xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” ชี้นายกฯ จาก ปชป.บริหารประเทศล้มเหลวทุกคน เหตุเนรคุณประชาชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” ชำแหละนายกฯ จากประชาธิปัตย์ตั้งแต่ “ควง-เสนีย์-ชวน” บริหารประเทศล้มเหลวทุกคน มาหนักสมัย “มาร์ค” บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ทำงานไม่เป็น ชี้เหตุล้มเหลวมาตั้งแต่อดีตเพราะไม่เคยซื่อสัตย์ต่อ ปชช.อาศัยการต่อสู้ของพี่น้องเป็นเครื่องมือในการขึ้นสู่อำนาจ พอสมประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง และไม่มีทีมงานบริหารบ้านเมืองเป็นเรื่องเป็นราว ตีกินสร้างภาพอย่างเดียว


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร กล่าวบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า ที่นายอมรบอกว่านายอภิสิทธิ์กำลัง ถูกเลขาธิการพรรคและคนในประชาธิปัตย์เขี่ยออกจากตำแหน่งหัวพน้าพรรค เรื่องนี้มีมูลความจริง เพราะวันนี้ประชาธิปัตย์รู้แล้วถ้าลากดึงเอานายอภิสิทธิ์เป็นผู้สมัครชิงนายกฯ ต้องแพ้แน่ๆ และจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั่วประเทศ

แต่ขณะเดียวก็แปลกใจว่าทำไมนายสุเทพยังอยากเป็นผู้จัดการรัฐบาล และคนปั้นนายกฯ ต่อ เพราะความจริงแล้วนายสุเทพก็ไม่ควรอยู่ในพรรคเช่นกัน เพราะ 2 คนนี้เป็นคนฉุดประชาธิปัตย์ให้ตกต่ำลงเหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ทำไมประชาธิปัตย์จึงล้มเหลว และไม่ประสบความสำเร็จในการบริหารบ้านเมืองทุกครั้ง ไล่เรียงมาได้ตั้งแต่นายควง อภัยวงศ์ ก็ไม่มีผลงานโดดเด่น จนสุดท้ายก็ถูอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนถูกปฏิวัติยึดอำนาจ มาสมัยนายหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นนายกฯอยู่ได้ไม่ถึงปี เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา สุดท้ายก็โดนปฏิวัติ และในยุคนั้นบ้านเมืองก็ลุกเป็นไฟแบบ มาถึงยุคที่ 3 นายชวน หลักภัย ก็เจอนี้เจอปัญหา ส.ป.ก.4-01 จนต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ มาเป็นนายกฯรอบ 2 ก็เจอวิกฤตเศรษฐกิจ กู้เงินไอเอ็มเอฟ เปิดให้ต่างชาติฮุบทรัพย์สินคนไทย เป็นยุคที่ล้มเหลวอีกเหมือนเดิม

หลังจากนั้นก็แพ้นายทักษิณ ไปเป็นฝ่ายค้านอยู่ 5-6 ปี และมาถึงสมัยนายอภิสิทธิ์ คราวนี้หนักกว่าเดิม เหตุการณ์ความไม่สงบในบ้านเมืองหนักกว่า มีการล้มการประชุมอาเซียน เผาบ้านเผาเมือง มีคนเจ็บตายจำนวนมากที่ราชประสงค์ บ้านเมืองลุกเป็นไฟ แผ่นดินไร้ความสงบ ปล่อยให้มีขบวนการล้มเจ้า เปิดทางให้นายฮุนเซนยึดแผ่นดินไทย

นายประพันธ์กล่าวต่ออีกว่า 4 คนที่เป็นนายกฯประชาธิปัตย์  ล้วนแต่เป็นนายกฯที่ล้มเหลวทุกคน หาผลงานที่ประทับใจ ควรแก่การยกย่องไม่ได้เลย ส่วนพรรคอื่นไม่ต้องพูดถึงเพราะล้มเหลวไปหมดแล้ว ที่ต้องพูดถึงประชาธิปัตย์ก็เพราะสร้างภาพไว้ว่าเป็นพรรคที่เลวน้อยที่สุด เป็นความหวังของคน

โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรกล่าวว่า สาเหตุที่ประชาธิปัตย์ไม่เคยสำเร็จอะไรสักอย่างเลยเพราะ

1.ไม่ซื่อสัตย์จริงใจต่อประชาชน หลอกใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ อาศัยสถานการณ์ที่ประชาชนออกมาต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็น 14 ตุลา เหตุการณ์พฤษภาฯ หรือการชุมนุม 193 วัน ประชาธิปัตย์จะคอยจดจ้องยืมมือ อาศัยชีวิตเลือดเนื้อประชาชนเป็นเครื่องมือในการไต่เต้าขึ้นสู่อำนาจ  

ประชาธิปัตย์เป็นตัวแทนของกลุ่มขุนนางและกลุ่มทุน เวลามีอำนาจไม่เห็นหัวประชาชนเลย ตั้งแต่ตั้งพรรคมายังไม่เคยได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลเพียงพรรคเดียวเลย ทั้งๆที่ ตั้งมาถึง 65 ปีแล้ว

2. เนรคุณประชาชน ในการต่อสู้ 193 วัน ประชาธิปัตย์ดีใจที่ได้เป็นรัฐบาล ในช่วงที่พันธมิตรฯต่อสู้ก็แอบมาหนุน ผสมโรงเพื่อโค่นระบอบทักษิณ แต่เมื่อสมประโยชน์แล้วก็ถีบหัวส่งประชาชน

3.ประชาธิปัตย์ไม่เคยมีทีมงานที่บริหารบ้านเมืองเป็นเรื่องเป็นราว เวลาเกิดปัญหาอะไร ตีกินสร้างภาพอย่างเดียว พูดจาข้างๆ คูๆ ขนาดประชาชนเดือดร้อนหนักเกิดอุทกภัยภาคใต้ นายกฯต้องรีบไปตั้งศูนย์บัญชาการที่นั่นเลย การประชุมสภาต้องงด แต่นายกฯ ทำอะไรวันๆ ไม่เคยรู้ร้อนรู้หนาวของประชาชนเลย น้ำเพิ่งท่วมไปปลายปีที่แล้ว มาเจออีกทีก็ทำงานเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ห่างกันไม่กี่เดือน

ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นเพราะประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นสถาบันการเมืองจริงๆ แต่เป็นสถาบันการเมืองหลอกๆ ไม่เคยคิดพัฒนาการทำงานของตัวเอง ไม่ต่างจากพรรคกาเรมืองอื่นๆ ผลัดกันโกงเท่านั้น  แนวคิดที่เอามาโชว์เป็นเพียงอุดมการณ์หลอกๆ อุดมการณ์จริงๆ ต้องฟังนายสุเทพ ที่บอกว่าอยู่ในกรอบไม่มีโอกาสได้เป็นรัฐบาล นี่ก็คือการเดินเกมการเมือง ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลเท่านั้น

ไปจับมือกับ พล.อ.ประวิตร แล้วก็ได้ใจ คิดว่าทหารจะหนุนอ้มพรรคการเมืองมาขัดตั้งรัฐบาลได้ มีคอลัมน์นิสต์คนหหึ่งเขียนว่า ฮุน มาเนต ลูกชายนายฮุนเซนเรียก พล.อ.ประวิตร ว่าคุณลุง มีความสัมพันธ์ประหนึ่งญาติกัน เพิ่งรู้ว่าสนิทสนมกับนายฮุนเซนขนาดนั้นเลยหรือ การแก้ไขปัญหาเรื่องกัมพูชาจึงไม่สามารถแก้ได้

นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า พรรคประชาสันติ โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ออกแถลงว่าจะเป็นพรรคทางเลือกให้ ร.ต.อ.ปุระชัยเป็นหัวหน้า แต่พอถึงเวลาตั้งพรรค ร.ต.อ.ปุระชัย ดันไม่ไป ให้เหตุผลว่าไม่อยากไปเอาของเก่า นายเสรีก็หน้าแตก  ร.ต.อ.ปุระชัยก็ไปตั้งพรรคใหม่ชื่อว่ารักษ์สันติ แล้วบอกว่าที่มาเล่นการเมืองเพื่อให้ประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตย และวอนประชาชนอย่าโหวตโน ให้ไปเลือกเขาดีกว่า

“แม้กระทั่งปุระชัย มาตั้งพรรควันเดียวก็ยังกลัวพลังโหวตโนแล้ว แสดงว่าการโหวตโนของเราทรงพลานุภาพ ทำให้แฮงก์และเป็นง่อย ตั้งแต่วันแรกที่ตั้งพรรค” นายประพันธ์กล่าว  

คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย

สวัสดีครับ สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่านครับ กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้านติดตามให้กำลังใจเราอยู่ทั่วโลก ทั่วประเทศนะครับ วันนี้ผมทำท่ารีบขึ้นมาเพราะอยากจะให้เขารีบหยุดแซวซะทีแต่ก็ไม่พ้นต้องโดน พี่น้องครับ วันนี้การชุมนุมของเราทำไมมันบรรยากาศดีเหลือเกิน พี่น้องรู้สึกว่าเรามีคนมาร่วมชุมนุมกับเรามากขึ้นไหมครับ ที่รู้สึกว่ามีผู้มาร่วมชุมนุมมากขึ้นก็เพราะว่า พี่น้องที่มาเที่ยวงานกาชาดถือโอกาสมาร่วมชุมนุม และมาร่วมฟังการปราศรัย และรายการบนเวทีของพวกเราไปด้วย ถือว่าได้ทั้ง 2 อย่าง คือ 1.มาเที่ยวงานกาชาดแล้วก็ได้มาช่วยชาติกู้บ้านกู้เมืองด้วยใช่ไหมครับ

เมื่อสักครู่คุณอมรกับน้องเก๋ ได้พูดถึงบรรยากาศการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ และในสถานการณ์ที่บ้านเมืองตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไปจัดประชุมเสวนากันที่หาดใหญ่ แต่ว่างานที่จะลงไปช่วยพี่น้องประชาชนด้านแก้ไขปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมและภัยพิบัติต่างๆ นั้น กลายเป็นภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ข้าราชการประจำ และกองทัพ ที่ระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน สรุปแล้วพี่น้องครับ สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้มีนายกฯ มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มีใช่ไหมครับ บรรยากาศแบบนี้ประเทศไทยไม่เคยมีมาก่อนนะครับ ที่นายกฯ รัฐบาลที่บริหารประเทศนั้นหมดสิ้นสถานะความน่าเชื่อถือและความชอบธรรมในการบริหารบ้านเมือง ทั้งๆ ที่อยู่ในตำแหน่ง แต่ดูเหมือนว่าประชาชนไม่ได้ให้ความสำคัญ และไม่ให้ความเคารพ ไม่ให้ความนับถือนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เลยครับ เพราะฉะนั้นกลยุทธ์ของพวกเราบนเวทีนี้ที่บอกว่า ให้ผมพูดแล้วยึดโพเดียมไว้ให้แน่จะทำให้นายอภิสิทธิ์หาโพเดียมไม่เจอ ก็ได้ผลจริงๆ ครับพี่น้อง เพราะว่าขณะนี้นายอภิสิทธิ์เป็นโรคเจอโพเดียมจะผวา เพราะเวลาขึ้นโพเดียมทีไรได้เรื่องทุกที เดี๋ยวจะมีคนมายกป้ายบ้าง เดี๋ยวจะมีคนขึ้นป้าย"ดีแต่พูด" หรือบางคนยกป้ายประกบบนเวทีแล้วประท้วงหรือร้องขอความเป็นธรรม สรุปแล้ววันนี้ นายอภิสิทธิ์ไม่กล้าขึ้นโพเดียมแล้วครับ

ทั้งหลายทั้งปวงต้องถือว่าเป็นผลงาน และเป็นความดีของพ่อแม่พี่น้องประชาชนนะครับ เพราะว่าในช่วงที่เราร่วมกันชุมนุมและต่อสู้แรกๆ นั้น มีคนเย้ยหยัน เยาะเย้ย ถากถางเราอยู่ตลอดเวลา จะไปสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ได้หรอ จะไปไล่อภิสิทธิ์มันจะมีเหตุผล จะมีคนเข้าร่วมหรอ จะมีคนสนับสนุนหรอ จะมาเรียกร้องให้ประชาชนออกมาปกป้องแผ่นดิน จะมีสักกี่คนที่จะมาสนใจปัญหานี้ พันธมิตรฯ ตอนนี้ไม่ขลังแล้ว ปลายแผ่วไม่มีแรงแล้ว ปรากฏว่า พอยืนซดหมัดกันแรกๆ เขาก็ออกมาประดาบกับพวกเรา ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง ออกมาโต้แย้ง หลังจากโดนพวกเราตอบโต้ไปทุกกระบวนท่า และหลังจากพวกเรายืนหยัดชุมนุม และเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริง ให้รายละเอียดกับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง พี่น้องครับข่าวดีก็คือ สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ตกอยู่ในกำมือของพี่น้องพันธมิตรฯ เรียบร้อยแล้วครับ

นี่เป็นความจริงนะครับผมไม่ได้โกหก เพราะว่ารัฐสภาวันนี้ก็คงไม่อยากประชุมแล้ว เพราะประชุมทีไรเจอพี่น้องพันธมิตรฯ เจอผม เจอลุงจำลอง เจอคุณปานเทพ เอาข้อมูลข้อเท็จจริงไปยื่น ไปแจกรายละเอียดให้กับสมาชิกรัฐสภา ปรากฏว่าสมาชิกรัฐสภาขึ้นมาอภิปรายถล่มรัฐบาลซะจนรัฐบาลตั้งตัวไม่ติด รับมือไม่ได้ ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การประชุมได้ ขณะนี้คือ ทุกคนขยาดไม่อยากประชุมแล้ว เตรียมไปหาเสียงเลือกตั้งดีกว่า เพราะอย่างไรก็รู้แล้วว่า นายอภิสิทธิ์อยู่ไม่ได้แล้วครับพี่น้องครับ รัฐบาลก็ไปแล้ว รัฐสภาก็ไปแล้ว เพราะฉะนั้นขณะนี้ก็คือ คนที่ให้ความรู้ ให้สติ ให้แนวทาง ให้ข้อคิดกับประชาชนในสังคม ในประเทศนี้ กลายเป็นเวทีนี้ครับที่จะบอกว่า อะไรเป็นอะไร บ้านเมืองกำลังเกิดอะไรขึ้น และเราควรจะมีท่าทีอย่างไร

อยากจะฟังความจริง อยากจะรู้ปัญหา อยากจะเข้าใจเรื่องราวอะไรที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ให้มาฟังที่เวทีนี้ ข้อเท็จจริงและรายการของรัฐบาล ไม่ว่ารายการทีวีช่องไหน ไม่ว่าการออกมาแถลงของโฆษกรัฐบาล ไม่ว่าการออกมาพูดอะไรของรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล รับฟังไม่ได้ และเชื่อถือไม่ได้ครับพี่น้อง ผมถึงบอกว่า วันนี้เวทีนี้ได้กลายเป็นลมหายใจของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศไปแล้วครับ นี่คือความสำเร็จและความภาคภูมิใจของพวกเราร่วมกันครับพี่น้องครับ

และเหนืออื่นใดนะครับ การที่เรายืนหยัด ปลุกระดม ให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน ให้ตื่นรู้และมาเข้าใจว่าชาติบ้านเมืองของเรากำลังตกอยู่ในสภาพอย่างไรนั้น ประเทศเรากำลังสูญเสียดินแดนอธิปไตยด้วยการบริหารประเทศของรัฐบาลนี้ ด้วยการดำเนินนโยบายที่อ่อนหัด อ่อนด้อย และเป็นลูกไล่ของรัฐบาลกัมพูชา และตามไม่ทันกลเกมการเมืองระหว่างประเทศอย่างไร ผมคิดว่าข้อเท็จจริงที่เราพูดนั้นได้ปลุกระดมให้พี่น้องตื่นตัวขึ้นมามาก ข้อเท็จจริงว่า ปราสาทพระวิหาร เป็นอย่างไร ดินแดนโดยรอบปราสาทพระวิหาร เป็นอย่างไร ข้อพิพาทตลอดแนวอาณาเขตชายแดนไทย-กัมพูชา เราจะต้องสูญเสียไปอย่างไร รัฐบาลทำความเสียหาย ผิดพลาดอย่างไร เหตุผลที่เราเรียกร้องให้ยกเลิก MOU เพราะอะไร ทำไมต้องถอนตัวจากภาคีมรดกโลก ทำไมรัฐบาลจะต้องขับไล่คนกัมพูชา ทหารกัมพูชาออกไป และทำไมรัฐบาลจึงไม่สามารถช่วยคุณวีระ คุณราตรีได้ เป็นความผิดพลาดล้มเหลวอย่างไร ขณะนี้ทำให้ประชาชนตื่นรู้ปัญหานี้ร่วมกันทั้งประเทศแล้วครับ เราได้จุดกระแสความรู้สึกรักชาติ รักแผ่นดิน ปกป้องสถานบันพระมหากษัตริย์ขึ้นมาอย่างกว้างขวาง ทั่วถึงอีกครั้งหนึ่ง

บทพิสูจน์ก็คือ เมื่อวานนี้พี่น้องเห็นนะครับ เหรียญ ร.5 ของเรา เหรียญรักแผ่นดิน ที่มีพิธีทำขึ้นมาโดยความร่วมมือของคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร กับพี่น้องที่มาร่วมกันชุมนุมจัดทำขึ้น ผ่านพิธีปลุกเสกและพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ เป็นไปตามพิธีกรรมที่ถูกต้อง ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่พี่น้องเข้าแถวกันยาวเหยียดจากสะพานมัฆวานไปจนถึงสะพานชมัยมรุเชฐ และหมดในเวลาอันรวดเร็ว ที่สำคัญทุกคนไม่ได้มาเพราะว่าอยากจะมาหาเครื่องลางของขลัง แต่ทุกคนต้องการมา เพราะต้องการมาแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันว่า พวกเขาพร้อมจะออกมาปกป้องและรักษาแผ่นดินร่วมกับพวกเรา จนคณะกรรมการฯ ต้องดำเนินการจัดทำเหรียญขึ้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งเมื่อเช้าได้แถลงกับผู้สื่อข่าวไปแล้ว และคงจะเปิดให้พี่น้องได้จองกัน ให้มีไว้เป็นที่ระลึก และเป็นอนุสติเตือนใจพวกเราทุกคนว่า แผ่นดินไทย ประชาชนไทยทุกคน ต้องออกมาช่วยกันรักษา และทำตามเจตนารมณ์ที่บรรพบุรุษ และบูรพระมหากษัตริย์ของเราได้ปกป้องรักษาไว้ให้พวกเราครับ นี่คือความงดงามของการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ

เอาละพี่น้องครับ เมื่อสรุปรวมเหตุการณ์การชุมนุมที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงวันนี้ให้พี่น้องฟังโดยสรุปแล้ว การรุกคืบของพี่น้องประชาชน ในการจะบดขยี้การเมืองเก่า ระบอบการเมืองเก่านั้น เป็นการรุกคืบที่มีพลังและมีพลานุภาพที่เข้มแข็งอย่างยิ่ง การที่พวกเราลุกขึ้นมาเรียกร้องโหวตโน เรียกร้องให้ปฏิเสธระบอบการเมืองปัจจุบันที่เป็นระบอบการเมืองที่ล้มเหลว และกำลังจะนำพาชาติบ้านเมืองไปสู่ความหายนะ ได้รับการขานรับจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศอย่างกว้างขวางจริงๆ ครับพี่น้องครับ กลายเป็นกระแสสูงที่ทำให้บุคคล และประชาชนทุกองค์กรหันมาร่วมรับฟัง ให้การสนับสนุน และพร้อมเข้าร่วมกับการรณรงค์ของพวกเราในครั้งนี้ นี่นับว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีครับ วันนี้นักการเมืองกำลังดิ้นพล่านเลยครับพี่น้อง

เมื่อสักครู่ที่คุณอมรบอกว่า นายอภิสิทธิ์กำลังจะถูก เรียกว่าเลขาธิการพรรคใช่ไหม และคนในพรรคประชาธิปัตย์ เขาเรียกว่าเขี่ยออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือเขี่ยออกจากการเป็นแคนดิเดตนายกฯ นั้น พี่น้องครับเรื่องนี้มีมูลความจริง เพราะวันนี้ประชาธิปัตย์รู้แล้วว่า ถ้าลากดึงชูนายอภิสิทธิ์ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค และชูนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ เพื่อนำทัพในการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่งนั้นแพ้แน่ๆ ครับพี่น้องครับ และจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั่วประเทศ แต่ขณะเดียวกันผมแปลกใจอยู่ว่า ทำไมสุเทพยังคิดจะเป็นผู้จัดการรัฐบาล และเป็นคนปั้นนายกฯ ต่อไป เพราะความจริงแล้ว สุเทพก็ไม่น่าจะอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ได้เหมือนกันครับ เพราะโดยความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองคนนี้เป็นคนที่ฉุดพรรคประชาธิปัตย์ให้ตกต่ำลงไปสู่ความหายนะ อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยประสบมาก่อนครับพี่น้อง

จำเป็นวันนี้ผมเลยต้องพูดเพิ่มเติมในประเด็นที่ว่า ทำไมพรรคประชาธิปัตย์จึงล้มเหลว และไม่ประสบความสำเร็จในการบริหารบ้านเมือง ทุกครั้งที่ได้เป็นรัฐบาลและเข้ามาบริหารบ้านเมืองนั้น พรรคประชาธิปัตย์มักจะบริหารบ้านเมืองล้มเหลวและไม่ประสบความสำเร็จทุกครั้งไปครับ ไล่เรียงมาได้ตั้งแต่สมัย นายควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีผลงานอะไรโดดเด่นเป็นชิ้นเป็นอัน สุดท้ายถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถูกขับไล่พ้นจากตำแหน่งเหมือนกันครับ ถูกปฏิวัติโดย จอมพล ป. มาถึงยุค ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคคนต่อมาที่ได้เป็นนายกฯ ต่อจากนายควง ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นนายกฯ ได้ไม่ถึงปี สุดท้ายโดนปฏิวัติรัฐประหารในเหตุการณ์วันที่ 6 ต.ค. ที่เกิดคณะปฏิรูป นำโดย พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ปฏิวัติโค่นล้มรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เช่นเดียวกันครับ และในยุคนั้นบ้านเมืองก็ลุกเป็นไฟแบบนี้ ประชาชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา ถูกฆ่า ถูกปราบปราม ถูกจับแขวนคอ ถูกเผานั่งยาง โหดร้ายทารุณยิ่งกว่ายุคสมัยนี้ ยุคสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี บ้านเมืองลุกเป็นไฟมาแล้วครับ

มาถึงยุคที่ 3 ยุคที่นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี มาตกยุคที่เจอปัญหา ส.ป.ก.4-01 ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แล้วมารอบ 2 เจอวิกฤตเศรษฐกิจ ต้องเข้าโปรแกรม IMF แล้วต้องกู้เงิน สุดท้ายต้องทำให้ประเทศ ทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน นักธุรกิจ ผู้ประกอบการร้านค้า ถูกยึด สถาบันการเงินล้มละลาย และกลายเป็นรัฐบาลสมัยนายกฯ ชวน เปิดทางให้บริษัทต่างชาติ โกแมนแซก เลห์แมนบราเธอร์ เข้ามาฮุบกิจการและทรัพย์สินของคนไทย รวมทั้งมายึดสถาบันการเงินของไทยไปหมด รัฐบาลในยุคท่านนายกฯ ชวน ต้องออกกฎหมาย 11 ฉบับ เปิดทางให้ต่างชาติเข้ามายึดครองกิจการสำคัญของประเทศไทย ที่เราเรียกว่า กฎหมายขายชาติ เห็นไหมครับเป็นยุคที่ล้มเหลวอีกเหมือนเดิม และถูกโจมตีอย่างหนักว่าเป็นยุคชวนเชื่องช้า ทำงานไม่ทันกับสถานการณ์ ตามหลังสถานการณ์ ไม่เป็นเชิงรุก และไม่เข้าถึงปัญหาของประชาชน นายกฯ ชวนพ่ายแพ้การเลือกตั้ง แพ้ทักษิณ แต่ทักษิณมาในลักษณะโกง เพราะฉะนั้นไม่ว่านักการเมืองชุดนี้ไปชุดใหม่มา ก็จะพยายามหาจุดที่แตกต่างจากชุดที่ล้มเหลว เมื่อได้รับความไว้วางใจจากประชาชนแล้วก็โกงเหมือนกัน แต่นี้เรากล่าวเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ก่อน ยุคนายชวนก็มีปัญหา

สุดท้าย เว้นวรรคเป็นฝ่ายค้าน 5-6 ปี ทักษิณมา พอพวกเราไล่ทักษิณไป นายอภิสิทธิ์มา คราวนี้หนักกว่าเดิมครับพี่น้อง ก็คือ เหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองหนักกว่าเดิม เกิดการชุมนุมเผาบ้านเผาเมือง เกิดการไล่การประชุม ล้มการประชุมอาเซียน การชุมนุมที่ราชประสงค์สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง มีคนเจ็บคนตายมหาศาล มีการเผาตึก เผาอาคารสถานที่ราชการ อาคารศูนย์การค้า บ้านเมืองลุกเป็นไฟ แผ่นดินไร้ความสงบ ขบวนการที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ ลุกลามบานปลายไปจนกระทั่งจะโค่นล้มสถาบันพระมหาษกัตริย์ มีขบวนการล้มเจ้า มีขบวนการก่อการร้าย ด้านนอกประเทศ รัฐบาลอภิสิทธิ์เปิดทางให้รัฐบาลนายฮุน เซน สมคบต่างชาติเตรียมเข้ามายึดแผ่นดินไทยบริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหาร ไปซะอีกครับพี่น้องครับ

การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาข้าวยากหมากแพง ผมคิดว่าไม่ต้องพูดทุกคนประจักษ์ดีแล้ว นี่ผมสรุปคร่าวๆว่า 4 คนที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่านายควง ม.ร.ว.เสนีย์ นายชวน หลีกภัย และมานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ล้วนแต่เป็นนายกรัฐมนตรีที่ล้มเหลวทุกคนเลยครับ หาผลงานเป็นที่ประทับใจ ตราตรึงใจ หรือเป็นผลงานที่ควรแก่การยกย่องนับถือ จารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมือง ให้ประชาชนในแผ่นดินไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมเคยเปรียบเทียบให้พี่น้องฟังแล้วว่า ระหว่างนายกฯ ที่มาจากการแต่งตั้ง หรือมาจากปฏิวัติรัฐประหาร ยังมีผลงานมากกว่า และโกงน้อยกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

สาเหตุความล้มเหลวของรัฐบาลที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์ พรรคอื่นเราไม่ต้องพูดถึงเพราะว่ามันล้มเหลวไปแล้ว ล้มเหลวไปหมดแล้ว ไม่ว่าพรรคชาติไทย พรรค พล.อ.ชวลิต ความหวังใหม่ ที่ได้เป็นนายกฯ และพรรคไทยรักไทย ของทักษิณ พรรคอื่นที่มาชิงตำแหน่งและได้เป็นนายกฯ รวมทั้งพรรคชาติไทย สมัย พล.อ.ชาติชาย คนเหล่านี้ก็ล้มเหลวเหมือนกัน ไม่ว่าจะมาโดยรูปแบบไหน แต่เนื่องจากที่พูดถึงพรรคประชาธิปัตย์เพราะอะไรครับ เพราะว่า พรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นพรรคที่สร้างความหวังลมๆ แร้งๆ และสร้างภาพมายาหลอกลวงไว้กับประชาชนว่า 1.เป็นพรรคที่เลวน้อยที่สุด 2.เป็นพรรคที่โฆษณาสโลแกนหาเสียงว่า เป็นพรรคที่ซื่อสัตย์ มืออาชีพ เป็นพรรคที่เชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา สร้างภาพว่าเป็นนักประชาธิปไตย 4.สร้างภาพว่าเป็นนักบริหารมืออาชีพ มีบุคลากรที่ดีเด่นในแต่ละสาขา ในแต่ละด้าน เป็นคนที่มีความรู้ มีการศึกษาดี มีชาติตระกูลดี มีภาพลักษณ์ที่ดี ไม่โกงไม่กิน ยังเป็นภาพที่พยายามจะบอกว่า เป็นความหวังของคน หรือเวลาที่บ้านเมืองวิกฤตทุกครั้งมักจะเรียกหาพรรคประชาธิปัตย์ เขาพยายามจะบอกว่า เวลาที่บ้านเมืองวิกฤตเขาจะเป็นคนเข้ามากู้วิกฤต จึงทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่งยังคิดว่า พรรคประชาธิปัตย์น่าจะเป็นทางเลือกที่สุดเท่าที่มีอยู่ในระบอบการเมืองที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อมีการต่อสู้ 193 วันของพวกเรา หรือทุกครั้งที่มีการโค่นล้มขับไล่รัฐบาลเก่าไป รัฐบาลใหม่ที่มาในนามพรรคประชาธิปัตย์ มักจะตีกินแล้วฉวยโอกาสเช่นนี้ โดยลักษณะที่ พยายามทำตัวให้สอดคล้องกับความเรียกร้องต้องการของประชาชน สอดคล้องกับความรู้สึกของสังคมในขณะนั้น ดังที่คุณยอดธง ทับทิวไม้ แล้วพี่สนธิเอามาพูดเมื่อคืนนั้นก็คือ พยายามสนองความใคร่ให้กับประชาชนในสถานการณ์นั้นๆ เป็นพรรคที่รู้จักหยิบฉวยโอกาส และมาตีกินในสถานการณ์ได้เท่านั้นเองครับ แต่ครั้นถึงเวลาได้อำนาจ มีอำนาจในการบริหารประเทศจริงๆ แล้ว กลับทำงานไม่เป็นและไม่เคยทำอะไรเลยที่เป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่ตีกินหลอกลวงประชาชน โกหกไปวันๆ

เรื่องหนึ่งที่ผมเจ็บปวดที่สุดก็คือว่า ในวันที่เขาเป็นฝ่ายค้าน ท่านนายกฯ ชวน เป็นคนที่รู้สึกเป็นทุกข์เป็นร้อนมากกับการที่ประเทศไทยมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง มีขบวนการพวกเสื้อแดงล้มเจ้า ที่ออกเคลื่อนไหวโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ โจมตีองคมนตรี ป๋าเปรม และมีการเผยแพร่เรื่องราวอันเป็นการล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างน่าหวาดกลัว เป็นทุกข์เป็นร้อนมาก ท่านนายกฯ ชวน แต่เวลาที่ตัวเองมีอำนาจ ได้เป็นรัฐบาลแล้ว พรรคตัวเองได้เป็นรัฐบาลและมีอำนาจแล้ว กลับไม่กระทำการอะไรอันเป็นการกวาดล้างขบวนการล้มเจ้า หรือแดงก่อการร้าย หรือขบวนการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เลยแม้แต่น้อยครับ แปลกไหมครับ ตอนที่พวกนี้ออกมาเคลื่อนไหว ผมจึงมาคิดได้ว่า นี่แสดงว่า ผมคงถูกเขาหลอก โดยหยิบยกเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ เอาเรื่องขบวนการก่อการร้าย พวกนี้คิดล้มเจ้าอย่างนั้นอย่างนี้ มาบอกให้เราออกไปสู้ไปลุยกับมัน แต่พอเราสู้แล้วปรากฏว่า พวกนี้ไม่ยอมทำอะไรเลย และไม่ยอมออกมาสู้กับพี่น้องประชาชนครับ พอมีอำนาจแล้วก็ไม่เห็นจัดการกับกลุ่มคนเหล่านั้น แถมมิหนำซ้ำยังประกันตัวคนเหล่านี้ ยังให้ราชการหน่วยงานไปเป็นพยานช่วยคนเหล่านี้ และปล่อยให้คนเหล่านี้ออกมาทุกคนเลยครับพี่น้อง นี่สะท้อนให้เห็นว่า ประชาธิปัตย์นั้นคิดเรื่องนี้เป็นเพียงเกมการเมือง และเป็นการใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อเล่นงานคนอื่นแล้วเหยียบคนอื่นขึ้นสู่อำนาจครับพี่น้อง ก็คงไม่แตกต่างอะไรกับการที่ใส่ร้ายท่านปรีดี พนมยงค์ ว่าลอบสังหาร หรือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารในหลวง รัชกาลที่ 8 ใส่ร้ายนายปรีดี พนมยงค์ ในลักษณะต้องการจะทำลายและเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น หรือการใส่ร้าย พล.ต.จำลอง ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เป็นวัฒนธรรมทางการเมือง และเป็นกุศโลบายเจ้าเล่ห์เพทุบายของพรรคการเมืองที่สืบทอดกันมาเป็นเวลา 65 ปีครับพี่น้องที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

เอาละที่ผมพูดมานี้ ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่เราต่อสู้เพื่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และที่เราปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่ผิดนะครับ แต่เป็นเพราะว่า พวกเรานี้มีความซื่อสัตย์ เป็นคนมีความจริงใจ และเป็นคนทุ่มเท เมื่อสู้แล้วก็ต้องสู้ถึงที่สุด เมื่อรู้ว่าใครผิด ใครอยู่เบื้องหลังขบวนการเหล่านี้ มันต้องจัดการเอาจริงเอาจังตามกฎหมาย แต่คนพวกนั้น นายอภิสิทธิ์และพวก คนในพรรคประชาธิปัตย์จำนวนหนึ่ง กลับคิดเรื่องนี้เป็นเพียงกลเกมการเมือง และเป็นเครื่องมือการเมืองเพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้าม เพื่อชิงอำนาจทางการเมือง พอได้อำนาจแล้วก็ไม่สนใจจะทำเรื่องนี้ หรือแก้ไขปัญหานี้ เพราะฉะนั้นวันนี้ ที่พี่น้องดูรายการที่ฟ้าหญิงองค์เล็กท่านให้สัมภาษณ์ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย มันจึงเป็นเรื่องที่เศร้าสะเทือนใจกับประชาชนว่า ทำไมระดับลูกเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ถึงต้องออกมาพูดแบบขอความเป็นธรรมให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ บรมราชินีนาถ ขอเวลาทางราชการที่จะเผยแพร่พระราชกรณียกิจ ซึ่งรัฐบาลไม่สนใจเลย และเกิดขึ้นในรัฐบาลประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์ได้อย่างไรครับ

นี่มันสะท้อนให้เห็นว่า ตั้งแต่สมัยนายปรีดีแล้ว สมัยคณะราษฎร์เปลี่ยนแปลงการปกครอง ที่ประโคมข่าวหาว่านายปรีดีสังหารหรือฆ่าในหลวงนั้น ก็พูดเพื่อเป็นเกมการเมือง แต่จริงๆ แล้วตัวเองไม่เคยคิดจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ปล่อยให้สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกย่ำยีมาทุกยุคทุกสมัย เมื่อไหร่ที่พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นรัฐบาล ในวันนี้ก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมพูดไม่ได้หมายความว่า ที่เราต่อสู้นั้นเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เราต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

แต่ที่ผมจะพูดวันนี้ก็คือว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลยในการบริหารบ้านเมืองนั้นเพราะอะไรครับ เพราะ 1.เป็นพรรคที่ไม่มีความซื่อสัตย์ จริงใจกับประชาชนครับ ไม่มีความซื่อสัตย์จริงใจกับประชาชนเลย หลอกใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ และอาศัยสถานการณ์ที่ประชาชนออกมาต่อสู้ ไม่ว่า 14 ต.ค. ไม่ว่าเหตุการณ์ พ.ค. ไม่ว่าเหตุการณ์ 193 วันไล่รัฐบาลทักษิณ ก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์คอยจดจ้องหาจังหวะโอกาสหลอกใช้ ฉวยโอกาส ยืมมือประชาชน อาศัยชีวิตเลือดเนื้อประชาชนเป็นเครื่องมือไต่เต้าขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองเท่านั้นครับพี่น้อง พรรคนี้เป็นตัวแทนของกลุ่มขุนนาง ข้าราชการ และกลุ่มทุน เวลามีอำนาจแล้วไม่เคยเห็นหัวประชาชนเลยแม้แต่น้อยครับ พรรคนี้จึงไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง คือตั้งแต่ตั้งพรรคมายังไม่เคยมีครั้งใดที่เลือกตั้งแล้วได้เสียงข้างมาก แล้วได้จัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเดียว ทั้งๆ ที่ตั้งพรรคมา 65 ปีแล้วครับ เพราะฉะนั้น 1.คือความไม่ซื่อสัตย์จริงใจกับประชาชน

2.หลอกใช้ประชาชนแล้วยังมีพฤติกรรมในลักษณะที่เนรคุณประชาชน ในการต่อสู้ 193 วัน พรรคประชาธิปัตย์ดีใจที่ได้อำนาจ ที่ได้เป็นรัฐบาล พอได้อำนาจได้เป็นรัฐบาลแล้ว ในช่วงที่เราต่อสู้นั้นเขาอาจจะมีส่วนหนึ่งมาผสมโรงกับพวกเรา หรือแอบมาหนุนหลัง มาดุนหลัง หรือมาร่วมผสมโรงกับพวกเราเพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ แต่พอเขาได้อำนาจสมใจนึกของเขาแล้ว สมความปรารถนาแล้วก็ถีบหัวส่งพี่น้องประชาชนใช่ไหมครับ แล้วบรรดาผู้สนับสนุนของเขา บรรดาแม่ยกที่เรียกตัวเองว่าเป็นสังคมชั้นสูง พวกหม่อมนู้นหม่อมนี้อะไรก็ว่ากันไป มันมี 2 ประเภท ประเภทที่จงรักภักดีต่อชาติบ้านเมืองและรักประชาชน มีครับ ชนชั้นสูงที่มีความจริงใจกับประชาชน ทุกวันนี้ยังมาร่วมชุมนุมกับพวกเราอยู่ และมาร่วมกิจกรรมทำเหรียญก็บุคคลเหล่านี้ ทำเหรียญ ร.5 คนที่มีความรักบ้านรักเมือง มีความสำนึก มีความจริงใจกับชาติบ้านเมือง มีครับ แต่มันจะมีพวกขุนนางประเภท พวกขันที พวกกังฉิน พวกสอพลอ พวกฉวยโอกาส ขุนนางพวกนี้ละครับ ถ้าเราดูในประวัติศาสตร์ชาติไทย จะเป็นพวกขุนนางที่ทำให้ราชวงศ์ล่มจม ก็เพราะขุนนางประเภทนี้ เวลาที่ข้าศึกประชิดบ้านประชิดเมือง กลัวเสียงปืนดัง เวลาทหารจะยิงปืนสู้ข้าศึก กลัวเสียงปืนดัง กลัวขุนนาง กลัวนางสนม กำนัลทั้งหลายตกอกตกใจ พวกประเภทนี้อันตรายที่สุดครับ เพราะฉะนั้นเวลาพรรคตัวได้อำนาจก็จะแห่มาแล้ว นั่นลูกคนนั้น นี่ลูกคนนี้ นี่มาเป็นที่ปรึกษา นี่มาเป็นรัฐมนตรี นี่เข้าเป็นที่ปรึกษากระทรวง นี่ขอลง ส.ส.เขตนั้นเขตนี้ เวลาพรรคตัวเองมีอำนาจ แล้วก็ลืมประชาชน พอประชาชนวิจารณ์รัฐบาลนายอภิสิทธิ์หน่อยออกมาด่าเราฉอดๆ หาว่าเราทำไมไม่ให้โอกาสเขาเลย ทำไมไปว่านายกฯ อย่างนั้นอย่างนี้ ใช่ไหมครับในตอนแรก คนพวกนี้จะไม่ดูตัวเองว่า คนของตัวเองนั้นทำชั่วไม่ต่างจากพรรคการเมืองอื่นที่เคยเป็นรัฐบาลแล้วโกงบ้านกินเมืองมาแล้ว ถ้าเขามีใจเป็นธรรมจริง ถ้าเขาเป็นคนรักชาติรักบ้านรักเมือง เขาต้องเตือนคนของเขาว่า นายอภิสิทธิ์คุณทำไมปล่อยเรื่องนี้ ทำไมคุณไม่ดูแลเรื่องนี้ ทำไมคุณปล่อยให้เขาโกง ไม่ใช่มาแก้ตัวแทน โอ๊ยอภิสิทธิ์เขาไม่รู้เรื่อง นายสุเทพทำทั้งนั้น ถ้าไม่ยอมเขาก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล คอยมาแก้แทนความล้มเหลวและความชั่วคนของตัวเองอย่างหน้าด้านๆ ครับ คอยแก้ตัวปกปิด ผมถึงบอกการเนรคุณประชาชน วันนี้กำลังจะถูกประชาชนสั่งสอนครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งครับพี่น้อง นี่อันที่สองแล้วนะครับ

อันที่ 3 พรรคประชาธิปัตย์มีทีมงานการบริหารงานที่เป็นเรื่องเป็นราว บริหารแบบมวยวัด บริหารแบบตามสถานการณ์ บริหารแบบปล่อยไปตามยะถากรรม ปัญหาอะไรจะเกิดช่างมัน ตีกิน สร้างภาพอย่างเดียว และแก้ตัว พูดจาพล่อยๆ ข้างๆ คูๆ ไม่มีเหตุมีผล ไม่เคยลุย ไม่เคยเข้าถึงปัญหาประชาชน ไม่สมบุกสมบัน น้ำท่วมอย่างนี้ถ้าลูกชาวบ้าน คนอย่างพวกเราที่ผ่านร้อนผ่านหนาวและสู้เป็นสู้ตายกับประชาชนแบบนี้ เป็นนายกฯ นะเขาต้องไปบัญชาการช่วยเหลือประชาชนอยู่แนวหน้า อยู่ในสถานที่เกิดเหตุ ไม่ใช่มามุดหัว นอนกอดเมียอยู่ หรือไม่ก็เจ๊าะแจ๊ะอยู่กับศิริโชคสองคน ขนาดประชาชนทุกข์ร้อน เดือดร้อนอย่างหนัก นายกฯ ต้องออกไปหาประชาชน ตั้งศูนย์บัญชาการอยู่ที่นั่น การประชุมสภาต้องงดก่อน ไม่มีเรื่องอะไรเป็นเรื่องเร่งด่วนสำคัญเลย เรื่องที่เป็นประโยชน์ของชาติของประชาชนมันต้องอยู่ที่นู้น แต่นายกฯ ที่ทำตัวหน้าหล่อ ทำปากปั้นจิ้มปั้นเจ้อ แต่งตัวลอยไปลอยมา มันทำอะไรวันๆ ไม่เคยรู้ทุกข์ รู้ร้อน รู้หนาวของประชาชนเลยว่าจะกินอยู่อย่างไร ต้องไปคลุกคลีอยู่กับประชาชน แล้วหาทางกอบกู้วิกฤตการณ์ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ความจริงแล้ว

พรรคประชาธิปัตย์จุดอ่อนเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่พอเจอของจริง น้ำเพิ่งท่วมไปเมื่อปลายปีที่แล้ว มาท่วมอีกที มาเจอภัยพิบัติคราวนี้อีกที ทำงานเหมือนเดิม ห่างกันไม่กี่เดิน ผมถึงบอกแล้วว่า โอกาสที่นายอภิสิทธิ์จะกลับมา พรรคประชาธิปัตย์จะกลับมามันยากที่จะกลับมา ความล้มเหลวที่เกิดขึ้น ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้น เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นสถาบันการเมืองจริงๆ เป็นสถานบันการเมืองหลอกๆ และไม่เคยคิดจะพัฒนาความคิดของตัวเอง ไม่เคยคิดจะพัฒนาวิธีการทำงานของตัวเอง ไม่เคยคิดจะเข้าหาประชาชน เคารพความคิดเห็นและรับฟังประชาชน ไม่เคยมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่น้องประชาชน มันจึงเป็นพรรคที่ไม่แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นๆ ที่มีมาในประเทศไทยทั้งหมด เป็นพรรคของกลุ่มทุน เป็นกลุ่มการเมืองระบอบเก่า ผลัดกันโกงผลัดกันทำมาหากินเท่านั้นครับพี่น้อง แนวคิด อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่เอามาโชว์มาอ้างกับพี่น้องประชาชนนั้น เป็นเพียงอุดมการณ์หลอกๆ หาอุดมการณ์จริงๆ ไม่มีครับ ถ้าท่านอยากรู้อุดมการณ์จริงๆ ให้ฟังบทสัมภาษณ์ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ครับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สัมภาษณ์ว่าอย่างไร เผยตัวออกมาอย่างร่อนจ้อน บอกว่า ถ้าเรามัวแต่อยู่ในกรอบ ถ้าเรามัวแต่อยู่ในลักษณะประชาธิปัตย์เดิมๆ เราก็ไม่มีโอกาสได้เป็นรัฐบาล เราก็คงมาไม่ถึงวันนี้ นั่นก็คือ ทำอะไรก็ได้ให้ได้เป็นรัฐบาลครับพี่น้อง ก็เหมือนกับนายบรรหาร บอกว่าเป็นฝ่ายค้านมันอดยากปากแห้ง เพราะฉะนั้นนายสุเทพพูดกับสมาชิกว่า เราต้องเป็นรัฐบาล ถ้าเราไม่ได้เป็นรัฐบาลเราก็ต้องอดยากปากแห้ง เราก็คงอดตาย แห้งตาย พรรคการเมืองไม่มีความหมายใดๆ นี่คือธาตุแท้

เพราะฉะนั้นการเดิมเกมทางการเมืองของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้น ทำทุกวิถีทางที่จะให้ได้เป็นรัฐบาลเท่านั้น ขณะนี้ก็คือ ไปจับมือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แล้วได้ใจ คิดว่าทหารจะหนุนตัวเองแล้วสามารถบีบเอาคนในพรรคการเมือง อุ้มพรรคการเมือง มาจัดตั้งรัฐบาลได้ ปรากฏว่าคอลัมนิสต์คนหนึ่ง ผมเพิ่งรู้วันนี้ เขาเขียนถึง พล.อ.ประวิตร เขาบอกว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประวิตร กับนายฮุน เซน และฮุน มาเน็ต ฮุน มาเน็ต เรียก พล.อ.ประวิตร ว่าคุณลุงครับ มีความสัมพันธ์ประหนึ่งเป็นญาติกันครับ เขายกหูพูดคุยกัน พูดถึงคุณลุงคุณอา สนิทสนมกันมาก ผมเพิ่งรู้ว่า พล.อ.ประวิตร เขามีความสนิทสนมกับฮุน เซน ขนาดนั้น แล้วเพิ่งรู้ว่า แม่ทัพเยิ้ม ก็มีความสนิทสนมลึกซึ้งกับนายฮุน เซน ผมถึงรู้ว่า ทหารไทยหากินกับเขมรแบบลึกซึ้งอย่างนี้นี่เองครับ การแก้ไขปัญหาเรื่องกัมพูชาจึงไม่สามารถแก้ได้ เช่นเดียวกัน การแก้ไขปัญหาของ พล.ต.อ.พัชรวาท สุเทพถึงต้องยอม กระทำทุกวิถีทางช่วย พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ให้ออกจากราชการ หรือถูกดำเนินคดีอาญา ดังที่ทนายสุวัตรได้นำคำร้องที่กล่าวโทษกับ ป.ป.ช.มาอ่านให้พี่น้องฟัง สุเทพทำทุกวิถีทางที่จะช่วยพัชรวาท เพราะตอบแทนบุญคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ช่วยทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลครับพี่น้องครับ ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของ พล.อ.ประวิตร จึงเหนียวแน่น มั่นคง ประดุจศิลากลางน้ำเชี่ยว ใครไปโยกไปคลอนก็ไม่ไป แม้เสื้อแดงจะเอาไม้หน้าสามไปทุบ วิ่งหนีตาลีตาเหลือก ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมก็ยังไม่หลุดครับ

จึงเห็นได้ว่า การที่อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่บอกว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ วันนี้ไม่มีครับ ไม่มีเลย อย่างเดียวคือ ทำอย่างไรจะหาทางเลือกตั้งให้ชนะ ไม่ว่าจะทำด้วยวิถีทางใดก็ตามให้ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง แต่ผมเชื่อแน่ว่า ดูจากชะตากรรมของบ้านเมืองแล้ว ดูเหมือนว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ, ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คงจะหมดบุญแล้วครับพี่น้อง ไม่น่าจะมีโอกาสกลับมาเป็นเสนาบดีปกครองบ้านเมืองอีก ทั้ง 3 คนนี้คงจะต้องเตรียมตัวไปหาแผ่นดินอื่นอยู่ ประเทศไทยคงจะอยู่ไม่ได้ ผมไม่อยากพูดว่า ผมนั่งทางในแล้วฝันเห็นอย่างไร แต่ผมเชื่อว่ายังไง 3 คนนี้ไม่มีแผ่นดินอยู่แน่นอนครับ เพราะทรยศ เนรคุณต่อคนไทย หาประโยชน์โดยเอาการเมืองในประเทศไปหากินร่วมกับการเมืองนอกประเทศ

ทั้งหมดนี้ ประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคซึ่งตกต่ำที่สุด เมื่อตกต่ำที่สุดแล้ว วันนี้ผมต้องบอก เพราะว่าอะไรครับ บอกให้รู้ว่า ตราบใดที่พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นอยู่อย่างนี้ ก็ถือว่าจบแล้วครับพี่น้อง พรรคการเมืองในประเทศไทย พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคสุดท้ายที่ยังหลอกลวงให้คนหลงเชื่อว่าจะเป็นความหวังและอนาคตได้ ส่วนพรรคอื่นไม่ต้องพูดถึงเลย เมื่อวานก่อน งานวันเกิดของนายเสนาะ เทียนทอง พี่น้องเห็นบรรยากาศอะไรไหมครับ เห็นบรรยากาศตัวอะไรบ้างที่นั่งล้อมกันโต๊ะยาวๆ ตัวอะไรครับ ถ้าภาษาบนเวทีนี้เขาก็เรียกว่า สัตว์นรก ถ้าภาษางิ้วเขาเรียกว่า เอี้ย สามารถจัดงานวันเกิดได้นะสัตว์นรกกับเอี้ย แล้วพี่น้องเห็นเขาประกาศว่าเขาจะร่วมมือกัน จับมือกันเตรียมปั้นนายกฯ ขึ้นมา พี่น้องขนหัวลุกไหมครับ นายเสนาะ เทียนทอง จะปั้นนายกฯ ขึ้นมาอีก ปั้น พล.อ.ชวลิต บ้านเมืองก็ฉิบหายไปรอบนึงแล้ว ปั้นทักษิณบ้านเมืองก็ฉิบหายไปแล้ว จะปั้นใครอีก จะปั้นปุระชัย หรือจะปั้นมิ่งขวัญ หรือจะปั้นใคร ปั้นมา 2 คน แผ่นดินประเทศชาติแทบจะไม่เหลือแล้ว มันเป็นมือเพชรฆาตประเทศไทย เพชรฆาตประชาชน ผมถึงบอกว่า ป๋าเหนาะไปเลี้ยงหลานดีกว่า เพียงแค่ประชาชนเห็นที่พวกคุณนั่งสุมหัวกันอยู่ที่บ้านเมืองทอง หรือที่สนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่ไปปล้นที่ธรณีสงฆ์ มันยังไม่ขาดอายุความนะครับ เพราะว่าที่ของสงฆ์มันเป็นที่สาธารณะ ไม่ขาดอายุความ เมื่อไหร่ที่พวกเรามีอำนาจ จะเอาคืนให้ดูครับพี่น้อง เมื่อไหร่ประพันธ์มีอำนาจจะเอาคืนให้ดู เพราะการเอาที่ของสงฆ์ไปนั้น จะต้องเอาไปโดยพระราชบัญญัติสงฆ์ ถ้าพระราชบัญญัติสงฆ์ ไม่อนุญาต ไม่แก้ไข ไม่ยกให้ คุณเอาไปเป็นของเอกชนไม่ได้ ยังไงวันหนึ่งก็ต้องกลับคืนมาครับพี่น้อง

ส่วนเรื่องปราสาทพระวิหาร ถ้าผมมีอำนาจนะ แก้ง่ายนิดเดียวพี่น้อง ทำยังไงรู้ไหม เอากำลังขึ้นไปปิดล้อมปราสาทพระวิหาร ยึดแผ่นดินของเราไว้เรียบร้อยหมดเลย ถ้าเขมรจะมา ฮุน เซนจะมาต้องผ่านแผ่นดินไทย เพราะศาลโลกตัดสินเฉพาะตัวปราสาท เราล้อมรั้วเลย สร้างกำแพงครอบเลย อยากได้ตัวปราสาทมาเอา ถ้าจะแผ่นดินต้องผ่านกำแพงก่อน อยากได้ปราสาทเอาไว้อย่างนี้ เพราะประจานศาลโลกว่าตัดสินอัปยศ แล้วเราทำกำแพงครอบเลย อยากมาปราสาทมาเลย แต่ว่าโดยรอบแผ่นดินตลอด 4.6 ตารางเมตร ทหารไทยอยู่พรึ่บ ไม่เห็นจะยาก แล้วประเทศไหน หน้าไหน UNSC เขมร หรืออินโดนีเซีย ใครจะมายุ่ง ขึ้นมาซิจะได้โดนดี ไม่มีใครกล้ามายุง เขมรถ้าจะมาต้องโดดร่มลงมา เครื่องบินต้องบินผ่านประเทศไทย ก็โดนสอยก่อน

จริงๆ แล้วผมเสนอว่า เป็นผมนะ ผมยึดคืนเลยไม่ต้องให้มันเลย แต่ว่าพรรคพวกที่ร่วมปรึกษาหารือกัน เขาบอกว่า อย่าทำขนาดนั้นเลย สร้างกำแพงล้อมรอบไว้ก็พอแล้ว แค่นี้ก็จบ ไม่ได้แก้ปัญหายากเลยครับพี่น้อง แก้ปัญหาปราสาทพระวิหารไม่ยากเลย และตลอดแนวชายแดน หลักเขตของเราอยู่อย่างไร ทหารไทยดูแลรักษาอาณาเขตไปตามนั้น ถ้ามีเหี้ยเขมร หรือ แลน กิ้งก่า หรือทหารลอดเข้ามาก็ยิงให้ตายทุกตัวเลย เท่านั้นเอง ไม่เห็นมีปัญหาอะไรใหญ่โต แต่ว่ารัฐบาลนี้มีผลประโยชน์กับเขาถึงแก้ปัญหาไม่ได้ เรื่องมีเท่านั้นเองครับ ไม่มีอะไรเลย

เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องหาทางหยุดระบอบการเมืองนี้ให้ได้ และต้องเปลี่ยนการเมืองให้ได้ ต้องเปลี่ยนรัฐบาลที่ดีกว่านี้มาปกครองบ้านเมืองให้ได้ ส่วนพรรคอื่นที่จะตั้งขึ้นมาใหม่ เห็นหรือยังวันนี้ 2 พรรค พรรคหนึ่งชื่อ พรรคประชาสันติ ตอนแรกพรรคประชาสันติ นายเสรี สุวรรณภานนท์ แถลงเตรียมเปิดตัวขนานใหญ่ จะเป็นทางเลือก ในขณะที่บ้านเมืองมีความขัดแย้ง เสื้อเหลือง เสื้อแดง พรรคนู้นไม่เอาพรรคนี้พรรคนี้ไม่เอาพรรคนู้น เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์แตกกันเป็น 2 ขั้ว เขาจะมาเป็นทางเลือก เสรี สุวรรณภานนท์ ไปรวมคุณพันธ์เลิศ ใบหยก ไปรวมนักวิชาการ ไปรวมนักการเมือง แล้วตั้งพรรคขึ้นมาโดยเชิดปุระชัยเป็นหัวหน้าพรรค แถลงข่าวได้อาทิตย์เดียว ถึงเวลาประชุมตั้งพรรคประชาสันติเสร็จ ปุระชัยบอกไม่ไปแล้ว ไม่อยากเอาของเก่า เสรี สุวรรณภานนท์ ก็หน้าแตก นี่ยังไม่ทันได้ตั้ง ยังไม่ไปถึงไหนก็เละตุ้มเป๊ะแล้ว ส่วนพรรคใหม่ของปุระชัยตั้งขึ้นมา ปรากฏชื่อพรรครักษ์สันติ และบอกว่า ที่มาเล่นการเมืองเพื่อให้ประเทศไทยกลับคืนสู่ประชาธิปไตย มันจะกลับคืนสู่ประชาธิปไตย หรือกลับคืนสู่ประชาธิปตายครับพี่น้อง ผมยังมองไม่เห็นว่า น้ำหน้าอย่างปุระชัยจะมาทำอะไรให้ประชาชน เพราะตลอดชีวิตคุณ คุณเคยทุ่มเท เสียสละ ต่อสู้อะไรเพื่อชาติบ้านเมืองร่วมกับประชาชนบ้าง ขนาด พล.ต.อ.พัชรวาท เอากำลังมายิงประชาชนบาดเจ็บ ล้มตาย พิการ แหมคนดีบอกเพื่อนเป็นตำรวจที่ดี เป็นผู้บัญชาการตำรวจที่ดี ถ้าไม่ได้เพื่อนเป็นผู้บัญชาการตำรวจ ป่านนี้บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ คนเจ็บคนตายมากกว่านี้ ขนาดยิงคนตายกลางวันแสกๆ ยังบอกเพื่อนมันดีครับพี่น้อง แค่นี้ก็จบแล้ว

เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่าวันนี้ไม่มีพรรคไหนที่พี่น้องจะพึ่งได้ แต่ปุระชัยแสดงอาการออกมาตั้งแต่วันแรก ประชุมตั้งพรรค จัดวีทีอาร์ขนาดใหญ่โชว์ความพร้อม แต่ปรากฏว่า พอมาให้สัมภาษณ์บอก อย่าโหวตโนเลย ให้มาเลือกเขาดีกว่าเป็นทางเลือก โห่หน่อยครับ นี่มันสะท้อนให้เห็นแล้วใช่ไหมครับว่า แม้กระทั่งปุระชัย มาตั้งพรรควันเดียวยังกลัวพลังโหวตโนของพวกเราเลยครับ แสดงว่ากระแสโหวตโนของพวกเรามันทรงพลานุภาพ กระทั่งทำให้พรรคนี้แฮ้ง เป็นง้อยตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งแล้วครับ

พี่น้องที่เคารพรักครับ วันนี้ผมมาคุยกับพี่น้องเพื่อให้เห็นภาพว่า การชุมนุมวันนี้เราอยู่ในบรรยากาศที่สบายๆ แบบผู้ชนะ และเป็นผู้ที่ควบคุมสถานการณ์ คุมรูปมวยได้ทุกกระบวนท่า ไม่น่าเชื่อ ในการชุมนุมตอนแรกๆ เรานึกว่าคราวนี้เราน่าจะเหนื่อยกว่าคราวที่แล้ว อาจจะมากกว่า 193 วันก็เป็นได้ แต่พอชุมนุมไปชุมนุมมา ประดาบกันไม่กี่กระบวนท่า ปรากฏว่าพวกนั้นตายเรียบเลยครับพี่น้อง อภิสิทธิ์นึกว่าแน่ วันนี้วิ่งหนีโพเดียม วิ่งหนีไมค์นักข่าวไมค์จ่อปากไม่กล้าสัมภาษณ์ไม่กล้าพูดเลยครับพี่น้อง ส่วนในสภาก็ด่ากันเละตุ้มเป๊ะ ประธานชัยบอก ถ้าเป็นอย่างนี้อย่าประชุมเลยเดี๋ยวจะมีคนมีอำนาจมายึดสภาซะก่อน เดี๋ยวก็ไม่ได้ประชุม ถ้าจะประชุมก็มาประชุม ส.ส.ก็ด่านายกฯ นายกฯ ก็ไปโทษว่าพวกนี้ถ้าไม่อยากทำงานก็อย่ามาเป็น ส.ส. ด่ากันไปกันมา โยนความผิดให้กัน กัดกันเหมือนหมาครับพี่น้องครับ เห็นไหมครับ เราบอกแล้วว่าถ้าเราปักหลักอยู่ตรงนี้ เราสู้ด้วยปัญญา เอาความจริงสู้ ฆ่ามันให้ตายด้วยปัญญา และความรู้ความจริง มันก็ไปแล้ว และขณะนี้มั่นใจได้เลย เพราะกว่างานกาชาดจะจบก็นู้นละ วันที่ 7-8 ใช่ไหมครับ อีกไม่นานก็ยุบสภา ตำรวจเวลานี้รักประชาชนมาก อย่ามาสั่งเลยให้มายุบให้มารื้อส้วม มีแต่จะหาส้วมใหม่มาเปลี่ยนให้พี่น้องประชาชน ไม่เชื่อ ไม่มีการสลายการชุมนุมแล้ว เพราะว่าประลองกำลังกันหลายรอบแล้ว ขนาดในช่วงนั้นยังไม่ประกาศยุบสภายังเอาอะไรพี่น้องพันธมิตรฯ ไม่ลงเลยครับ วันนี้พอประกาศยุบสภา ทุกคนใส่เกียร์ว่างหมดแล้วยากครับ เพราะฉะนั้นเราจึงชุมนุมอย่างสบายๆ แบบว่าผู้ชนะยึดสมรภูมิไว้เรียบร้อยแล้วครับ

เพราะฉะนั้นสถานการณ์วันนี้เขาเรียกว่า เรารุกฝ่ายข้าศึกเขาพ่ายแพ้ไปแล้วเรายึดสมรภูมิพื้นที่ทางการเมืองไว้เรียบร้อยแล้ว มีอย่างเดียวก็คือ เราพัฒนาบำรุงขวัญของพวกเราเพื่อเตรียมทำงานใหญ่กว่าเดิมครับพี่น้อง อีกไม่นานผมเชื่อมั่นว่าบ้านเมืองต้องเปลี่ยนแปลง เพราะการเมืองขณะนี้เดินไปไม่ได้แล้ว จะเดินหน้าก็ติดกึ๊ก จะถอยหลังก็ติดกั๊ก จะเลือกตั้งยุบสภาก็กลัวจะโดนแทงข้างหลัง จะอยู่รักษาอำนาจปกครองบ้านเมือง ก็ไปไม่ได้เพราะว่าประชาชนไม่ยอมรับ ทำอะไรก็ไม่ได้สักเรื่องสักอย่าง วันนี้รัฐบาลอภิสิทธิ์นั้นเหมือนอยู่และตายทั้งเป็นไปแล้วครับ อยู่แบบคนตายซาก ทำอะไรก็ไม่ได้ จะไม่ยุบสภาจะถูกเพื่อนกระทืบเอา จะอยู่บริหารบ้านเมืองต่อไปก็ไปไม่ได้เพราะว่าบริหารบ้านเมืองล้มเหลว

จึงกราบเรียนพี่น้องว่า วันนี้เราอย่าวิตกกังวลว่า มันจะจบอย่างไร มันจะไปอย่างไร สถานการณ์อย่างไร พี่น้องครับจงอยู่ในความสงบ ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวทั้งปวง ด้วยการที่เราอยู่อย่างมีหลัก อยู่อย่างมั่นคง และอยู่อย่างหนักแน่น ตราบใดที่แกยังไม่ไปเราก็ปักหลักยึดสมรภูมินี้อยู่ เราจะเอาความจริงพูดกับพี่น้องประชาชน และเราจะได้เพื่อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเพื่อนที่มาเที่ยวงานกาชาดจะได้ฟังการปราศรัยไปพร้อมๆ กันครับพี่น้อง กิจการการชุมนุมของพวกเราจะขยายตัวไปเรื่อยๆ และเวทีนี้จะเปิดคลิปที่นายอภิสิทธิ์พูดว่า 1 คนก็จะฟังแสนคนก็จะฟัง ถ้าผมทำให้แผ่นดินเสียแม้แต่น้อยผมไม่ควรอยู่ในประเทศไทย อย่าลืมเปิดเรื่อยๆ นะครับฝ่ายรายการ ทุกเบรกสลับกันไปเพื่อให้พี่น้องที่มาเที่ยวกาชาด ดูความตอแหลของนายกรัฐมนตรีไปพร้อมๆ กับเที่ยวงานกาชาด

เอาละครับพี่น้องวันนี้มาคุยกับพี่น้องพอสมควรแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ถ้ามีเรื่องอะไรคืบหน้าจะมาว่าให้ฟัง แต่วันนี้เรื่องทุจริตเรื่องโกงเรื่องคอร์รัปชั่นของรัฐบาล แทบไม่ต้องพูดแล้ว เพราะว่ารัฐบาลตายแล้ว แต่ถ้าแหลมมาเมื่อไหร่เราจะใส่ทันทีครับพี่น้อง วันนี้พบกันแค่นี้ พรุ่งนี้พบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น