“ประพันธ์” แจงความเลวร้ายประชาธิปัตย์ ทั้งอวดอ้างจะปกป้องสถาบันแต่ไม่เคยทำอะไรเลย ขายชาติตั้งแต่สมัยกฎหมาย 11 ฉบับ ทรยศประชาชน เหยียบซากศพพี่น้องเพื่อขึ้นสู่อำนาจ ซัดเป็นสันดานที่สืบทอดมาในพรรค 65 ปีไม่เคยเปลี่ยนแปลง และคงจะเป็นอย่างนี้ต่อไป ชี้มันจบแล้วสำหรับทุกพรรคในประเทศไทย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”
วานนี้ (14 มี.ค.) นายประพันธ์ คุณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน กล่าวบนเวทีว่า ตนจะสรุปความเลวร้ายของพรรคประชาธิปัตย์ ในรอบ 65 ปี
ประการที่ 1 พรรคนี้ตั้งขึ้นมาและมีอุดมการณ์จอมปลอม เป็นลิงหลอกเจ้า บ่าวหลอกนาย ด้วยการเอาวันที่ 6 เมษายน 2489 วันจักรี เป็นวันตั้งพรรค โดยหวังว่าทำให้สถาบันสูงสุดเชื่อว่าพรรคนี้จะปกป้องสถาบันฯ จะสู้กับคณะราษฎร ทั้งๆ ที่คณะราษฎรต้องการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัติรย์เป็นประมุข ต้องการประชาธิปัตย์ที่เป็นของประชาชน แต่เป็นไม่ได้เพราะมาเจอพรรคประชาธิปัตย์ที่บิดเบือนนำพาประชาธิปไตยของประเทศไปสู่กลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มขุนนางที่สูญเสียอำนาจให้กลับบมามีอำนาจอีกครั้งหนึ่ง พยายามแสดงภาพว่าจงรักภักดี แต่จริงๆ แล้วไม่เคยปกป้องสถาบันแม้แต่นิดเดียว มีแต่อิงแอบ และอาศัยเจ้ามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง หาความดีความชอบใส่ตัวเองมาตลอด
กรณีแรก โจมตีนายปรีดี พนมยงค์ หาประเด็นใส่ร้ายป้ายสีว่านายปรีดีลอบปลงพระชนม์ในหลวงรัชกาลที่ 8 ให้คนไปตะโกนในโรงหนัง นี่คือความเลวที่อาศัยสถาบันมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมือง
เมื่อโค่นล้มกลุ่มอำนาจนายปรีดีได้แล้ว ก็กำจัดฝ่ายปรปักษ์ทางการเมืองตัวเอง นั่นคือสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม ทำการปฏิวัติ สมัยนั้นสถาบันพระมหากษัติรย์ถูกลดบทบาทลงอย่างมาก เมื่อจอมพล ป.ปฏิวัติ นายควงก็ได้เป็นนายกฯ แล้วประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้ทำให้สถาบันมีเกียรติภูมิที่ดีขึ้นเลย ยืมมือจอมพล ป. สังหารคู่ปฏิปักษ์ทางการเมือง นักการเมืองอีสาน นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ นายจำลอง ดาวเรือง นายเตียง ศิริขันธ์ นายถวิล อุดล นายทองเปลว ชลภูมิ คนพวกนี้ถูกสังหารโดยร่วมมือกับนายควง อภัยวงศ์
ไม่ต่างจากประชาธิปัตย์ เมื่อขึ้นมเป็นรัฐบาล นายสนธิก็ถูกลอบสังหาร เหมือนกันเลย สมัยนั้นบทบาทสถาบันฯ ถูกลดลงอย่างมาก ประชาธิปัตย์ที่ตั้งมาในวันจักรีเพื่ออวดอ้างว่าจะปกป้องสถาบันฯ ก็เหมือนกับวันที่นายอภิสิทธิ์ได้พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกฯ ก็ออกมาบอกว่าจะปกป้องสถาบันฯ ปรากฏว่าตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ไม่ทำอะไรเลย แม้แต่น้อย
และข้อเท็จจริงก็คือว่า สถาบันถูกจาบจ้วงอย่างร้ายแรงที่สุด มิหนำซ้ำแกนนำเสื้อแดงที่มีส่วนร่วมกับขบวนการล้มเจ้า ก็ดันปล่อยออกมาหมดเลย ที่เจ็บปวด อยากฝากถึงนายชวน ช่วงก่อนการชุมนุมพันธมิตรฯ 193 วัน ตนได้ทานข้าวกับนายชวนที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนบอกให้ตนออกไปสู้กับพี่น้องประชาชนเพื่อปกป้องสถาบัน ตนก็รับปาก แต่มาวันนี้อำนาจรัฐอยู่ในมือตัวเองแล้ว ทำไมไม่สั่งให้นายอภิสิทธิ์จัดการคนพวกนี้ ถึงบอกว่าประชาธิปัตย์ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ ตอหลดตอแหล เป็นทั้งพรรค ไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่ง อยากพูดว่า 65 ปี ประชาธิปัตย์คือพรรคตีกิน อิงแอบเจ้า ไม่เคยปกป้องสถาบันฯแม้แต่น้อย
ประการที่ 2 ไม่เคยมีพรรคไหนถูกตราหน้าว่าขายชาติขายแผ่นดิน มีพรรคเดียวคือประชาธิปัตย์ สมัยนายชวนเป็นนายกฯ ผลงานที่อัปยศ คือ ส.ป.ก.4-01 ที่เอาที่ดินไปให้เศรษฐี และวันนี้จะเอา ส.ป.ก.4-01 ไปออกเป็นโฉนดทั่วประเทศ ให้เอกชนเอาไปตั้งโรงงานไฟฟ้าหมื่นๆไร่ จากนั้นมาปี 40 เศรษฐกิจประเทศล่ม ไปลงนามกู้ไอเอ็มเอฟ ตั้งองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.)ขึ้นมาก็ไปจ้างบริษัทต่างชาติเป็นที่ปรึกษา ตอนหลังบริษัททั้งหมดนี้กลับกลายเป็นผู้ไปประมูลหนี้สิน ปรส. มา ที่เลวร้ายรัฐบาลยุคนั้นมีความมุ่งมั่นจะขายธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง ขายสนามบินพาณิชย์ ขายโรงกลั่นน้ำมันบางจาก เปิดให้ต่างชาติเข้ามาครอบครองกิจการของไทย การทุจริตก็เกิดขึ้น ที่ฉาวโฉ่คือกรณี นายรักเกียรติ สุขธนะ ขณะนั้นนายชวน เดินทางไปกัมพูชา มีประชาชนกัมพูชาเผาธงชาติไทยประท้วง ถือเป็นนายกฯคนแรกของไทยที่ถูกคนกัมพูชาเผาธงประท้วง
และพยายามระดมทุนเพื่อมาแก้วิกฤตเศรษฐกิจ แต่ไม่สำร็จ คนที่ทำสำเร็จกลายเป็นหลวงตามหาบัว เหตุครั้งนั้นทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างศิษย์หลวงตามหาบัว กับฝ่ายการเมือง หลวงตาช่วยชาติ ประชาธิปัตย์แทนที่จะร่วมมือช่วยเหลือ แต่กลายเป็นเกิดศึกขัดแย้ง เหมือนกับวันนี้ที่เปิดศึกกับพันธมิตรฯที่ออกมาเพื่อปกป้องแผ่นดิน
หลังจากนั้นก็ออกกฎหมาย 11 ฉบับ ที่สำคัญที่สุดคือ กฎหมายประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และพรบ.ทุนรัฐวิสาหกิจ เปิดให้ต่างชาติเข้ามาครอบงำกิจการการเงินของไทย ซื้อทรัพย์สินคนไทยที่ล้มละลายอย่างถูกๆ และขายเอากำไรมหาศาล เป็นการขายชาติครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกที่ประชาธิปัตย์ทำกับไทย นี่คือพฤติกรรมการขายแผ่นดิน ก็มาบรรจบกับเหตุการณ์ตอนนี้ ขายชาติ ขายแผ่นดิน สมคบกับฮุนเซนปล้นแผ่นดินไทยและเอกราช เพื่อรักษาผลประโยชน์ของพรรคพวกเอาไว้ จนยอมเสียอธิปไตย
ประการที่ 3 ทรยศต่อประชาชน สมัย 14 ตุลา มีคนเจ็บตายมากมาย ถ้าไม่มี 14 ตุลา ประชาธิปัตย์ก็ไม่มีทางได้ผุดได้เกิด ม.ร.ว.เสนีย์ก็ไม่มีโอกาสได้เป็นนายกฯ หลังจากนั้นก็เกิดพฤษภาทมิฬ ประชาชนออกสู้เจ็บตาย พล.ต.จำลองนำหน้าสู้ แต่ประชาธิปัตย์ขุดรูอยู่ พอชนะแล้วค่อยโผล่หัวออกมาทีละคนสองคน แล้วก็มีการเลือกตั้ง เกิดการใส่ร้ายว่าจำลองพาคนไปตาย ก็เหมือนกับสมัยนี้ถ้าไม่มี 193 วัน นายอภิสิทธิ์ไม่มีทางได้เป็นนายกฯ แล้ววันนี้ดร.ปณิธาน ก็ออกมาขอบคุณเสื้อแดง แขวะเสื้อเหลือง มันเลวไม่ทิ้งกันเลย
ประการที่ 4 เรื่องการโกงการทุจริต มันเกิดขึ้นกับทุกรัฐบาล แต่รัฐฐาลนี้ก็ดันเลวกว่าเขา เป็นหนักกว่าทุกรัฐบาล
ประการที่ 5 ทำลายประชาธิปไตย ปากพูดว่าเป็นนักประชาธิปไตย แต่ใจเป็นเผด็จการ เหยียบหัว เหยียบซากศพประชาชนขึ้นสู่อำนาจ ใช้พรบ.มั่นคง พรก.ฉุกเฉิน จัดการประชาชน เป็นนักประชาธิปไตยจอมปลอม
ประการที่ 6 สุดท้ายนายอภิสิทธิ์ และประชาธิปัตย์ พูดเสมอว่ายามใดที่บ้านเมืองวิกฤต ประชาธิปัตย์มักได้โอกาสเข้ามาบริหารบ้านเมือง พูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ความจริงแล้ว เพราะวิกฤตถึงได้มาเพราะไม่เคยเลือกตั้งชนะ ฉกฉวยโอกาสจากการต่อสู้ของประชาชน ไม่เคยลงแรงร่วมสู้กับประชาชน เหยียบย่ำศพประชาชนทุกครั้ง แล้วพอมาเป็นรัฐบาลแล้วก็ยิ่งซ้ำเติมวิกฤตชาติ มีครั้งไหนบ้างที่ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น มันสะท้อนให้เห็นว่าเป็นสันดานตีกิน เหยียบหัวประชาชนขึ้นสู่อำนาจ เนรคุณประชาชน ของประชาธิปัตย์
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า มาถึงวันนี้ยิ่งหนักกว่าเก่า พรรคการเมืองทุกพรรคในไทยมันจบแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีเลือกตั้งประเทศก็เจริญได้ อย่างในจีน สิงคโปร์ เวียดนาม ปัญหาใหญ่ของประเทศตอนนี้คือการเมือง มันต้องแก้ที่การเมือง ถึงพาประเทศไปสู่เป้าหมายได้
คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย
“สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่านครับ ขอกราบคารวะ สวัสดีงามๆ เพื่อเชิดชูจิตใจกล้าหาญ กล้าต่อสู้ของพ่อแม่พี่น้องทุกคนครับที่มาในวันนี้ และขอปรบมือให้กำลังใจกับพี่น้องชาวไทยที่อยู่ต่างประเทศ และที่อยู่ทางบ้านที่ยืนหยัดให้กำลังใจพวกเราอย่างเหนียวแน่นครับพี่น้อง
ตั้งใจว่าจะยึดโพเดียมเอาไว้จนกว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า ฟังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีว พูดแล้วมันหาสาระไม่ค่อยได้ครับวันนี้ เป็นนายกฯ ที่ไม่มีสง่าราศีไม่มีบารมีสมกับที่จะเป็นผู้นำประเทศไทยเลย เหลือเพียงอย่างเดียวที่เป็นคุณสมบัติอันยิ่งใหญ่และทรงคุณค่าประจำตัวของเขา คืออะไรครับ คือความหน้าด้านอันเป็นอมตะเท่านั้นเอง
พี่น้องที่เคารพรักครับ วันนี้ตั้งแต่เช้าเราก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ ซึ่งไม่น่าคาดคิดว่า รัฐบาลอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งพยายามสร้างภาพ หลอกลวงประชาชน สร้างตัวเอง ขายตัวเองว่าเป็นนักประชาธิปไตย เวลาพูดเวลาปราศรัยจะพูดจาดูดี เรียกว่าอย่างที่คุณสนธิพูดละครับ คือพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่นครับ เวลาพูดดูมีเหตุผลเหลือเกินครับ แล้วก่อนจะมาเป็นนายกฯ พยายามสร้างฝัน สร้างปณิธานให้ประชาชนคล้อยตามว่า ตัวเองจะเป็นนักการเมืองคลื่นลูกใหม่ เป็นนักการเมืองที่มีอุดมการณ์ นี่ผมต้องถือมาเพราะมันเป็นหลักฐานพยาน นี้คือหลักฐานพยานการโกหกตอแหล ที่เป็นลายลักษณ์อักษรของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทุกคำพูด ทุกข้อเขียนที่อยู่ในนี้ ล้วนแต่เป็นคำโกหก หลอกลวง ตอแหล ปลิ้นปล้อน ตลบแตลงกับประชาชนทั้งสิ้นครับ นายอภิสิทธิ์ไม่เคยทำตามสิ่งที่ตัวเองพูดตัวเองเขียนเลย
หรือว่าจะเอาก่อนเลยก็ได้ พี่น้องครับผมให้ฝ่ายรายการเตรียมไว้ ว่าจะเอาไว้ฟังทีหลัง เอาซะก่อนครับเพราะจะได้พูดได้อรรถรส ฝ่ายรายการเตรียมไว้ได้ไหม อยากฟังอีกทีไหมนักประชาธิปไตยจอมปลอม
(VTR: อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)
พี่น้องครับ นี่ไงครับ ถ้าคุณเป็นนักประชาธิปไตยจริง แล้วทำไมจะต้องเอากำลังตำรวจมาสลาย ขับไล่ประชาชนที่มาทำหน้าที่ตามสิทธิของเขาเหมือนอย่างคุณตอแหลอยู่ในสภาฯ ครับพี่น้องครับ มันเป็นเรื่องอัปยศครับพี่น้อง เมื่อเวลาพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาบริหารบ้านเมือง มักจะทำตัวเป็นฝ่ายตรงกันข้ามและเป็นปฏิปักษ์กับประชาชน ไม่เห็นหัวประชาชนเหมือนกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่เคยจำเลยว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ล้มเหลว ไม่ประสบความสำเร็จ เลือกตั้งก็พ่ายแพ้พรรคไทยรักไทยนั้น เพราะอะไรครับ เพราะเอาหมาไปกัดคนจนที่หน้าทำเนียบไง แล้ววันนี้คุณทำอะไร คุณทำเลวยิ่งกว่านายชวนอีก คือ เอาเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งควรมีหน้าที่ปกป้องดินแดนไม่ให้เขมรมายึดครอง ให้เขามารื้อส้วมของประชาชน
พี่น้องครับ ที่นายอภิสิทธิ์พูดวันนี้ ผมจะสรุปให้ฟัง ว่าที่คุณเป็นอยู่ขณะนี้ ไม่ใช่เพียงบกพร่อง ผิดพลาดในการบริหารบ้านเมือง ไม่เพียงโกง ทุจริตเท่านั้น คุณทำความผิดพลาด เสียหายต่อชาติบ้านเมืองร้ายแรงอุกฉกรรจ์ที่สุด รวมแล้ว 7 ประการที่ผมสรุป ไม่ใช่เฉพาะยุคคุณนะ สรุป 65 ปีของพรรคประชาธิปัตย์ ผมจะสรุปให้คุณฟัง ที่ผมต้องสรุปเรื่องนี้ให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนฟัง มีเหตุผล 2 ประการครับ 1. ที่คุณสนธิพูดเมื่อกี้ ว่าการเลือกตั้งคราวนี้ ประชาชน 58% จะไม่เลือกพรรคไหนเลย เพราะเขารู้แล้วว่า พรรคไหนก็เลวเหมือนกันหมด แต่ด้วยเหตุที่มันยังมี 17% บอกว่ายังจะเลือกคุณอยู่ แม้จะเป็นจำนวนน้อยนิด ผมก็ไม่ยอมครับพี่น้อง ผมก็บอกพี่สนธิว่า ผมจะทำให้มันสูญพันธ์ เหลือ 0.00% ครับพี่น้อง ทำไมผมจะต้องทำถึงขนาดนั้น เพราะพรรคการเมืองทั้งหมดในประเทศไทยคือ พรรคขายชาติ ปล้นบ้าน กินเมือง ทรยศประชาชนทุกพรรค และไม่สมควรจะอยู่และมีอำนาจปกครองบ้านเมืองเลย
พี่น้องครับ บ้านเมืองถ้าคนดีเดินตรอกขี้คลอกเดินถนน กระเบื้องเฟื่องฟูลอยน้ำเต่าน้อยถอยจม คนชั่วคนโกงครองเมือง ประเทศนั้นก็บรรลัยฉิบหายแน่เลยครับพี่น้อง ถ้ามีเลือกตั้ง ไม่ว่าท่านจะเลือก หยิบเอาใครมันก็หยิบได้แต่คนเลวทั้งนั้น หาคนดี คนซื่อสัตย์ คนมีคุณธรรมไม่มีหรอกครับ เพราะมันคือโจรห้าร้อย ถ้าฝันของผมเป็นจริง ผมยังฝันว่า ถ้าเลือกตั้งคราวนี้ไม่มีพรรคการเมืองใหม่ไปร่วมสังฆกรรมด้วยจะดีมากครับพี่น้อง เหมือนอย่างที่ประชาธิปัตย์เคยใช้วิธีการบอยคอตไม่ยอมไปลงเลือกตั้งกับพรรคไทยรักไทย จำได้ไหมครับพี่น้อง เพราะพรรคไทยรักไทยยุบสภาเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น วันนี้ถ้ายุบสภาแล้วมีการเลือกตั้ง มันก็เป็นแต่เพียงเอาโจรไปผัดหน้าทาแป้ง แต่งตัวเป็นพระเอกลิเกโจรอีกชุดใหม่เท่านั้นเองครับพี่น้อง มันไม่มีอะไรดีขึ้นสำหรับบ้านเมือง
ที่ผมจะทำให้มันเหลือไม่ถึง 5% หรือ 0.00% ก็อยากจะเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ มาดูความเป็นจริงของบ้านเมืองด้วยกัน พรรคอื่นเราไม่ต้องพูดถึง เพราะเรารู้แล้วว่ามันเลวจริง เป็นพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของกลุ่มทุนกลุ่มธุรกิจ นายทุนนักการเมือง เป็นตัวแทนของนักธุรกิจการเมือง อ.พิภพ อาจจะเรียกว่า เป็น ธนาธิปไตย เป็นเรื่องกลุ่มธุรกิจการเมือง พรรคชาติไทยพัฒนา ก็มีหลงจู๊เป็นเจ้าของ พรรครวมใจชาติพัฒนา ของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ก็เป็นเจ้าของ พรรคเพื่อแผ่นดินก็มีเจ้าของ พรรคภูมิใจไทย ก็มีเถ้าแก่มีนายทุนขุนนาง นักการเมือง กลุ่มธุรกิจผูกขาด เป็นเจ้าของ พรรคประชาธิปัตย์ก็มีกลุ่มทุนธุรกิจการเมือง เป็นเจ้าของ มีเถ้าแก่เหมือนกันครับพี่น้อง ไม่ต่างกันเลย แต่คนส่วนหนึ่งที่ยังหลงใหลศรัทธาในอุดมการณ์ของพรรคนี้ วันนี้ไม่ใช่ว่าผมจะมาเผาเรือน แต่ว่าใครก็ตามที่เป็นพรรคการเมืองชั่ว พรรคการเมืองโกง ผมถือว่าไม่ใช่บิดา มารดาผม และไม่เคยมีบุญคุณกับผมครับพี่น้องครับ พรรคการเมืองไม่ใช่บุพการีของประชาชน พรรคการเมืองไม่ใช่พ่อแม่ของเรา พรรคการเมืองถ้าโกงบ้านกินเมือง ขายชาติ ก็ควรโค่นล้มมัน ขุดรากถอนโคนให้หมดจากแผ่นดิน วันนี้ต้องพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ และหวังว่าบรรดาพวกประชาธิปัตย์อย่าเสือกมาทวงบุญคุณกับนายประพันธ์ คูณมี เพราะคุณไม่ใช่พ่อแม่ผม ไม่ใช่บุพการีผม และพรรคไม่มีบุญคุณอะไรกับผม พูดกันซะให้ขาด มีแต่คุณแหละเป็นหนี้บุญคุณผมคนเดียว ผมไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณคนของพรรคประชาธิปัตย์ จำเอาไว้
พี่น้องครับ ที่ผมต้องพูดเพราะอะไรครับ เพราะรอมานานแล้ว เราชุมนุมมาจะ 2 เดือนอยู่แล้ว ผมก็นึกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีสำนึกที่จะแก้ไขปัญหาของคนในพรรคของตัวเองที่ทำให้บ้านเมืองล่มจม ฉิบหายขายชาติ ขายแผ่นดิน นึกว่าจะจัดการกับนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ แต่กลับทำเป็นหูทวนลม ไม่สนใจใยดีกับพฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ที่กระทำย่ำยีกับชาติบ้านเมือง หนำซ้ำลับหลังอาจจะให้ท้าย 2 คนนี้ด้วยซ้ำ คนในพรรคประชาธิปัตย์ คุณยังมีความเป็นคนเหลืออยู่รึเปล่า ถ้าคุณมีความเป็นคนเหลืออยู่ ก็เห็นแล้วว่าพรรคของคุณกำลังพาชาติบ้านเมืองล่มจมฉิบหาย ใช่ไหมครับ ทำไมไม่จัดการกับคนของคุณ เวลาที่พรรคอื่น คนอื่นทำบ้านเมืองเสียหาย พวกคุณกระโดดออกมากัดเขา รวมกันกัดเขา วิพากษ์วิจารณ์ อภิปรายสาดเสียเทเสีย เปิดโปงเป็นตุเป็นตะ แต่พอคนของคุณทำบ้านเมืองฉิบหาย ทำเงียบ หูทวนลม ไม่เอ่ยปากแม้แต่คนเดียวครับ อ้างว่าไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าไม่รู้จะทำอย่างไรก็ไปโดดน้ำตาย ผูกคอตายซิ เป็นพรรคการเมือง หัวหน้าพรรค เลขาฯ พรรค กรรมการบริหารพรรค กำลังลากดึงประเทศไปลงนรก เข้าสู่ความหายนะแล้วหุบปากนิ่งเฉยกันอยู่ทั้งพรรค ทะลึ่งจะมาอาสาตัวบอกเป็นพรรคที่จะมาบริหารบ้านเมืองเพื่อประโยชน์ของประชาชน เพื่อประชาชนมาก่อน ทั้งๆ ที่คุณกำลังทำให้ประเทศ และประชาชนตายก่อนคุณทั้งนั้นเลยครับ
พี่น้องครับ เรื่องที่อยากจะพูดคุยกับพี่น้อง เพราะผมยังเชื่อว่ามีคนอีกจำนวนหนึ่งยังคิดว่า ยังมีพรรคการเมืองที่ดี หรือเลวน้อย เหลืออยู่ ความจริงแล้วมันไม่มีเลยครับ ไม่มีจริงๆ แม้แต่พรรคเดียว เอาละอาจจะมีบางคนคิดว่ายังมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ดีอยู่พรรคหนึ่ง ผมจะบอกให้ครับ ผมสรุปความเลวร้ายของพรรคนี้ในรอบ 65 ปีให้ท่านฟัง แล้วท่านจะถึงบางอ้อครับ
ข้อที่ 1.พรรคนี้ตั้งขึ้นมาและมีอุดมการณ์จอมปลอม คือ เป็นพวกลิงหลอกเจ้า บ่าวหลอกนาย นี่ประการที่ 1 ทำไมถึงบอกว่าเป็นพวกลิงหลอกเจ้า ตั้งพรรค เอาวันตั้งพรรค คือ 6 เมษายน 2489 วันจักรี ทำไมต้องเอาวันนั้น ก็หวังว่าจะทำให้สถาบันสูงสุดเชื่อว่าตัวเองเป็นพรรคที่จะมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์สู้กับคณะราษฎร์ครับพี่น้อง เพราะคณะราษฎร์มีการขอให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่แท้จริงแล้วคณะราษฎร์ต้องการนำบ้านเมืองไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต้องการระบอบประชาธิปไตยของประชาชน แต่ที่เป็นระบอบประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชนไม่ได้ เพราะมาเจอพรรคลิงหลอกเจ้าบ่าวหลอกนาย อย่างพรรคประชาธิปัตย์นี่ไงครับ บิดเบือน นำพาประชาธิปไตยของประเทศไปสู่กลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มขุนนาง ที่สูญเสียอำนาจเพื่อให้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง พรรคนี้พยายามแสดงภาพว่าเป็นพรรคที่จงรักภักดี ยืนอยู่ฝั่งเจ้า พี่น้องครับ โดยความเป็นจริงแล้ว พรรคนี้ไม่เคยปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่เคยปกป้องเจ้าแม้แต่นิดเดียว ผมกล้าพูดเพราะอะไรครับ ไม่เคยครับ มีแต่อิงแอบเจ้าและอาศัยเจ้ามาเป็นเครื่องมือทางการเมืองให้กับตนเอง หาความดีความชอบใส่ตนเองมาตลอดถ้าดูประวัติศาสตร์ครับพี่น้อง
กรณีแรกครับพี่น้อง โจมตีนายปรีดี พนมยงค์ ทุกคนจำได้ประเด็นนี้ และหาประเด็นมาใส่ร้ายป้ายสี โจมตีว่า นายปรีดี พนมยงค์ รอบปลงพระชนม์รัชกาลที่ 8 ในหลวงสมัยนั้น โดยเอาคนไปตะโกนในโรงหนัง สร้างให้เป็นกระแสการเมืองว่า นายปรีดี ฆ่าในหลวงครับ นี่คือความเลวในการอาศัยสถาบันมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมือง
2. เมื่อสามารถโค่นล้มกลุ่มอำนาจของนายปรีพี พนมยงค์ ไปได้แล้ว ก็พยายามกำจัดฝ่ายปรปักษ์ทางการเมืองของตัวเอง นั่นคือ สมัยจอมพลป. พิบูลสงคราม ทำการปฏิวัติ ความเป็นจริงนะครับพี่น้อง สมัยจอมพลป. พิบูลสงคราม นั้น ผมอยากให้พี่น้องไปอ่านประวัติศาสตร์ สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกลดบทบาทลงอย่างมากครับ แต่เมื่อจอมพลป. ปฏิวัติ นายควง ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วพรรคประชาธิปัตย์ช่วยทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดีขึ้นไหมครับ มีเกียรติภูมิสูงเด่นไหมครับ ไม่มีเลยครับ นี่คือปัญหา พอจอมพลป. ปฏิวัติ ก็ยืมมือจอมพลป. สังหารคู่ปรปักษ์ทางการเมือง นั่นคือ ในยุคสมัยนั้น นักการเมืองอีสาน 4 รัฐมนตรี นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ นายจำลอง ดาวเรือง นายเตียง ศิริขันธ์ นายถวิล อุดล นายทองเปลว ชลภูมิ คนพวกนี้ถูกสังหารในยุคสมัยที่จอมพลป. ปฏิวัติ และร่วมมือกับนายควง อภัยวงศ์ ในขณะนั้นครับพี่น้อง ดูซิครับ ไม่ต่างอะไรกับที่ประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นรัฐบาล สนธิถูกสังหาร เพราะเขาเห็นว่า กลุ่มของนายปรีดี กลุ่มพรรคคุณทองอินทร์ ภูริพัฒน์ และพวกนั้นเป็นปฏิปักษ์ เหมือนกับที่เขาเห็นว่า เสื้อเหลือง เสื้อแดงก็เป็นตัวปัญหาสำหรับการอยู่ในอำนาจของพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่เขาขึ้นสู่อำนาจ พฤติกรรมเหมือนกันเลย
เมื่อเป็นอย่างนี้ พี่น้องครับ สมัยจอมพลป. บทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ถูกลดลง พรรคประชาธิปัตย์ที่อ้างตัวเองว่าตั้งมา เมื่อวันที่ 6 เมษายน วันจักรี ทำตัวเหมือนกับคนที่จะมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เหมือนกับวันที่นายอภิสิทธิ์ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าเป็นนายกฯ ได้แถลงการณ์ ได้ปราศรัยกับประชาชนที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า ตัวเองจะออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ยุติการเมืองที่ล้มเหลว ใช่ไหมครับพี่น้อง จำได้ไหมครับ แล้วเป็นไงครับ ปรากฏว่า ตั้งแต่วันนั้นมาถึงวันนี้ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ทำอะไรเลยที่แสดงออกซึ่งการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้แต่น้อยครับพี่น้อง
และข้อเท็จจริงก็คือว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกโจมตี ถูกจาบจ้วงละเมิดอย่างร้ายแรงที่สุด ไม่เคยมียุคไหนสมัยไหนที่สถาบันพระมหากษัตริย์จะถูกล่วงเกินขนาดนี้ มีการเผยแพร่ โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์เวลานี้ไปตามห้องน้ำ ไปตามชุมชน ไปตามเว็บไซต์ต่างๆ เกลื่อนเมืองไปหมด รัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่เคยทำอะไรเลยในเรื่องนี้ มิหนำซ้ำ แกนนำเสื้อแดงที่หัวรุนแรง ก่อการร้าย หรืออยู่ในรายชื่อของกระบวนการล้มเจ้า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ปล่อยออกมาจากคุกหมด นี่คือพฤติกรรมของเขา
ที่ผมเจ็บปวดที่สุดคืออะไรครับ อยากจะบอกไปถึงพี่ชวน ผมไม่อยากจะพูดถึงท่านในช่วงที่ผ่านมา เพราะอยู่ในช่วงเวลาที่ท่านอาจจะต้องมีความเศร้าโศกกับการสูญเสียมารดา แต่วันนี้ขออนุญาตพูดถึง ที่เจ็บปวดที่สุดคืออะไรครับพี่น้อง เรื่องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์นี้ ในวันที่ก่อนจะมีการชุมนุม 193 วัน ผมได้ไปทานข้าวกับท่านที่ห้องทำงานที่พรรคประชาธิปัตย์ ท่านเอาเทป เอาซีดีที่บรรดากลุ่มแกนนำฮาร์ดคอร์เสื้อแดง ทั้งแต่งเพลง ทั้งปราศรัยด่าโจมตีป๋าเปรม ด่าพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูงอย่างรุนแรงที่สุด ท่านนายกฯ ชวนเป็นคนบอกกับผมว่า ประพันธ์ต้องออกไปสู้ไปพูดหน่อย เพราะประพันธ์พูดชาวบ้านเข้าใจ คนเชื่อถือ ประพันธ์จะรู้ทันพวกนั้น ผมก็รับปาก พี่ไม่ต้องห่วง เรื่องชาติ เรื่องบ้านเมือง เรื่องสถาบัน ผมขอเอาชีวิต ผมพร้อมสู้ และผมก็สู้มาตลอด เมื่อท่านให้กำลังใจ ให้เนกไทมา ให้ภาพมา ภาพสวยงาม เนกไท 5 เส้น ซึ่งผมเคยพูดไปแล้วนั้น ผมกลับมาผมก็มาร่วมต่อสู้กับพี่น้องประชาชน 193 วัน 193 วันผมยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อ.สมเกียรติ ก็เป็นสมาชิกประชาธิปัตย์ ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายคนมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่ในเวที มาร่วมชุมนุม แต่ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่เสือกบอกว่า พวกกูไม่มีจุดยืนบ้างวะ แล้ววันนี้มาด่า อ.สมเกียรติ ไม่มีจุดยืน ถ้าพวกกูไม่มีจุดยืน ลื้อจะได้เป็นนายกฯ หรือ
ที่นี้ที่มีความเจ็บปวดคืออะไรครับ พวกเราออกมาสู้เสร็จแล้ว วันนี้คุณได้เป็นรัฐบาล คุณได้เป็นนายกฯ ทำไมนายกฯ ชวนไม่บอกให้นายอภิสิทธิ์จัดการกับขบวนการล้มเจ้า พวกที่คิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ วันนั้นผมเข้าใจได้พรรคเป็นฝ่ายค้านยังไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่วันนี้คุณเป็นรัฐบาล อำนาจรัฐอยู่ในกำมือของคุณแล้ว ทำไมคุณไม่จัดการกับคนชั่ว คนคิดล้มล้างชาติบ้านเมือง ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ นายชวนทำไมไม่จิกหัวนายอภิสิทธิ์ แล้วสั่งให้ลื้อไปจัดการเรื่องนี้ เพราะอำนาจรัฐอยู่ในมือแล้ว ทำไมปล่อยปละบ้านเมืองมาจนถึงขนาดนี้ ผมได้มีโอกาสไปกราบสวัสดีปีใหม่ ฯพณฯพล.อ.เปรม ท่านยังพูดด้วยความไม่สบายใจเลยว่า ทำไมรัฐบาลปล่อยให้เรื่องแบบนี้ แถมยังบอกให้ พล.อ.เปรม ถ้าถูกด่าถูกวิพากษ์วิจารณ์โจมตีไปถึงสถาบันองคมนตรี ก็ให้ท่านไปฟ้องเอาเอง มันเป็นความอัปยศที่สุดที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ขนาด ฯพณฯพล.อ.เปรม เป็นรัฐบุรุษ เป็นคนสงขลา เป็นคนใต้ เป็นคนที่มีบุญคุณมากมายกับพรรคประชาธิปัตย์ มันยังไม่ดูดำดูดี ฯพณฯองคมนตรีเลยครับพี่น้อง มันปล่อยให้พวกนั้นจิกหัวด่าท่านเสียๆ หายๆ ผมถึงบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ปากปราศรัยจิตใจเชือดคอ ตอแหลตลบแตลง โกหกปลิ้นปล้อน อย่างเดียวหาความเชื่อถือไม่ได้ เป็นทั้งพรรคไม่ใช่คนใดคนหนึ่งเลยครับพี่น้อง มันน่าเสียใจไหมครับ นี่คือเรื่องที่ไม่ปกป้องสถาบัน ทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้าบ่ายหลอกนาย วันนี้เหมือนกัน พออภิสิทธิ์เป็นนายกฯ บอกจะปกป้องสถาบัน เป็นนายกฯ ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ถวายรายงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงให้นั่งถวายรายงานในลักษณะที่ให้เกียรติอย่างมาก แต่หามีความสำนึกไม่ จนกระทั่งวันนี้ นายอภิสิทธิ์ไม่เคยทำอะไรที่แสดงออกถึงความกล้าหาญในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นแต่เพียงเอาภาพเหล่านั้นมาตีกินแล้วหาประโยชน์ทางการเมืองให้กับตัวเอง และน่าอัปยศที่สุดเท่านั้นเองครับ สร้างภาพปล่อยข่าวว่าทรงโปรด ทรงพระกรุณามากกับการที่นายอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ ตอแหลบัดซบครับพี่น้อง ผมจำเป็นต้องพูด เพราะมันเลวอย่างหาที่ติไม่ได้อย่างนี้ คนที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในใจของประชาชน และครองใจประชาชน เป็นที่เคารพนับถือของพสกนิกรเท่าทุกวันนี้คือใครครับ กลายเป็นนายพลลูกอีสาน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่เป็นคนฟื้นฟู เชิดชู ยกย่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้สมกับเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ยุคจอมพลสฤษดิ์ เป็นต้นมา พระมหากษัตริย์เสด็จออกเยียมเยียนพสกนิกร พบปะพี่น้องประชาชนในถิ่นทุรกันดาร มีโครงการพระราชดำริมากมาย ออกไปพบปะประชาชน ยุคก่อนหน้านั้นถูก จะเรียกว่าแทบไม่ได้ออกปฏิบัติภารกิจที่สำคัญ พบปะประชาชนเลย เพราะมีการเมืองจะพยายามจะลิดรอนสถาบัน และอำนาจของพระมหากษัตริย์ครับ นี่คือประเทศไทย ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ปกป้องสถาบัน บรรดาเจ้า บรรดาไฮโซ บรรดาราชนิกุลที่เป็นแม่ยกประชาธิปัตย์ คือพวกตีกินทางการเมือง ไม่เคยทำอะไรในการปกป้องสถาบัน จำเอาไว้ครับพี่น้อง พวกนี้มาตีกินเท่านั้น เวลาจะมีคนมาทำร้ายสถาบัน ออกรบออกต่อสู้ มีแต่พวกเราที่ออกหน้า เวลาได้อำนาจได้ประโยชน์ทางการเมือง พวกเลวระยำเหล่านั้นที่ไปเอาผลประโยชน์ทั้งหลาย แหมพอลูกตัวเองหม่อมราชวงศ์นั้น หม่อมราชวงศ์นี้ ลูกตระกูลนั้นได้เป็นนายกฯ ได้เป็นรัฐมนตรี โอ้โหแซ่ซ้องสรรเสริญ ทั้งๆ ที่ทำงานสุนัขก็ไม่รับประทานครับพี่น้อง
วันนี้บ้านเมืองฉิบหายเพราะคนหยิบมือเดียว ผมจะบอกให้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ประวัติศาสตร์โลกก็ได้ สถาบันพระมหากษัตริย์ทั่วโลกที่ล้มลง เพราะบรรดาขุนนางกังฉิน พวกขันทีสอพลอทั้งนั้นที่ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ล่มสลาย วันนี้ยังมีพวกขุนนางประเภทนี้อยู่ ไม่ได้สู้จริง ใครเอาประโยชน์มาให้ก็กระโดดงับ แต่คนที่สู่จริงคือพวกเราพี่น้องประชาชน และทหารอย่างจอมพลสฤษดิ์ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และผมยังเชื่อว่าจะมีทหารที่ทำตัวเยี่ยงจอมพลสฤษดิ์ อยู่มากมาย และเป็นกองทัพที่ค้ำบัลลังก์สถาบันพระมหากษัตริย์จริงๆ ครับพี่น้อง ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาแรกๆ รำมวยป้อ จะปราบขบวนการล้มเจ้า ใครหมิ่นสถาบันผมไม่เลี้ยง วันนี้เงียบฉี่ หายไปไหนครับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้าอีกคนหรอ เพราะฉะนั้นทหารส่วนใหญ่ผมยังเชื่อมั่น แต่ทหารบางคนนั้นผมคิดว่ามีปัญหา คุณอาจจะเห็นว่า ยุคนี้ ถ้าเป็นยุคก่อนเขาเรียกว่า 10พ่อค้าไม่สู้ 1 พระยาเลี้ยง วันนี้ 10 พระยาเลี้ยงไม่สู้ 1 พ่อค้า ทหารบางคนถึงได้ลืมภารกิจของตัวเองและเห็นแก่ประโยชน์ เศษเงินที่นักการเมืองหรือนายทุนฟาดใส่หัว นี่คือประเด็นที่ 1 ที่ผมอยากจะพูดกับพี่น้องว่า 65 ปีของพรรคประชาธิปัตย์ คือพรรคตีกิน อิงแอบเจ้า อ้างเจ้าสร้างความดีความชอบให้ตัวเอง แต่ไม่เคยปกป้องเจ้า ปกป้องสถาบันเลยแม้แต่น้อยครับ
ประการที่ 2 พี่น้องครับ ตั้งแต่มีพรรคการเมืองของประเทศไทยมา ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่ได้ชื่อว่าเป็นพรรคขายชาติขายแผ่นดิน พี่น้องไปเปิดดูประวัติศาสตร์การเมือง มีพรรคเดียวที่ถูกตราหน้าว่า ขายชาติขายแผ่นดิน คือ พรรคประชาธิปัตย์ ครับพี่น้องพี่น้องไปค้นดูประวัติศาสตร์เลย อย่างเก่งก็บอกว่า พรรคนี้เผด็จการ พรรคนี้โกง พรรคนี้ทุจริต พรรคนี้บริหารบ้านเมืองล้มเหลว เอื้อประโยชน์ให้ตนเองพวกพ้อง แต่พรรคการเมืองที่จะถูกประณามว่าขายชาติขายแผ่นดินนั้น มีพรรคการเมืองพรรคเดียว คือ พรรคประชาธิปัตย์ เท่านั้นครับ
ที่ว่าขายชาติขายแผ่นดินนั้นคืออย่างไรครับ นี่ผมรวบรวมสรุปมาอย่างรวดเร็ว เพื่อให้พี่น้องได้เข้าใจ นายชวน หลีกภัย ได้รับพระบรมราชโองการเป็นนายกฯ เมื่อ 23 กันยายน 2535 แล้วต้องยุบสภา เมื่อ 2 กรกฎาคม 2538 มาเป็นนายกฯ อีกครั้งเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2540 หลังจากนั้นลาออก แล้วพล.อ.ชวลิต มาเป็นนายกฯ เมื่อ 6 พฤศจิกายน 2540 หลังจากการลาออกของ พล.อ.ชวลิต นายชวนก็มาเป็นนายกฯ อีกรอบ คือ 6 พฤศจิกายน 2541 มี พล.ต.สนั่น เป็นเลขาฯ
พี่น้องครับ ผลงานอัปยศที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกตราหน้าว่าเป็นพรรคขายชาติ คือ อะไรครับ 1.ปัญหา ส.ป.ก.4-01 ที่เอาไปให้เศรษฐี นี่อันหนึ่งขายแผ่นดิน และวันนี้ประชาธิปัตย์ทำต่อเนื่องอีก คือ จะเอา ส.ป.ก.4-01 ไปทำเป็นโฉนดทั่วประเทศ แล้วยอมให้นายทุนเอาที่ดิน ส.ป.ก.ไปตั้งโรงงานไฟฟ้าเป็นหมื่นๆ ไร่ แปรรูป ส.ป.ก.ไปเป็นประโยชน์กลุ่มทุน และแปรที่ดินของกลุ่มนายทุนที่ยึดไว้เป็นแสนๆ ไร่ ให้ออกเป็นโฉนดให้หมดทั้งประเทศ นี่คือขายแผ่นดินให้กับกลุ่มทุนของตัวเองครับพี่น้องครับ
จากนั้นมา 40 25 พฤศจิกายน 8 ธันวาคม 2540 มีการไปลงนามกู้เงินจาก IMF สมัยธารินทร์ นิมมานเหมินท์ แล้วมีการจัดตั้งองค์การปฏิรูปสถาบันการเงิน (ปรส.) ขึ้นมา แต่ไปจ้างบริษัทต่างชาติมาเป็นที่ปรึกษา ปี 40 เศรษฐกิจล่ม พรรคประชาธิปัตย์ไปจ้างบริษัทต่างชาติมาเป็นที่ปรึกษา ตอนหลังบริษัทที่ปรึกษาทั้งหลาย กลายเป็นบริษัทที่ไปประมูลซื้อหนี้สินของ ปรส.มาทั้งหมด 3 บริษัท เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง 8 ธันวาคม 40 ประกาศปิดสถาบันการเงินเป็นการถาวร 23 มกราคม 41 เพิ่มทุนลดทุนธนาคารศรีนคร 6 กุมภาพันธ์ 41 ลดทุนเพิ่มทุน เปลี่ยนผู้บริหารธนาคารมหานคร ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ 23 กุมภาพันธ์ จัดตั้งธนาคารรัตนโกสินทร์ ในช่วงเวลานั้น เมื่อเศรษฐกิจล่ม สถาบันการเงินถูกปิด พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปมีบทบาทในการจะจัดตั้งองค์การปฏิรูปสถาบันการเงิน และไปจ้างบริษัทที่ปรึกษาจากต่างประเทศมาเป็นที่ปรึกษาจัดการเรื่องนั้น
พี่น้องครับ เรื่อยมา 24 กุมภาพันธ์ 41 กู้เงิน IMF 10 เมษายน ประกาศใช้ พ.ร.บ.ล้มละลาย และการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ การประกาศใช้กฎหมายล้มละลายใหม่นั้น เป็นการเปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาฟื้นฟูและมาซื้อกิจการของคนไทยได้ด้วย 7 พฤษภาคม ออก พ.ร.ก.กู้เงินจากต่างประเทศ 18 พฤษภาคม 41 ลดทุนเพิ่มทุนบริหารบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ไล่มาเรื่อย อยู่ในช่วงของการที่ประเทศไทยเข้าโปรแกรม IMF ในยุคท่านนายกฯ ชวน ที่สำคัญครับ รัฐบาลยุคนั้นมีความมุ่งมั่นที่จะขายธนาคารพาณิชย์ของไทยทุกธนาคารออกไปให้ต่างชาติเข้ามาครอบครอง และจะขายโรงงานผลิตไฟฟ้า แปรรูปบริษัทการบินไทย ขายสนามบินพาณิชย์ของไทย 5 แห่ง ขายโรงกลั่นน้ำมันบางจาก อย่างนี้ละครับที่เขาเรียกว่า เปิดประตูให้ต่างชาติเข้ามาครอบงำเส้นเลือดเศรษฐกิจของประเทศ เข้าทำนองขายชาติขายแผ่นดินไงครับพี่น้อง
ขณะเดียวกัน ราคาพืชผลทางการเกษตรของประชาชนตกต่ำ อัตราเงินเฟ้อ การว่างงาน เรียกว่าตกงานกันระเนระนาด ยาเสพติดระบาด การทุจริตก็เกิดขึ้นเหมือนกันในยุคสมัยนั้น การทุจริตที่ฉาวโฉ่ ที่ดังที่สุดคือ การทุจริตของกระทรวงสาธารณสุข นายรักเกียรติ สุขธนะ การทุจริตต่อมาก็คือ พืชผักสวนครัวรั้วกินได้ นายชวน หลีกภัย ไปเยือนประเทศกัมพูชายุคนั้น ประเทศกัมพูชามีประชาชนชาวกัมพูชามาเผาธงชาติไทยประท้วง นับเป็นผู้นำนายกฯ คนแรกของประเทศไทย ที่ถูกเผาธงชาติประท้วงโดยเขมร ผมจะสรุปผลงานของท่านให้ฟัง นี่ทำให้กระเทือนถึงเกียรติภูมิของชาติ และสืบเนื่องต่อมาจนกระทั่งยุคทักษิณ ประเทศไทยต้องถูกเผาสถานทูต
พี่น้องครับ ต่างชาติหลบหนีเข้ามาทำงานแย่งอาชีพคนไทย แต่ที่สำคัญคือ เกิดวิกฤตเศรษฐกิจของบ้านเมือง รัฐบาลนำธนบัตรออกมาขายเพื่อระดมทุนมาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ปรากฏว่ารัฐบาลระดมทุนไม่ประสบความสำเร็จ รัฐบาลชวนสมัยนั้น คนที่ระดมทุนเพื่อเอาเงินมาช่วยประเทศ และช่วยเงินคงคลังของประเทศ และประสบความสำเร็จ กลายเป็น หลวงตามหาบัว ครับพี่น้อง ซึ่งเหตุครั้งนั้นได้ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างหลวงตามหาบัว ฝ่ายญาติโยมของหลวงตามหาบัว มีความขัดแย้งกับฝ่ายการเมืองสมัยนั้น ซึ่งมันไม่น่าจะมีความขัดแย้ง มันก็เหมือนตอนนี้ละครับพี่น้อง พวกเรามาสู้เพื่อชาติ กู้บ้านกู้เมือง นายอภิสิทธิ์ควรร่วมมือกับเราสู้ สมัยนั้นก็เหมือนกันครับ หลวงตามหาบัว รวบรวมเงินทอง ทองคำ ดอลลาร์ เพื่อช่วยชาติ ปรากฏว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ นายกฯ ชวน นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ แทนที่จะร่วมมือช่วยเหลือหลวงตามหาบัว ทำตามความประสงค์ของประชาชน ญาติโยม กลับกลายเป็นเปิดศึก มีความขัดแย้งกับหลวงตามหาบัว สงสัยตอนนั้นตกอยู่ใต้อิทธิพลของต่างชาติ เพราะถ้าประเทศไทยเข้มแข็ง มีเศรษฐกิจฟื้นฟู ต่างชาติเข้ามายึดครองกิจการของคนไทยไม่ได้ นั่นไงครับพี่น้อง ก็เหมือนกับวันนี้ ถ้ารัฐบาลกับประชาชนสามัคคีร่วมมือกันเข้มแข็ง ฮุน เซน ก็ไม่สามารถยึดครองแผ่นดินไทยได้ ใช่ไหมครับพี่น้อง
ด้วยเหตุนี้จึงมีการสอบถาม เพราะว่า กองทุนของหลวงตาต้องการนำเงินไปฝากไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นทุนสำรองของชาติ แต่ปรากฏธนาคารชาติยุคนั้น หม่อมเต่า นายธารินทร์ไม่ทำตามวัตถุประสงค์ นายกฯ ชวนไม่ใส่ใจ ไม่ได้ดูแล ไม่ทำตามวัตถุประสงค์ จึงมีการสอบถามไปหลายครั้ง มีการตรวจสอบหลายครั้ง จนเกิดปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบาล รัฐมนตรีคลัง ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ กับฝ่ายหลวงตามหาบัว พี่น้องครับ อันนี้แหละจึงเป็นที่มาที่หลวงตาท่านเทศน์ แล้วคุณสนธิมาบอกว่า ท่านแช่งไว้ว่า 5 คนมันจะต้องตกนรกครับพี่น้อง 5 คนผมไม่ต้องบอกครับ อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์หมดทั้ง 5 คน
หลังจากนั้น พฤติกรรมขายชาติก็คือ ออกกฎหมาย 11 ฉบับ อย่างที่คุณสนธิพูดไปแล้ว คุณอัมรินทร์ก็พูดไปแล้ว 11 ฉบับนั้นเป็นกฎหมายขายชาติ ที่สำคัญที่สุดก็คือ กฎหมายประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และ พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ นั่นก็คือ แปรรูปรัฐวิสาหกิจให้ตกเป็นของกลุ่มทุนและต่างชาติหมด พร้อมกับเปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาเทคโอเวอร์ครอบงำกิจการการเงินการธนาคารของประเทศไทย และมาซื้อทรัพย์สินของประเทศไทย ที่ประชาชนไทยล้มละลาย ในราคาถูกๆ แล้วมาขายเอากำไรอย่างมหาศาลครับ
พฤติกรรมทั้งหมดที่ผมพูดมานี้ จึงเป็นพฤติกรรมที่เรียกว่า เป็นการขายชาติครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งแรกที่พรรคประชาธิปัตย์กระทำกับประเทศไทย องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน ได้ว่าจ้างต่างประเทศ คือ เลห์แมนบราเดอร์ เป็นที่ปรึกษาในการจัดประมูลทรัพย์สินให้กับองค์การเพื่อการปฏิรูปสถาบันการเงิน แต่บริษัทเลห์แมนบราเดอร์ โฮลดิ้ง กลับกลายมาเป็นผู้ร่วมประมูลใหญ่ ที่กวาดเอาทรัพย์สินของคนไทยไปได้มากกว่าแสนล้านบาท ครับพี่น้องครับ การประมูลสินทรัพย์ขององค์การเพื่อการปฏิรูปสถาบันการเงิน ได้บริษัท โกลด์แมน แซกส์ บริษัท จีอี แคปปิตอล(ประเทศไทย) บริษัทเลห์แมนบราเดอร์ โฮลดิ้ง ที่มีบทบาทประมูลสินทรัพย์รายใหญ่ ในราคาต่ำทั้ง 3 บริษัท เป็นบริษัทของอเมริกันทั้งนั้น นี่คือการเปิดทางให้ต่างชาติฮุบกิจการของคนไทยด้วยราคาถูก โดยรัฐบาลไม่เคยช่วยคนไทยเลย ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่เคยช่วยคนไทย ไม่เคยช่วยวีระ ราตรี เหมือนทุกวันนี้ไม่มีผิดเลยครับ แต่ตอนนั้นเป็นการมาปล้น มายึดครองเศรษฐกิจของประเทศไทยและของคนไทยครับ
ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ พี่น้องครับ นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่พรรคการเมืองอย่างพรรคประชาธิปตย์ถูกประณามว่าเป็นพรรคที่ขายชาติและขายแผ่นดิน การที่นายชวน รัฐบาลแม้จะมีดรีมทีมเศรษฐกิจ ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาช่วยคนไทยได้เลยขณะนั้น สมบัติของชาติถูกขายออกไป กิจการดีๆ ถูกต่างชาติเข้ามาซื้อในราคาถูก คนไทยได้แต่มองตาปริบๆ ครั้นจะไปซื้อกิจการตัวเองคืนมาในภายหลัง ก็ต้องซื้อในราคาแพงครับ นี่คือความเจ็บปวดของคนไทยเพื่อนร่วมชาติที่โดนพรรคประชาธิปัตย์ย่ำยีมาแล้วครับพี่น้อง
พี่น้องที่เคารพรักครับ นี่คือพฤติกรรมที่ผมบอกเป็นการขายชาติ นี่คือพฤติกรรมอันที่ 2 และที่เป็นการขายแผ่นดิน ก็มาบรรจบกับเหตุการณ์คราวนี้ไงครับ คราวที่แล้วขายชาติ คราวนี้ขายแผ่นดิน จึงเป็นพรรคที่ถูกประชาชนประณามว่า ขายชาติขายแผ่นดินในกรณีปราสาทพระวิหาร ผมแทบไม่ต้องพูดถึงอีกแล้ว เพราะพี่น้องรู้ดีแล้วว่า พฤติกรรมของรัฐบาลนี้คือ สมคบกับฮุน เซน ปล้นแผ่นดินไทยและเอกราชอธิปไตยของพวกเราไปครับพี่น้อง และผมเชื่อว่า เขารู้ว่าแผ่นดินไทยจะต้องเสียให้กับกัมพูชา เสียอำนาจอธิปไตยให้กับกัมพูชา ทำไมเขาทำครับ ผมพูดไปแล้ว แสดงว่าพรรคการเมืองนี้ คนในรัฐบาลนี้ และกลุ่มทุนที่สนับสนุนรัฐบาลนี้ ต้องการจะจับมือ ร่วมมือกับฮุน เซน หาประโยชน์โดยตกลงกันโดยมีข้อแลกเปลี่ยน ถ้ารัฐบาลไทยยอมให้กัมพูชามาตั้งทหาร ขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้ แสดงว่าต้องมีนักการเมือง นักธุรกิจไทยได้ประโยชน์ในกัมพูชามหาศาล เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกัน ผมไม่เชื่อว่า นายสุเทพ นายประวิตร นายอภิสิทธิ์ จะแกล้งโง่ยอมเสียแผ่นดินให้กัมพูชาเปล่าๆ อย่างแน่นอน แสดงว่าต้องสมคบกันหาประโยชน์ ด้วยการขายเอกราชอธิปไตยของประเทศไทย แล้วปกปิดไม่ให้คนไทยรู้
พี่น้องครับ การมาสลายเราวันนี้ เป็นเพราะนายอภิสิทธิ์ถูกกดดันมาจากนายฮุน เซน ครับพี่น้อง เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ พล.อ.ประวิตร ไปรับปากกับเขา แต่มันไม่บอกเราว่า มันไปตกลงอะไรกันเท่านั้นครับพี่น้อง แน่นอนเลยครับ เพราะนายฮุน เซน มันทวงและมันด่ารัฐบาลนี้อยู่ตลอด ทำไมปล่อยให้เวทีพันธมิตรฯ เปิดเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลและด่าไปถึงรัฐบาลฮุน เซนด้วย แสดงว่ารัฐบาลนี้คงไปรับปากแล้วว่าจะไม่ยอมให้มีการเปิดเวทีแบบนี้ มันจึงกระเหี่ยนกระหือรือที่จะมารื้อส้วมของพวกเราทุกวัน
ส่วนประเด็นที่ 2 คือ เราอยู่ตรงนี้ นายอภิสิทธิ์มีแต่ตายกับตาย สุเทพมีแต่ตายกับตาย พรรคประชาธิปัตย์มีแต่จมธรณีไม่มีได้ฟื้นครับพี่น้อง ถ้ายังไม่สำนึก ที่ 17% มันจะเหลือไม่ถึง 5% อย่างแน่นอน พวกเรายืนหยัดต่อไปครับพี่น้อง นี่คือวิธีล้างบางนักการเมืองชั่ว นักการเมืองเลว ต้องเปิดโปงให้ประชาชนได้รู้ ว่าเลือกไปก็ได้คนชั่วมาครองเมือง แล้วจะเลือกไปหาพระแสงด้ามยาวอะไรใช่ไหมครับพี่น้อง
ประการที่ 3 พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ทรยศต่อประชาชนครับ ผมสรุปให้สั้นๆ 14 ตุลาคม พวกผมเจ็บ พวกผมตาย ถ้าไม่มี 14 ตุลาคม ประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ได้ผุดได้เกิด ไม่มีโอกาสได้มาเลือกตั้ง ได้เป็นรัฐบาล เสนีย์ ปราโมช ก็ไม่มีโอกาสได้เป็นนายกฯ ครับ เห็นหรือยังครับ พอ 14 ตุลาคม พี่น้องครับ หลังจากนั้นเกิดพฤษภาทมิฬ เราสู้ เราเจ็บ เราตาย พล.ต.จำลอง ออกนำหน้าอดข้าวประท้วงสู้กับรัฐบาลเผด็จการ พล.อ.สุจินดา ชนะ ระหว่างเราสู้ พรรคประชาธิปัตย์ขุดรูอยู่เหมือนแย้ในภาคอีสาน มุดอยู่ในรู ไม่กล้าโผล่หัวออกมา พอเขาสู้ชนะแล้วค่อยโผล่หัวออกมาทีละคนสองคน แล้วค่อยมีการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ค่อยโผล่หัวมา นายอภิสิทธิ์ไปเป็นอาจารย์นายร้อยสอน จบมาจากเมืองนอกไปสมัครเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยเพื่ออะไร เพื่อหนีทหาร เพื่อเลี่ยงเกณฑ์ไม่ต้องเป็นทหาร แล้วมาเป็นอาจารย์ธรรมศาสตร์ก็สอนได้ไม่นาน ผมยังไม่เห็นมีผลงานการสอนอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันของนายอภิสิทธิ์ แล้วก็มาลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. เป็นโฆษกรัฐบาล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ แล้วก็มาเป็นนายกฯ ประสบการณ์อะไรไม่มีเลย ไม่เคยทำอะไรเป็น ไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลยแต่มีความทะเยอทะยานอยากจะเป็นนายกฯ เป็นแล้วก็ทำงานสุนัขไม่รับประทาน ด้วยเหตุประการฉะนี้ เพราะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนในการบริหารด้วยตนเอง
ที่ร้ายที่สุด ที่ผมบอกว่าทรยศต่อประชาชนก็คือ เหตุการณ์ 193 วัน ถ้าไม่มีพวกเราเขาก็ไม่ได้เป็นนายกฯ ถูกต้องไหมครับ ที่ผมไล่มาหมดนี้ คนที่สู้จนให้เขาได้เป็นนายกฯ โดนเนรคุณทรยศหมด คนแรก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พรรคประชาธิปัตย์หาเสียงโจมตี พล.ต.จำลองว่า พาคนไปตายครับพี่น้อง ทั้งๆ ที่มันได้กลับมาเลือกตั้งอีกครั้ง ก็เพราะ พล.ต.จำลองนำประชาชนออกต่อสู้จนสามารถขับไล่รัฐบาล พล.อ.สุจินดา ออกไป มันจึงได้เลือกตั้ง แต่มันเนรคุณ พล.ต.จำลอง กล่าวหาพล.ต.จำลอง ว่าพาคนไปตาย นี่เห็นหรือยังสันดานของพรรคนี้ ที่สำคัญครับ ไปลากภาพท่านปรีดี พนมยงค์ ภาพ อ.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มานั่งคู่กัน ถ่ายที่อังกฤษ แล้วใส่ข้อความว่า จำลองพาคนไปตาย หยุดเสียทีระบอบอนาธิปไตย คือเอาภาพ อ.ปรีดี อ.ป๋วย มาโฆษณาหาเสียง แล้วใส่ข้อความกล่าวหาว่า พล.ต.จำลอง ไม่เคารพระบอบประชาธิปไตย ทำตัวเป็นพวกอนาธิปไตยไม่เคารพขื่อแปรของบ้านเมือง ทั้งๆ ที่เคยใส่ร้ายโจมตีท่านปรีดีว่า ฆ่าในหลวง วันนี้ดันเอาภาพท่านปรีดีมาหาเสียงเพื่อด่า พล.ต.จำลอง ทำอัปยศบัดซบขนาดนี้ยังกล้าทำเลย นี่คือเขาละครับ ใครไม่เชื่อไปเปิดดูภาพหาเสียง เมื่อปี 2535/1 ภาพอย่างนี้เขายังกล้าทำ ผมถึงบอกว่า นี่พฤติกรรมทรยศประชาชน
ที่สำคัญครับ จำลองโดนแล้ว สนธิโดนไป 200 นัด ก็ยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ที่สนธิโดนยิงก็เพราะพวกมัน พวกแก๊งการเมือง 5 พรรคร่วมรัฐบาล มันกลัวว่า ถ้าสนธิยังอยู่ จะเป็นก้างขวางคอในการขึ้นสู่อำนาจ และครองอำนาจของพวกมัน จะเป็นก้างขวางคอในการที่มันไปกอดกับเนวินแล้วมาเสวยสุข มันกลัวว่า พลังของพวกเราจะเป็นเสี้ยนหนามตำเท้าตำตาตำใจของมัน มันฆ่าสนธิไม่ตายเราจึงมาตั้งเวทีตรงนี้เป็นหนามตำใจไปจนตาย คนทรยศ เห็นหรือยังครับ แล้วพวกเราทุกคนสู้มาได้อะไร ผมได้ข้อหาก่อการร้าย ได้ข้อหาเป็นกบฎ ได้ข้อหาบุกรุก ได้ข้อหาสารพัดข้อหา พี่สนธิโดนไปกี่คดี จำลองโดนไปกี่คดี พวกเราได้อะไรบ้าง มันยังเสือกมาประณามว่า พวกเราเป็นพวกก่อความวุ่นวาย ถ้าไม่มีพวกกูแล้วมึงจะได้เป็นนายกฯ ไหมอภิสิทธิ์ ผมไม่นึกเลยว่าจะมีคนเลวขนาดนี้ แล้วยังมีหน้ามาทวงบุญคุณกับประชาชน ยังมีหน้ามาต่อว่าพวกเรา แล้ววันนี้มายืนเป็นปฏิปักษ์กับเรา วันนี้ นายปณิธาน วัฒนายากร คู่ขาคนสนิทใกล้ชิดกับนายอภิสิทธิ์อีกคน ออกมาขอบคุณพวกเสื้อแดง แล้วแขวะพวกเราเสื้อเหลือง มันเลวหนีกันไม่ทิ้งแถว แล้วดูหน้าตาต้องหล่อแบบนี้ที่อภิสิทธิ์ชอบ ตอนนี้ศิริโชคไว้ผมทรงประหลาดอภิสิทธิ์อาจจะไม่โปรด หน้าตาเหมือนกันครับพวกนี้
พี่น้องครับ นี่คือความเลวของพรรคนี้ ส่วนเรื่องโกงเรื่องทุจริต รัฐบาลไหนก็เลวก็ชั่ว แต่รัฐบาลนี้กลับเลวนักกว่าเขาเรื่องโกงเรื่องทุจริต เป็นเหตุประการที่ 4 มีครบหมด
ประการที่ 5 เป็นพรรคที่ทำลายประชาธิปไตย ปากพูดประชาธิปไตยแต่ใจเผด็จการ ปากบอกรักประชาชน ลับหลังมันเหยียบหัวประชาชน เหยียบซากศพประชาชนขึ้นสู่อำนาจ ปากพูดประชาธิปไตยแต่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาจัดการกับประชาชน ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาจัดการกับการชุมนุมของประชาชน นายอภิสิทธิ์เป็นนักประชาธิปไตยจอมปลอมครับพี่น้อง
สุดท้าย นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ ชอบพูดเสมอ บอกว่า ยามใดที่บ้านเมืองวิกฤต พรรคประชาธิปัตย์มักจะได้รับโอกาสเข้ามาบริหารชาติบ้านเมือง ฟังดูดีไหมครับ ยามใดที่บ้านเมืองประสบปัญหาวิกฤต พรรคประชาธิปัตย์มักจะได้รับโอกาสเข้ามาบริหารชาติบ้านเมือง มันพูดจาเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น พูดเหมือนกับว่า ตัวเขาเป็นผู้เข้ามากอบกู้วิกฤตของชาติ เป็นฮีโร่ เป็นอัศวินม้าขาว ยามใดที่บ้านเมืองวิกฤต ประชาชนต้องพึ่งมัน ความจริงแล้วดูให้ดีครับ ยามใดที่บ้านเมืองวิกฤตมึงถึงจะได้มาเป็นรัฐบาล เพราะมึงเลือกตั้งกี่ครั้งก็แพ้เขา ไม่มีน้ำยาเอาชนะเขา ต้องรอให้ประชาชนเจ็บ ประชาชนตาย บ้านเมืองลุกเป็นไฟซะก่อน ถึงจะได้มีโอกาสอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งราวทรัพย์ ตีกิน ฉกฉวยโอกาสจากดอกผลการต่อสู้ของประชาชน คุณไม่เคยลงแรง คุณไม่เคยร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชน คุณเป็นพวกตีกิน ฉวยโอกาส และเหยียบซากศพประชาชนทุกครั้ง ไม่ใช่คุณมากู้วิกฤต แล้วพอมาเป็นรัฐบาลแล้ว ลื้อก็มาซ้ำเติมวิกฤตชาติบ้านเมืองให้หนักกว่าเดิม ไม่เคยแก้วิกฤตแม้แต่ครั้งเดียว มีครั้งไหนบ้างที่พรรคคุณเป็นรัฐบาลแล้วกู้วิกฤตของชาติ ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น วันนี้ยิ่งเห็นชัด คุณมาบ้านเมืองวิกฤตหนักกว่าเดิม มันสะท้อนให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคฉกฉวยโอกาส ตีกิน และเหยียบหัว เหยียบไหล่ เหยียบชีวิตเลือดเนื้อของประชาชนขึ้นสู่อำนาจ แล้วเนรคุณประชาชน นี่คือวัฒนธรรมของพรรคนี้ ซึ่งจะสืบทอดและต่อสายเลือดกันไปจนตายถ้ายังมีพรรคนี้อยู่ จะเป็นสันดานตีกินแล้วฉวยโอกาสทรยศประชาชนตลอดไปครับ
พี่น้องครับเดี๋ยวจะหาว่าผมวิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์อย่างเดียวไม่เคยเสนอแนะเลย ผมจะบอกให้ ในช่วงชีวิต ช่วงเวลาที่ผมเคยอยู่กับพรรคนี้ ผมเคยพูดเคยเสนอแม้กระทั่งกับนายอภิสิทธิ์ เสนอกับท่านนายกฯ ชวน เสนอกับผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค ผมบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์วันนี้จะต้องเปลี่ยนบทบาทของตัวเองได้แล้ว ไม่ควรจะอยู่ข้างหลังประชาชนแล้วแอบตีกินฉวยโอกาสในการต่อสู้ของประชาชน ทุกครั้ง ในวันที่มีการต่อสู้ 193 วัน หรือครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ของพันธมิตรฯ ผมพยายามชักชวนว่า พรรคทำไมไม่ออกมาแสดงจุดยืนต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชน ยามที่ประชาชนประสบปัญหาเดือดร้อน เราควรจะลงไปสู่ประชาชน ไปพบประชาชน ไปคลุกคลีกับพี่น้องประชาชน ทำตัวเป็นพรรคที่เป็นปากเป็นเสียงของประชาชน เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา ผมเสนอมาตลอด และพรรคควรมีกิจกรรมเข้าหาประชาชน รับฟังความคิดเห็น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประชาชน ถ้าพรรคจะทำผมยินดีอาสาไปทำงาน เพราะผมตอนนั้นเป็นคนหนึ่งที่ร่วมทำงานอยู่ในพรรค มีตำแหน่งเหมือนกัน เขาทำได้แป๊บเดียว จำได้ไหม เขาไปประชุมจัดตั้งสมัชชาประชาชน ทำเป็นจะฟังเสียงประชาชน มันทำแต่รูปแบบแต่เนื้อหาไม่ลงหาประชาชนจริงครับ เหมือนอย่างวันที่เราโดนตีอยู่ตรงนี้ มันจะชอบทำแบบนี้ แต่งตัวหล่อๆ พอประชาชนประสบเคราะห์กรรมบาดเจ็บ ไปเยี่ยม ทำเป็นพระเอกม้าขาว ตีกินหาคะแนนเสียง ทำตัวเหมือนพวกหมู คือ ไม่ทำงานแต่ไปเดินย่ำๆ แล้วอ้างผลงานเอาความดีความชอบใส่ตัวเอง นี่เป็นนิสัย ไม่ยอมเลิก เพราะฉะนั้นไม่ใช่ผมไม่เสนอ ผมไม่ต่อสู้ ผมพยายามจะเปลี่ยนพรรคนี้ให้เลิกตีกินและเห็นแก่ตัว เหยียบหัวประชาชนซะที ยังไม่เลิกนิสัยนี้ เพราะฉะนั้นมาถึงวันนี้ยิ่งหนักกว่าเก่า
ผมถึงบอกว่า วันนี้พรรคการเมืองทุกพรรคมันจบแล้วครับ จบแล้ว ที่นายอภิสิทธิ์เขียนไว้ในนี้ เดี๋ยวผมจะอ่านให้ฟังพี่น้อง จบท้าย เขาบอกว่า "อดีตเราไม่สามารถแก้ไข เปลี่ยนแปลงได้ แต่อนาคตเรากำหนดได้ เราสร้างได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะร่วมกันคิดและฝันถึงบ้านเมืองที่ดีกว่า ผมเข้ามาเป็นนักการเมืองไม่ใช่เพื่อจะเล่นการเมือง แต่เพื่อจะใช้การเมืองเป็นเครื่องมือในการสร้างบ้านเมืองที่ดีกว่า" นี่คือข้อเขียนของเขาครับ จะไม่ให้ผมบอกว่า ไอ้ตอแหล ได้อย่างไรครับ ตอแหล ตระบัดสัตย์ นี่คือคำโกหกที่เป็นลายลักษณ์อักษร อยากรู้ว่านายอภิสิทธิ์โกหกอะไร อ่านในนี้ อะไรที่เขียนในนี้ คือสิ่งที่ทำตรงกันข้ามทั้งนั้น คุณไม่เคยทำอะไรให้บ้านเมืองดีขึ้นเลย
เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า วันนี้มันต้องจบแล้วสำหรับพรรคการเมืองในประเทศไทย ในโลกนี้ประเทศที่ไม่มีเลือกตั้งก็เจริญได้ครับ ไม่จำเป็นต้องมีเลือกตั้ง พี่น้องเชื่อผมไม่ครับ ประเทศจีนไม่มีการเลือกตั้ง เขาก็เป็นมหาอำนาจของโลก และเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง เศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก ใกล้ๆ เราไม่ต้องพูดไกล สิงคโปร์ เลือกตั้งก็เหมือนไม่เลือกตั้งเพราะมีอยู่พรรคเดียว เขาเจริญข้ามหัวคนไทย ข้ามหัวเอเชีย ติดอันดับ 3-4 ของโลก เวียดนามเขาก็ไม่มีเลือกตั้ง อีกไม่นานเขาก็จะแซงหน้าประเทศไทย ที่มีนายกฯ สุนัขไม่รับประทานอย่างนายอภิสิทธิ์ แน่นอนครับ อเมริกามันบอกว่าเป็นประชาธิปไตย มีการเลือกตั้ง ก็มี 2 พรรคเท่านั้นเองผลัดเปลี่ยนกันเป็นรัฐบาล คือไม่มีเลือกตั้งที่เป็นการเลือกตั้งโดยทั่วไป ก็เจริญ
เวลานี้ประเทศไทย ปัญหาใหญ่ที่สุดอยู่ที่การเมืองเท่านั้น ถ้าแก้การเมืองได้ ประเทศไทยก็เจริญ จะแก้การเมืองได้ต้องล้างการเมืองชั่วทั้งระบอบออกไปจากแผ่นดิน เราถึงจะสามารถพาชาติบ้านเมืองไปสู่เป้าหมายได้
สุดท้ายขอขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องทุกคน ที่เมื่อรู้ว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะมาสลายการชุมนุม เราก็ออกมาช่วยกัน ถ้าพี่น้องยังอยากจะกระชากหน้ากาก เปิดโปงความชั่วความเลวนักการเมือง และทำให้คนทั้งชาติได้เห็นความจริงร่วมกัน เราต้องช่วยกันรักษาเวทีนี้ไว้นะครับ ไม่งั้นผมไม่มีเวทีพูดนะครับ ไม่งั้นโพเดียมผมหายนะครับ ตำรวจจะมาสลายเราเมื่อไหร่ พี่น้องก็มาตรึม ถ้าไม่มาสลายเราก็ผลัดกันไปผลัดกันมา อยู่ตรงนี้แหละ มึงไม่ออกกูก็ด่าอย่างมีความสุขทุกวันครับพี่น้องครับ ขอบคุณครับ”