เทศกาลมหาสงกรานต์ปีนี้เป็นปีแรกที่คนไทยได้ฉลองวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีไทย กันอย่างมีความสุข สนุกสนาน ตามปกติ หลังจากที่ต้องงดมาสองปีติดต่อกัน เพราะคนเสื้อแดง จงใจกระชากเอาความสุขออกไปจากหัวใจคนไทย ยัดเยียดความทุกข์ ความเศร้าสลดใจมาให้แทน
สงกรานต์ปี 2552 คนเสื้อแดงเกณฑ์คนมาล้อมทำเนียบ กดดัน ขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตามไปล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา กลับมาจุดไฟเผารถเมล์ รถขยะ เอารถแก๊สไปจอดที่สามเหลี่ยมดินแดง ข่มขู่ประชาชน แต่ก็ถูกทหารปราบปราม จนต้องสลายตัวไป อย่างไม่ต้องสูญเสียเลือดเนื้อ
ปีที่แล้วเอาอีก หลังจาก นช.ทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินยึดทรัพย์ 42,000 ล้านบาท คราวนี้วางแผนเตรียมการมาอย่างดี มีการแบ่งงานกันทำ ทั้งฝ่ายปลุดระดมมวลชน ที่ใช้วาทกรรม สองมาตรฐาน–สงครามไพร่ล้มอำมาตย์ มีกองกำลังติดอาวุธ ใช้ความรุนแรง ยิงและวางระเบิดกรมทหาร สถานที่ราชการ ธนาคาร สาธารรณูปโภค บุกโรงพยาบาลจุฬา ฆ่าทหาร ยิงนักข่าว สังหารไพร่แดงที่ถูกกวาดต้อนมาจากต่างจังหวัด และสุดท้ายคือ เผาบ้านเผาเมือง
เป้าหมายครั้งนี้เอากันถึง พลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน เปลี่ยนแปลงอำนาจการปกครองอย่างเบ็ดเสร็จ ขนาดรัฐบาลยอมถอย ประกาศยุบสภาภายในสิ้นปี คนเสื้องแดงก็คว่ำโต๊ะเจรจา เพราะมั่นใจในชัยชนะของตนเอง
แต่คราวนี้ทหารเอาจริงละประชาชนเอาด้วย คนเสื้อแดงจึงพ่ายแพ้อย่างหมดรูป แต่ที่ย่อยยับกว่าคือบ้านเมืองและหัวใจของคนไทยทั้งชาติ ที่บ้านเกิดเมืองนอนต้องถูกเผาในวันสงกรานต์ ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งความรื่นเริง และความสนุกสนาน ที่ไม่เฉพาะแต่คนไทยเท่านั้น แต่เลื่องลือไปทั่วโลก
ขนาดองค์พระประมุขของชาติยังทรงสะเทือนพระราชหฤทัยจนพระอาการทรุด
สงกรานต์ปีนี้ คนไทยยังไม่ลืมบาดแผลความเจ็บปวดที่คนเสื้อแดงสร้างเอาไว้สองปีติดต่อกัน คนเสื้อแดงรู้แล้วว่า ความรุนแรงที่พวกเขาก่อขึ้น เพื่อจะเป็นชนวนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เหมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ไม่ได้ผล ซ้ำยังกลับย้อนกลับมาทำลายตัวเอง ตั้งแต่หัวหน้าใหญ่คือ นช.ทักษิณ ชินวัตร ลงมาถึงแกนนำ
ที่เจ็บปวดที่สุดคือ พวกคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งที่ต้องตายฟรี รวมทั้ง เสธฯ แดง ที่กรรมติดเทอร์โบ ตามสนองทันตาเห็น อีกจำนวนหนึ่งติดคุก เพราะไปหลงเชื่อ นช. ทักษิณ และแกนนำว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นให้ไปที่ศาลากลางทุกจังหวัด จนป่านนี้ยังไมได้ประกันตัว และไม่มีแกนนำคนเสื้อแดงคนไหนให้ความสนใจในชะตากรรมของพวกเขา
ทำให้คนเสื้อแดงต้องงัดกลยุทธ์สงครามประชาชนของประธานเหมาเจ๋อตงมาใช้ คือสะสมกำลัง รอคอยโอกาส หันไปเน้นการต่อสู้ในระบบ แข่งขันในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ทำให้คนไทยได้เทศกาลสงกรานต์กลับคืนมา
แต่สงกรานต์ปีนี้ คงเป็นปีเดียวที่คนไทยได้เฉลิมฉลองกันตามปกติ ปีหน้าและปีต่อไป มีแนวโน้มว่า จะกลับไปเป็นสงกรานต์เลือดค่อนข้างสูง เพราะ นช. ทักษิณ และคนเสื้ออแดงส่งสัญญาณออกมาแล้ว
ผลการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ไม่ว่าจะออกมาอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคเพื่อไทยได้ตั้งรัฐบาล ความวุ่นวาย ความรุนแรงก็เกิดขึ้นอยุ่ดี เพราะเป้าหมายของ นช. ทักษิณ ไม่เคยเปลี่ยน
ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก คนเสื้อแดงก็จะหาเรื่องว่า การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ พรรคเพื่อไทยถูกกลั่นแกล้ง ถูกทหารส่งชุดติดตามไปกดดัน ซึ่งในขณะนี้ยุทธการตีปลาหน้าไซได้เริ่มขึ้นแล้ว ทั้งโดยการปล่อยข่าวของนายจตุพร พรหมพันธุ์ว่า กองทัพตั้งศูนย์เฉพพาะกิจ ติดตามการเลือกตั้ง ทั้งการเรียกร้องให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างยุติธรรมของ นช.ทักษิณ
หากพรรคเพื่อไทยแพ้เลือกตั้ง ก็จะสมอ้างทันทีว่าถูกโกง และอ้างเป็นเหตุในการเคลื่อนไหวก่อความวุ่นวายเผาบ้านเผาเมืองกันต่อไป
หากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ได้จัดตั้งรัฐบาล ก็จะกระทำการที่คนไทยรับไม่ได้ คือ การนิรโทษกรรมให้ นช.ทักษิณ ทั้งในคดีทุจริตที่ศาลได้ตัดสินจำคุกไปแล้ว และที่ถูกจำหน่ายคดีไปก่อน ทั้งคดีที่ถูกยึดทรัพย์
นช.ทักษิณได้ประกาศชัดแล้วว่า ถ้าเพื่อไทยชนะ เขาจะกลับมา และจะให้มีการนิรโทษกรรมให้กับทุกฝ่าย แต่จุดใหญ่ใจความคือนิรโทษกรรมให้กับตัวเอง
เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว ก็ทำให้แผ่นดินลุกเป็นไฟได้แล้ว เพราะคนไทยที่เกลียดชังทักษิณมีอยู่มาก แม้จะไม่แสดงออกแต่ยังไม่ลืม การกลับมาของ นช.ทักษิณโดยไม่ต้องติดคุก จะเป็นชนวนให้คนหลากสีพร้อมใจกันลุกขึ้นมาขับไล่เขาอีกครั้งหนึ่ง
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นๆ ที่ นช. ทักษิณต้องทำแน่ๆ พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล คือ ล้างบางกองทัพ และการล้มคณะองคมนตรีเพื่อชำระความแค้น
สงกรานต์ปีนีจึงเป็นการเว้นวรรค การใช้ความรุนแรงของคนเสื้อแดงชั่วคราว เพียงปีเดียว หลังการเลือกตั้ง ประเทศไทยจะเข้าสู่ภาวะความขัดแย้งอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง และจะเป็นเช่นนี้ไปอย่างน้อยอีก 10 ปี