เอเอฟพี - เดฟ คาร์ก และ โรเบอร์โต ชมิดท์ สองนักข่าวของเอเอฟพี หายตัวไปในสมรภูมิลิเบียตั้งแต่วันศุกร์ (18) ที่ผ่านมา ขณะทั้งคู่เข้าไปหาข่าวในพื้นที่แถบเมืองโทบรุก ทางตะวันออกของลิเบีย สำนักข่าวเอเอฟพี รายงาน วานนี้ (20)
คาร์ก ผู้สื่อข่าววัย 38 ปี และชมิดท์ ช่างภาพวัย 45 ปี ได้แจ้งกับทางสำนักข่าวเอเอฟพีทางอีเมล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาถึงแผนการเดินทางออกจากเมืองโทบรุก โดยนักข่าวทั้งสองวางแผนที่จะเข้าพบกับฝ่ายต่อต้านระบอบมูอัมมาร์ กัดดาฟี และสัมภาษณ์ชีวิตวามเป็นอยู่ของบรรดาผู้ลี้ภัยจากสงครามระหว่างกลุ่มกบฏกับกลุ่มผู้จงรักภักดี ข้างกาย คาร์ก และชมิดท์ ยังมี โจ แรเดิล ช่างภาพจากเกตตีอิมเมจ เป็นเพื่อนร่วมทางอีกหนึ่งคน
ตั้งแต่อีเมลเมื่อช่วงดึกคืนวันศุกร์ดังกล่าว ทั้ง 3 คนไม่ได้ติดต่อกลับมายังสำนักงานของตนอีกเลย
เดฟ คาร์ก เข้าไปทำข่าวในลิเบียตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม ขณะที่ โรเบอร์โต ชมิดท์ ซึ่งปกติประจำการอยู่ศูนย์ข่าวกรุงไนโรบี เดินทางไปทำงานในลิเบียตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดการจลาจลต่อต้าน พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ มีนักข่าวต่างชาติจำนวนมากถูกจับกุมอยู่ในลิเบีย
ทางการลิเบียเปิดเผยว่า ได้จับกุมตัวนักข่าวของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส 4 คน หลังจากทั้งสี่หายตัวไปในพื้นที่ทางตะวันออกของลิเบีย เมื่อวันอังคาร (15) ที่ผ่านมา
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส รายงานต่อมาว่า ทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันศุกร์ (18) แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนถึงอิสรภาพของนักข่าวทั้งสี่
เมื่อวันเสาร์ (19) สำนักข่าวอัลจาซีราห์ของกาตาร์ รายงานว่า นักข่าวอัลจาซีรา 4 คน ซึ่งมีชาวนอร์เวย์ และชาวอังกฤษรวมอยู่ด้วย ก็ถูกคุมขังอยู่ในกรุงตริโปลี หลังจากถูกจับในพื้นที่ทางตะวันตกของลิเบีย
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม อาลี ฮัสซาน อัล-เจเบอร์ ช่างกล้องของอัลจาซีราห์ เสียชีวิตจากการถูกซุ่มโจมตี ใกล้กับเมืองเบนกาซี ฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏ เขากลายเป็นนักข่าวต่างชาติคนแรกเสียชีวิตในลิเบีย ตั้งแต่ประชาชนเริ่มลุกฮือขึ้นต่อต้านระบอบกัดดาฟี