"ประพันธ์" ชี้ "มาร์ค" กลับลำแหลพื้นที่ 4.6 เล็งโยนความผิดให้ทหาร

"ประพันธ์" เย้ย "มาร์ค" กลับลำพื้นที่ 4.6 เป็นของไทย เพราะไม่อาจปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ เตรียมโยนความผิดให้ทหาร กู้คะแนนนิยม แทงใจดำ “บิ๊กป้อม”อยากเป็นใหญ่ตั้งก๊กทหารแข่งบารมี “ป๋าเปรม” แนะผบ.ทบ. รักชาติจริงใจถึงต้องปฎิวัติ หรือไม่ก็โหวตโน

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย "นายประพันธ์ คูณมี"  

วันที่ 12 เม.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน กล่าวว่า หลายคนสงสัยการชุมนุมครั้งนี้ดูเหมือนไม่คึกคักเท่าที่ผ่านมา เป็นเพราะแตกต่างจากทุกครั้ง เราการปกป้องอธิปไตยเรียกร้องให้รัฐบาลทวงแผ่นดินที่กัมพูชารุกรานคืน เราตั้งใจแต่แรก จะใช้ข้อเท็จจริงที่ปรากฎด้วยหลักฐานแฉความชั่วร้ายของรัฐบาล ดังนั้น มีคนแค่หลักร้อยก็ชนะรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ ซึ่งไม่รู้จะเอาคนเรือนแสนมาเพื่ออะไร ไม่รู้จะหาห้องน้ำที่ไหนให้ใช้ และโรงเลี้ยงบริการพี่น้องที่มาชุมนุมคงเป็นไปด้วยความยากลำบาก

ความจริงพี่น้องที่นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่พี่น้องหน้าจอ และที่อยู่ต่างประเทศ มากมายเกินคาด ดูได้จากผลสำรวจคนดูเอเอสทีวี ผ่านทางเคเบิ้ลทีวี ก่อนมีการชุมนุมอยู่ลำดับที่ 4-5 พอมีชุมนุมเราขึ้นเป็นอันดับ 1 และเรายังไม่เคยเรียกระดมพลครั้งใหญ่ แต่ยังเห็นได้ช่วงตำรวจจะรื้อส่วม สลายชุมนุม พี่น้องมากันล้นหลาม อีกอย่างเราออกเหรียญ ร.5 รุ่นรักแผ่นดิน 10,000 เหรียญ พี่น้องทางบ้านที่ทราบข่าวมาต่อแถวเข้าคิวเช่าเป็นที่ระลึก ตั้งแต่สะพานมัฆวานยาวไปถึงสะพานชมัยมรุเชฐ ได้ไปคนละเหรียญ แค่ 2-3 ชม. หมดเกลี้ยง ทั้งที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า ไม่ใช่เคลื่องรางของขลัง เป็นเพียงของระลึกเตือนใจ ให้ตระหนักถึงภาระหน้าที่ความเป็นคนไทยในการปกป้องแผ่นดิน

นายประพันธ์ กล่าวว่าเราชุมนุมยิ่งอยู่นานประชาชนยิ่งได้ความรู้ นักการเมืองยิ่งตกต่ำ เราได้ชัยชนะมาโดยลำดับ ท้ายที่สุด รัฐบาลต้องกลับมาพูดพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของไทย ทั้งนี้หลายคนอาจสงสัยว่า นายอภิสิทธิ์ กินยาผิดหรือป่าวหรือเพิ่งคิดได้ สำหรับมุมมองของคน เชื่อว่าเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ ไม่อาจปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ และอีกประเด็นรัฐบาลกลัวพันธมิตรฯจะเอาประเด็นเสียดินแดนไปรณรงค์โหวตโน เพื่อลงโทษนักการเมือง ว่า เป็นขายชาติขายแผ่นดิน เลยแกล้งพูดเข้าข้างประชาชน เหมือนทำให้เห็นว่ายอมรับแล้ว หากมีรัฐบาลใหม่เขาจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป นี่เป็นการแหลอีกรอบเพื่อกลบเกลื่อนโกหกประชาชน ตนไม่เชื่อว่าหมอจะสำนึกตัวเองว่า พื้นที่ 4.6 ตร.กม. เป็นของประเทศไทยเอง

ทั้งนี้ที่นายอภิสิทธิ์ พูดเรื่องนี้ประเด็นที่น่าคิด คือ กำลังโยนความผิดไปให้ทหาร ว่า ทหารมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย เป็นหน้าที่ของทหารในการไล่เขมรออกไป เหมือนกับกรณีโยนความผิดให้ทหาร ในการสลายเสื้อแดง ซึ่งทหารต้องเรียงหน้าตกเป็นผู้ต้องหา พฤติกรรมเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่า นักการเมืองกำลังเอาตัวรอด และกำลังหาเสียงกับประชาชน สร้างเงื้อนไขให้เราพอใจหวังยุติการเคลื่อนไหว แต่เรารู้ทันเราจะไม่หยุดแค่นี้จะกดดันให้ทำหน้าที่ถึงที่สุด

นายประพันธ์ กล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรี ให้ถอนการประชุม เจบีซี โดยอ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องนี้ตนพูดมานาน ท้ายที่สุดรัฐบาลต้องหน้าแตกขอคณะรัฐมนตรีถอนเรื่องออกไป เพราะบันทึกความตกลงไม่อยู่ในฐานะเป็นสัญญาที่จะมาขอความเห็นชอบจากสภาฯตามมาตรา 190 เนื่องจากกระบวนการจะนำไปสู่การทำสัญญายังไม่แล้วเสร็จ เหมือนสร้างบ้านยังไม่เสร็จแล้วมาถามว่า ผู้รับเหมาสร้างบ้านทำบ้านผิดสัญญาหรือไม่

อย่างไรก็ดียังวางใจรัฐบาลไม่ได้ เพราะยังไม่ยกเลิกเอ็มโอยู43 ยังไม่ได้ถอนตัวจากภาคีมรดกโลก และทหารคนเขมรยังอยู่บนพื้นที่ 4.6 ตร.กม. อยู่ ทั้งนี้เมื่อนายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่า พื้นที่ 4.6 ตร.กม. เป็นของไทย ต้องเอากลับคืน โดยการขับไล่ ทหาร คนเขมร ออกไปให้หมด

นาประพันธ์ กล่าวถึงบรรดาทหาร ตำรวจ ที่ตบเท้ารดน้ำดำหัว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่า เป็นการเสแสร้ง ถ้าบุคคลเหล่านี้มีความเคารพนับถือพล.อ.เปรม จริง ต้องย้อนดูว่าช่วง 3-4 ปี พล.อ.เปรมโดนอะไรมาบ้าง แกนนำเสื้อแดงบุกขู่จะเผาบ้าน ค่ายทหารขอนแก่นมีป้ายโจมตี โคราชมีเสื้อแดงด่าเสียๆหายๆ ในเว็ปไซน์ก็ด่าเสียๆหายๆ จาบจ้วงถึงสถาบัน ก็อยากถามว่า บรรดาทหาร ตำรวจทั้งหลาย ทำอะไรที่เป็นรูปธรรม ปกป้องศักดิ์ศรี พล.อ.เปรม บ้าง และการที่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เรียกร้องให้ประชาชน 60 ล้านคนออกมาปกป้องสถาบัน แล้วพวกท่านทำอะไรบ้างในการปกป้อง ก่อนให้ประชาชนทำ ช่วยทำเป็นตัวอย่างให้ประชาชนเห็นหน่อย

“ที่คุณตบเท้าอวยพร พล.อ.เปรม ตนไม่เชื่อน้ำหน้าสักคน อย่าว่าพูดแรงเลย จะเชื่อก็ต่อเมื่อได้ปฎิบัติงาน จัดการคนจาบจ้วง เอาพื้นที่ 4.6 ตร.กม.คืนก่อน หากจะให้พูดแบบแทงใจ พวกคุณกำลังสร้างก๊กขึ้นมาใหม่ ความจริงคุณกำลังเชิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นก๊กประมุขทหารการเมืองแทน พล.อ.เปรม แต่ยังไม่กล้าล้มบารมี เลยทำตัวสวามิภักดิ์นับถือ พล.อ.ประวิทย์ ถึงได้ทำตัวเป็นใหญ่ พยายามสร้างเสาหลักขึ้นมาอีกเสาท้าทายแข่งบารมี พล.อ. เปรม ดึงลูกน้องมาค้ำบัลลังก์อำนาจตัวเอง หวังชี้เป็นชี้ตายในบ้านเมือง”

นายประพันธ์ กล่วว่า หาก ผบ.ทบ. อยางทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองจริง ผบ.ทบ. ต้องตอบคำถามประชาชนไห้ได้ ว่า การเมืองทุกวันนี้มันล้มเหลว โกง ทุจริต ขายชาติ นักการเมืองส่วนใหญ่ เป็นนักการเมืองขาดคุณธรรม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ใช่หรือไม่ และที่บ้านเมืองไม่สงบ ก็เพราะการเมืองสองขั้วเลวทั้งคู่ อัปรีย์ไปจัญไรมา คนทั้งบ้านทั้งเมืองเขารู้หมด ชายชาติทหารอย่างท่านทำไม่ดวงตาจะไม่เห็นธรรม ท่านอย่าปฏิเสธตัวเองเลย

ทั้งนี้ถ้าหากเห็นว่าบ้านเมืองจำเป็นต้องการการเปลี่ยนแปลง ทางออกที่ทำได้ 1.หาก ผบ.ทบ.กล้าหาญมาก ต้องกล้าปฎิวัติไปเลย แล้วเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่านี้ แต่อย่าทำแบบ 19 ก.ย. ที่เอารัฐบาลขิงแก่เข้ามา 2. หากในข้อแรกไม่กล้า ต้องเรียกร้องให้มีการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ด้วยการโหวตโน ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ประชาชนทำได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย

คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องทางบ้าน และรับชมอยู่ต่างประเทศทุกท่านครับ สวัสดีปีใหม่ครับพี่น้องครับ เพราะพรุ่งนี้ถือว่าเป็นปีใหม่ไทย แต่ว่านางสงกรานต์ถือตะขอขี่ช้าง แล้วถือปืนด้วย ท่าทางนางสงกรานต์ปีนี้น่าจะดุ แต่นางสงกรานต์ของเราไม่ดุ แต่อภิสิทธิ์กลัว

พรุ่งนี้จะถึงวันสงกรานต์แล้วครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน ถือว่าเป็นประเพณีปีใหม่ไทย ตามดวงทำนายของนางสงกรานต์ปีนี้เป็นอย่างไร เอาไว้ให้ อ.เทพมนตรี เป็นคนเล่าดีกว่า ผมไม่ถนัด ผมเล่าแล้วมันจะผิด

พี่น้องที่เคารพรัก การชุมนุมของพวกเรามาถึง ณ วันนี้ก็ต้องยอมรับว่า เป็นการชุมนุมที่ต้องนับถือและยกย่องจิตใจที่เสียสละของพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่มีส่วนร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ การที่พวกเราตัดสินใจมาชุมนุมในลักษณะยืดเยื้อ ปักหลักพักค้าง และยืดเยื้อมาถึงวันนี้ เป็นวันที่เท่าไหร่ครับ 77 แล้วเห็นไหมครับ ด้วยวัตถุประสงค์ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ และเพื่อปกป้องดินแดนอธิปไตยของประเทศ ต้องยอมรับว่า น่าจะเป็นการชุมนุมครั้งแรกหลังจากที่เราสูญเสียปราสาทเขาพระวิหารไปแล้วเราไม่เคยมีการชุมนุมในลักษณะนี้ เป็นการชุมนุมเพื่อปกป้องดินแดน อธิปไตย และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทวงคืนแผ่นดินแม่ของเราทุกตารางนิ้วกลับคืนมา เลยครับพี่น้องครับ การชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา เป็นการชุมนุมทางการเมืองเพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างนี้เป็นต้น คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญอันเป็นการฟอกความผิดให้นักการเมือง อย่างนี้เป็นต้น หรือการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางการเมือง หรือขับไล่รัฐบาล นายกรัฐมนตรีที่โกง ที่ทุจริต ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องทำนองนี้ แต่การชุมนุมเพื่อปกป้องแผ่นดินนั้น นับแต่เราสูญเสียปราสาทพระวิหารไปแล้ว นี่คือการชุมนุมครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครับพี่น้องครับ ดังนั้นการชุมนุมของพวกเรานั้น จึงเป็นการชุมนุมที่มีความหมาย และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง

ที่สำคัญ จุดเริ่มต้น เป็นการชุมนุมเพื่อปกป้องดินแดนและราชอาณาจักรของพวกเราก็จริงอยู่ แต่เมื่อเราชุมนุมยืดเยื้อ ยาวนานมาถึง 77 วันนั้น เราได้พูดถึงปัญหาอื่นๆ ของบ้านเมือง และพัฒนาจนกระทั่งจะนำไปสู่การเรียกร้องให้มีการปฏิรูปใหญ่ประเทศไทย จัดระเบียบประเทศไทยใหม่ เพื่อนำไปสู่การเมืองที่สร้างสรรค์ และการเมืองที่ก้าวหน้า การเมืองที่เป็นประชาธิปไตยเพื่อประชาชนไทยทุกๆ คน เราได้ชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของการเมืองระบอบเก่าในปัจจุบันเป็นอย่างไร นักการเมืองในปัจจุบันไร้คุณธรรม ไร้ความสามารถ ขาดความซื่อสัตย์ต่อประชาชน ต่อแผ่นดินอย่างไร โกงทุจริตขายชาติอย่างไร เป็นเรื่องที่ได้นำมาพูดบนเวทีนี้ และนำมาซึ่งผลสะเทือนไปยังประชาชนทั่วประเทศ เวทีการชุมนุมของพันธมิตรฯ จึงกลายเป็นศูนย์กลางและเป็นลมหายใจของประเทศไทยในวันนี้

เมื่อเช้ามีผู้สื่อข่าวถามในงานแถลงข่าวว่า การชุมนุมคราวนี้ทำไมดูเหมือนว่าพี่น้องพันธมิตรฯ มากันไม่มาก ไม่คึกคัก ผมกับอ.ปานเทพ ก็ตอบอย่างมีความสุข เพราะอะไรครับพี่น้อง การชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่แตกต่างจากการชุมนุมทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา เพราะเป็นการชุมนุมเพื่อปกป้องดินแดน เอกราช อธิปไตย และเรียกร้องให้รัฐบาลทำหน้าที่ทวงคืนแผ่นดินที่กัมพูชารุกราน ใช่ไหมครับพี่น้อง ยกเลิกความตกลง MOU43 ถอนตัวจากมรดกโลก และขับไล่ทหาร คนกัมพูชาออกไปจากแผ่นดิน นี่เป็นเนื้อหาสาระของการชุมนุม และการมาชุมนุมในครั้งแรก เราตั้งใจมาแต่แรกอยู่แล้วว่า เราไม่รู้จะระดมพี่น้องประชาชนมาเรือนแสนเรือนล้านเพื่ออะไร เพราะคุณลุงจำลองบอก อย่าให้คนมามากนัก มาแค่นี้ก็ชนะแล้วครับพี่น้อง เพราะถ้ามามากไม่รู้จะหาส้วมที่ไหนให้พี่น้องเพียงพอใช้กับคนจำนวนเรือนแสน อาหารที่จะจัดโรงเลี้ยง บริการพี่น้องประชาชน ก็ไม่รู้ต้องใช้คนจำนวนมาก และคงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เราจึงมีความตั้งใจแต่แรกอยู่แล้ว ขอให้มีคนมาแค่เรือนพัน เรือนหมื่นก็พอแล้ว และเราเชื่อมั่นว่า เราสามารถเอาชนะรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ได้ นี่เป็นความจริง เป็นความสัตย์จริง ไม่ใช่มาพูดแก้ตัวว่ามีคนมาน้อย แต่เดี๋ยวคำตอบที่สอง ทีนี้เราประเมินว่า ประชาชนแรกๆ ยังมาไม่มาก เพราะกว่าจะเข้าใจปัญหา ข้อเท็จจริงต้องใช้เวลา ขอให้เพียงมีเวลาปักหลักพักค้าง มี ASTV เป็นศูนย์กลางถ่ายทอด ให้ข้อมูลข่าวสารความรู้ประชาชนเท่านั้น เราก็ชนะแล้ว นี่คือยุทธศาสตร์และวิธีคิดของพวกเราในเบื้องต้น

ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นความจริงว่าเรามองไม่ผิด ว่าการชุมนุมของพวกเรานั้น ทำไมเรามั่นใจว่าเราจะชนะ เพราะ 1.เราต้องเอาความจริงมาพูด 2.เรื่องดินแดน อธิปไตย ความผิดพลาด ความล้มเหลวของรัฐบาลในเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลมีข้อมูลข้อเท็จจริงที่มิอาจโต้แย้งพวกเราได้ในทุกประเด็น หลังจากที่เราเดินสายเสวนา เผยแพร่ข้อเท็จจริง และได้ปะทะทางความคิดกับรัฐบาลและทีมงานวิชาการ และกุนซือที่ปรึกษาของรัฐบาลแล้ว ในการดีเบต ในการประชุมในทางลับ ในทางเปิดเผย ในเวทีอภิปราย ในสภานอกสภา ผ่านการปะทะกันทางความคิด ผ่านการโต้แย้งกันด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงมาหลายรอบแล้ว เราเชื่อมั่นว่า ถ้าเรานำข้อเท็จจริงนี้มาตีแผ่ให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบ รับรู้แล้ว เราเชื่อมั่นว่า ข้อมูลข้อเท็จจริงของพวกเราจะมีเหตุผล และมีน้ำหนักเหนือกว่ารัฐบาลอย่างแน่นอน นี่คือความเชื่อมั่น และท้ายที่สุดความเชื่อมั่นนี้ก็เป็นความจริง เพราะคนที่มายืนยัน สนับสนุนแนวคิด ข้อมูลข้อเท็จจริงของพวกเรานั้น ไม่ว่า ดร.สมปอง สุจริตกุล อ.ศรีศักร วัลลิโภดม ท่านนาม ยิ้มแย้ม ท่านสุเทพ กิจสวัสดิ์ อ.ยินดี วัชรพงษ์ ต่อสุวรรณ อ.อมร จันทรสมบูรณ์ ใครต่อใคร หลังจากที่เราเผยแพร่ข้อมูลความจริงไปแล้ว อ.วัลวิภา ใครต่อใคร นักวิชาการ ทีมงานฝ่ายเรา ทุกคนพิจารณาแล้วต่างมีความเห็นตรงกันว่า ข้อมูลข้อเท็จจริงของเราเหนือกว่ารัฐบาล ครับพี่น้องครับ

ปัญหามีอยู่ว่า ทำอย่างไรจะทำให้พี่น้องประชาชนที่ไม่เข้าใจข้อมูลข้อเท็จจริง รวมทั้งนักการเมือง ส.ว. และนักวิชาการอิสระอื่นๆ ที่รักชาติ รักบ้าน รักเมือง ได้มีโอกาสรู้และเข้าใจอย่างที่พวกเราเข้าใจ จึงเป็นที่มาของเวทีการชุมนุมที่นี่ และผมก็บอกว่า มีแต่เวทีชุมนุมที่นี่ และมี ASTV เป็นศูนย์กลางเผยแพร่ข้อมูลความรู้ให้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศเท่านั้น เราจะสามารถนำข้อเท็จจริงมาตีแผ่ หักล้างคำโกหกตอแหลของรัฐบาลได้โดยสิ้นเชิง

นอกจากนี้ เรามีความเชื่อว่า รัฐบาลบริหารบ้านเมืองด้วยความล้มเหลว ปกปิดข้อเท็จจริงไม่ให้ประชาชนรับทราบ และมีวิธีบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพ นำมาซึ่งความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง มีพฤติกรรมโกง ทุจริต และสร้างความเสียหายในหลายเรื่อง ที่ถูกปกปิดอยู่ โดยประชาชนไม่มีโอกาสได้รับรู้ ทั้งนี้เพราะสื่อมวลชนบางส่วน ไม่ยอมตีแผ่ เผยแพร่ สื่อฟรีทีวีก็ถูกรัฐบาลครอบงำอยู่ แต่เมื่อใดที่มีเวทีของ ASTV เปิดขึ้น มีการชุมนุมของพี่น้องประชาชน จะทำให้พี่น้องประชาชนต้องหันมาสนใจ และรับฟังข้อเท็จจริง รวมทั้งสื่อมวลชนจะนำไปตีแผ่ เผยแพร่ในสถานที่ต่างๆ ในวาระโอกาสต่อๆ ไป และการจะเอาชนะรัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ ต้องชนะด้วยข้อมูลความจริง ความรู้ และปัญญาที่เหนือกว่าครับพี่น้องครับ

ด้วยเหตุนี้ เมื่อเช้าจึงได้ตอบพี่น้องสื่อมวลชนไปว่า คุณเห็นหรือยัง ว่าการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ ครั้งนี้ เป็นการชุมนุมที่มีคุณภาพ มีการพัฒนา และมีการบริหารจัดการที่ดีเยี่ยม ใช่คนมาชุมนุมไม่จำเป็นต้องมาก แต่สามารถเอาชนะรัฐบาลได้โดยราบคราบทุกประเด็น เมื่อการชุมนุมเกิดขึ้นแล้ว พี่น้องครับ ปรากฏว่า ความเป็นจริงแล้ว พี่น้องที่มาชุมนุมอยู่ที่นี่ส่วนหนึ่งก็จริงอยู่ แต่ผู้ชุมนุมที่อยู่หน้าจอ ที่รับฟังอยู่ทางบ้าน และที่อยู่ต่างประเทศนั้น มากมายเกินคาด และมากอย่างที่เราคาดคิดไม่ถึง สื่อมวลชนอาจจะประเมินเราผิดในช่วงแรกๆ เรื่องนี้พิสูจน์ได้อย่างไร ดูจากผลสำรวจ วันนี้ผลสำรวจว่ามีผู้ชมรายการ ASTV เป็นจำนวนเท่าใด ก่อนชุมนุม ในบรรดาเคเบิ้ลทีวี เราอยู่ลำดับที่ 4-5 แต่เมื่อมีการชุมนุม วันนี้เคเบิ้ลทีวีที่มีคนเข้ามาชม และเว็บไซต์ผู้จัดการนั้น มีผู้เข้าชมเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มากที่สุดเป็นอันดับ 1 แล้ว 2.เมื่อเปรียบเทียบรายการของ ASTV กับฟรีทีวี เราชนะฟรีทีวีเกือบทุกช่อง เมื่อเทียบกับฟรีทีวีแล้วเรายังอยู่ลำดับที่ 2-3 นี่แสดงให้เห็นว่า พี่น้องทั่วประเทศเข้าใจ และติดตามการชุมนุมของพวกเรา เราจึงมีผู้เข้าร่วมการชุมนุมที่ชาญฉลาด และรอคอย ติดตามชมอยู่ทางบ้านมากมายเป็นประวัติศาสตร์ บทพิสูจน์เห็นแล้วใช่ไหม เราบอกพี่น้องสื่อมวลชนว่า เรายังไม่เคยเรียกระดมพล เป่านกหวีด เพื่อเรียกร้องคนให้มามากๆ แต่เราได้ทดสอบแล้ว จากอะไรครับ 1.เมื่อเวลาที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือรัฐบาลบอกว่าจะมาสลายการชุมนุม มารื้อส้วม มาขับไล่พี่น้องประชาชน เท่านั้นละครับ พี่น้องมากันตรึม มาเอง มาแซนวิชเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนไม่สามารถสลายการชุมนุมได้ และผู้ชุมนุมที่นี่ แม้ฝนฟ้าจะตก ถล่มลงมา น้ำไหลเต็มท้องถนนบริเวณที่เราอยู่ แต่พี่น้องยังนอนหลับกันสบาย ไม่ยอมกลับบ้าน ไม่ไปไหนเลย และมากันเองด้วยความสมัครใจ ไม่ได้จ้างไม่ได้วานมา ใช่ไหมครับพี่น้อง มาด้วยจิตใจเสียสละ รักชาติ รักบ้านรักเมืองจริงๆ และทุกคนปักหลักพักค้างอยู่เป็นกำลังหลักของพี่น้องประชาชนที่อยู่ทางบ้าน ส่วนพี่น้องประชาชนที่อยู่ทางบ้าน เหมือนกองหนุนที่พร้อมจะเข้าประจำการเมื่อมีภัยเข้ามาคุกคามพี่น้องประชาชน

และอีกบทพิสูจน์หนึ่ง เราได้ตอบพี่น้องสื่อมวลชนไปว่า คุณสังเกตไหม เราได้ทำเหรียญ ร.5 รุ่นรักแผ่นดิน เหรียญ ร.5 รุ่นรักแผ่นดิน รู้สึกจะทำมา 1 หมื่นเหรียญ ปรากฏว่าพี่น้องได้ชมจาก ASTV มาเข้าแถวจากสะพานมัฆวานยาวไปจนถึงสะพานชมัยมรุเชฐ เป็นหมื่นคนในเวลา 2-3 ชั่วโมง เหรียญคนละเหรียญ หมดแล้วยังมีพี่น้องประชาชนล้นหลาม รอรับเหรียญ ร.5 รุ่นรักแผ่นดิน ทั้งๆ ที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า นี่ไม่ใช่เครื่องลางของขลัง แต่เป็นสิ่งที่จะเป็นที่ระลึก และเป็นเครื่องเตือนใจให้เราตระหนักถึงภาระหน้าที่ของความเป็นคนไทยที่จะต้องปกป้องแผ่นดิน ทุกคนที่ติดตามมากันล้นหลาม มืดฟ้ามัวดิน จนคณะกรรมการต้องจัดทำรุ่นที่ 2

ทั้งหมดนี้เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การชุมนุมของพวกเราถูกต้อง แนวทางของเราถูกต้อง แม้จะมีบางคนบอกว่า ทำไมมาชุมนุมยืดเยื้อ ทำไมมาปักหลักพักค้าง ชุมนุมแล้วอาจจะทำให้พี่น้องเหนื่อยล้า ชุมนุมแล้วอาจจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน และอาจจะมีกระแสการเมืองตีกลับ บางคนท่านหวังดีกับเรา บางคนอาจจะไม่หวังดีแต่ประสงค์ร้ายก็มี หรือหวังดีประสงค์ร้ายก็แล้วแต่ ต่างความคิด วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา แต่ท้ายที่สุดแล้ว จุดยืน แนวทางที่เราทำอยู่นั้น ถือว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพราะยิ่งปักหลักพักค้าง และยิ่งอยู่นาน ประชาชนในประเทศยิ่งได้ความรู้ ยิ่งได้ปัญญา นักการเมืองยิ่งวิกฤตศรัทธาตกต่ำลงโดยลำดับ คนได้รับความรู้ได้รับการศึกษา ได้รับข้อเท็จจริงมากขึ้น ความเลวร้าย ธาตุแท้ของนักการเมือง และผู้บริหารประเทศ ถูกเปิดโปงออกมาอย่างร่อนจ้อน ยิ่งอยู่นานมีแต่ประชาชนดีขึ้นทุกวัน แต่รัฐบาลแย่ลงทุกวัน

ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการเคลื่อนไหวชุมนุม จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะระดมคนมามาก แต่ถ้าจำเป็นจะระดมคนมามาก เราสามารถทำได้ และพิสูจน์ให้เห็นแล้วใช่ไหมครับพี่น้อง ด้วยเหตุนี้ พี่น้องครับ การยืนหยัดชุมนุมของพวกเราที่นี่ เราจึงได้ชัยชนะสะสมมาโดยลำดับ อย่างที่เวทีวิชาการ อ.ปานเทพ, เทพมนตรี, อ.พิภพ ธงไชย ได้เรียบเรียงรายงานสรุปให้ท่านรับฟังแล้วว่า ทุกเรื่องทุกอย่างที่เราพูดเป็นความจริง ถูกต้อง และท้ายที่สุดรัฐบาลต้องจำนนต่อข้อเรียกร้องของพี่น้องประชาชนทุกเรื่อง เหลือสุดท้ายคือ ยังเขินอยู่ ยังอาย ยังกลัวเสียหน้าอยู่ คือยังไม่กล้ายกเลิก MOU2543 ยังไม่ถอนตัวจากมรดกโลก ยังไม่ยอมขับไล่คนกัมพูชาและทหารกัมพูชาออกไป แต่ท้ายที่สุดเลี่ยงไม่ได้ ท้ายที่สุดจะถูกไฟลท์บังคับให้เลิกจนได้ครับพี่น้อง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ตื่นตัวขึ้นมาแล้ว จะไม่ยอมให้รัฐบาลโกหกปกปิดความจริงอันนี้ และละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องแผ่นดินอย่างแน่นอน จะมีคนเข้าใจและเห็นด้วยกับพวกเรามากขึ้นทุกวัน

สรุปแล้วพี่น้องครับ สถานการณ์การชุมนุมที่เราชุมนุมยืดเยื้อมาถึงวันนี้ 70 กว่าวันนั้น เราได้รับชัยชนะมาโดยลำดับ แต่เรื่องสำคัญ 2 เรื่องที่เป็นข่าวต่อเนื่องระหว่างวันก่อนกับวันนี้ และเวทีวิชาการพูดไปแล้ว ผมอยากจะเพิ่มเติมในมุมมองและประเด็น นั่นก็คือ วันนี้ท้ายที่สุด รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ต้องย้อนกลับมาพูดในจุดเดิมว่า 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของคนไทย เป็นของประเทศไทย ไม่ใช่ของคนกัมพูชา ทหารอินโดนีเซียและคนกัมพูชาไม่มีสิทธิ์เข้าไปในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ใช่ไหมครับพี่น้อง หลายคนอาจจะสงสัยว่า นายอภิสิทธิ์กินยาผิดหรือเปล่า ทำไมกลับมาพูดเหมือนตอนแรกที่เป็นฝ่ายค้าน หรือว่าพึ่งได้สติ พึ่งคิดได้ แต่ในมุมมองของผม ผมอยากจะให้ข้อคิดอย่างนี้ วันนี้ ข้อเท็จจริงคือ นายอภิสิทธิ์ไม่สามารถจะปิดฟ้าด้วยฝ่ามือครับพี่น้องครับ ปิดบังความจริงเรื่องนี้ไม่ได้ ว่า 4.6 ตารางกิโลเมตร มันเป็นของประเทศไทย แล้วอีกไม่กี่วันถ้าเขาจะยุบสภา เขาก็กลัวว่าจะถูกประเด็นนี้เป็นประเด็นที่เรานำไปรณรงค์โนโหวต โหวตโน ว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ รัฐบาลประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลขายชาติ ขายแผ่นดิน เขากลัวพวกเราจะหยิบยกประเด็นนี้ไปรณรงค์หาเสียง รณรงค์ให้ประชาชนโหวตโนเพื่อลงโทษนักการเมือง เขาแกล้งทำเป็นพูดเข้าข้างประชาชน เหมือนให้ประชาชนเห็นว่า เขาก็ยอมรับแล้ว ถ้ามีรัฐบาลใหม่จะมาดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป นี่เป็นการแหลอีกรอบหนึ่งเพื่อกลบเกลื่อนและโกหกประชาชน ผมยังไม่เชื่อว่าไอ้หมอนี่สำนึกตัวเองว่า 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของประเทศไทยจริง นี่ประเด็นที่ 1 ที่ผมตั้งข้อสังเกต และผมเชื่อว่า ผมแทบจะเอากำปั้นดีกว่านะ ต่อยหน้าได้ตรงเป้าไม่มีผิด ว่าผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไร นี่ประเด็นที่ 1

ประเด็นที่ 2 เวลานี้ ที่พูดเรื่องนี้ กำลังจะโยนความผิดไปให้ทหาร พล.อ.ประยุทธ์ ฟังผมไว้นะ เมื่อรัฐบาลเขาบอกแล้วว่า 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของประเทศไทย หน้าที่ในการปกป้องดินแดนและขับไล่ทหาร คนกัมพูชาออกไปนั้น เป็นหน้าที่ของทหารและกองทัพ ใช่ไหมครับพี่น้อง พอถึงเวลา ถ้ากองทัพไม่ทำ แล้วดินแดนเหล่านั้นยังมีปัญหาอยู่ เขาจะโยนความผิดไปให้กองทัพและทหารว่า ก็เป็นหน้าที่ของทหารที่จะต้องปกป้องดินแดนและอธิปไตยมิใช่หรือ เหมือนกรณีโยนความผิดให้คุณในการสลายการชุมนุมเสื้อแดงมีคนเจ็บคนตาย วันนี้ทหารต้องตกเป็นผู้ต้องหาระเนระนาด นักการเมืองกำลังจะเอาตัวรอด กำลังจะโยนความผิดไปให้ทหาร และกำลังจะหาเสียงกับประชาชนว่า ตัวเองเห็นด้วยว่าดินแดนตรงนี้เป็นของคนไทย และผมจะต้องหาทางเอาแผ่นดินไทยคืน และจะไม่ยอมให้ประเทศไทยเสียดินแดนแม้แต่ 1 ตารางนิ้ว ตอนนี้ยังไม่เสียครับพี่น้อง ใครที่หาว่าผมทำให้เสียดินแดน ใส่ร้าย โกหก มันก็จะแหลแบบนี้อีกครับพี่น้อง นี่คือ อภิสิทธิ์ พูดพลิ้วไปพลิ้วมากลับมากลับไป เพราะฉะนั้นประเด็นเรื่อง 4.6 ตารางกิโลเมตร ทำไมวันนี้มาพูดแบบนี้ ก็เพราะรู้แล้วว่า ถ้าไม่แสดงจุดยืนเรื่องนี้ออกมาจะกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่ประชาชนทั้งประเทศจะตราหน้าและประณามรัฐบาลประชาธิปัตย์ ทำให้ประเทศไทยเสียแผ่นดิน และไม่ใส่ใจรักษาดินแดน อธิปไตยของประเทศ นี่คือประเด็นที่เขากลัว ผมรู้ว่าเขาคิดอย่างนี้ และกำลังจะโยนความผิดให้ทหาร พล.อ.ประยุทธ์ และบรรดา ผบ.เหล่าทัพ ทั้งหลายคุณระวังไว้ ว่าถ้าคุณละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ ไม่กดดัน ไม่ขับไล่ทหาร และคนกัมพูชาออกไป คุณจะต้องตกเป็นจำเลยร่วม ฐานทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนและอธิปไตย ตามประมวลกฎหมายอาญา 119, 120 นี่คือปัญหา เพราะฉะนั้นผมจึงอยากจะฝากข้อสังเกตไปถึงบรรดา ผบ.เหล่าทัพ

ส่วนข้อที่ 2 ที่วันนี้ ครม.มีมติให้ถอนเรื่องเจบีซี บันทึกผลการประชุม 3 ฉบับ ออกจากการประชุมของรัฐสภา ไม่ขอความเห็นชอบแล้ว โดยอ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นั้น เห็นหรือยังครับพี่น้อง ความจริงเรื่องนี้ ผมแถลงและพูดบนเวทีนี้มาตั้งนานแล้ว แถลงกับสื่อมวลชนว่า ท้ายที่สุดรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่มีทางเลือก ดึงดันเรื่องนี้ไปไม่ได้ เพราะบันทึกความตกลง 3 ฉบับ มันไม่อยู่ในฐานะเป็นสัญญาที่จะมาขอความเห็นชอบจากรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เนื่องจากกระบวนการที่จะนำไปสู่การทำสัญญาและลงนามนั้น มันยังไม่แล้วเสร็จ มันอยู่ในกระบวนการ เหมือนสร้างบ้านยังไม่เสร็จจะมาถามศาลว่า คนรับเหมาทำบ้านผิดสัญญาไหมครับศาล ศาลเลยโยนเรื่องกลับไปว่า กระบวนการยังไม่เสร็จ คุณจะมาถามศาลเป็นที่ปรึกษาไม่ได้ ศาลไม่รับคำร้อง และยกคำร้อง ท้ายที่สุดจะประชุมต่อก็ไม่ครบองค์ประชุม 2.เหตุผลที่จะนำเรื่องเข้ามาขอความเห็นชอบ ก็ไม่เข้าองค์ประกอบที่จะขอความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญ ที่สุดแล้วหน้าแตก และมีมติ ครม.ถอนเรื่องกลับไปครับพี่น้องครับ ผมบอกแล้วไงว่า เรื่องนี้นายอภิสิทธิ์จะถอนเองไม่ได้ เมื่อเสนอเข้าสภาเป็นมติ ครม.ขอความเห็นชอบจากรัฐสภา เมื่อจะถอนออกก็ต้องเป็นมติ ครม. ท้ายที่สุดแล้ว ครม.ของนายแหล ก็ต้องถอนญัตติเรื่องนี้กลับไปครับ นี่คือชัยชนะของพวกเราอีกเรื่องหนึ่ง

สะท้อนให้เห็นว่า ทุกเรื่องที่เราพูดมานั้นถูกต้องแล้ว ที่ฝ่ายวิชาการของเราบอกเป็นความจริงทั้งนั้นเลย แต่รัฐบาลชุดนี้ดื้อด้าน หน้าด้าน ไม่มีความละอาย และมีความหยิ่ง ทนง มีความยโสโอหัง กลัวจะเสียเกียรติ กลัวจะเสียหน้า ถ้าปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของประชาชน ความจริงแล้ว พี่น้องครับ นักการเมืองที่ดี พรรคการเมืองที่ดีนั้น จะต้องเคารพและฟังเสียงของประชาชน ที่นายอภิสิทธิ์พูดถูกแล้ว 1 เสียงก็ต้องฟัง แสนเสียงก็ต้องฟัง ถ้าหากว่าสิ่งที่ประชาชนพูด และเสียงสะท้อนที่บอกมานั้นมีเหตุผล และเป็นความถูกต้อง เป็นสิ่งที่รัฐบาลพึงสังวรณ์ และต้องแก้ไข ทำไมจะต้องกลัวเสียหน้า ทำไมไม่ปฏิบัติเสียตั้งแต่แรก ทำไมต้องปล่อยเวลามันเนิ่นนานมาจนกระทั่งถึงบัดนี้ครับพี่น้องครับ

แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เรายังวางใจรัฐบาลนี้ไม่ได้ เพราะ 1.MOU ยังไม่เลิก ถอนตัวจากมรดกโลกยังไม่ถอน ขณะเดียวกันทหารและคนกัมพูชา ยังมาสร้างวัด และตั้งชุมชน และเอากำลังขึ้นมาอยู่บนพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร อยู่ อันนี้เป็นวิธีการหนึ่งที่จะเอา 4.6 บอกเป็นของคนไทย ถอนเรื่องเจบีซีไปแล้ว เพื่อจะมากลบเกลื่อน และบิดเบือนการละเว้น และไม่ทำหน้าที่ในการปกป้องดินแดน อธิปไตย ขับไล่ทหารและคนกัมพูชาออกไปครับพี่น้อง ทั้ง 3 เรื่องนั้นยังไม่ได้ทำใช่ไหมครับพี่น้อง แม้ว่าคุณจะยอมรับใน 2 เรื่องนี้ ยิ่งเมื่อคุณยอมรับว่า 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของคนไทยแล้ว วันนี้คุณมีหน้าที่อย่างเดียว และปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ต้องเอาพื้นที่ตรงนี้คืน ขับไล่ทหารและคนกัมพูชาออกไปจากดินแดนไทยทุกตารางนิ้ว นี่คือหน้าที่ของคุณ คุณจะปฏิเสธอะไรไม่ได้อีกเลย และทหาร กองทัพ จะปฏิเสธความรับผิดชอบในหน้าที่ตรงนี้ไม่ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่เหล่านี้ทั้งหมดอยู่ในความรับผิดชอบของกองกำลังบูรพา คือทัพภาค 1 และทัพภาค 2 โดยตรง ที่สำคัญคือ ส่วนใหญ่อยู่ทัพภาค 2 ซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของแม่ทัพเยิ้ม และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ พล.อ.ประยุทธ์ เสียด้วย คุณยิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เลยครับ วันนี้เราจึงจำเป็นต้องติดตาม เฝ้าดูการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องนี้ของกองทัพ และรัฐบาล ที่ยังอยู่ในตำแหน่งในขณะนี้ว่า จะเอาเรื่องนี้มากลบเกลื่อน บิดเบือน และทำให้เราพอใจ โดยลดละการที่จะเรียกร้องชุมนุมและต่อสู้ต่อไปในเรื่องนี้ เรารู้ทัน และเราจะไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้ เราจะต้องกดดันเรียกร้องให้ทำหน้าที่จนถึงที่สุด

เอาละครับพี่น้อง เมื่อพูดถึงการชุมนุม และชัยชนะที่เราได้รับมาโดยลำดับนั้น ผมต้องขอชื่นชมจิตใจเสียสละของพี่น้องทุกคน และนี่เป็นผลงานร่วมกัน เป็นชัยชนะร่วมกันของพวกเราทุกคน ไม่ว่าอยู่ที่นี่ อยู่ทางบ้าน อยู่ต่างประเทศ ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการชุมนุมวันนี้ เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในชัยชนะ และมีส่วนร่วมในการปกป้องแผ่นดินร่วมกันทุกคน ปรบมือให้ตนเองและพี่น้องประชาชนเราด้วยครับ

มาพูดถึงอีกประเด็นหนึ่ง วันนี้ผมอยากจะพูด เพราะว่าเห็นแม่ทัพนายกองท่านออกมาสัมภาษณ์ ฝ่ายวิชาการก็พูดไปแล้ว แต่สิ่งที่ผมอยากจะพูดนั้น ผมอยากจะพูดเรื่องนี้ครับ ก่อนจะพูดเรื่องนี้ ผมอยากให้ท่านดูภาพวันสงกรานต์ ที่ทหารตบเท้า นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นำทหารและผบ.เหล่าทัพ มาอวยพร ฯพณฯ พล.อ.เปรม ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ อยู่ใกล้ๆ เรานี่ครับ พี่น้องครับ พี่น้องเห็นภาพนี้แล้วพี่น้องมีความรู้สึก ข้อสังเกต มีความคิดอย่างไรกับภาพที่เห็น ผมอยากจะพูดอย่างนี้ คือ ผมเห็นภาพนี้แล้วรู้สึกเป็นภาพที่ชินชา มันเป็นภาพที่เราเคยเห็น เคยพบอยู่บ่อยๆ ทุกปี และเป็นภาพละคร เป็นมุกเดิมๆ ที่ทหารแสดงต่อ ฯพณฯ พล.อ.เปรม ภาพที่แสดงออกนี้ดูประหนึ่งว่า บรรดาเหล่าทหารหาญทั้งหลายมีความเคารพรัก นับถือต่อ ฯพณฯ พล.อ.เปรม อย่างยิ่ง เปรียบเสมือนว่า ฯพณฯ พล.อ.เปรม เป็นปูชณียบุคคลในวงการทหาร ใช่ไหมครับพี่น้อง เป็นเสาหลัก เป็นผู้นำของเหล่าทัพ ซึ่งความจริงในส่วนนี้ก็ถูกต้อง จริงอยู่ใช่ไหมครับพี่น้อง ว่าท่านในสมัยดำรงตำแหน่งเป็นนายทหารรับราชการอยู่ ได้สร้างคุณงามความดี ได้ปกป้องชาติ ราชบัลลังก์ แก้ไขปัญหาวิกฤตของบ้านเมืองมาโดยลำดับอย่างไร จนกระทั่งมาถึงขณะนี้ได้เป็นรัฐบุรุษ เป็นประธานองคมนตรี ท่านได้ทำหน้าที่เพื่อบ้านเมืองมาอย่างไร ในส่วนนี้พี่น้องที่นี่ไม่เคยสงสัยในคุณงามความดีและคุณูปการของ ฯพณฯ พล.อ.เปรม เลยแม้แต่น้อย แต่ผมสงสัยสำหรับบรรดาพวกที่ตบแถวมาอวยพรท่านทุกปี ผมสงสัยมา ผมสงสัยในประเด็นอะไรครับ 1.คือ ถ้าบรรดาบุคคลเหล่านี้มีความเคารพรักนับถือ ฯพณฯ พล.อ.เปรม จริง พี่น้องครับ ในช่วง 3-4 ปีมานี้ ฯพณฯ พล.อ.เปรม โดนอะไรมาบ้าง ถ้าบรรดาลูกป๋า บรรดาทหารรุ่นพี่รุ่นน้องเหล่านี้ มีความเคารพรักนับถือ ฯพณฯ พล.อ.เปรม มาอย่างมาก นี่ทีมหนึ่งนะครับ พอหลังจากทีมนี้ก็มีทีมของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ด้วย หลังจากทีมนี้ก็มีทีมของ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ตบเท้ามาอวยพรรดน้ำดำหัว ป๋าก็ให้พรไปตามประเพณีที่ผู้ใหญ่มีความเมตตา ก็ว่าไป แต่ผมมีความสงสัย ผู้ที่มาอวยพรและมาแสดงมุทิตาจิตนี้ ในประเด็นไหนครับ

3-4 ปีมานี้ ป๋าโดนอะไรมาบ้าง 1.บ้านสี่เสาโดนแกนนำเสื้อแดง นำโดยหมอเหวง ณัฐวุฒิ จตุพร บุกไปจะเผาบ้านป๋าเปรม เกิดจลาจลอยู่หน้าบ้านป๋าเปรม ปราศรัยด่า พล.อ.เปรม เสียๆ หายๆ มีทั้งระเบิด มีทั้งการชุมนุมจลาจลหน้าบ้าน ฯพณฯ พล.อ.เปรม ใช่ไหมครับพี่น้อง ค่ายทหารที่ขอนแก่น ที่มีป้ายชื่อป๋า หรือที่โคราช ป๋าไปมีพวกเสื้อแดงมาไล่ มาชุมนุมมาด่ามาทอ เปิดเวทีปราศรัยคราวใดก็ด่าอำมาตย์ ด่า ฯพณฯ พล.อ.เปรม ชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย. หรือ พ.ค.ปีที่แล้ว ก็ด่า ฯพณฯ พล.อ.เปรม เสียๆ หายๆ ในเว็บไซต์ก็ด่าเสียๆ หายๆ ด่าทอไปถึงสถาบันเบื้องสูง พาดพิงไปถึงเบื้องสูง แล้วผมถามว่า บรรดาท่านทั้งหลายที่มาเคารพนับถือ และมาแสดงความเคารพรักต่อ ฯพณฯ พล.อ.เปรม ถามว่า ทำอะไรที่เป็นรูปธรรมในการแสดงความเคารพรัก และปกป้องเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของ ฯพณฯ พล.อ.เปรม บ้าง ไม่เคยมีเลยครับ แล้วในยุคสมัยที่เขาเผาบ้าน หรือเกิดจลาจลนั้น ก็เกิดในยุคสมัยที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกฯ ลูกป๋านั่นละครับ วันนี้ก็มาอวยพร ผมถึงอยากจะถามว่า บรรดานายทหารเหล่านี้ที่ท่านบอกว่า ท่านปกป้อง รักสถาบัน หรือที่ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ ท่านมาเรียกร้องให้พวกเราปกป้องสถาบันร่วมกัน พี่น้อง 60 ล้านออกมาช่วยกันปกป้อง คำถามคือ แล้วพวกท่านทำอะไรบ้างที่เป็นการปกป้องสถาบัน และปกป้อง ประธานองคมนตรี ท่านทำอะไรบ้าง ก่อนจะเรียกร้องประชาชน ทำตัวเป็นแบบอย่างและเป็นแนวหน้าให้ประชาชนก่อนได้ไหม แล้วไม่ใช่เพราะพวกเราออกมาหรอหรือถึงต้องโดน 7 ต.ค.ตายไปเท่าไหร่ เจ็บเท่าไหร่ ชุมนุมอยู่เจ็บไปเท่าไหร่ตายไปเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะสนธิออกมาปราศรัยอยู่ที่นี่ เรียกร้องให้จัดการกับนางดา ตอร์ปิโด หรือ สนธิถึงต้องโดนข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นี่ไงครับคนที่ออกมาปกป้อง คุณเรียกร้องพวกเราออกมาปกป้อง ให้พวกเราออกมาเจ็บมาตาย เสร็จแล้วพวกคุณแต่งตัวหล่อๆ ไปแถลงออกทีวี เอาความดีความชอบ ทำตัวเหมือนกับพระเอกขี่ม้าขาว แต่ความจริงพวกผมขยะแขยงพวกคุณมาก ผมไม่อยากพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจมากกว่านั้น ถ้าคุณอยากได้ความร่วมมือจากประชาชน คุณไม่ต้องเรียกร้องพวกเราหรอก เรียกร้องพวกคุณ ทุกกองทัพให้ทำหน้าที่ของคุณเสียก่อน

พี่น้องครับ ในชีวิตผม ในชีวิตพี่น้องคงผ่านเยอะแล้ว ตั้งแต่เราเกิดมาอยู่ประเทศไทยแล้วโตมาถึงขนาดนี้ เคยมียุคใดสมัยใดบ้างที่มีคนกล้าจัดชุมนุม เปิดเวทีถ่ายทอดไปทั่วโลก ทั่วประเทศ ด่าโจมตีไปถึงสถาบันเบื้องสูง อย่างหน้าตาเฉย และไม่มีใครจัดการอะไรเลย กฎหมายก็รอไปอีก 10 ปีกระบวนการยุติธรรมของคุณมันล่าช้า คุณออกมาแถลงเองไม่ใช่หรือ เวลาคุณตั้ง ศอฉ. นี่มีผังขบวนการล้มเจ้า ผังเขียนโยงไปโยงมา คนนั้นคนนี้ ทักษิณอยู่ตรงนี้ ชวลิตอยู่ตรงนี้ กลุ่มคนนั้นคนนี้อยู่ตรงนี้ แล้วคุณเอาไปเช็ดก้นที่ไหน คุณเอาไปฉีกทิ้งที่ไหน ถ้าเป็นสมัยก่อน แค่นายวีระ มุสิกพงศ์ บอกว่า ถ้าผมเลือกเกิดได้ผมจะไปเกิดตรงนั้นตรงนี้ ดื่มน้ำจัณฑ์ อย่างนั้นอย่างนี้ โดนทหารตบเท้าแทบจะตบบ้องหูเอาแล้วครับพี่น้องครับ เรียกให้มากราบขมาต่อพระบรมสาทิสลักษณ์ เขาสั่งสอน เขาแสดงอย่างไรทหาร วันนี้พวกคุณ เขาไม่ด่าเฉพาะสถาบันนะครับ ด่าหมด แล้วด่าพวกคุณด้วย ทหารด้วย คุณยังอยู่นิ่งเฉยเลยครับพี่น้อง แล้วมาเรียกร้อง 60 ล้านให้ออกมา แหมผมไม่อยากจะพูดว่า บ้านเมืองจะไม่เป็นอย่างนี้เลย เสร็จแล้วท่านมาโทษว่า ไม่อยากให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วทหารจะต้องออกมาทำหน้าที่ ต้องเดือดร้อน ทหารต้องตกเป็นจำเลย ก็เพราะพวกคุณไม่ทำหน้าที่ซิบ้านเมืองถึงเป็นอย่างนี้ ถ้าคุณไม่ออกมาทำหน้าที่รักษาความสงบ ใครผิดก็ว่าไปตามผิดซิ ใครทำความวุ่นวายจลาจลกับบ้านเมืองก็จัดการตามกฎหมาย ดำเนินคดีโดยเด็ดขาด นี่คุณเล่นปล่อยคนชั่วให้ลอยนวล คนผิดให้ลอยนวลไม่ต้องถูกดำเนินคดี บ้านเมืองถึงเป็นอย่างนี้ไงครับ แล้ววันนี้มาเรียกร้องให้พวกเราช่วยกันออกไปเลือกตั้ง

ผมถึงบอกว่า วันนี้ที่คุณตบเท้าไป ถามผมนะ ผมไม่เชื่อน้ำหน้าสักคนเลยที่ไปอวยพรป๋าเปรม อย่าว่าผมพูดแรงนะ ผมจะเชื่อคุณต่อเมื่อคุณได้ปฏิบัติตัวด้วยความเป็นจริง ปฏิบัติงานด้วยความเป็นจริง จัดการกับคนชั่วพวกนี้ก่อน จัดการกับผู้รุกรานแผ่นดินไทยก่อน แล้วผมจะเชื่อคุณ ตราบใดที่คุณยังไม่ทำงาน คุณอย่ามาเรียกร้องความน่าเชื่อถือจากประชาชน ผมไม่เชื่อน้ำหน้า แล้วถ้าจะให้ผมพูดแบบแทงใจคุณนะ พวกคุณกำลังสร้างก๊กขึ้นมา ความจริงแล้วคุณกำลังจะเชิด พล.อ.ประวิตร ให้เป็นประมุข เป็นก๊กของทหารการเมือง ก๊กใหญ่มาแทน พล.อ.เปรม แต่คุณยังไม่กล้าล้มบารมี พล.อ.เปรม คุณเลยทำตัวมาพินอบพิเทาเหมือนกับว่าคุณจงรักและสวามิภักดิ์ ให้ความเคารพนับถือท่าน ความจริงแล้วลับหลังคุณอยากเป็นประมุขใหญ่แทนป๋าเปรม ใหญ่กว่าป๋าเปรมอีก วันนี้ พล.อ.ประวิตร ถึงพยายามจะทำตัวเป็นใหญ่ โดยดึงทหารลูกน้องมาค้ำบัลลังก์อำนาจตัวเอง เพื่อแทนบัลลังก์อำนาจของ พล.อ.เปรม และเป็นเสาหลักที่จะชี้เป็นชี้ตายในบ้านเมือง ใครจะตั้งรัฐบาล ถ้าไม่ฟังกูเดี๋ยวกูเอาลูกน้องทหารไปอุ้มเข้าค่าย นี่คุณทำมาแล้วใช่ไหมครับพี่น้อง วันนี้คุณกำลังสร้างเสาอำนาจขึ้นมาอีกเสา แน่นอนวันนี้ พล.อ.เปรม อยู่ แต่คุณกำลังสร้างเสา ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นมาท้าทาย แข่งบารมีกับ พล.อ.เปรม ต่างหากครับพี่น้อง แต่คุณพยายามบอกกับประชาชนว่า อย่าดึงทหารไปเกี่ยวการเมือง ความจริงพวกคุณอยากให้เอาตัวไปเกลือกกลั้วการเมืองเองครับพี่น้อง อะไรที่ พล.อ.ประวิตร พูด คุณต้องครับนาย ครับนาย สนองทั้งนั้น ทั้งๆ ประวิตรเป็นนักการเมืองแล้ว ไม่ใช่ทหาร ใช่ไหมครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นผมถึงไม่ค่อยเชื่อขี้หน้า ที่มาแสดงรดน้ำดำหัว ผมบอกว่า ภาพนี้ถ้าผมเป็น บก.หัวหน้าข่าว ผมจะไม่ขึ้นหน้า 1 ผมเบื่อ เป็นภาพมายา เป็นภาพละครแหกตาประชาชน ผมเบื่อพวกพูดแล้วมัน คือเจอนายกฯ แหลแล้วอย่าให้เจอทหารแหลอีกครับผมเบื่อ ไม่ต้องแสดงละครตบตาประชาชนว่าตัวเองเคารพนับถือป๋า ความจริงลับหลังผมไม่คิดว่าคุณจะเคารพนะ คุณอยากจะเป็นใหญ่มากกว่าป๋าอีก ป๋าพูดอะไรคุณคงไม่เชื่อหรอกเวลานี้ เพราะฉะนั้นเวลานี้มันเจอแต่คนแบบนี้ครับพี่น้อง ประเทศไทย มันถึงไม่มีคนจริง คนกล้า คนที่จะทำเพื่อชาติบ้านเมือง พอขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.ใหม่ๆ ก็พูดดี ไปสักพักเอาอีกแล้ว ติดเชื้อแหลไปเรื่อยครับพี่น้อง

เอาละถ้าบรรดา ผบ.เหล่าทัพ ทั้งหลาย ท่านมีความจงรักภักดีต่อสถาบันจริง ที่ส่งลูกน้อง ทหารพระธรรมนูญไปแจ้งความ เขาเรียกว่าวิธีสร้างภาพ ไม่ต้องหรอกที่ไปแจ้งความกับไอ้ตู่ ทำไมทหารต้องไปแจ้ง มันหน้าที่ของตำรวจ หน้าที่รัฐบาล หน้าที่ดีเอสไอ ที่ต้องเอาทหารพระธรรมนูญไปแจ้งเพื่อสอดรับกับคำสัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ.ว่าถ้ามีขบวนการหมิ่นผมจะจัดการ นี่เป็นงานชิ้นแรกของท่าน เป็นชิ้นโบว์แดงของท่าน ถ้าท่านอยากจะทำเรื่องนี้ สมัยก่อนเขาทำกันอย่างไร ขบวนการสู้กับขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องอาศัยประชาชน ต้องร่วมมือกับประชาชน ทำไมในอดีตเขามีการจัดตั้ง ทสปช. มีการอบรมลูกเสือชาวบ้าน มีการจัดตั้งประชาชนกลุ่มพิทักษ์ชาติราชบัลลังก์ มีทหารมาร่วมกิจกรรม พลเรือนร่วมกับประชาชน แล้วช่วยกันทำหน้าที่ปกป้องดูแล พบเห็นใครมีพฤติกรรมอย่างนี้จัดการจี้เจ้าหน้าที่จัดการ ถ้าไม่จัดการ ทหารต้องตบเท้าเข้าหาตำรวจ เข้าหาฝ่ายการเมืองเลย ปล่อยเรื่องนี้ได้อย่างไร แต่ตลอดเวลามาคุณไม่เคยทำเลย สถานีวิทยุของคุณ สถานีวิทยุทหารทั่วประเทศมีเป็นร้อยๆ สถานี ไม่เคยเผยแพร่เรื่องราวข่าวสารข้อมูลความรู้ว่ามันมีขบวนการอย่างนี้อยู่อย่างไร เรียกร้องประชาชนมาร่วมมือกันปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่เหมือนสมัยก่อน สมัยก่อนวิทยุทหารจะเป็นกระบอกเสียงที่ให้ความรู้ประชาชน วันนี้ให้ค่ายเพลงเช่าหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ไม่ได้ทำ ถ้าอยากทำจริง มาขอความร่วมมือจากพวกผมซิ จะช่วยไปเป็นทีมงานช่วยคิดว่าจะวางแผนรับมือกับพวกนี้อย่างไร มันไม่ได้ขี้ตีนหรอก สมัยก่อนพรรคคอมมิวนิสต์เขามีกองทัพทุกภาค สมัย พล.อ.เปรม ขบวนการล้มเจ้าตัวจริงคือขบวนการพรรคคอมมิวนิสต์ แล้วผมเป็นคนหนึ่งที่เข้าไปร่วมกับเขา เขามีกองทหาร มีกองทัพ มีมวลชนทำงานอยู่ในเมือง ใหญ่กว่าพวกแดงล้มเจ้าไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเท่า มีทั้งกองกำลังติดอาวุธ มีทั้งมวลชน มีทั้งสื่อ มีทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วทำไม ฯพณฯ พล.อ.เปรม สมัยท่านเป็นนายกฯ เป็น ผบ.ทบ.ท่านถึงสามารถปราบขบวนการพวกนี้ลงราบคราบ ถ้าคุณรัก เคารพนับถือ พล.อ.เปรม คุณไปศึกษาบทเรียนสมัยที่ท่านจัดการขบวนการเหล่านี้ซิ มันมีวิธีการ ไม่ใช้ให้พวกเสื้อแดง ไอ้ตู่มาขู่ ผมเลยบอกว่าตู่เก่งนะ ด่าไปเรื่อยอย่าหยุด เพราะทหารวันนี้ไม่มีน้ำยาอะไร ด่าไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไอ้ตู่ไม่รู้คลุกฝุ่นอยู่ที่ไหน ป่านนี้ไปเป็นคางคกอยู่ในรูที่ไหนไม่รู้ ไม่มีเวลามาซ่าอย่างนี้หรอก แต่นี้มันเพราะความตกต่ำของใคร ปล่อยได้อย่างไร เพราะฉะนั้นการที่ท่านเอาทหารไปแจ้งความ มันเป็นการสร้างภาพ เหมือนกับว่าเป็นผลงานทหารออกมาปกป้องสถาบัน โธ่เอ๊ย ผลงานแบบน่าอาย งานแบบเด็กๆ ให้คนอื่นทำไปเถอะ นี่ก็เข้าทางเขาอีก เดี๋ยวไอ้ตู่ก็ด่าอีก ตกลงยกกองทัพมาเผชิญหน้ากับผมเลย กะจะเอาผมให้ตายใช่ไหม มันก็มีเรื่องด่าต่อไปอีก ความจริงมีวิธีจัดการตั้งเยอะตั้งแยะ แต่เอาเถอะผมไม่อยากแนะนำ

แต่อยากขอแนะนำในประเด็นสุดท้าย ท่านมาพูดว่า มาเรียกร้องให้พวกเราไปสู่การเลือกตั้ง ถ้าท่านอยากจะทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองจริงๆ ผมอยากเสนอความเห็น ความคิดให้ท่าน ด้วยความสุจริตใจ ด้วยความรักบ้านรักเมือง ว่าวันนี้ 1.ท่านมีทางเลือกอยู่ 3 ทาง ผมจะบอกให้ ผบ.ทบ.เหล่าทัพ คุณต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ซะก่อนว่า 1.การเมืองวันนี้ ประเทศชาติวันนี้มันล้มเหลว การเมืองสามานย์ สกปรก โกง ทุจริต ขายชาติ นักการเมืองส่วนใหญ่ เป็นนักการเมืองขาดคุณธรรม ขาดความซื่อสัตย์ ขาดความจริงใจต่อประเทศชาติประชาชน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก ใช่หรือไม่ และบ้านเมืองที่เดินหน้าไปไม่ได้ก็การเมืองที่โกง ทุจริต ขายชาตินี่แหละ คำถามก็คือ เมื่อคุณเห็นแล้วบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ รวมทั้งเหตุความไม่สงบวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดขึ้น ก็เพราะการเมือง 2 ขั้วนี้มันเลวทั้งคู่ มันอัปรีย์ไปจัญไรมา คนทั้งบ้านทั้งเมืองเขารู้หมด ชายชาติทหารอย่างท่านทำไมท่านดวงตาไม่เห็นธรรม ทำไมท่านไม่รู้ความจริง ท่านอย่าโกหกและปฏิเสธตัวเองซิ การที่ท่านมาเรียกร้อง 60 ล้านให้ไปสนับสนุนการเมือง สนับสนุนการเลือกตั้งนั้น ใช่ครับถ้าระบบการเลือกตั้งมันโปร่งใส สุจริต เป็นธรรม และเป็นกระบวนการที่จะได้คนดีเข้ามาปกครองบ้านเมือง ก็ควรเรียกร้องให้ประชาชนเข้าไปสู่กระบวนการนั้น เราไม่ขัดข้อง แต่วันนี้การเมืองไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อไม่เป็นอย่างนั้นเราต้องหาทางเปลี่ยนแปลง เพื่อจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ถ้าคุณเห็นว่าบ้านเมืองจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง มีทางเลือกอยู่ 3 ทาง 1.ถ้าคุณกล้าหาญมาก คุณก็ต้องกล้าปฏิวัติยึดอำนาจแล้วเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้มันไปสู่สิ่งที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แต่อย่าทำแบบ 19 ก.ย.ที่เอา พล.อ.สุรยุทธ์ นายกฯ ขิงแก่ หน่อมแน้มเข้ามาอีก เท่านั้นเองครับพี่น้อง

เอาละถ้าคุณกลัวไม่กล้าทำเรื่องนี้ เพราะกลัวอย่างนั้นกลัวอย่างนี้ ใจไม่ถึง ความคิดไม่ถึง ปัญญาไม่ถึง และไม่กล้าทำในเรื่องนี้ร่วมกับประชาชน ก็มีทางที่ 2 ไม่ใช่คุณมาระดมพวกเราไปสนับสนุนการเลือกตั้ง คุณต้องเรียกร้องให้มีการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อันนี้ไม่ต้องใช้กำลังเข้ายึดอำนาจ วิธีจะปฏิรูปเปลี่ยนแปลงการเมือง กระบวนการโหวตโนของประชาชนเป็นอาวุธอย่างเดียวที่ประชาชนมีอยู่ เป็นสิทธิตามกฎหมาย ที่จะตอบโต้และสั่งสอนนักการเมืองที่ไม่ซื่อสัตย์และโกงกินบ้านเมือง มันเป็นสิ่งเดียวที่เรามีอยู่ แล้วถ้าวันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ออกมาแสดงพลัง ถ้าท่านไม่ชอบนักการเมือง และอยากเรียกร้องให้การเมืองเปลี่ยนแปลง ท่านมาโหวตโนร่วมกัน เพื่อแสดงประชามติสั่งสอนนักการเมืองให้เขาได้รู้สำนึกว่า ประชาชนอยากให้การเมืองปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทหารก็สามารถเข้าร่วมได้ ที่ผ่านมาท่านอย่าพูดนะทหารไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ทหารชอบสั่งตบเท้าให้ไปเลือกพรรคนั้นให้ไปเลือกพรรคนี้ ทำมาตลอดใช่ไหมครับพี่น้อง ประชาชนไม่ได้กินแกลบ เขารู้ ผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ทำแต่บางคนอาจจะแอบทำ ระดับแม่ทัพภาคทำ ผบ.ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำหูทวนลมไม่รู้ แบบนี้มาตลอด วันนี้ขอสั่งตบเท้าทั่วประเทศ โหวตโนได้ไหม ถ้าท่านกล้าหาญ เพราะท่านก็รู้ว่านักการเมืองไม่ดี จะได้เป็นพลังร่วมกับประชาชนสั่งสอนนักการเมือง สั่งให้ทุกกองทัพตบเท้าโหวตโนไม่เลือกพรรคใด เพื่อกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปบ้านเมือง นี่เป็นวิธีร่วมกันสร้างการเมืองที่ดีกว่าวันนี้ ดีกว่าจะบอกว่า ดีๆ ชั่วๆ อัปรีย์อย่างไร จัญไรอย่างไร ก็ให้ประชาชนหลับหูหลับตาเลือกไปเถอะ แบบนี้ไม่ใช่ชี้ทางสวรรค์และทางออกที่ดีให้กับประชาชน

ส่วนทางที่ 3 คือ หลับหูหลับตาเลือกต่อไปอย่างที่ว่า ท่านมีทางเลือกอยู่ 3 ทาง เพราะฉะนั้นถ้าทหารอยากช่วยบ้านเมือง อยากช่วยประชาชน อยากช่วยให้มีการเปลี่ยนแปลง สิทธิของท่านช่วยให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงได้ และเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องใช้กำลังอาวุธ พลังทหารทั่วประเทศหลายแสนนาย อาจจะเป็นล้านด้วยซ้ำไปทั่วประเทศรวมทั้งลูกเมียด้วย สามารถรวมพลังพี่น้องประชาชนโหวตโน มันจะทำให้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลง แล้วบรรดานักวิชาการ ประชาชน มาปฏิรูปการเมืองใหม่ จัดระบบ วิธีการเลือกตั้งใหม่ ให้มีกติกาที่โปร่งใส เป็นธรรม มีหลักประกันว่าจะไม่ซื้อเสียง ไม่โกง และไม่ได้คนชั่วเข้ามา เมื่อมีการเลือกตั้งเป็นธรรม ทุกคนแข่งขันกันเป็นธรรม แต่วันนี้แข่งขันกันอย่างไรมันก็ต้องแพ้พรรคที่มีเงินเป็นกระสอบๆ อยู่แล้ว ท่านก็รู้ จะให้ประชาชนไปเลือกนักโกงเมืองกินเมืองเข้ามา มันก็ไม่ใช่ทางออกของบ้านเมือง ดังนั้นท่านจึงมีทางเลือก ทางออกอยู่เพียง 3 ทางเท่านี้ ถ้าไม่เอาทางที่อยากจะใช้กำลัง ซึ่งเราไม่สนับสนุน กลัวสนับสนุนแล้วทำไม่เป็น เสียของ ถ้าอย่างนั้นมาร่วมกับประชาชนโหวตโน เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการเมือง ปฏิรูปบ้านเมืองเสียใหม่ จัดระเบียบบ้านเมืองเสียใหม่ จะดีกว่าไม่ใช่หรอครับพี่น้อง

สรุปสุดท้ายก็คือ ที่ผมจำเป็นต้องพูดถึงบรรดาทหารหาญ ที่เคารพรัก ท่านรู้ไว้เลยนะครับว่า ประชาชนเขาพึ่ง เขาหวัง เขาให้เกียรติ เขาเคารพ และเขาศรัทธากองทัพมาโดยตลอด โดยเฉพาะพวกเราหวังพึ่ง เคาร ศรัทธาพวกคุณ เพราะอย่างน้อยคุณคงไม่ตอแหลเหมือนนักการเมือง แต่เมื่อคุณ ผบ.ทบ.คนนี้ผ่านไปแล้วคนนี้ก็มา มาฟอร์มเดิมอีกแล้ว มันซ้ำมันซาก มันยังทำอยู่กับร่องรอยเดิม คุณต้องถามตัวคุณเองว่า ศรัทธาของกองทัพที่มีต่อประชาชนกำลังตกต่ำแข่งกับรัฐบาลไปทุกทีแล้วนะ ที่สำคัญ เวลามีเรื่องมีราวมีปัญหาอะไร นายทหารระดับรองลงมาทั้งนั้นที่โดนคดี โดนเล่นงาน โดนตั้งข้อหา นายทหารระดับผู้ใหญ่เอาตัวรอดตลอด นี่ก็เป็นปัญหา หวังว่าต่อไปนี้ถ้าจะขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน ถามจริงๆ พี่น้องพร้อมให้ความร่วมมือกับทหารไหมครับ ถ้าพร้อมปรบมือครับ ถ้าจะเดินในแนวทางถูกต้อง ปกป้องชาติบ้านเมือง ปกป้องดินแดนของประเทศ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ประชาชนไม่เคยรังเกียจ พวกเราเจ็บตาย โดนไม่รู้กี่ข้อหาแล้วเพราะออกมาปกป้องสถาบันมิใช่หรอ จึงกลายเป็นเป้ากระสุนไม่รู้กี่ครั้ง ใครตายไปบ้าง ใครเจ็บไปบ้าง เพราะออกมาทำหน้าที่ตรงนี้ วันนี้ แน่นอนท่านออกไปสลายการชุมนุมเมื่อ พ.ค.นั้น ท่านก็ต้องไปสรุปบทเรียนว่า ท่านเจ็บท่านตายท่านเสียชีวิตเพราะอะไร นโยบาย ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีของท่านผิดพลาดอย่างไร การจัดการและการแก้ไขปัญหาของท่านล้มเหลวอย่างไร เพราะท่านไม่แยกแยะ มีมวลชนพร้อมยืนเคียงข้างท่านไม่ว่ามวลชนเสื้อเหลือง มวลชนหลากสี ประชาชนทั่วประเทศที่ไม่ชอบการเผาบ้านเผาเมือง เขาพร้อมจะยืนเคียงข้างท่าน แต่ท่านไม่เคยยื่นมือมาร่วมกับประชาชนเลยแม้แต่นิดเดียว แถมรังเกียจประชาชนอีก หาว่าเหลืองก็มีปัญหา แดงก็มีปัญหา หลากสีก็มีปัญหา ออกมาก็ได้แต่อย่ามีสีก็แล้วกัน พูดอย่างนี้ไม่งามครับพี่น้องครับ

เพราะฉะนั้นวันนี้ฝากท่านไว้แล้วกันครับ ผบ.ทบ.และบรรดาทหารทั้งหลาย ผมไม่อยากเห็นภาพซ้ำซากจำเจที่ท่านมาแสดงละคร เราอยากเห็นการกระทำมากกว่าการแสดง ใช่ไหมครับพี่น้อง สถาบันตกอยู่ในอันตราย วันนี้ประชาชนที่ออกมาเขาอ่อนล้าจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่กองทัพจะออกมาซะทีแล้วจัดการให้มันราบไปเลย เราพร้อมจะร่วมมืออยู่แล้ว ก็หวังว่าคงจะไม่เห็นการออกมาแบบพระเอกละครอีกบรรดาทหารเหล่าทัพทั้งหลาย ออกมาปฏิบัติเถอะครับเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เรายินดีให้ความร่วมมือ ปีใหม่นี้ สงกรานต์แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ซะเถอะ ทหารกับประชาชน เราไม่มีอะไรขัดแย้งกันเราพร้อมจะเดินเคียงข้างกับท่านเสมอครับ ขอบคุณมากครับ