xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ ชี้ “โหวตโน” กระแสแรง ทำนักการเมืองดิ้นพล่านต้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พธม.ชี้นักการเมืองดิ้นพล่านต้าน “โหวตโน” เหตุกระแสแรง “ปานเทพ” สอน “เด็จพี่” ออกตัวค้านทั้งที่ไม่รู้เรื่อง ปชต. เผยปลุกกระแสขึ้นมีแนวร่วมไม่จำกัดสีเสื้อ อัดนักการเมืองเคยสัญญาปฏิรูปการเมืองเมื่อปี 49 พออยู่ในอำนาจจึงเปลี่ยนไป เชื่อใกล้เลือกตั้งมีกระแสต่างจากทุกขั้วการเมืองแน่ ด้าน “ลุงจำลอง” ชี้แค่ออกมาเลือกตั้งถือเป็น ปชต. แต่” โหวตโน” ถือเป็นสิทธิของแต่ละคน ไม่หวังได้มากน้อย แค่พยายามรณรงค์เต็มที่ พร้อมจัดเสวนาให้ความรู้ ปชช.ที่ขอนแก่นวันนี้



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แถลงข่าว  

วันนี้ (17 เม.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุถึงการรณรงค์กาในช่องไม่ลงคะแนนหรือโหวตโนของภาคประชาชนว่าจะเป็นการทำให้ประเทศถอยหลังเข้าคลอง และไม่เป็นประชาธิปไตยว่า เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่านายพร้อมพงศ์ไม่มีความเข้าใจในเรื่องของประชาธิปไตย เพราะสิทธิการกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนถูกออกแบบไว้ในบัตรเลือกตั้งอยู่แล้ว ประชาชนจึงมีสิทธิในการไม่เลือกใคร เป็นสิทธิอันชอบธรรมและบริสุทธิ์ตามกฎหมาย เพราะนักการเมืองไม่เป็นที่พึ่งหวังของประชาชน ทุกฝ่ายมีปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ขั้วการเมืองหนึ่งสนับสนุนการเผาบ้านเผาเมือง ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งที่มีอำนาจในฝ่ายบริหารกลับปล่อยให้มีการเผา และสนับสนุนการประกันคนเผา ทั้งยังปล่อยให้มีขบวนการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้น ประชาชนก็มีสิทธิเพื่อแสดงให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและระบบของนักการเมือง

“ที่หลายฝ่ายพยายามพูดว่ากระแสโหวตโนนั้น เอื้อประโยชน์แก่พรรคเพื่อไทย บัดนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า แท้ที่จริงแล้วนักการเมืองในระบบไม่ว่าจะอยู่ขั้วไหนต่างหวั่นไหวและสั่นคลอนต่อกระแสดังกล่าวของภาคประชาชน เนื่องจากเห็นว่ากระแสโหวตโนที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปประเทศไทย โดยไม่จำกัดเฉพาะสีใดสีหนึ่ง ไม่เฉพาะพันธมิตรฯ หรือกลุ่มคนเสื้อแดง หรือกลุ่มคนชั้นกลางที่ไม่ได้ออกมาชุมนุม แต่เป็นกระแสของคนทั่วไปที่รู้สึกเบื่อหน่ายการเมือง และเห็นว่าระบบการเมืองในปัจจุบันไม่ใชคำตอบในการแก้ไขปัญหาวิกฤตของชาติได้” นายปานเทพกล่าว

โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้การโหวตโนถูกต่อต้านจากทุกขั้วการเมือง ที่ผ่านมามีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยมาก จากผู้มีสิทธิ 45 ล้านคน 15-20 ล้านคนไม่ออกมาใช้สิทธิ์ เพราะมีประชาชนส่วนหนึ่งที่เห็นว่าการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบละเป็นปัญหาอยู่แล้ว ดังนั้นหากประชาชนสนับสนุนการโหวตโนมากขึ้น จะเป็นการแสดงออกถึงอิสระทางความคิดในการปลดแอกจากนักการเมืองทุกขั้วที่ไม่เป็นความหวัง และเรียกร้องให้นักการเมืองเดินหน้าในการปฏิรูปการเมือง เหมือนกับสัญญาเมื่อปี 49 ที่ทุกพรรคการเมืองสัญญาว่าจะเดินหน้าในการปฏิรูปการเมือง แต่มาถึงวันนี้ทุกคนเพิกเฉย สนใจแต่อำนาจ ไม่มีผู้ใดจริงใจแม้แต่น้อย

“นักการเมืองหลายคนพยายามแสวงหาแนวทางในการต่อต้าน พยายามบอกว่าไม่เป็นประชาธิปไตย แต่นักการเมืองเหล่านี้ไม่เคยสำนึกว่าตัวเองเป็นปัญหาของแผ่นดิน ตราบใดที่การเมืองยังไม่มีการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ไม่ว่าเลือกตั้งกี่ครั้งก็จะได้คำตอบเหมือนเดิม ที่ตำแหน่งทางการเมืองเหมือนสัมปทานโดยดูจากจำนวน ส.ส. จึงมีการซื้อสิทธิขายเสียงเข้ามา แล้วมาทุจริตคอร์รัปชัน ดังนั้น วิกฤตของชาติจึงไม่มีทางได้รับการแก้ไข จนกว่าจะมีการปฏิรูปการเมือง ที่ท้ายที่สุดหากเราได้นักการเมืองที่ดีขึ้น กระบวนการตรวจสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น การมีส่วนร่วมและการตัดสินใจของประชาชนมีความหลายหลากมากขึ้น การชุมนุมของประชาชนก็จะลดลงไปโดยปริยาย บ้านเมืองก็จะสงบสุขมากขึ้น แต่หากนักการเมืองยังยืนยันว่าเดินหน้าเพื่อรักษาอำนาจตัวเอง บ้านเมืองก็จะขัดแย้งไม่เลิก” โฆษกพันธมิตรฯ กล่าว

ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลาการชุมนุมที่ผ่านมาเห็นได้ชักว่าประชาชนที่มาชุมนุมที่นี่ ไม่ได้มาทำเพื่อตัวเองหรือหมู่คณะ แต่มาทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริงในการมาลำบากลำบนเป็นวันที่ 83 แล้ว เพราะในฐานะที่เป็นประชาชนธรรมดาไม่สามารถทำสิ่งใดได้มากไปกว่านี้ในการแก้วิกฤตของประเทศ แต่ติดปัญหาที่รัฐบาลซึ่งมาจากพรรคการเมืองไม่ได้ให้ความสนใจต่อทั้งการเสียดินแดนหรือปัญหาปากท้องประชาชน มีความนสใจเพียงประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น ดังนั้น เมื่อนายกฯ ประกาศยุบสภา จึงเห็นว่าควรชักชวนประชาชนให้สั่งสอนนักการเมือง โดยการกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือโหวตโน แม้ว่าจะมีหลายฝ่ายออกมาบอกว่าไม่ดี แต่เราเห็นว่าสิ่งดีเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

“เรื่องที่โจมตีเราว่า ไม่สนับสนุนประชาธิปไตยนั้นควรเลิกพูดได้แล้ว เพราะประชาธิปไตยที่แท้จริงควรให้สิทธิแก่ประชาชนในการตัดสินใจว่าจะลงคะแนนอย่างไรก็ได้ เพียงแต่ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งก็เป็นการสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยแล้ว โดยไม่ได้คาดหวังว่าจะได้คะแนนโหวตโนเท่าไร เพียงแต่พยายามรณรงค์อย่างเต็มที่เท่านั้น” พล.ต.จำลองกล่าว

ทั้งนี้ พล.ต.จำลองเปิดเผยด้วยว่า ในวันนี้ (17 เม.ย.) ได้มีการจัดเสวนาให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับโหวตโนที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นการจัดครั้งแรก โดยจะมีการจัดในลักษณะนี้ต่อๆ ไปทั่วประเทศ แต่ยังไม่ระบุสถานที่ ในเบื้องต้นจะมีการจัดเวทีย่อยๆ ตามจังหวัดต่างๆ เช่น จ.อุดรธานี และ จ.สกลนคร
กำลังโหลดความคิดเห็น