ ไปแล้ว วันนี้ไม่อยากพูดเพิ่มเติมมาก แต่อยากจะพูดถึงจดหมายที่พี่น้องประชาชนที่ฟังรายการและติดตามการปราศรัยของพวกเราอยู่ อยากจะอ่านให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และ อ.เจิมศักดิ์ ฟังไปด้วยก็ได้เหมือนกัน เพราะอาจารย์บอกว่าพวกเรามีแต่คนแคบๆ ฟังอยู่คนแค่นี้ ความจริงแล้วพี่น้องที่อยู่ทางบ้านติดตามชมมาก และเขียนจดหมายมาจากทั่วทุกสารทิศ จ่าหน้าซองว่า สะพานมัฆวาน เวทีพันธมิตรฯ ยังถึงเลยครับพี่น้อง ไม่ต้องทำอะไรมา ไปรษณีย์มาส่งให้หมดเลย อ.ประพันธ์ คูณมี เวทีสะพานมัฆวาน ถนนราชดำเนิน เขตกรุงเทพมหานคร 10200 ถึงเลยครับไม่ยากเลย อยากจะชี้ให้เห็นว่า พี่น้องประชาชนที่ติดตามพวกเรา และร่วมต่อสู้กับพวกเรานั้นมีเยอะ เช่นฉบับนี้มาจากไหนครับ จากพันธมิตรฯ ร้อยเอ็ด ขับแท็กซี่ คนร้อยเอ็ดเป็นคนใจเกินร้อย เพราะ จ.ร้อยเอ็ด ครับ เขียนมาบอก ขอชื่นชมคุณมากๆ ผู้โดยสารประมาณ 90% ที่ขับแท็กซี่แล้วมีคนมานั่งพูดคุยกัน 90% ชอบคุณมาก เพราะรถของผมจะเปิดวิทยุถ่ายทอดตลอด ชมคุณประพันธ์ว่าพูดดี กล้าเอาความจริงมาพูด เพราะเขาบอกว่าดูทีวีทุกวัน แต่มีแค่ 3 คนเท่านั้นที่บอกว่า พวกที่ชุมนุมพันธมิตรฯ มีแต่ขอทาน คือเขาบอกว่า มี 3 คนในจำนวนที่ขึ้น ประมาณ 100 คนที่ขึ้นรถเขา มี 3 คนเท่านั้นที่วิพากษ์วิจารณ์พวกเรา นี่เป็นจดหมายจากพี่น้องคนขับแท็กซี่ เขียนมาเองด้วยลายมือของเขา เขาบอกว่า ผมเป็นคนขับแท็กซี่ มี ปล.ฝากให้กำลังใจถึง อ.ปานเทพ และ อ.เทพมนตรี ว่าสมควรได้รับโล่ รัฐบาลนี้ไม่มีปัญญาสู้เลย สุดท้าย จากแท็กซี่รักชาติ ปรบมือให้ท่านหน่อยแท็กซี่รักชาติ ที่ร้อยเอ็ด ผมกลับบ้าน ASTV คนดูเกือบทุกบ้าน คนสูงวัยที่ผมไปเห็นเพื่อนผมบอกว่า บางวันไม่กินข้าว อยู่หน้าจอตลอด ดีใจมากๆ ผมอยากแนะนำ ทำป้ายโนโหวตติดตามสี่แยกแข่งกับป้าย ส.ส.ทั่วประเทศ แกดีใจมาก แกไป จ.ร้อยเอ็ด เพื่อนบ้านดู ASTV และเป็นการสะท้อนชีวิตของเขาจริงๆ แก ปล.แล้วแกยังลืม มาเติมอีกหน่อย แกบอกว่า ให้คุณประพันธ์ชมแม่ค้าคนหนึ่ง แกขายของรู้สึกจะเป็นรถเข็นที่สนามหลวง แกเปิด ASTV ดังลั่น ขนาดเสื้อแดงชุมนุมแกก็เปิดตลอด เห็นไหม นี่ชีวิตคนขับแท็กซี่จริง ขับแท็กซี่ไปตอนแรกก็เล่าถึงคนโดยสารในรถ 90% ชอบฟัง ตอนเช้า รายการที่ผมพูดเขาจะรีรันตอนตี 5 แท็กซี่จะออกรับแม่ค้าจะเปิดฟังกันลั่น พนักงานนั่งแท็กซี่มาทำงานบอก ฟังทุกวัน ตี 5 ขึ้นรถแท็กซี่ฟังทุกวัน นี่คือชีวิตแท็กซี่จริงๆ เพราะอะไร พอพูดถึงผู้โดยสารแล้วแกพูดถึงบ้านแก แกกลับมายังไม่ลืมพูดถึงแม่ค้าคนหนึ่งที่แกประทับใจมาก ขายของอยู่สนามหลวง เปิด ASTV ทุกวัน อันนี้ชี้ให้เห็นว่าพี่น้องเรามีอยู่ทุกวงการ
อันนี้เป็นบทกวีมาจากต่างจังหวัด พิมพ์มาอย่างดี อ่านสักหน่อยก็ได้ นักการเมืองคือพวกวัฒสัตว์นรก มันโกหกสืบสานสันดานชั่ว มันทั้งซื้อทั้งขายเพื่อส่วนตัว แต่มันกลัวปฏิวัติมาขัดคอ การเลือกตั้งดั่งหัวใจนักการเมือง ถือเป็นเรื่องเก่งกล้าทำไม่หงำหงอ ได้อำนาจบาทใหญ่ ใจด้านพอ เป็นเหตุต่อก่อกรรมพองครองบ้านเมือง ประพันธ์คูณมีคูณชาติ สมเป็นปราชญ์นักชาติฉลาดหลาย ปากล้าขาไม่สั่นแฟนมากมาย เรตติ้งถล่มทลายใน ASTV นี่คือคนรู้ตน คนรู้โลก แม้จะถูกสับโขลกไม่โศกหนี้ สู้ตรงนี้สู้ที่นี่ พลีชีวี หยุดอัปรีย์ให้หมดสิ้นแผ่นดินไทย ตอนสุดท้ายของบอกว่า จงโหวตโนให้โคตรเหง้ามันรู้สึก ถึงห้วงลึกประชาไทยไม่กินหญ้า ทำเป็นเด่นเห็นชาวบ้านไร้ราคา ไอ้ชาติหมาเนรคุณผู้ขุนมึง เงินหมื่นล้านแสนล้านมึงผลาญชาติ มึงผูกขาดโกงกินแผ่นดินถึง ราษฎร์ทุกข์ยากปากแห้งเพราะแม่งมึง พวกกูจึงโหวตโน สมน้ำหน้า ภาษากวีแกพอไปวัดไปวาได้
ทีนี้ร้อยเอ็ดแล้ว กรุงเทพฯ นี่มาจากเพชรบุรี เป็นอดีตข้าราชการครู ปัจจุบันกินบำนาญ เงินนิดเดียวเลี้ยงตัวเอง ครอบครัว นับว่าค่อนข้างลำบาก แต่ความลำบากของผมยังน้อยกว่าชาวไร่ชาวนา มันเกิดจากอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะเรามีนักการเมืองชั่ว เลว และขายชาติ ไม่ทำอะไรเลย คิดจะขายประเทศอย่างเดียว คุณประพันธ์ว่าจริงไหม ผมก็ต้องตอบว่าจริงซิครับ สุขภาพไม่ค่อยดีเลยไม่ได้ไปสะพานมัฆวาน เป็นแค่พันธมิตรฯ หน้าจอ ปกตินอนหัวค่ำ แต่ตอนนี้ดึกอย่างไรก็ต้องรอดู ฟังคุณประพันธ์ปราศรัยก่อน ไม่อย่างนั้นนอนไม่หลับ ท่านเสนอวิธีเลือกตั้ง ส.ส. เจอเยอะนะครับ ผมคิดว่าน่าจะ 99.99% บอกว่า ไม่ได้ฟังนอนไม่หลับ ป้านอนไม่หลับ พี่นอนไม่หลับ หนูนอนไม่หลับ ดึกแค่ไหนก็รอฟัง
ขอบคุณที่ให้กำลังใจ ทุกเรื่องที่นำมาพูดคุยกับพี่น้อง เป็นการติดอาวุธทางปัญญา เติมสติทางปัญญา ให้ความรู้ ให้ความจริงกับพี่น้องประชาชน แต่คนนี้ จดหมายฉบับนี้จากกรุงเทพฯ นามสกุลดังมาก ท่านขอสงวนนามอย่าเอ่ยชื่อ ลายมือสวยมาก ผมขออ่านเพราะพาดพิงถึง อาจารย์เขา อาจารย์ของผู้หญิงท่านนี้คือ ดร.เจริญ คันธวงศ์ เขียนมาเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 54 เรียนคุณประพันธ์ คูณมี ดิฉันเป็นพันธมิตรฯ กทม. (โชคชัย 4) ติดตามฟังรายการของ ASTV ช่วง 193 วัน จากเพื่อนสนิทที่แนะนำให้เปิดวิทยุคลื่น 97.75 ฟังมาตลอดจนถึงปัจจุบัน เดิมดิฉันฟังข่าวสารด้านเดียวจากรัฐบาลมาตลอดแบบปิดหูปิดตา จนได้ฟังความจริงจากพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลปี 51 จึงหูตาสว่าง ไม่ให้ถูกหลอกต่อไป ตั้งแต่มีสิทธิ์เลือกตั้งก็เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง ส.ส., ส.ก. และ ส.ข.มาตลอด จนถึง 2 เม.ย. 49 รู้จักการใช้โหวตโนเป็นครั้งแรก ดิฉันเป็นลูกศิษย์ อ.เจริญ คันธวงศ์ ซึ่งท่านเป็นอดีตอธิการบดี ม.กรุงเทพ ดิฉันได้ฟังรายการเสวนาเขาพระวิหาร และการกล่าวถึง อ.เจริญ รวมถึงช่วงคุณประพันธ์ มาตลอด ก่อนอื่นต้องบอกว่าอายแทน อ.เจริญ ที่ท่านออกมาสัมภาษณ์กับนักข่าว รวมไปเขาพระวิหาร วัดแก้วสิกขาคีรี ว่าทำไม อ.เจริญ พูดและกระทำเช่นนั้น ดิฉันรับไม่ได้เลยค่ะ เพราะภาพลักษณ์ อ.เจริญ สมัยอยู่ ม.กรุงเทพ น่านับถือ มีหลักการ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไป และแปลกใจว่า อ.เจริญ ศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย ไหม ทำไม อ.เจริญ ไม่รักแผ่นดินเกิดหรือคะ ถึงพยายามยกแผ่นดินไทยให้อดีตศัตรูประเทศราช ซึ่งเป็นลูกหลานพระยาละแวก ที่ทรยศต่อผู้มีพระคุณ เมื่อมาพึ่งพระบารมี โพธิสมภาร ในยุคสมเด็จพระนเรศวร โดยแว้งกัด กวาดต้อนคนไทยกลับเขมรจนเกิดวีรสตรี คือ ท้าวสุรนารี แม้ปีที่ไทยเสียปราสาทพระวิหาร ดิฉันเพิ่งเกิด เพราะเกิดปลายปี 2505 ดิฉันยังเจ็บแค้นที่เขมรฮุบแผ่นดินไทยไป เมื่อฟังจาก ASTV แล้ว อ.เจริญ ไม่รู้สึกเชียวหรอ พยายามเข้าข้างฮุนเซนตลอด จนต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า อ.เจริญ ใช่คนไทยไหม หรือนี่คือตัวตนที่แท้จริงของ อ.เจริญ ดิฉันได้บริจาคให้มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินทวงเขาพระวิหาร และสนับสนุนมาตลอด ที่ผ่านมาดิฉันสะท้อนใจ เมื่อได้ฟังอาจารย์สองเทพ คุณประพันธ์ คุณสนธิ ตลอดจนนักวิชาการท่านอื่น ออกมาแฉการกระทำ หรือคำพูด อย่างรุนแรงว่า ทำไม อ.เจริญ ให้เด็กรุ่นลูก รุ่นน้องด่า ขอโทษนะคะที่ใช้คำนี้ โดยเฉพาะคืนวันที่ 1 เม.ย. ที่ อ.เทพมนตรี ด่าแบบไม่นับถือเลย ทำให้ดิฉันหมดความนับถือหมดความเป็นอาจารย์ ของ อ.เจริญ ทั้งๆ ที่ดิฉันไม่อยากทำเลย มันเหมือนทรยศความเป็นศิษย์ของอาจารย์เป็นเวลา 4 ปีที่อยู่ใน ม.กรุงเทพ จึงขอระบายความรู้สึกเกี่ยวกับ อ.เจริญ คันธวงศ์ ให้คุณประพันธ์ทราบเท่านั้น ด้วยความนับถือ ลงชื่อ ปล.สนับสนุนโหวตโน เอาใจช่วยนะคะ สู้ๆ ค่ะ ดิฉันรักประวัติศาสตร์มาก จึงทนไม่ได้ที่เห็นแผ่นดินไทยกลายเป็นของอดีตศัตรู
วันนี้ผมแบบสบายๆ มาเล่าบรรยากาศให้พี่น้องฟัง ตบท้าย ไปนั่งกินข้าวต้มติดกับพรรคประชาธิปัตย์ นั่งกินข้าวต้มอยู่ เจ้าของร้านมาบริจาค 5,000 ครับพี่น้อง แบ่งมาอย่างดี ให้ ASTV 2,000 กองทุนทวงคืนเขาพระวิหาร 3,000 กินข้าวต้มลดราคาให้จาก 500 คิด 300 แสดงว่า บัดนี้พี่น้องผู้รักชาติ พันธมิตรฯ ปิดล้อมพรรคประชาธิปัตย์ปิดล้อมเรียบร้อยแล้ว ไปนั่งกินที่ไหนเจอพี่น้องพันธมิตรฯ ทั้งนั้น ผมถึงอยากให้ อ.เจิม กับคุณอภิสิทธิ์ ถ้าอยากรู้มีคนเกลียดคุณมาเท่าไหร่ คุณน่าจะไปนั่งกับผมก็ได้ ดูว่าจะมีคนยกมือไหว้อาจารย์หรือยกมือไหว้ผมมากกว่า
พี่น้องครับ มีพี่น้องฝากมาว่า เขาไปจัดกิจกรรมโหวตโน ขนาดแม่ค้าขายขนมจีนก็ยังโหวตโน ตอนนี้เข้าใจหมดแล้ว เพราะว่าพวกเราให้ข้อมูลความรู้ สามารถสร้างมวลชนแนวร่วมเพิ่มขึ้นมา มีแม่ค้าหลายคนเข้าใจปัญหาและมาร่วมสนับสนุนการโหวตโนของพวกเรา ขนาดแม่ค้าขายขนมจีนยังรู้เรื่องโหวตโนเลย แล้วรัฐบาลจะรู้สึกอย่างไรไม่ทราบนะครับ ถ้ารัฐบาลไม่รู้เรื่องโหวตโนรัฐบาลมีสิทธิ์หัวโน เพราะโดนประชาชนตบหน้าแล้วตบกะบาล นี่จะบริจาคอีก 500 ใช่ไหม อ๋อบริจาค 5 นาที โอเคครับ
พี่น้องที่เคารพรัก พอมาถึงวันนี้ บรรยากาศการชุมนุมและการต่อสู้นั้น พี่น้องครับ ผมคิดว่าเราต้องภูมิใจในสิ่งที่เราต่อสู้ร่วมกันมา ไม่ว่าการต่อสู้วันนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของชาติบ้านเมือง และจะทำให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงไปได้มากน้อยแค่ไหนเพียงใดก็ตามแต่ แต่เชื่ออย่างหนึ่งครับวันนี้ เปลวเทียนและประกายไฟที่เราจุดขึ้นในการต่อสู้ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการจุดประกายเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองครั้งยิ่งใหญ่ กระแสโหวตโนกลายเป็นกระแสหลักของสังคมการเมือง ไม่ต้องห่วง ขณะนี้ที่รัฐบาลและกลุ่มพรรคต่างๆ กำลังพยายามจัดฉากระดมทุน แต่งหน้าทาแป้ง จัดกิจกรรม อีเว้นต่างๆ ประโคมข่าวให้เกิดกระแสการเมืองเพื่อโน้มน้าวให้คนคล้อยตามอยากไปเลือกตั้ง เหมือนกับการเห็นว่ากระแสเลือกตั้งจะมาปกคลุมบ้านเมือง เอาเถอะอีกไม่กี่วันเจอกระแสโหวตโนของพวกเราที่จะออกรณรงค์ทั่วประเทศแข่งกับนักการเมือง ดูว่าใครจะมันกว่ากัน ถ้ามีเลือกตั้ง เขาหาเสียงหาไป เขาจัดฉากผัดหน้าทาแป้งแต่งตัวผสมพันธุ์กันไป แต่เราจะรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนโหวตโนสั่งสอนนักการเมืองให้ได้ครับพี่น้อง และการเคลื่อนไหวของพวกเราจะไม่สูญเปล่า จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองอย่างแน่นอน เพราะสิ่งที่เราสู้และสิ่งที่เราทำนั้นเป็นความถูกต้อง เป็นความดีงามของบ้านเมือง ขณะเดียวกันครับพี่น้อง สิ่งที่นายอภิสิทธิ์รีบเลือกตั้งเพราะต้องการจะกลบเรื่องที่หลอกประชาชนไว้ทั้งหมด คนที่น่าสงสารที่สุดเวลานี่คือใครครับ พี่น้องจำได้ไหม ตอนที่นายอภิสิทธิ์รณรงค์เรื่องปรองดอง เชิญชวนประชาชนปรองดอง ที่ตั้งแถวอยู่หน้าทำเนียบเชิญชวนประชาชนทั้งประเทศเขียนจดหมาย เดี๋ยววันหลังจะเอาคลิปมาเปิดให้ฟัง มันหลอกลวงตบตาประชาชน เสร็จแล้วสิ้นปีเราจะมีโรดแมปประเทศ จะมีแผนปฏิรูปประเทศ แล้วตั้ง อ.อานันท์ กับ อ.ประเวศ เขียนแผน ตั้งคณะกรรมการปฏิรูป บอกจะมีแผนโรดแมป พิมพ์เขียวให้ประชาชน นำพาประเทศไปสู่ความปรองดอง สมานฉันท์ ปฏิรูปประเทศชาติบ้านเมือง สรุปตอแหลหลอกลวงประชาชน คนที่เชียร์แผนปรองดอง คือ อ.เจิมศักดิ์ เดี๋ยวผมจะเอาคลิปสัมภาษณ์ อ.เจิมศักดิ์ มาพูดอีก สุดท้ายแล้ววันนี้พอจะยุบสภาไม่พูดถึงโรดแมป ไม่พูดถึงพิมพ์เขียว หลอกลวงผู้เฒ่าให้ท่านอานันท์ ปันยารชุน มานั่งแถลงทีละเรื่องสองเรื่อง ว่าจะปฏิรูปตรงนั้นปฏิรูปตรงนี้ ไม่มีกำหนดเวลาว่าจะปฏิรูปเมื่อไหร่ ทำไมไม่มอบให้รัฐบาลแล้วประกาศเป็นพิมพ์เขียว พาประชาชนทั้งประเทศไปสู่การปฏิรูปประเทศไทย ถ้าหากว่าเป็นเรื่องจริงที่คุณตั้งใจจะทำ ถ้าไม่ใช่ละครปาหี่ตบตาประชาชน นี่เป็นบทพิสูจน์อีกเรื่องว่า การที่นายอภิสิทธิ์ตั้งท่านอานันท์ อ.ประเวศ ใช้งบประมาณ 300 ล้าน 600 ล้าน กลายเป็นเครื่องประดับ เป็นการหลอกใช้ผู้หลักผู้ใหญ่ ศึกษาแทบเป็นแทบตาย นายอภิสิทธิ์ไม่เอามาเลย นายอภิสิทธิ์บอก จะประกาศแผนหาเสียง วันที่ 20 ไม่เห็นเกี่ยวกับแผนปฏิรูป พิมพ์เขียวของ อ.ประเวศ ท่านอานันท์ ปันยารชุน เพราะฉะนั้นทั้งหมด กราบเรียนพี่น้องว่า วันนี้เราได้จับโกหกนักการเมืองหน้าตาดี มีการศึกษาดี ชาติตระกูลดี วันนี้เราจับแก้ผ้าลอกคราบล่อนจ้อนแล้วครับพี่น้อง หากมีการเลือกตั้ง ผมยังคิดว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ยังเอานายอภิสิทธิ์มาหลอกขายประชาชน ผมถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคารพและไม่ให้เกียรติพี่น้องประชาชน เอาคนที่ไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถ และทำให้แผ่นดินเสียเอกราชและอธิปไตย บริหารบ้านเมืองล้มเหลว และมีความหน้าด้าน พูดจาโกหก ไม่รักษาสัจจะคำมั่นสัญญา ไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ยังเสือกไสมาให้ประชาชนเลือก ถือว่าพรรคนี้ไม่เคารพและไม่ให้เกียรติประชาชน เพราะฉะนั้นในการเลือกตั้ง ถ้ามันมี เราต้องสั่งสอนให้รู้สำนึก ด้วยการโหวตโน นี่คืออาวุธสำคัญที่เป็นสิทธิ์ของท่านทุกคน ต้องใช้มันในโอกาสนี้และครั้งนี้เป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่มีความหมายอย่างยิ่ง ขอบคุณครับวันนี้มาคุยกับพี่น้องแค่นี้ก่อนพรุ่งนี้ค่อยฟังอะไรสนุกๆ มันๆ วันนี้ให้พี่สนธิโส้ยแล้วผมไม่อยากโส้ยต่อ พบกันพรุ่งนี้ครับสวัสดีครับ