xs
xsm
sm
md
lg

พยานเผย “กองทัพกัดดาฟี” จับตัว 3 นักข่าวจากชาติตะวันตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักข่าวจากชาติตะวันตกที่ถูกกองทัพกัดดาฟีจับตัวไปเมื่อวันเสาร์ (19) ประกอบด้วย (จากซ้ายไปขวา) โรเบอร์โต ชมิดท์, เดฟ คาร์ก และ โจ แรเดิล
เอเอฟพี - นักข่าวจากชาติตะวันตก 3 คน ซึ่งขาดการติดต่อไปตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาในพื้นที่ทางตะวันออกของลิเบีย ได้รับการเปิดเผยวันนี้ (22) ว่า ถูกกองกำลังผู้ภักดีของมูอัมมาร์ กัดดาฟี จับกุมตัว คนขับรถของทีมข่าวดังกล่าว เล่าเหตุการณ์

เดฟ คาร์ก และ โรเบอร์โต ชมิดท์ ผู้สื่อข่าวและช่างภาพของเอเอฟพี รวมทั้ง โจ แรเดิล ช่างภาพจากเกตตีอิมเมจ ขาดการติดต่อกับสำนักงานของแต่ละคนไปตั้งแต่ช่วงเย็นวันศุกร์ (18) ที่ผ่านมา

โมฮัมเหม็ด ฮาเหม็ด คนขับรถของนักข่าวเอเอฟพีทีมนี้ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ (19) เขาขับรถพานักข่าวทั้ง 3 คนจากเมืองโทบรุก ไปตามถนน มุ่งหน้าสู่เมืองอัจดาบิยา โดยขณะนั้นกองทัพของกัดดาฟี กำลังสู้รบกับฝ่ายกบฏอยู่

รถของทีมข่าวเอเอฟพี พบกับขบวนรถทหารของกัดดาฟีโดยอังเบิญ ไม่กี่กิโลเมตรจากเมืองอัจดาบิยา ทีมข่าวจึงตัดสินใจกลับรถ และขับหนีขบวนทหาร แต่ถูกไล่ตามและควบคุมตัว

คนขับรถผู้นี้เล่าเหตุการณ์ ว่า ทหารของกัดดาฟี 4 คนใช้ปืนจ่อ และสั่งให้กลุ่มทีมข่าวลงจากรถ เดฟ คาร์ก นักข่าวต่างประเทศผู้มากประสบการณ์ อธิบายด้วยภาษาอาหรับ ว่า พวกเขาเป็นผู้สื่อข่าว แต่คำอธิบายไม่เป็นผล ทหารสั่งให้ทุกคนคุกเข่า และยกมือวางบนศีรษะ อยู่ริมถนน

ฮาเหม็ด เล่าต่อว่า มีพลเรือนส่วนหนึ่ง และรถพยาบาลโผล่เข้ามาในบริเวณดังกล่าว แต่ถูกทหาร ซึ่งมีจำนวนมากกันไว้ ต่อมา กลุ่มทหารได้จุดไฟเผารถยนต์จำนวนหลายคัน รวมทั้งรถของทีมข่าวด้วย ก่อนจะจับนักข่าวทั้งสามโยนขึ้นรถทหาร และพาตัวออกไป

ซุดกี อับดุลการิม จิบริล ล่ามภาษาอาหรับ ซึ่งติดตามทีมข่าวเอเอฟพีครั้งนี้ เปิดเผยกับสถานีวิทยุโทบรุกเรดิโอ ของกลุ่มกบฏ ว่า รถของพวกเขาถูกไล่ตามกว่า 50 กิโลเมตร ก่อนที่ทหารกัดดาฟีจะยิงยางรถ เพื่อบังคับให้พวกเขาต้องหยุด

“เราไม่รู้ว่าทหารจับพวกนักข่าวไปที่ไหน” เขากล่าว “ทหารยอมให้พวกเขาพกมือถือไว้ แต่ห้ามเอากล้องไปด้วย”

ทั้งนี้ เดฟ คาร์ก และ โรเบอร์โต ชมิดท์ แจ้งกับกองบรรณาธิการข่าวเอเอฟพีทางอีเมล เมื่อวันศุกร์ (18) ถึงแผนที่จะมุ่งหน้าออกจากเมืองโทบรุกไปเป็นระยะทาง 35 กิโลเมตร โดยมีนัดหมายพบกับนักรบฝ่ายกบฏ และสัมภาษณ์ผู้ลี้ภัยสงครามชาวลิเบีย นอกจากนักข่าวเอเอฟพีทั้งสองคนนี้ ในทีมงานดังกล่าวยังมี แรเดิล ช่างภาพจากเกตตีอิมเมจ ติดตามไปด้วย ตั้งแต่อีเมลสุดท้าย เมื่อวันศุกร์ นักข่าวทั้งสามรายไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย จนกระทั่งข้อมูลจากปากคำของคนขับรถ และล่ามภาษาอาหรับของทีมข่าว เปิดเผยออกมาวันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น