xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” แจงผลงาน “มาร์ค” ล้มเหลวทุกด้าน ซัดอย่าหน้าด้านอยากเป็นนายกฯ อีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” แจงผลงาน “มาร์ค” ล้มเหลวทุกด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และเรื่องใหญ่คือทำไทยเสียดินแดน แนะ “เจิมศักดิ์” ทำหนังสือผลงานเด่น “อภิสิทธิ์” ออกเผยแพร่ ซัดแต่ถ้ามีแต่ผลงานอัปยศ อย่าหน้าด้านอยากกลับมาเป็นนายกฯ อีก

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วันนี้ (9 มี.ค.) นายประพันธ์ คุณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ขึ้นกล่าวบนเวที ว่า งานระดมทุนพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวานนี้ นายสุเทพคุยโอ้อวดว่าพรรคมีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ในงานขายโต๊ะกินเลี้ยงโต๊ะละ 2.5 ล้านบาท  รู้หรือไม่ถ้าไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลคราวนี้จะขายได้ 2.5 ล้านบาทหรือไม่ เพราะตอนเป็นฝ่ายค้าน ขาย 5 แสนบาทยังลำบากเลย นี่ก็สะท้อนให้เห็นว่าการมืองวันนี้เอาเงินเป็นที่ตั้ง

นายประพันธ์กล่าวว่า มันมีเรื่องตลกจากกงานระดมทุน อันที่ 1 นายอภิสิทธิ์หลังจากที่โดนเปิดโปงการบริหารประเทศ และอาจกระทบไปยังพฤติกรรมส่วนตัว เรื่องตุ๊ดเรื่องเกย์ มันก็ได้เกิดอาการในพรรคขึ้น คือคนในพรรคเรื่มจับตามองว่ามันจะเป็นอย่างเสียงครหาหรือเปล่า นายกฯก็กลัวว่าคนจะมองเป็นอย่างนั้น วันนี้จึงมีการทำเสียงห้าว มีอาการแอ๊บแมน ท่าทีการเดิน การนั่ง พยายามจะแสดงตัวว่าเป็นแมน มันก็เลยผิดปกติวิสัยจากดั้งเดิม จนลูกพรรคงงว่าไปกินยาอะไรมาหรือเปล่า

ตลกเรื่องที่ 2 การระดมทุนหาเงินเข้าประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ โดนคนในพรรคที่เป็น ส.ก.  ส.ข. ด่ากันให้ขรม เพราะถ้าคนในพรรคไม่สามารถหาเงินเข้าพรรคได้ โดยการจ่ายค่าโต๊ะกินเลี้ยงตัวละ 2.5 ล้านบาท ไม่มีสิทธิ์นั่ง ส.ก.-ส.ข. ไม่มีที่นั่งเลย กลายเป็นว่าสมาชิกพรรคนี้ไม่มีเงินไม่มีสิทธิ์ แตกต่างจากวัฒนธรรมในอดีต ที่ทุกคนได้รับเกียรติ

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า คำพูดในงานระดมเงินเข้าพรรค ฟังแล้วเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ เป็นการแสดงมารยาททางการเมืองที่เลวมาก ที่นายกฯ กล่าวว่าถ้าอยากให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า หลุดจากวังวนความขัดแย้งก็ต้องเลือกประชาธิปัตย์ แต่ถ้าอยากอยู่ในวังวนความขัดแย้งให้ไปเลือกพรรคอื่น นี่เป็นการเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ไม่เคยสำนึกเลยว่าบ้านเมืองขัดแย้งอยู่ทุกวันนี้ รัฐบาลก็มีส่วน เพราะไม่ทำหน้าที่ดูแลให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน ไม่มีการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการดูแลความสงบเรียบร้อยไปตามกฎหมาย

“ที่บอกว่าถ้าได้กลับมาเป็นนายกฯ จะทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า วันนี้ก็เป็นนายกฯ อยู่แล้ว ทำไมไม่มีน้ำยาทำบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าล่ะ ถ้าได้เลือกตั้งกลับมาจะกลายเป็นคนเก่งกล้าสามารถขึ้นมาทันทีทันใดอย่างนั้นหรือ วันนี้คุณเป็นนายกฯ มา 2 ปี แล้ว ทำอะไรให้บ้านเมืองบ้าง ออมฝีมือไว้ทำไมแสดงออกมาเลย ทำเป็นคุยโวว่ามีความสามารถพาบ้านเมืองไปข้างหน้า ความจริงแล้วพรรคร่วมเองก็ไม่เชื่อน้ำคำนายอภิสิทธิ์ พวกนั้นรอเลือกตั้งใหม่รับรองไม่เลือกอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ เพราะเห็นแล้วว่าเอาใครมาเป็นนายกฯ ก็ได้ ไม่ต้องมีความสามารถ ขอแค่เกาะโพเดียมได้” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า ผลงานรอบ 2 ปี 2 เดือนที่นายอภิสิทธิ์บริหารประเทศ ทำความล้มเหลว สร้างความหายนะต่อบ้านเมือง และประชาชนไทยอย่างไรบ้าง  ทำงานมา 2 ปี มันเป็นการวัดประสิทธิภาพการทำงานได้ดีที่สุดแล้ว ว่าเหมาะที่กลับมาเป็นนายกฯอีกหรือไม่ อยากจะสรุปให้ฟังในแต่ละด้าน

1.ด้านความมั่นคง และการรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง การประชุมอาเซียนที่พัทยาล้มไม่เป็นท่า ไปโทษเสื้อแดงอย่างเดียวไม่ได้ ทั้งๆที่รัฐบาลมีเจ้าหน้าที่ อาวุธพร้อมทุกย่าง แต่ทำอะไรไม่ได้แสดงว่าไม่มีน้ำยา มันต้องโทษตัวเอง และเหตุจลาจลเมื่อ 10 เมษายน เสื้อแดงยึดรถเมล์ เผาบ้าน เผาเมือง ความผิดส่วนหนึ่งก็เพราะเจ้าหน้าที่อ่อนแอ นายกฯไม่มีน้ำยา นี่คือล้มเหลว

2.ในการบริหารบ้านเมืองทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม เมื่อเกิดเหตุ 7 ตุลา ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วว่า พล.ต.อ.พัชรวาทและพวก มีความผิด รัฐบาลก็ไม่ดำเนินคดีต่อคนเหล่านี้ แถมให้นายสุเทพ ช่วย พล.ต.อ.พัชรวาทและนายตำรวจให้กลับเข้ารับราชการ ทุกวันนี้เรื่องยังไม่ไปถึงไหนเลย

3.ในระหว่างการบริหารปกครองของประชาธิปัตย์ ประชาชนตกอยู่ในความหวาดผวา ต้องคอยหลบภัยเอ็ม 79 ไม่รู้จะโดนระเบิดเมื่อไหร่ ซึ่งก็เกิดจากความหละหลวมไร้ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งนั้น

4.เมื่อเกิดเหตุประชาชนเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเตอร์วัน เซ็นทรัลเวิลด์  ผู้ค้าต่างๆ  ที่เสียหายจากการโดนเผาเมื่อ 19 พฤษภาคม เสียหายไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้าน ประชาชนไม่ได้รับความช่วยเหลือ หรือชดเชยเลย

5 การชุมนุม 193 วัน ของพันธมิตรฯ ประชาชนเสียสละชีวิต เลือดเนื้อ หลายคนพิการ สูญเสียไปไม่น้อย เพื่อให้กาเรมืองเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่รัฐบาลก็มาตีกิน เนรคุณประชาชน

6.วันนี้ขบวนการล้มเจ้า ขบวนการก่อการร้าย รวมทั้งขบวนการซ่องสุมกองกำลัง อาวุธกองทัพหายจำนวนมาก ก็เพราะความหละหลวม จึงทำให้ขบวนการเหล่านี้เติบโตขึ้น  เพราะฝีมือการบริหารประเทศของนายอภิสิทธิ์

7.การรักษาความเรียบร้อยในบ้านเมือง ถ้าบริหารประเทศดีก็ไม่จำเป็นต้องใช้ พรก.ฉุกเฉิน  พ.ร.บ.มั่นคง แต่รัฐบาลประชาธิปัตย์คุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชน นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯที่ใช้กฎหมายนี้มากที่สุดในประเทศไทย แม้กระทั่งบ้านตัวเองก็เอากฎหมายนี้ไปใช้เพื่อความสงบสุขของตัวเอง ไม่ใช่เพื่อประชาชนแม้แต่น้อย

8.รัฐบาลใช้เงินแก้ปัญหาไฟใต้ 6.3 หมื่นล้านบาท ผ่านมา 3-4 ปีนี้ ใช้ไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท แต่ปัญหาภาคใต้กลับร้ายแรงและรุนแรงกว่ารัฐบาลใดๆแสดงว่ารัฐบาลล้มเหลว แก้ปัญหาไม่ได้แม้แต่ด้านเดียว  ไม่สำเร็จแม้แต่เรื่องเดียว ทั้งหมดนี้ปัญหาความไม่สงบ ยังไม่นับรวมถึงการจี้ปล้น ก่ออาชญากรรม ที่เกิดขึ้นมากมายในยุคนายอภิสิทธิ์ ถือว่าผลงานต่ำกว่าทุกรัฐบาลในเรื่องนี้

นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า อีกปัญหาที่เป็นเรื่องใหญ่คือไทยต้องเสียดินแดน ตอนนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี ปัญหามีอยู่เพียงแค่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนตัวปราสาทพระวิหาร และขอแผนผังบริเวณ 4.6 ตร.กม. เพื่อขอทำแผนบริหารจัดการ เราเถียงกันแค่นี้ แล้วนายอภิสิทธิ์ตอนนั้นเป็นฝ่ายค้านก็ต่อว่าฉอด ๆ  แต่มาวันนี้ดูการจัดการปัญหานี้ของนายอภิสิทธิ์ เลวแบบหาที่ติไม่ได้ ทำผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย

เรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ก็ปล่อยให้มีการโกงทุกกระทวง ทบวง กรม มือใครยาวสาวได้สาวเอา ไม่ได้ดูแลผลประโยชน์ชาติ หลับหูหลับตา ให้แต่ละพรรคหากินกันตามใจ  การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการก็ไม่มีความเป็นธรรม บริหารบ้านเมืองทำประเทศชาติเสียประโยชน์อย่างกรณีฟิลลิป มอร์ริส  เรื่องผู้ประกอบการมัคคุเทศก์ ก็ปล่อยให้ต่างชาติเข้ามาแย่งอาชีพคนไทย ไม่เห็นบริหารประเทศให้คนไทยได้ประโยชน์แม้แต่เรื่องเดียว

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แทบไม่ต้องพูดถึง สินค้าราคาแพง สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ ไม่มีใครจำได้ว่านายอภิสิทธิ์แก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง ทั้งปัญหาสังคม วัฒนธรรม ตั้งแต่มาเป็นนายกฯสังคมดีขึ้นหรือไม่ สภาพสังคม การศึกษา วัฒนธรรม เน่าฟอนเฟะ ทำเพียงแต่เอาเงินไปแจกอย่างเดียว สภาพสังคมไม่มีอะไรดีขึ้น  ถ้าดีขึ้นไม่ต้องห่วงหรอก ประชาชนจะแห่ไปเลือกตั้งประชาธิปัตย์ถล่มทลายเอง

นายประพันธ์กล่าวว่า ต้นทุนอันมหาศาลเพื่อให้นายอภิสิทธิ์นั่งในตำแหน่งนายกฯ ก็คือความหายนะของประเทศ ของประชาชน แม้กระทั่งเราต้องเสียแผ่นดินไทยก็เป็นต้นทุนให้นายอภิสิทธิ์ได้อยู่ในตำแหน่งบริหารประเทศ ผลตอบแทนที่ประชาชนได้รับคือ 1.ไข่ชั่งกิโล  2.การโกหกทุกวัน  3.เนรคุณประชาชน 4.ประเทศชาติบอบช้ำ  

คนไทยหมดสิ้นซึ่งศักดิ์ศรี อยากให้นายเจิมศักดิ์ทำหนังสือผลงานเด่นของนายกฯ มาแจกหน่อย ถ้าไม่มีผลงานเด่น มีแต่การสร้างความอัปยศให้บ้านเมือง จะหน้าด้านกลับมาเป็นนายกฯทำไม มันน่าจะหมดเวลาในการกลับมาเป็นนายกฯอีกแล้ว เพราะล้มเหลว เป็นโมฆบุรุษ สิ่งที่เราต้องทำวันนี้คือ ปกป้องแผ่นดิน และอย่าให้นายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นนายกฯ อีก

คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทางบ้านและพี่น้องที่อยู่ทั่วประเทศ ทั่วโลก กราบสวัสดีครับ

วันนี้มาแบบสบาย ไม่เครียด แล้วก็ปล่อยเวลาให้น้องเก๋ กับคุณแอน ระดมทุนหาเงินมากู้ชาติแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ เราต่อสู้กู้บ้านกู้เมืองปกป้องแผ่นดิน เราต้องระดมทุนทุกบาททุกสตางค์ด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของพี่น้องประชาชนผู้รักชาติ เสียดายครับพี่น้อง ถ้าเงิน 600-700 ล้านนั้น มาบริจาคให้พวกเรา ป่านนี้เราก็ตั้งกองทัพไปไล่เขมร เอาแผ่นดินกลับคืนมาได้แล้ว นี่คือความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างพวกเรากับเขา เขาทำโดยการระดมเงินเพื่อที่จะเอาเงินไปหาเสียงเลือกตั้งเพื่อให้ได้อำนาจมา ได้อำนาจมาเป็นรัฐบาลแล้วก็มาโกง แล้วก็มาเรียกเคาะกะลาหาเงินจากพ่อค้าทำท่าว่ามาบริจาคซื้อโต๊ะ โต๊ะละตั้ง 2.5 ล้าน

แต่เราต้องขายเสื้อ ขายสติ๊กเกอร์ ขายของ และอาศัยแรงศรัทธาของพี่น้องประชาชน ไม่เป็นไรครับ ยังไงเราก็ต้องสู้เพื่อชาติใช่มั้ยครับ และก็จะได้พิสูจน์กันว่าระหว่างศรัทธาปลอมๆ ศรัทธาเทียมๆ ที่บรรดาคนเขาแห่ไปซื้อโต๊ะ โต๊ะละ 2.5 ล้าน เป็นแต่เพียงมีน้ำเปล่าและอาหารจีนนครปฐม โต๊ะละไม่เกิน 5,000 บาท แต่ต้องจ่าย 2.5 ล้านนั้น ศรัทธาเทียมๆ และแรงสนับสนุนจอมปลอมที่ได้มาจาก ถ้าคุณไม่ได้เป็นรัฐบาลจะมีปัญญาขายโต๊ะละ 2.5 ล้านมั้ยครับ

ก็มาสู้กันระหว่างพวกเรา กับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าใครจะยืนหยัด ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ ว่าใครจะเป็นฝ่ายที่ยืนอยู่บนความถูกต้อง และใครกำลังจะพาตัวเองไปสู่ความหายนะในที่สุด

พูดถึงงานระดมทุนเมื่อวานนี้ ผมก็มีควันหลงอยากจะมาเล่าให้พี่น้องฟังหน่อยครับ พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ คุยโตโอ้อวดและพยายามสร้างภาพ สร้างราคา ให้พรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่าเขามีโอกาสที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลและมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการพยายามโชว์ศักยภาพในการจัดงานระดมทุน ขายโต๊ะละ 2.5 ล้าน พี่น้องรู้มั้ยครับถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ไม่มีนายสุเทพ เป็นรองนายกฯ และไม่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลคราวนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะขายได้โต๊ะละ 2.5 ล้านมั้ยครับ รับรองไม่มีทาง และประชาธิปัตย์ก็เคยจัดงานเมื่อครั้งก่อน ในช่วงที่เป็นฝ่ายค้าน ขายโต๊ะละ 5 แสน ยังลำบากเลยครับ

นี่ก็เป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่าการเมืองวันนี้เอาเงินเป็นที่ตั้ง เป็นระบอบธนาธิปไตย อาศัยอำนาจทางการเมืองเคาะกะลาเรียกนายทุนมาจ่ายเงิน มาสนับสนุนพรรคตัวเอง เพื่อแลกกับการที่จะได้ผลประโยชน์ตอบแทนเมื่อเวลาที่พรรคได้เป็นรัฐบาล มันจึงเป็นธุรกิจการเมืองชัดๆ ใช่มั้ยครับ

ทีนี้ควันหลงของการจัดงานเมื่อคืนนี้ มันมีเรื่องตลกที่ผมอยากจะเล่าให้พี่น้องฟัง ตลกอันที่ 1 คือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดนเวทีนี้อภิปราย วิพากษ์วิจารณ์ เปิดโปงพฤติกรรมและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารบ้านเมืองของเขา และก็มีการพูดถึงในลักษณะที่อาจกระทบไปถึงพฤติกรรมส่วนตัวของเขา จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้บอกว่าเขาเป็นตุ๊ด เป็นเกย์ เป็นอะไรนะครับ เราไม่เคยพูดเลยบนเวทีนี้ ไม่เคยมีใครบอกเลยว่าคุณเป็นอะไร ผมก็ไม่เคยพูดว่าคุณเป็นอะไร ทำไมถึงทำมืออย่างนั้นอย่างนี้ ผมไม่เคยพูดใช่มั้ยครับ แต่ว่ามันได้เกิดอาการ ได้เกิดอาการในพรรค คือคนในพรรคเริ่มรู้สึกจับตามองหัวหน้าพรรคตัวเองว่า เฮ้ย มันจะเป็นอย่างที่เสียงครหานินทาจริงหรือเปล่า หัวหน้าพรรค นายกรัฐมนตรี ก็กลัวว่าคนจะเข้าใจว่าตัวเป็นอย่างนั้น จากที่ทำตัวเรียบร้อย สุภาพ น่ารัก ทำตัวเจี๋ยมเจี้ยม ติ๋มๆ พูดจาสุภาพเรียบร้อย วันนี้มีอาการเสียงห้าวครับพี่น้องครับ

มีอาการออกอาการว่า เฮ้ย ไอ้เหี้ย ไอ้ห่า (ขอโทษนะครับ) มีอาการลักษณะคำพูดสไตล์ทำตัวภาษาวัยรุ่นเขาเรียกว่าแอ๊บแมนครับ คือมีอาการแอ๊บแมนและบางทีท่าทางการพูด การเดิน การนั่ง การกิน หรือการแสดงออกท่าทาง พยายามแสดงตัวให้คนเห็นว่าเฮ้ย ฉันเป็นแมนนะเว้ย ฉันไม่ใช่อย่างที่คนครหานินทานะ มันก็เลยเกิดอาการผิดปกติวิสัยของคนเป็นนายอภิสิทธิ์แต่ดั้งเดิม จนลูกพรรคเกิดความสงสัยว่าหัวหน้าไปกินยาอะไรผิดมาวะ ฉะนั้นอาการของนายอภิสทิธิ์วันนี้เป็นอาการของคนที่เสียศูนย์เหมือนรถยนต์ที่ต้องไปตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่ก็มีอาการออกเสียงดัง อาการจะทำตัวให้เป็นผู้ชาย เอ๊ะทำไมผมต้องไปแสดงด้วย ผมก็ไม่ได้ว่าสักหน่อยว่าคุณเป็นอะไร ผมก็ไม่ได้บอกว่าคุณเป็นประเภทแต๋วแตก แต่คุณเดือดร้อนไปเองหรือเปล่า

นี่คือเรื่องตลกเรื่องหนึ่ง ซึ่งหลายคนที่เคยรู้จักนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้วก็รู้จักหัวหน้าพรรคตัวเองดี ตกใจหมด เพราะบางคนนานๆ เพิ่งมาร่วมงานระดมทุน วันนี้เพิ่งเห็นหน้านายกฯ เต็มตา ส.ส.ที่มาจากต่างจังหวัด ผู้สนับสนุนพรรคที่เคยเห็น หรือสมาชิกหรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยเจอ ไม่ค่อยได้เจอกับหัวหน้าพรรคบ่อยนัก นานๆ มาเจอทีในงานอย่างนี้ ก็เกิดอาการตกใจ เฮ้ย หัวหน้าพรรคเป็นอะไร อาการมันเปี๊ยนไป๋ นี่คือเรื่องตลกเรื่องที่ 1

แต่เรื่องที่ 2 ครับ พี่น้องรู้ไหมครับการระดมทุนหาเงินเข้าพรรคเมื่อคืนนี้ ปรากฏว่าคนที่ถูกด่ามากที่สุดคือหัวหน้าพรรค กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ครับ ถูกด่าจากใครครับ ปรากฏว่าถูกด่าจากบรรดา ส.ส. ส.ก. ส.ข. คนในพรรคของตัวเอง ถูกด่าเพราะอะไรครับ ก็เพราะว่าถ้าลื้อไม่ได้โต๊ะ ไม่ได้เงินโต๊ะละ 2.5 ล้าน ลื้อไม่มีสิทธิ์นั่งครับ พวก ส.ก. ส.ข. ส.ส. ไม่มีที่นั่งเลย ต้องยืนระเกะระกะ เดินเตร่ไปเตร่มาในงาน ไม่ได้รับเกียรติจากพรรคประชาธิปัตย์ เลขาฯ พรรค เลย ต้องจ่ายเงินเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์มานั่งโต๊ะ กลายเป็นว่า ส.ส.พรรคนี้ หรือสมาชิกพรรคนี้ ถ้าคุณไม่มีเงิน คุณไม่มีสิทธิ์ครับ

แตกต่างจากวัฒนธรรมในอดีตที่พรรคประชาธิปัตย์ ทุกคนที่มีส่วนร่วมสร้างพรรค สร้างงาน และทำงานร่วมกันมา จะได้รับเกียรติ รับการต้อนรับ และได้จัดสรรที่นั่งให้ได้รับเกียรติจากการจัดงาน เพราะงานสำคัญอย่างนี้ ทุกคนที่เป็นคนสำคัญของพรรค เป็นสมาชิกพรรค ประธานสาขา ส.ก. ส.ข. เขาก็อยากมามีส่วนร่วม แต่เขาไม่มีเงินซื้อโต๊ะ 2.5 ล้าน เขาก็กลายเป็นตัวตลกในงาน แต่ได้รับการดูถูกดูแคลน เสียงก่นดาประณามเลขาฯ พรรค และหัวหน้าพรรค ก็เลยต้องดังขรมไปทั้งงานครับ

ทำไมนายประพันธ์มันรู้ดีเหลือเกิน อ้าว ผมก็มีสายอยู่ในนั้น ไปนั่งกินด้วย สังเกตด้วย พฤติกรรมหัวหน้าพรรค คุณแอ๊บแมน เขายังรายงานให้ผมรู้เลย นี่ภาษาวัยรุ่นนะครับ แอ๊บแมน ผมก็เพิ่งรู้ว่ามันเป็นอย่างนี้เหรอ แอ๊บแมน และที่น่าเกลียดที่สุดก็คือว่า พี่น้องครับ งานระดมทุนเตรียมเลือกตั้ง ปัญหาก็คือว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรให้กับประเทศชาติบ้านเมือง สร้างคุณูปการอะไรให้กับสังคม แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของบ้านเมือง อะไรให้กับประชาชนบ้าง ไม่มีพูดถึง ไม่มีผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันให้ประชาชนได้รับรู้ แต่ก็อยากจะกลับมาเป็นรัฐบาล

สิ่งที่เกิดขึ้น ความผิดพลาดเสียหายในบ้านเมืองที่เกิดขึ้น ไม่มีความรับผิดชอบสักอย่าง แต่มีความทะเยอทะยานสูง อยากจะกลับมาเป็นนายกฯ อีกเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ทำงานคุณภาพต่ำ ความรับผิดชอบก็ต่ำด้วย

แต่ที่ผมฟังแล้วเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ และอยากจะพูดถึงก็คือว่า ผมคิดว่านายอภิสิทธิ์พูดคำหนึ่ง เป็นการแสดงมารยาทที่เลวมากในทางการเมือง เขาบอกว่า ถ้าอยากจะให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า หลุดพ้นจากข้างหน้า หลุดพ้นจากวังวนของปัญหาและความขัดแย้ง ก็ต้องเลือกพรรคเขา แต่ถ้าอยากให้บ้านเมืองจมปลักอยู่กับความขัดแย้ง และอยู่กับวังวนของปัญหาทางการเมือง ก็ต้องไปเลือกพรรคอื่น

พี่น้องครับ ไอ้นี่มันสันดานเอาดีใส่ตัว โยนความชั่วใส่คนอื่นชัดๆ เลย คือโดยไม่เคยสำนึก ไม่เคยรับผิดชอบเลยว่า บ้านเมืองที่มันวุ่นวาย และจมปลักอยู่กับความขัดแย้ง กฎหมายไม่มีขื่อมีแป หลักนิติรัฐ หลักนิติธรรม ถูกทำลายหมด และการบริหารจัดการปัญหาของคุณที่ปล่อยให้เกิดสภาพอย่างนี้ ถามว่ามันไม่มีความผิดพลาดของคุณเลยแม้แต่น้อยเหรอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ความเป็นนายกฯ ของคุณ ที่มีหน้าที่จะต้องดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ให้ความยุติธรรมกับคนในสังคม ดูแลให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย จัดการกับคนที่ละเมิด คุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน ถามว่าคุณไม่มีหน้าที่ทำอะไรเลยเหรอ ตกลงที่คุณปกครองมา 2 ปีนี้ คุณไม่มีความผิดอะไรเลยใช่มั้ยนายอภิสิทธิ์

ที่บ้านเมืองมันเดินหน้าไม่ได้ และจมปลักอยู่กับความล้มเหลว และตกอยู่ในวังวนทางการเมือง เพราะคุณมันเป็นคนเห็นแก่ตัว ไร้ความสามารถ ขาดภาวะผู้นำ และบริหารบ้านเมืองล้มเหลวไงครับ

มันไม่ได้เป็นเรื่องอื่นเลย ปัญหาที่จะมีคนมาก่อกวนหรือสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น ถ้าเทียบจากเมื่อสมัยก่อน ที่มีกองทัพ มีพรรคคอมมิวนิสต์ มีกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทย มีโจรจีนมลายู มีขบวนการโจรจีนแบ่งแยกดินแดน รอบบ้านก็มีแต่คอมมิวนิสต์เต็มบ้านเต็มเมือง เวียดนามก็แตก กัมพูชาก็แตก ลาวก็แตก สถานการณ์บ้านเมืองเมื่อก่อนมันยิ่งกว่านั้น ทำไมเขาพาบ้านเมืองมารอด ผู้นำประเทศทำไมเขาพาประเทศชาติมารอด แต่คุณน่ะไม่ได้มีอะไรเลย เพียงแต่ไอ้โจรชุดดำชุดเดียว คุณยังไม่มีปัญญาแก้ไขปัญหาให้บ้านเมืองเกิดความสงบเลย

แล้วที่ไอ้ชายชุดดำสามารถมาก่อเหตุรุนแรงได้ มาก่อเหตุวุ่นวายได้ มันก็ต้องโทษตัวคุณเองที่คุณไม่เคยเอาใจใส่กับปัญหาที่เป็นภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และไม่เคยมีประสิทธิภาพและความสามารถในการที่จะแก้ไขปัญหา มันก็ต้องโทษตัวเองด้วย ใช่มั้ยครับ

ถามว่าถ้าคุณบอกว่าบ้านเมืองจะเดินหน้า วันนี้คุณก็เป็นนายกฯ อยู่แล้ว ทำไมจะต้องรอให้คุณเลือกตั้งกลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบ บ้านเมืองมันถึงจะเดินหน้าได้ ทำไมลื้อไม่มีปัญญาพาให้บ้านเมืองเดินหน้าในขณะที่ลื้อเป็นนายกฯ ล่ะ ก็ตอนนี้คุณก็เป็นนายกฯ อยู่แล้ว แล้วทำไมไม่มีน้ำยา ถามว่าเมื่อคุณเลือกตั้งใหม่ได้เป็นนายกฯ กลับมา คุณจะมีน้ำยามั้ย คุณจะมีความสามารถเก่งกว่านี้มั้ย หรือว่าถ้าเลือกตั้งใหม่มาแล้ว คุณจะกลายเป็นมนุษย์ซูเปอร์แมนวิเศษวิโส เก่งกล้าสามารถขึ้นมาทันทีทันใด มันเป็นไปได้มั้ยครับ

ก็คุณเป็นนายกฯ มา 2 ปีแล้ว คุณทำอะไรให้บ้านเมืองประสบความสำเร็จบ้าง ถ้าคุณจะมีฝีมือ มีความสามารถ คุณจะออมฝีมืออยู่ทำไม แสดงออกมาเลย ใช่มั้ยครับ

เพราะฉะนั้นวันนี้ผมก็เลยถือโอกาสมาคุยกับพี่น้องเรื่องนี้เลยว่า เนื่องจากนายอภิสิทธิ์พยายามจะคุยโวโอ้อวดว่าตัวเองมีความสามารถที่จะพาบ้านเมืองก้าวเดินไปข้างหน้า และก็มีหลายคนยังหลงใหลและยังไปประจบสอพลอ นึกว่านายอภิสิทธิ์จะมาเป็นนายกฯ และพาประเทศเดินไปข้างหน้าได้อีก ความจริงแล้ว ผมจะบอกให้ครับ แม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลมันก็ไม่เชื่อน้ำคำและขี้ปากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เลย เขารอกเลือกตั้งใหม่จริง แต่เมื่อถึงเวลาโหวตเลือกนายกฯ รับรองเขาไม่เลือกนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน

เพราะเขาเห็นแล้ว เอาใครมาเป็นนายกฯ ก็ได้ ไม่ต้องมีความสามารถ ขอให้มันเกาะโพเดียมอยู่ก็พอแล้ว ใช่มั้ยครับ

ฉะนั้นวันนี้ผมก็เลยถือโอกาสสรุปคุยกับพี่น้องว่า นายอภิสิทธิ์บริหารบ้านเมืองมา 2 ปี แล้วก็อยากจะกลับมาเป็นนายกฯ อีก แล้วก็มาคุยโวโอ้อวดว่าจะทำให้บ้านเมืองก้าวเดินไปข้างหน้านั้น ผมอยากจะเอาผลงานในรอบ 2 ปี 2 เดือนที่นายอภิสิทธิ์ บริหารประเทศนั้น นายอภิสิทธิ์ทำความล้มเหลวและสร้างความหายนะให้เกิดขึ้นกับแผ่นดินไทย และประชาชนไทยในเรื่องใดบ้าง

เอาเรื่องนี้ วันนี้ แต่ก่อนที่จะพูดเรื่องนี้ มีคนจากสุราษฎร์ธานี พันธมิตรฯ สุราษฎร์ธานี เขียนจดหมายมา และก็บริจาคมา 1,000 ขอให้อ่านเพื่อจะได้เป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนที่มาชุมนุม และจะได้บอกว่าคนใต้ คนสุราษฎร์ธานี ก็ไม่เอาเทือกเทพสุบรรณครับ

เขาบอกว่า เรียนคุณประพันธ์ คูณมี ที่เคารพ ผมฟังคุณประพันธ์ทุกคืน หากไม่ได้ฟังนอนไม่หลับ ไม่ได้รู้สันดานและความเลวของนักการเมืองประเทศนี้มากมาย ครั้งนี้ผมและภรรยาไม่ได้มาร่วมชุมนุมกับพี่น้อง ไม่สะดวกเหมือนตอน 193 วัน หากผมมาร่วมชุมนุม กลับไปคงไม่มีอะไรเหลืออยู่แน่เลยในยุคเทพเทือก จึงเขียนจดหมายฝากมากับเพื่อนๆ ถึงคุณประพันธ์

1. ให้ช่วยพูดเรื่องสหกรณ์ Co-op ที่สุราษฎร์ธานีให้ด้วย ถึงความขี้ฉ้อของเทพเทือก เพราะตั้งมานานแล้วยังไม่เคยได้รับปันผล เงินทุนก็ไม่ได้คืน อุบาทว์จริงๆ

อีกเรื่อง 2. เรื่องเงินช่วยเหลือผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่สุราษฎร์ธานี ก็ไม่ยอมจ่าย ทราบข่าวว่าเงินดังกล่าวนับร้อยล้าน ได้ถูกโอนไปที่กองทัพภาคที่ 4 เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ยอมจ่ายให้สักที คงจะได้ดอกเบี้ยฝากกันพอสมควรแล้วนะครับ

3. เรื่องตัวแทนเกษตรกร ก็ไม่ได้มีการเลือกตั้ง ปิดข่าวแล้วตั้งกันทั้งนั้นล่ะ อันนี้เรื่องเขามีสภาเกษตรกร การเลือกตัวแทนไปเป็นผู้แทนในสภาเกษตรกร ก็มีการงุบงิบกัน

4. เรื่องการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่สุราษฎร์ธานี เขาพาพวกผู้นำท้องถิ่นไปดูงานกันแล้ว แต่ให้ดูเฉพาะกลางคืนครับ แปลกดี

สุดท้ายไม่มีอะไรมาก ขอให้เปิดโปงมันไปเรื่อยๆ แล้วฝากคิดถึงพันธมิตรฯ ทุกคนด้วย ไม่มีอะไรมากฝากมาให้ทุกคนที่นี่ ขอแรงใจและเงินช่วยเหลือค่าอาหารในการชุมนุม 1,000 บาทครับ พันธมิตรฯ สุราษฎร์ธานี

ก็ยังดีครับ ท่านมาไม่ได้แต่ก็ยังส่งกำลังใจมาช่วยพวกเรา พี่น้องครับ ผมอยากจะสรุปให้พี่น้องฟังว่า ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พยายามอวดอ้างตัวเองและคุยนักคุยหนาว่า ถ้าเขาได้กลับมาบริหารประเทศ เขาจะพาให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า และจะพ้นจากวังวนของการเมืองและความขัดแย้ง และจะทำให้เศรษฐกิจ สังคม เจริญรุ่งเรือง ก้าวไปข้างหน้า ผมคิดว่าคำพูดนี้มาถึงวันนี้ ถามพี่น้องที่นี่หน่อย พี่น้องเชื่อมั้ยครับ (ไม่เชื่อ) เชื่อ/ไม่เชื่อ (ไม่เชื่อ) ผมว่าพี่น้องที่นี่ต่อให้อมพระทั้งโบสถ์มา พี่น้องก็คงไม่เชื่อ

นายอภิสิทธิ์ครับ เวลาคุณจะพูดอะไร คุณดูเงาหัวและดูผลงานตัวเองหน่อย คุณไปตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองหน่อย ประชาชนไทยเขากินข้าว เขาไม่ได้กินแกลบ คุณทำงานมา 2 ปี มันเป็นการวัดประสิทธิภาพการทำงานของคุณได้ดีที่สุดแล้ว ว่าคุณสมควรที่จะได้รับโอกาสกลับมาบริหารบ้านเมืองต่อไปอีกหรือไม่

พี่น้องครับ ผมอยากจะสรุปให้ฟังแต่ละด้าน ด้านที่ 1 ด้านความมั่นคง และการรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ ตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2551 พี่น้องครับ ท่านดูประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง นายอภิสิทธิ์สอบได้ หรือสอบตก ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงใช่มั้ยครับ การประชุมอาเซียนที่พัทยาล้มไม่เป็นท่า ผู้นำประเทศทั้งหลายหนีตายกันอลหม่าน รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ และนายกษิต ภิรมย์ หนีตายอย่างกับหมาถูกน้ำร้อน เกียรติภูมิศักดิ์ศรีของประเทศไปอยู่ไหน คุณจะไปโทษพวกคนเสื้อแดง หรือไอ้กีร์อย่างเดียวไม่ได้ แสดงว่าคุณไม่มีปัญญา และไม่มีน้ำยาจัดการกับไอ้กีร์ ถูกมั้ยครับ แสดงว่าไอ้กีร์มันใหญ่กว่าคุณไง มันเก่งกว่าคุณไง มันสามารถไปพังการประชุมอาเซียนได้ คุณต้องตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาหัวคุณว่าคุณมีทั้งตำรวจ มีทั้งกองทัพ มีเครื่องไม้เครื่องมือ มีงบประมาณมากมาย คุณไปก้มหัวมุดหัวทำซากอยู่ที่ไหน มันต้องโทษตัวเอง

เกิดเหตุจลาจลเมื่อ 10 เมษาฯ ทั้งบ้านทั้งเมือง กลุ่มคนเสื้อแดงมายึดรถเมล์ เผาบ้านเผาเมือง ความผิดส่วนหนึ่งนั้นก็คือคนเสื้อแดง ผู้ชุมนุม ใช่ แต่ความผิดส่วนหนึ่งก็คือเจ้าหน้าที่รัฐอ่อนแอ นายกฯ มันไม่มีน้ำยา ใช่มั้ยครับ ประชาชนสุจริตชนถึงถูกคุกคามอย่างนี้ นี่คุณล้มเหลว แล้วล้มเหลวครั้งนั้นบ้านเมืองเสียหายนับแสนล้านไปรอบหนึ่งแล้ว ครั้งแรกๆ เลยครับ ไม่นานเลย เกียรติภูมิศักดิ์ศรีของประเทศแทบจะไม่เหลือหลอ และการจัดประชุมครั้งหลังนั้น ถ้าไม่ได้จัดประชุมที่หัวหิน จ้างก็ไม่สามารถจัดประชุมอาเซียนสำเร็จในครั้งที่ 2 ได้ ใช่มั้ยครับ นี่ต้องนับว่าเป็นเพราะพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม จึงสามารถจัดประชุมที่หัวหินประสบความสำเร็จไปด้วยความเรียบร้อย ใช่มั้ยครับ ไม่ใช่ฝีมือของคุณเลย

อันที่ 2 ในการบริหารบ้านเมือง คุณก็ทำลายหลักนิติรัฐ หลักนิติธรรมหมด เมื่อมีเกิดเหตุ นายตำรวจไม่ทำหน้าที่ หรือปราบปรามประชาชนในกรณี 7 ตุลาฯ พล.ต.อ.พัชรวาท และพวก ซึ่ง ป.ป.ช.ชี้มูลแล้ว คุณก็ไม่ดำเนินคดีกับคนเหล่านี้ แถมให้นายสุเทพหาทางช่วย พล.ต.อ.พัชรวาท และนายตำรวจที่ร่วมกันกระทำความผิด จนกระทั่งทุกวันนี้เรื่องยังไม่ไปถึงไหนเลยครับ เห็นหรือยังครับ ว่าการรักษาความสงบเรียบร้อยของคุณมันแย่มาก

3. ในระหว่างการปกครองบริหารประเทศของคุณ ประชาชนในประเทศนี้ตกอยู่ภายใต้ความหวาดผวา และต้องคอยหลบภัยระเบิด M79 และไม่รู้ว่าจะโดนลูกหลงตายเมื่อไร ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองเกิดขึ้นจากความหละหลวมและความไร้ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งนั้น

4. เมื่อเกิดเหตุ ประชาชนที่เดือดร้อน ไม่ว่าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นเตอร์วัน ไม่ว่าผู้ประกอบการร้านค้าที่เช่าที่ห้างดังกล่าวนี้ขาย ถูกไฟไหม้เผาทรัพย์สินเสียหายหมด ตึกรามบ้านช่องได้รับความเสียหาย เศรษฐกิจได้รับผลกระทบกระเทือน เสียหายครั้งนั้นในเหตุการณ์พฤษภาฯ 19 พฤษภาฯ เสียหายไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านครับ ประชาชนไม่ได้รับการช่วยเหลือ ไม่ได้รับการชดเชยแม้แต่น้อย จนกระทั่งทุกวันนี้ นี่ไงผลงานคุณไง ถ้าคุณยังทำงานสุนัขไม่รับประทานอย่างนี้ คุณยังอยากทะลึ่งหน้าด้านกลับมาเป็นนายกฯ อีกเหรอ

กรณีที่ 5 กรณีการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ 193 วัน 193 วันของพันธมิตรฯ เราเจ็บ เราตายไปเท่าไร ตายไปสิบกว่าราย บาดเจ็บนับร้อยราย พิการไปหลายสิบราย พวกเราสละชีวิตและสูญเสียไปไม่น้อย เพื่อจะทำให้การเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลง และคุณได้มาเป็นนายกฯ นี่ก็เป็นต้นทุนที่คุณมาตีกินและเนรคุณประชาชนอีกเรื่องหนึ่งด้วย

เรื่องที่ 6 พี่น้องครับ เมื่อเย็นนี้คุณสุริยะใสพูดไปแล้ว วันนี้ขบวนการล้มเจ้า ขบวนการก่อการร้าย ขบวนการที่ซ่องสุมอาวุธเพื่อจะก่อเหตุรุนแรงในทางการเมือง รวมทั้งซ่องสุมอาวุธไปขายให้กองกำลังไม่ทราบฝ่าย หรือไปขายให้ผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ อาวุธของกองทัพหายไปจำนวนมาก ก็เป็นเพราะความหละหลวมและการไม่รักษาความสงบเรียบร้อย จึงทำให้ขบวนการก่อความวุ่นวาย ก่อความไม่สงบ ก่อการร้าย และขบวนการล้มเจ้า เติบโตขึ้นโดยลำดับ เพราะฝีมือการบริหารประเทศของคุณไง

นี่ผมสรุปไล่เรียงมาให้ดู และ 7. ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ถ้าคุณบริหารประเทศดี มันก็ไม่จำเป็นจะต้องมาใช้ พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน มันก็ไม่จำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง คุณเป็นคนที่ใช้กฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ความมั่นคง คุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชนมากที่สุดในบรรดานายกฯ ของประเทศไทย และแม้กระทั่งบ้านคุณ คุณยังเอากฎหมายนี้ไปประกาศใช้เพื่อคุ้มครองความเป็นสงบสุข อันเป็นการส่วนตัวของคุณ โดยไม่ได้เห็นแก่ความสงบสุขของพี่น้องประชาชนเพื่อนร่วมชาติเลยแม้แต่น้อย

และข้อนี้สำคัญ ข้อที่ 8 ในรัฐบาลของคุณ คุณใช้งบประมาณไปเพื่อแก้ไขปัญหาภาคใต้ 63,319 ล้านบาท เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ความไม่สงบในภาคใต้ และที่ผ่านมาเกิดเหตุความไม่สงบ 3-4 ปีนี้ ประเทศไทยใช้งบประมาณไปแล้วไม่น้อยกว่า 4 แสนล้าน แต่ปัญหาภาคใต้กลับหนักหน่วงกว่าเดิม พัฒนากลายเป็นคาร์บอมบ์ มีการต่อสู้ มีการก่อการร้าย แม้จำนวนการก่อเหตุจะน้อยลง แต่การความเสียหายรุนแรงและร้ายแรงกว่ารัฐบาลใดๆ ครับ

ก็แสดงว่ารัฐบาลคุณก็ล้มเหลว แก้ปัญหาอะไรไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียว คุณจะโยนความผิดไปให้คนอื่นก็ไม่ได้ เพราะไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องแสดงความสามารถในการแก้ไขปัญหานี้

ทั้งหมดนี้ ปัญหาความไม่สงบนั้น ยังไม่นับรวมปัญหาอาชญากรรม ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ฆ่า ข่มขืน เหตุก่อการอาชญากรรมร้ายแรงทั้งหลาย เต็มบ้านเต็มเมืองในยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช่มั้ยครับ

เพราะฉะนั้นสรุปแล้ว เรื่องความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง คุณก็ไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองได้ และคุณยังใช้เงิน ใช้งบประมาณไปมากกว่าทุกรัฐบาลที่แก้ไขปัญหา ส่วนผลงานนั้น ประสิทธิภาพของรัฐบาลคุณต่ำกว่าทุกรัฐบาลในเรื่องนี้ครับ

ส่วนปัญหาที่ 2 เรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง คือปัญหาเรื่องไทยต้องสูญเสียดินแดนครับ เรื่องไทยต้องสูญเสียดินแดนนี้ ก็เป็นผลงานและความรับผิดของนายอภิสิทธิ์เต็มๆ ครับ ทำไมผมถึงบอกว่าเป็นความรับผิดของเขาเต็มๆ พี่น้องดูนะครับ ผมอยากให้ฟังคำอภิปรายของเขา เดี๋ยวทีมงานเปิดคำอภิปรายของเขาหน่อย ว่าในวันเวลาที่เขาเป็นฝ่ายค้าน ปัญหาเรื่องนี้มันมีปัญหาอยู่แค่ไหนครับ แล้วมาถึงยุคคุณ ยุคนายอภิสิทธิ์ ปัญหามันลุกลามบานปลายมาถึงแค่ไหน และมันเป็นฝีมือของใครในการทำให้เกิดปัญหานี้ อยากให้ดูตอนที่คุณเป็นฝ่ายค้าน คุณด่าเขา อภิปรายเขา ในขณะนั้นปัญหามันอยู่แค่ไหน ฟังนายอภิสิทธิ์อภิปรายสักแป๊บครับ สั้นๆ

(VTR : อภิสิทธิ์อภิปรายในสภา)

เอาแค่นี้ก็พอแล้ว เห็นหรือยังครับ ที่ผมเอาเทปคำอภิปรายของนายอภิสิทธิ์มาให้พี่น้องฟังอีกครั้งหนึ่ง หรือท่านผู้ชมทางบ้านได้ฟังอีกครั้งหนึ่ง ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า วันที่นายสมัครเป็นนายกฯ และนายนพดลเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศนั้น ปัญหาบนปราสาทพระวิหารมีเพียงเรื่องที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก โดยเอาตัวปราสาทไปจดทะเบียนมรดกโลก และขอแผนผัง พื้นที่ที่เรียกว่าบัฟเฟอร์โซน บริเวณพื้นที่โดยรอบตัวปราสาท ไปเสนอกับองค์การมรดกโลก เพื่อจะเป็นพื้นที่บริหารจัดการ เรามีปัญหาเถียงกันอยู่แค่นี้ คนไทยไม่ยอม และก็เห็นว่านายนพดลทำให้ประเทศเสียหาย ถ้าไปยอม แค่นั้น เพราะตามคำพิพากษาศาลโลก เรายอมรับเพียงแค่ตัวปราสาทเท่านั้น ที่เป็นของกัมพูชา และนายอภิสิทธิ์ก็พูดจาอภิปรายว่าเขาฉอดๆ ว่าท่านไปตีเส้นออกมาก็เท่ากับท่านไปสละสิทธิ์แล้ว หาว่าเขาทำผิดเหมือนกัน

มาวันนี้ ดูการบริหารประเทศและจัดการปัญหานี้ของนายอภิสิทธิ์สิ คุณมันเลวหาที่ติไม่ได้ แล้วทำผิดพลาด ล้มเหลว อย่างไม่น่าให้อภัย ใช่มั้ยครับ แล้วยังเสือกทะลึ่งไปบอกว่า ถ้าเลือกผมจะพาบ้านเมืองเดินหน้า เลือกคุณก็พาประเทศลงนรกสิวะ

ก็เมื่อก่อนเรามีปัญหาแค่นี้ คุณเป็นนายกฯ 2 ปี วัดเขาก็เอาธงมาตั้งเรียบร้อยแล้ว แถมประธานกรรมาธิการ นายเจริญ คันธวงศ์ ก็ไปก้มกราบ หมอบกราบคาบแก้ว เอาของไปถวายสังฆทาน เอาจัตุปัจจัยไปถวายเขา ไปรับรองการมีวัดของกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว เขาเอาทหารมาตั้ง เขาเอาฐานปืนใหญ่มาตั้ง เขาตัดถนนขึ้นมา จากบ้านโกมุย จนกระทั่งถึงปราสาทพระวิหาร ถึงภูมะเขือ เขาสร้างสถานีเรดาร์ สถานีโทรคมนาคมบนปราสาทพระวิหาร บนเขาพนมดงรัก เขาทำจนขนาดนี้ แล้วคุณไปมุดหัวอยู่ที่ไหน แล้วทำไมคุณไม่แสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้

ก็นี่ไง ปัญหาบานปลายจนกระทั่งกัมพูชาหยิบยกเรื่องนี้ไปที่ประชุม UNSC ดึงอาเซียนเข้ามาเกี่ยวข้อง คุณก็ยังทอดหุ่ยไม่ทำอะไรเลย แถมยินดีและเชิญให้อินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์ และเข้ามาเกี่ยวข้องปัญหาพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชาอีก คุณมันแย่มาก

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ มันก็เป็นความล้มเหลวของคุณอย่างชัดเจน แล้วไม่นับรวมเรื่องที่ 7 คนไทยต้องถูกเขมรจับไปขึ้นศาลกัมพูชา และตัดสินลงโทษจำคุกคุณวีระ สมความคิด ต้องไปรับทุกข์ทรมานอยู่ในคุก และคุณก็ไม่เคยหาทางช่วยคนไทยเลยแม้แต่น้อย บอกแต่อย่างนั้นอย่างนี้ มีแต่หาทางให้คนไทยรับโทษ

แล้ววันนี้ก็เจอบทความของท่านผู้พิพากษาเลขานุการประธานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลายท่านก็พูดไปแล้ว มันไม่ได้มีเพียงอุทธรณ์หรือขออภัยโทษ เรายังสามารถใช้สิทธิ์ตามสนธิสัญญา ที่จะขอตัวคุณวีระกลับมารับโทษในประเทศไทย และในเรือนจำของไทย ซึ่งเราสามารถปฏิบัติกับคนไทยอย่างมีมนุษยธรรมได้ คุณก็เสือกไม่ทำ ผมถึงบอกว่านี่คุณล้มเหลว ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และวันนี้ดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร และตลอดแนวชายแดน 1.8 ล้าน มันจะสูญเสียหมดถ้าเอาคุณกลับมา วันนี้คุณอยู่มันก็เสียไปแล้ว คุณกลับมามันก็เสียเกือบค่อนประเทศแล้วครับ

เพราะฉะนั้นวันนี้ มันมีแต่ว่ามีนรกที่ไหนที่ไกลจากแผ่นดินไทย คุณควรจะไปนรกนั้น อย่ามาใกล้แผ่นดินไทยเลย ไม่ใช่มาหน้าด้านอยากจะกลับมาเป็นนายกฯ อีก

ส่วนประการที่ 3 ในด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ในด้านการบริหารราชการแผ่นดินก็ต้องถือว่าในยุคของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกกระทรวง ทบวง กรม ทุกหน่วยงาน มีหน่วยไหนบ้างไม่มีการโกง การทุจริต คุณแบ่งให้แต่ละพรรคไปควบคุมดูแลแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ทุกกระทรวง ทบวง กรม มันก็มือใครยาวสาวได้สาวเอา กระจายกันคอร์รัปชั่น หากินกันตามอำเภอใจ โดยคุณนั่งเป็นหัวหลักหัวตอ เป็นนายกฯ สวมแต่หัวถุงยางอย่างเดียว ไม่ได้ดูแลผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเลย หลับหูหลับตา แล้วแต่แต่ละพรรคจะทำอะไร จะโกงจะกินอย่างไร

ความเสียหายเฉพาะเรื่องโกงเรื่องทุจริต ก็ไม่น้อยกว่า 4 แสนล้านแล้ว ที่ผมเคยมาสาธยายให้พี่น้องฟัง ข้อมูลนี้ ทั้ง ป.ป.ช. ทั้ง ส.ว. ทั้งพวกเรา ที่รวบรวมข้อมูลตรงกันหมด และรวมทั้งหอการค้าเขาก็ให้ข้อมูลว่าทุกงานที่มีการประมูล ฝ่ายการเมืองเรียกเอาผลประโยชน์หมด

ในการแต่งตั้งโยกย้าย มีกระทรวงไหนบ้างไม่เสียเงินวิ่งเต้นโยกย้ายแต่งตั้ง คุณย้ายข้ามหัว ไม่มีระบบคุณธรรมเลย ระบบราชการเสียหายหมด นอกจากนั้น ระบบราชการแต่ก่อนนี้เขามีการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน โดยคิดจากผลงานของแต่ละกระทวง ทบวง กรม ได้ผลตอบแทนเท่าไรเอาไปแต่ละหน่วยงานไปแบ่งกัน ซึ่งมันก็เป็นธรรม พอมาถึงคุณ คุณมายกเลิกระบบนี้หมด แล้วคุณก็ไปใช้ระบบขึ้นเงินเดือน ซึ่งเป็นระบบเก่าที่ทำให้เกิดภาระแก่เงินคงคลังของประเทศ แล้วทำให้ราชการไม่สามารถวัดประสิทธิภาพในการทำงานได้ นี่ก็เป็นการบริหารที่ล้มเหลวของนายอภิสิทธิ์ อะไรที่เขาทำไว้ดีมันก็ไปยกเลิก อะไรที่เลวกว่ามันรีบเสนอเข้ามาทำเลยครับ

นอกจากนี้ ในการบริหารราชการบ้านเมืองของคุณ คุณก็ไม่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติของประชาชน เมื่อวานนี้ผมก็พูดไปแล้ว กรณีฟิลลิป มอร์ริส ที่นำเข้าบุหรี่มาขายในเมืองไทย ประเทศไทยจะได้ภาษี 68,881 ล้านบาท คุณก็ดันทะลึ่งไปแทรกแซงจนกระทั่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง และก็ทำให้โอกาสที่ไทยจะได้ภาษี เลยไม่ได้ภาษี นี่คุณรักษาประโยชน์ชาติหรือเปล่า คุณก็บริหารบ้านเมืองโดยทำให้ประเทศชาติ ประชาชน เสียประโยชน์

แล้วผู้แทนการค้าของคุณ นายเกียรติ สิทธีอมร ตั้งแต่คุณตั้งมา ผลงานชิ้นเอกของเขามีเรื่องนี้เรื่องเดียวครับ ไอ้ที่จะไปเจรจาการค้าให้ประเทศไทย ให้นักธุรกิจไทย คนไทย ได้ประโยชน์ ไม่มีแม้แต่เรื่องเดียว

ขณะเดียวกัน เกี่ยวกับอาชีพของคนไทย ผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ ที่เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย คุณก็ปล่อยให้ต่างชาติมาแย่งอาชีพคนไทย กลายเป็นพวกรัสเซียบ้าง ฝรั่ง คนจีนบ้าง มาแย่งอาชีพคนไทยในประเทศไทย อาชีพคนไทยเขาก็ไม่คุ้มครอง และการละเมิดกฎหมายโดยเอาที่ดิน ส.ป.ก.ไปทำโฉนดแล้วให้บริษัทธุรกิจไปทำโรงงานไฟฟ้า แล้วก็ไปละเมิด บุกรุกที่ป่าสงวน ตั้งโรงงานไฟฟ้าแบบนี้คุณก็ทำเพียงเพื่อให้กลุ่มธุรกิจของนักการเมืองและผู้สนับสนุนพรรคการเมืองได้ประโยชน์ ผมไม่เห็นคุณบริหารอะไรที่ทำให้ประเทศไทย ประชาชนไทย ได้ประโยชน์แม้แต่เรื่องเดียว

การประมูลจัดซื้อจัดจ้างในทุกกระทรวง ทบวง กรม ไม่ต้องพูดถึง มีการประมูลในกระทรวงไหนบ้างที่โปร่งใสบ้างในยุคนายอภิสิทธิ์ ช่วยยกมาสักเรื่องสิ ว่าการประมูลเรื่องนี้ทำให้รัฐ ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ ไม่มีแม้แต่เรื่องเดียว นอกจากประมูลได้ของแพง เสียเงินมาก คุณภาพต่ำ นักการเมือง นักธุรกิจได้ประโยชน์ ประชาชน ประเทศชาติ เสียหาย ทุกโครงการ ไม่ว่ารถไฟใต้ดิน ไม่ว่าจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ ไม่ว่าจะจัดซื้อจัดจ้างยุทโธปกรณ์ ทุกเรื่องเป็นแบบนี้หมดในยุคสมัยของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ส่วนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พี่น้องครับ แทบไม่ต้องพูดถึงว่าวันนี้เงินเฟ้อ สินค้าราคาแพง ขาดแคลน สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพง ขาดแคลน สินค้าเกษตรกรราคาตกต่ำ ผลงานเดียวที่ประชาชนพอจะนึกได้ว่าเป็นความคิดอันบรรเจิดของคุณคือชั่งกิโลไข่ขาย

มีเรื่องเดียว นอกนั้นไม่มีอะไรที่ประชาชนจะชื่นชมเลย แล้วก็เป็นผลงานที่อัปยศครับ ไม่มีใครจำได้ว่านายอภิสิทธิ์แก้ปัญหาเศรษฐกิจเรื่องอะไรให้ประชาชนบ้าง

สุดท้าย ผมพยายามรวบรัดนะครับ การศึกษา สังคม วัฒนธรรมของประเทศไทย พี่น้องครับ ถามว่าตั้งแต่นายอภิสิทธิ์มาเป็นนายกรัฐมนตรี สังคมดีขึ้นมั้ย สังคมมันมีแต่เสื่อมทราม เสื่อมโทรมลง เราถึงได้เห็นซากศพของเด็กเต็มวัดที่ไปค้นกันมา สภาพสังคมเหลวแหลก เน่าเฟะ วัฒนธรรมเหลวแหลก เน่าเฟะ การศึกษาก็ล้มเหลว มันทำเป็นอย่างเดียวคือเอาเงินไปแจกชาวบ้าน เอางบประมาณไปแจกชาวบ้าน แจกเพื่อหาเสียงอย่างเดียวมันจะมีประโยชน์อะไร เพราะมันไม่ได้สร้างผลผลิต ไม่ได้สร้างรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากผลาญเงินงบประมาณของประเทศชาติ และประชาชน เพื่อการหาเสียงของพรรคการเมืองเท่านั้นเอง

เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่าสภาพสังคมไม่มีอะไรดีขึ้น ถ้าการอยู่ในตำแหน่งของคุณ 2 ปีกว่ามานี้ ทำให้ประเทศดีขึ้น คุณไม่ต้องห่วงหรอกนายอภิสิทธิ์ ประชาชนเขาจะแซ่ซ้องสรรเสริญ และเขาจะแห่ไปเลือกคุณถล่มทลายเลย แต่วันนี้ที่คุณเดินไปที่ไหนก็เจอคนยกป้ายด่า ยกป้ายประท้วงนั้น คุณต้องโทษตัวคุณเอง ไม่ใช่ว่าประชาชนนั้นเขารับจ้างใครมา แต่เขาทนการหน้าด้านและพฤติกรรมการบริหารประเทศที่ล้มเหลวของคุณไม่ได้ต่างหาก คุณควรจะต้องมองตัวเอง

สุดท้ายครับ ที่อยากจะพูดกับพี่น้องชาวไทย ที่ผมพูดมานี้เป็นแต่เพียงหัวข้อ แต่ถ้าจะเอารายละเอียดในแต่ละเรื่อง เดี๋ยวมาพูดกันได้ ว่าการแก้ปัญหาใต้คุณแก้แบบไหน ใช้งบประมาณไปกี่แสนล้าน แล้วมันไม่คุ้ม มันเสียหายอย่างไร การแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เรื่องภัยคุกคามต่อสถาบัน ขบวนการก่อการร้าย ขบวนการล้มเจ้า คุณทำอะไร ทำไมขบวนการเหล่านี้มันถึงเผยแพร่เอกสารสิ่งพิมพ์คุกคามสถาบันอย่างน่ากลัว และการแก้ไขปัญหาทุกเรื่องที่ผมพูดมานี้ คุณทำอย่างไรและทำให้บ้านเมืองเสียหายอย่างไร เราก็ต้องมาพูดกันทีละเรื่อง ทีละด้าน ในวันต่อๆ ไป

แต่ที่ผมอยากจะพูดกับพ่อแม่พี่น้องในวันนี้ก็คือ ในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครั้งนี้ 2 ปีที่เขาอยู่ในตำแหน่ง ประเทศไทย สังคมไทย และพี่น้องประชาชนไทย ต้องมีต้นทุนอันมหาศาล เพื่อให้นายอภิสิทธิ์นั่งอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ต้นทุนอันมหาศาลนี้ก็คือความเสียหายของประเทศ หายนะของประเทศ หายนะของประชาชน การโกง การทุจริตที่เป็นต้นทุน เงินภาษีของประเทศที่ต้องสูญไป แม้กระทั่งเราต้องสูญเสียแผ่นดินไทย ก็ต้องเป็นต้นทุนให้คุณอยู่ในตำแหน่งของประเทศ

ต้นทุนวันนี้เราต้องสูญเสียไปจำนวนมหาศาล โดยผลตอบแทนที่ประชาชนได้รับจากความสามารถในการบริหารประเทศของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีอะไรครับ ผลตอบแทนที่ประชาชนได้รับ ก็คือ 1. ไข่ชั่งกิโลขาย 2. คำโกหกโป้ปดมดเท็จของนายอภิสิทธิ์ ทุกวัน 3. คำตระบัดสัตย์ เนรคุณประชาชน ผู้ให้โอกาสของนายอภิสิทธิ์ นี่คือสิ่งที่ประชาชนได้รับ 4. ก็คือ สังคมและประเทศชาติต้องบอบช้ำ และต้องรองรับความเสียหายมากมาย สถาบันถูกคุกคาม และภัยอันตรายที่มาเยือนประชาชน และคุกคามอธิปไตยของประเทศ กำลังทำให้ประเทศชาติหมดสิ้นซึ่งศักดิ์ศรี คนไทยหมดสิ้นซึ่งศักดิ์ศรี ประเทศหมดสิ้นซึ่งศักดิ์ศรี ก็ด้วยน้ำมือและฝีมือบริหารของเขาทั้งนั้น

ผมจึงมองไม่เห็นเลยครับ เพราะฉะนั้นผมอยากจะให้ อ.เจิมศักดิ์ ช่วยทำหนังสือพิมพ์ผลงานเด่นของนายอภิสิทธิ์มาแจกพวกเราหน่อย ว่า 2 ปี 2 เดือน ที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ หลังจากที่อาจารย์ช่วยทำหนังสือ "ร้อยฝันวันฟ้าใหม่" ซึ่งผมเห็นว่าเป็น "ร้อยบรรลัยต้มประชาชน" ไปแล้วนั้น ช่วยทำหนังสืออีกเล่มหน่อยว่า สุดยอดผลงานเด่นของนายอภิสิทธิ์ มีอะไรบ้าง พวกเราอยากอ่านเหลือเกิน

แล้วถ้ามันไม่มีผลงานเด่น มีแต่สร้างผลงานอัปยศและความหายนะให้กับชาติบ้านเมืองแล้ว คุณยังจะหน้าด้านกลับมาเป็นนายกฯ เพื่ออะไร ถามหน่อยสิครับ

พี่น้องครับ ที่ผมมาพูดกับพี่น้องวันนี้ก็เพื่อจะบอกว่า วันนี้เราโชคร้ายที่ต้องอยู่กับนายกรัฐมนตรีที่ไร้สำนึกและไร้ความรับผิดชอบ ความรู้ ความสามารถในการบริหารประเทศก็ด้อยประสิทธิภาพและตกต่ำ แถมสร้างความล้มเหลวและสร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมือง ความเข้าใจต่อปัญหาและวิธีที่จะแก้ไขปัญหาก็ไม่มี วิธีคิดที่จะนำพาชาติบ้านเมืองให้ก้าวไปข้างหน้า ไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่มีแนวทางวิธีการ ไม่มีนโยบายที่เป็นรูปธรรมปฏิบัติเห็นผลให้ประชาชนได้ชื่นใจแม้แต่เรื่องเดียว ไม่ว่าเรื่องใดเลย เพราะฉะนั้นผมจึงเห็นว่ามันน่าจะหมดเวลาสำหรับนายอภิสิทธิ์ ในการที่จะกลับมาสู่ตำแหน่งทางการเมืองและเป็นนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว เพราะเขาคือคนโกหก คนไร้ประสิทธิภาพ คนล้มเหลว และเป็นโมฆะบุรุษของประชาชนไทยครับ

ภารกิจของพวกเราวันนี้ เราต้องทำ 2 อย่าง 1. ปกป้องแผ่นดิน 2. หาทางกำจัดนายอภิสิทธิ์ให้ออกไปจากตำแหน่งทางการเมือ และไม่ให้มีโอกาสกลับมาปกครองบ้านเมืองอีกต่อไป

หน้าที่ของเราอันนี้สำคัญที่สุด และเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้านายอภิสิทธิ์กลับมาอีกครั้งหนึ่ง บ้านเมืองก็จะวินาศฉิบหายอย่างที่เราเห็นอยู่ในขณะนี้

วันนี้การต่อสู้ของพวกเรามาถึงจุดสำคัญ เราจำเป็นจะต้องสรุปบทเรียน ยกระดับ และหาแนวทางการต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพ และได้ผล คณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดินกำลังพยายามที่จะหาแนวทางเพื่อกดดันนายอภิสิทธิ์ทุกวิถีทาง เพื่อให้เขาได้สำนึกและหมดโอกาสที่จะกลับมาปกครองบ้านเมืองอีกต่อไป

เหตุผลก็เพราะว่า นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นนายกฯ ที่ดีจริง นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรม มีฝีมือ และมีความสามารถจริง นายอภิสิทธิ์ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ใช่ผู้นำประเทศไทยที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป

ด้วยเหตุนี้เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียกร้องให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ได้ออกมาช่วยกัน หยุดการเมืองที่ล้มเหลวด้วยมือของพวกเราเองครับ ขอบคุณครับ

คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทางบ้านและพี่น้องที่อยู่ทั่วประเทศ ทั่วโลก กราบสวัสดีครับ

วันนี้มาแบบสบาย ไม่เครียด แล้วก็ปล่อยเวลาให้น้องเก๋ กับคุณแอน ระดมทุนหาเงินมากู้ชาติแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ เราต่อสู้กู้บ้านกู้เมืองปกป้องแผ่นดิน เราต้องระดมทุนทุกบาททุกสตางค์ด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของพี่น้องประชาชนผู้รักชาติ เสียดายครับพี่น้อง ถ้าเงิน 600-700 ล้านนั้น มาบริจาคให้พวกเรา ป่านนี้เราก็ตั้งกองทัพไปไล่เขมร เอาแผ่นดินกลับคืนมาได้แล้ว นี่คือความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างพวกเรากับเขา เขาทำโดยการระดมเงินเพื่อที่จะเอาเงินไปหาเสียงเลือกตั้งเพื่อให้ได้อำนาจมา ได้อำนาจมาเป็นรัฐบาลแล้วก็มาโกง แล้วก็มาเรียกเคาะกะลาหาเงินจากพ่อค้าทำท่าว่ามาบริจาคซื้อโต๊ะ โต๊ะละตั้ง 2.5 ล้าน

แต่เราต้องขายเสื้อ ขายสติ๊กเกอร์ ขายของ และอาศัยแรงศรัทธาของพี่น้องประชาชน ไม่เป็นไรครับ ยังไงเราก็ต้องสู้เพื่อชาติใช่มั้ยครับ และก็จะได้พิสูจน์กันว่าระหว่างศรัทธาปลอมๆ ศรัทธาเทียมๆ ที่บรรดาคนเขาแห่ไปซื้อโต๊ะ โต๊ะละ 2.5 ล้าน เป็นแต่เพียงมีน้ำเปล่าและอาหารจีนนครปฐม โต๊ะละไม่เกิน 5,000 บาท แต่ต้องจ่าย 2.5 ล้านนั้น ศรัทธาเทียมๆ และแรงสนับสนุนจอมปลอมที่ได้มาจาก ถ้าคุณไม่ได้เป็นรัฐบาลจะมีปัญญาขายโต๊ะละ 2.5 ล้านมั้ยครับ

ก็มาสู้กันระหว่างพวกเรา กับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าใครจะยืนหยัด ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ ว่าใครจะเป็นฝ่ายที่ยืนอยู่บนความถูกต้อง และใครกำลังจะพาตัวเองไปสู่ความหายนะในที่สุด

พูดถึงงานระดมทุนเมื่อวานนี้ ผมก็มีควันหลงอยากจะมาเล่าให้พี่น้องฟังหน่อยครับ พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ คุยโตโอ้อวดและพยายามสร้างภาพ สร้างราคา ให้พรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่าเขามีโอกาสที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลและมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการพยายามโชว์ศักยภาพในการจัดงานระดมทุน ขายโต๊ะละ 2.5 ล้าน พี่น้องรู้มั้ยครับถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ไม่มีนายสุเทพ เป็นรองนายกฯ และไม่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลคราวนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะขายได้โต๊ะละ 2.5 ล้านมั้ยครับ รับรองไม่มีทาง และประชาธิปัตย์ก็เคยจัดงานเมื่อครั้งก่อน ในช่วงที่เป็นฝ่ายค้าน ขายโต๊ะละ 5 แสน ยังลำบากเลยครับ

นี่ก็เป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่าการเมืองวันนี้เอาเงินเป็นที่ตั้ง เป็นระบอบธนาธิปไตย อาศัยอำนาจทางการเมืองเคาะกะลาเรียกนายทุนมาจ่ายเงิน มาสนับสนุนพรรคตัวเอง เพื่อแลกกับการที่จะได้ผลประโยชน์ตอบแทนเมื่อเวลาที่พรรคได้เป็นรัฐบาล มันจึงเป็นธุรกิจการเมืองชัดๆ ใช่มั้ยครับ

ทีนี้ควันหลงของการจัดงานเมื่อคืนนี้ มันมีเรื่องตลกที่ผมอยากจะเล่าให้พี่น้องฟัง ตลกอันที่ 1 คือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดนเวทีนี้อภิปราย วิพากษ์วิจารณ์ เปิดโปงพฤติกรรมและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารบ้านเมืองของเขา และก็มีการพูดถึงในลักษณะที่อาจกระทบไปถึงพฤติกรรมส่วนตัวของเขา จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้บอกว่าเขาเป็นตุ๊ด เป็นเกย์ เป็นอะไรนะครับ เราไม่เคยพูดเลยบนเวทีนี้ ไม่เคยมีใครบอกเลยว่าคุณเป็นอะไร ผมก็ไม่เคยพูดว่าคุณเป็นอะไร ทำไมถึงทำมืออย่างนั้นอย่างนี้ ผมไม่เคยพูดใช่มั้ยครับ แต่ว่ามันได้เกิดอาการ ได้เกิดอาการในพรรค คือคนในพรรคเริ่มรู้สึกจับตามองหัวหน้าพรรคตัวเองว่า เฮ้ย มันจะเป็นอย่างที่เสียงครหานินทาจริงหรือเปล่า หัวหน้าพรรค นายกรัฐมนตรี ก็กลัวว่าคนจะเข้าใจว่าตัวเป็นอย่างนั้น จากที่ทำตัวเรียบร้อย สุภาพ น่ารัก ทำตัวเจี๋ยมเจี้ยม ติ๋มๆ พูดจาสุภาพเรียบร้อย วันนี้มีอาการเสียงห้าวครับพี่น้องครับ

มีอาการออกอาการว่า เฮ้ย ไอ้เหี้ย ไอ้ห่า (ขอโทษนะครับ) มีอาการลักษณะคำพูดสไตล์ทำตัวภาษาวัยรุ่นเขาเรียกว่าแอ๊บแมนครับ คือมีอาการแอ๊บแมนและบางทีท่าทางการพูด การเดิน การนั่ง การกิน หรือการแสดงออกท่าทาง พยายามแสดงตัวให้คนเห็นว่าเฮ้ย ฉันเป็นแมนนะเว้ย ฉันไม่ใช่อย่างที่คนครหานินทานะ มันก็เลยเกิดอาการผิดปกติวิสัยของคนเป็นนายอภิสิทธิ์แต่ดั้งเดิม จนลูกพรรคเกิดความสงสัยว่าหัวหน้าไปกินยาอะไรผิดมาวะ ฉะนั้นอาการของนายอภิสทิธิ์วันนี้เป็นอาการของคนที่เสียศูนย์เหมือนรถยนต์ที่ต้องไปตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่ก็มีอาการออกเสียงดัง อาการจะทำตัวให้เป็นผู้ชาย เอ๊ะทำไมผมต้องไปแสดงด้วย ผมก็ไม่ได้ว่าสักหน่อยว่าคุณเป็นอะไร ผมก็ไม่ได้บอกว่าคุณเป็นประเภทแต๋วแตก แต่คุณเดือดร้อนไปเองหรือเปล่า

นี่คือเรื่องตลกเรื่องหนึ่ง ซึ่งหลายคนที่เคยรู้จักนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้วก็รู้จักหัวหน้าพรรคตัวเองดี ตกใจหมด เพราะบางคนนานๆ เพิ่งมาร่วมงานระดมทุน วันนี้เพิ่งเห็นหน้านายกฯ เต็มตา ส.ส.ที่มาจากต่างจังหวัด ผู้สนับสนุนพรรคที่เคยเห็น หรือสมาชิกหรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยเจอ ไม่ค่อยได้เจอกับหัวหน้าพรรคบ่อยนัก นานๆ มาเจอทีในงานอย่างนี้ ก็เกิดอาการตกใจ เฮ้ย หัวหน้าพรรคเป็นอะไร อาการมันเปี๊ยนไป๋ นี่คือเรื่องตลกเรื่องที่ 1

แต่เรื่องที่ 2 ครับ พี่น้องรู้ไหมครับการระดมทุนหาเงินเข้าพรรคเมื่อคืนนี้ ปรากฏว่าคนที่ถูกด่ามากที่สุดคือหัวหน้าพรรค กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ครับ ถูกด่าจากใครครับ ปรากฏว่าถูกด่าจากบรรดา ส.ส. ส.ก. ส.ข. คนในพรรคของตัวเอง ถูกด่าเพราะอะไรครับ ก็เพราะว่าถ้าลื้อไม่ได้โต๊ะ ไม่ได้เงินโต๊ะละ 2.5 ล้าน ลื้อไม่มีสิทธิ์นั่งครับ พวก ส.ก. ส.ข. ส.ส. ไม่มีที่นั่งเลย ต้องยืนระเกะระกะ เดินเตร่ไปเตร่มาในงาน ไม่ได้รับเกียรติจากพรรคประชาธิปัตย์ เลขาฯ พรรค เลย ต้องจ่ายเงินเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์มานั่งโต๊ะ กลายเป็นว่า ส.ส.พรรคนี้ หรือสมาชิกพรรคนี้ ถ้าคุณไม่มีเงิน คุณไม่มีสิทธิ์ครับ

แตกต่างจากวัฒนธรรมในอดีตที่พรรคประชาธิปัตย์ ทุกคนที่มีส่วนร่วมสร้างพรรค สร้างงาน และทำงานร่วมกันมา จะได้รับเกียรติ รับการต้อนรับ และได้จัดสรรที่นั่งให้ได้รับเกียรติจากการจัดงาน เพราะงานสำคัญอย่างนี้ ทุกคนที่เป็นคนสำคัญของพรรค เป็นสมาชิกพรรค ประธานสาขา ส.ก. ส.ข. เขาก็อยากมามีส่วนร่วม แต่เขาไม่มีเงินซื้อโต๊ะ 2.5 ล้าน เขาก็กลายเป็นตัวตลกในงาน แต่ได้รับการดูถูกดูแคลน เสียงก่นดาประณามเลขาฯ พรรค และหัวหน้าพรรค ก็เลยต้องดังขรมไปทั้งงานครับ

ทำไมนายประพันธ์มันรู้ดีเหลือเกิน อ้าว ผมก็มีสายอยู่ในนั้น ไปนั่งกินด้วย สังเกตด้วย พฤติกรรมหัวหน้าพรรค คุณแอ๊บแมน เขายังรายงานให้ผมรู้เลย นี่ภาษาวัยรุ่นนะครับ แอ๊บแมน ผมก็เพิ่งรู้ว่ามันเป็นอย่างนี้เหรอ แอ๊บแมน และที่น่าเกลียดที่สุดก็คือว่า พี่น้องครับ งานระดมทุนเตรียมเลือกตั้ง ปัญหาก็คือว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรให้กับประเทศชาติบ้านเมือง สร้างคุณูปการอะไรให้กับสังคม แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของบ้านเมือง อะไรให้กับประชาชนบ้าง ไม่มีพูดถึง ไม่มีผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันให้ประชาชนได้รับรู้ แต่ก็อยากจะกลับมาเป็นรัฐบาล

สิ่งที่เกิดขึ้น ความผิดพลาดเสียหายในบ้านเมืองที่เกิดขึ้น ไม่มีความรับผิดชอบสักอย่าง แต่มีความทะเยอทะยานสูง อยากจะกลับมาเป็นนายกฯ อีกเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ทำงานคุณภาพต่ำ ความรับผิดชอบก็ต่ำด้วย

แต่ที่ผมฟังแล้วเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ และอยากจะพูดถึงก็คือว่า ผมคิดว่านายอภิสิทธิ์พูดคำหนึ่ง เป็นการแสดงมารยาทที่เลวมากในทางการเมือง เขาบอกว่า ถ้าอยากจะให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า หลุดพ้นจากข้างหน้า หลุดพ้นจากวังวนของปัญหาและความขัดแย้ง ก็ต้องเลือกพรรคเขา แต่ถ้าอยากให้บ้านเมืองจมปลักอยู่กับความขัดแย้ง และอยู่กับวังวนของปัญหาทางการเมือง ก็ต้องไปเลือกพรรคอื่น

พี่น้องครับ ไอ้นี่มันสันดานเอาดีใส่ตัว โยนความชั่วใส่คนอื่นชัดๆ เลย คือโดยไม่เคยสำนึก ไม่เคยรับผิดชอบเลยว่า บ้านเมืองที่มันวุ่นวาย และจมปลักอยู่กับความขัดแย้ง กฎหมายไม่มีขื่อมีแป หลักนิติรัฐ หลักนิติธรรม ถูกทำลายหมด และการบริหารจัดการปัญหาของคุณที่ปล่อยให้เกิดสภาพอย่างนี้ ถามว่ามันไม่มีความผิดพลาดของคุณเลยแม้แต่น้อยเหรอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ความเป็นนายกฯ ของคุณ ที่มีหน้าที่จะต้องดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ให้ความยุติธรรมกับคนในสังคม ดูแลให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย จัดการกับคนที่ละเมิด คุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน ถามว่าคุณไม่มีหน้าที่ทำอะไรเลยเหรอ ตกลงที่คุณปกครองมา 2 ปีนี้ คุณไม่มีความผิดอะไรเลยใช่มั้ยนายอภิสิทธิ์

ที่บ้านเมืองมันเดินหน้าไม่ได้ และจมปลักอยู่กับความล้มเหลว และตกอยู่ในวังวนทางการเมือง เพราะคุณมันเป็นคนเห็นแก่ตัว ไร้ความสามารถ ขาดภาวะผู้นำ และบริหารบ้านเมืองล้มเหลวไงครับ

มันไม่ได้เป็นเรื่องอื่นเลย ปัญหาที่จะมีคนมาก่อกวนหรือสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น ถ้าเทียบจากเมื่อสมัยก่อน ที่มีกองทัพ มีพรรคคอมมิวนิสต์ มีกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทย มีโจรจีนมลายู มีขบวนการโจรจีนแบ่งแยกดินแดน รอบบ้านก็มีแต่คอมมิวนิสต์เต็มบ้านเต็มเมือง เวียดนามก็แตก กัมพูชาก็แตก ลาวก็แตก สถานการณ์บ้านเมืองเมื่อก่อนมันยิ่งกว่านั้น ทำไมเขาพาบ้านเมืองมารอด ผู้นำประเทศทำไมเขาพาประเทศชาติมารอด แต่คุณน่ะไม่ได้มีอะไรเลย เพียงแต่ไอ้โจรชุดดำชุดเดียว คุณยังไม่มีปัญญาแก้ไขปัญหาให้บ้านเมืองเกิดความสงบเลย

แล้วที่ไอ้ชายชุดดำสามารถมาก่อเหตุรุนแรงได้ มาก่อเหตุวุ่นวายได้ มันก็ต้องโทษตัวคุณเองที่คุณไม่เคยเอาใจใส่กับปัญหาที่เป็นภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และไม่เคยมีประสิทธิภาพและความสามารถในการที่จะแก้ไขปัญหา มันก็ต้องโทษตัวเองด้วย ใช่มั้ยครับ

ถามว่าถ้าคุณบอกว่าบ้านเมืองจะเดินหน้า วันนี้คุณก็เป็นนายกฯ อยู่แล้ว ทำไมจะต้องรอให้คุณเลือกตั้งกลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบ บ้านเมืองมันถึงจะเดินหน้าได้ ทำไมลื้อไม่มีปัญญาพาให้บ้านเมืองเดินหน้าในขณะที่ลื้อเป็นนายกฯ ล่ะ ก็ตอนนี้คุณก็เป็นนายกฯ อยู่แล้ว แล้วทำไมไม่มีน้ำยา ถามว่าเมื่อคุณเลือกตั้งใหม่ได้เป็นนายกฯ กลับมา คุณจะมีน้ำยามั้ย คุณจะมีความสามารถเก่งกว่านี้มั้ย หรือว่าถ้าเลือกตั้งใหม่มาแล้ว คุณจะกลายเป็นมนุษย์ซูเปอร์แมนวิเศษวิโส เก่งกล้าสามารถขึ้นมาทันทีทันใด มันเป็นไปได้มั้ยครับ

ก็คุณเป็นนายกฯ มา 2 ปีแล้ว คุณทำอะไรให้บ้านเมืองประสบความสำเร็จบ้าง ถ้าคุณจะมีฝีมือ มีความสามารถ คุณจะออมฝีมืออยู่ทำไม แสดงออกมาเลย ใช่มั้ยครับ

เพราะฉะนั้นวันนี้ผมก็เลยถือโอกาสมาคุยกับพี่น้องเรื่องนี้เลยว่า เนื่องจากนายอภิสิทธิ์พยายามจะคุยโวโอ้อวดว่าตัวเองมีความสามารถที่จะพาบ้านเมืองก้าวเดินไปข้างหน้า และก็มีหลายคนยังหลงใหลและยังไปประจบสอพลอ นึกว่านายอภิสิทธิ์จะมาเป็นนายกฯ และพาประเทศเดินไปข้างหน้าได้อีก ความจริงแล้ว ผมจะบอกให้ครับ แม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลมันก็ไม่เชื่อน้ำคำและขี้ปากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เลย เขารอกเลือกตั้งใหม่จริง แต่เมื่อถึงเวลาโหวตเลือกนายกฯ รับรองเขาไม่เลือกนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน

เพราะเขาเห็นแล้ว เอาใครมาเป็นนายกฯ ก็ได้ ไม่ต้องมีความสามารถ ขอให้มันเกาะโพเดียมอยู่ก็พอแล้ว ใช่มั้ยครับ

ฉะนั้นวันนี้ผมก็เลยถือโอกาสสรุปคุยกับพี่น้องว่า นายอภิสิทธิ์บริหารบ้านเมืองมา 2 ปี แล้วก็อยากจะกลับมาเป็นนายกฯ อีก แล้วก็มาคุยโวโอ้อวดว่าจะทำให้บ้านเมืองก้าวเดินไปข้างหน้านั้น ผมอยากจะเอาผลงานในรอบ 2 ปี 2 เดือนที่นายอภิสิทธิ์ บริหารประเทศนั้น นายอภิสิทธิ์ทำความล้มเหลวและสร้างความหายนะให้เกิดขึ้นกับแผ่นดินไทย และประชาชนไทยในเรื่องใดบ้าง

เอาเรื่องนี้ วันนี้ แต่ก่อนที่จะพูดเรื่องนี้ มีคนจากสุราษฎร์ธานี พันธมิตรฯ สุราษฎร์ธานี เขียนจดหมายมา และก็บริจาคมา 1,000 ขอให้อ่านเพื่อจะได้เป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนที่มาชุมนุม และจะได้บอกว่าคนใต้ คนสุราษฎร์ธานี ก็ไม่เอาเทือกเทพสุบรรณครับ

เขาบอกว่า เรียนคุณประพันธ์ คูณมี ที่เคารพ ผมฟังคุณประพันธ์ทุกคืน หากไม่ได้ฟังนอนไม่หลับ ไม่ได้รู้สันดานและความเลวของนักการเมืองประเทศนี้มากมาย ครั้งนี้ผมและภรรยาไม่ได้มาร่วมชุมนุมกับพี่น้อง ไม่สะดวกเหมือนตอน 193 วัน หากผมมาร่วมชุมนุม กลับไปคงไม่มีอะไรเหลืออยู่แน่เลยในยุคเทพเทือก จึงเขียนจดหมายฝากมากับเพื่อนๆ ถึงคุณประพันธ์

1. ให้ช่วยพูดเรื่องสหกรณ์ Co-op ที่สุราษฎร์ธานีให้ด้วย ถึงความขี้ฉ้อของเทพเทือก เพราะตั้งมานานแล้วยังไม่เคยได้รับปันผล เงินทุนก็ไม่ได้คืน อุบาทว์จริงๆ

อีกเรื่อง 2. เรื่องเงินช่วยเหลือผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่สุราษฎร์ธานี ก็ไม่ยอมจ่าย ทราบข่าวว่าเงินดังกล่าวนับร้อยล้าน ได้ถูกโอนไปที่กองทัพภาคที่ 4 เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ยอมจ่ายให้สักที คงจะได้ดอกเบี้ยฝากกันพอสมควรแล้วนะครับ

3. เรื่องตัวแทนเกษตรกร ก็ไม่ได้มีการเลือกตั้ง ปิดข่าวแล้วตั้งกันทั้งนั้นล่ะ อันนี้เรื่องเขามีสภาเกษตรกร การเลือกตัวแทนไปเป็นผู้แทนในสภาเกษตรกร ก็มีการงุบงิบกัน

4. เรื่องการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่สุราษฎร์ธานี เขาพาพวกผู้นำท้องถิ่นไปดูงานกันแล้ว แต่ให้ดูเฉพาะกลางคืนครับ แปลกดี

สุดท้ายไม่มีอะไรมาก ขอให้เปิดโปงมันไปเรื่อยๆ แล้วฝากคิดถึงพันธมิตรฯ ทุกคนด้วย ไม่มีอะไรมากฝากมาให้ทุกคนที่นี่ ขอแรงใจและเงินช่วยเหลือค่าอาหารในการชุมนุม 1,000 บาทครับ พันธมิตรฯ สุราษฎร์ธานี

ก็ยังดีครับ ท่านมาไม่ได้แต่ก็ยังส่งกำลังใจมาช่วยพวกเรา พี่น้องครับ ผมอยากจะสรุปให้พี่น้องฟังว่า ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พยายามอวดอ้างตัวเองและคุยนักคุยหนาว่า ถ้าเขาได้กลับมาบริหารประเทศ เขาจะพาให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า และจะพ้นจากวังวนของการเมืองและความขัดแย้ง และจะทำให้เศรษฐกิจ สังคม เจริญรุ่งเรือง ก้าวไปข้างหน้า ผมคิดว่าคำพูดนี้มาถึงวันนี้ ถามพี่น้องที่นี่หน่อย พี่น้องเชื่อมั้ยครับ (ไม่เชื่อ) เชื่อ/ไม่เชื่อ (ไม่เชื่อ) ผมว่าพี่น้องที่นี่ต่อให้อมพระทั้งโบสถ์มา พี่น้องก็คงไม่เชื่อ

นายอภิสิทธิ์ครับ เวลาคุณจะพูดอะไร คุณดูเงาหัวและดูผลงานตัวเองหน่อย คุณไปตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองหน่อย ประชาชนไทยเขากินข้าว เขาไม่ได้กินแกลบ คุณทำงานมา 2 ปี มันเป็นการวัดประสิทธิภาพการทำงานของคุณได้ดีที่สุดแล้ว ว่าคุณสมควรที่จะได้รับโอกาสกลับมาบริหารบ้านเมืองต่อไปอีกหรือไม่

พี่น้องครับ ผมอยากจะสรุปให้ฟังแต่ละด้าน ด้านที่ 1 ด้านความมั่นคง และการรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ ตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2551 พี่น้องครับ ท่านดูประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง นายอภิสิทธิ์สอบได้ หรือสอบตก ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงใช่มั้ยครับ การประชุมอาเซียนที่พัทยาล้มไม่เป็นท่า ผู้นำประเทศทั้งหลายหนีตายกันอลหม่าน รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ และนายกษิต ภิรมย์ หนีตายอย่างกับหมาถูกน้ำร้อน เกียรติภูมิศักดิ์ศรีของประเทศไปอยู่ไหน คุณจะไปโทษพวกคนเสื้อแดง หรือไอ้กีร์อย่างเดียวไม่ได้ แสดงว่าคุณไม่มีปัญญา และไม่มีน้ำยาจัดการกับไอ้กีร์ ถูกมั้ยครับ แสดงว่าไอ้กีร์มันใหญ่กว่าคุณไง มันเก่งกว่าคุณไง มันสามารถไปพังการประชุมอาเซียนได้ คุณต้องตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาหัวคุณว่าคุณมีทั้งตำรวจ มีทั้งกองทัพ มีเครื่องไม้เครื่องมือ มีงบประมาณมากมาย คุณไปก้มหัวมุดหัวทำซากอยู่ที่ไหน มันต้องโทษตัวเอง

เกิดเหตุจลาจลเมื่อ 10 เมษาฯ ทั้งบ้านทั้งเมือง กลุ่มคนเสื้อแดงมายึดรถเมล์ เผาบ้านเผาเมือง ความผิดส่วนหนึ่งนั้นก็คือคนเสื้อแดง ผู้ชุมนุม ใช่ แต่ความผิดส่วนหนึ่งก็คือเจ้าหน้าที่รัฐอ่อนแอ นายกฯ มันไม่มีน้ำยา ใช่มั้ยครับ ประชาชนสุจริตชนถึงถูกคุกคามอย่างนี้ นี่คุณล้มเหลว แล้วล้มเหลวครั้งนั้นบ้านเมืองเสียหายนับแสนล้านไปรอบหนึ่งแล้ว ครั้งแรกๆ เลยครับ ไม่นานเลย เกียรติภูมิศักดิ์ศรีของประเทศแทบจะไม่เหลือหลอ และการจัดประชุมครั้งหลังนั้น ถ้าไม่ได้จัดประชุมที่หัวหิน จ้างก็ไม่สามารถจัดประชุมอาเซียนสำเร็จในครั้งที่ 2 ได้ ใช่มั้ยครับ นี่ต้องนับว่าเป็นเพราะพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม จึงสามารถจัดประชุมที่หัวหินประสบความสำเร็จไปด้วยความเรียบร้อย ใช่มั้ยครับ ไม่ใช่ฝีมือของคุณเลย

อันที่ 2 ในการบริหารบ้านเมือง คุณก็ทำลายหลักนิติรัฐ หลักนิติธรรมหมด เมื่อมีเกิดเหตุ นายตำรวจไม่ทำหน้าที่ หรือปราบปรามประชาชนในกรณี 7 ตุลาฯ พล.ต.อ.พัชรวาท และพวก ซึ่ง ป.ป.ช.ชี้มูลแล้ว คุณก็ไม่ดำเนินคดีกับคนเหล่านี้ แถมให้นายสุเทพหาทางช่วย พล.ต.อ.พัชรวาท และนายตำรวจที่ร่วมกันกระทำความผิด จนกระทั่งทุกวันนี้เรื่องยังไม่ไปถึงไหนเลยครับ เห็นหรือยังครับ ว่าการรักษาความสงบเรียบร้อยของคุณมันแย่มาก

3. ในระหว่างการปกครองบริหารประเทศของคุณ ประชาชนในประเทศนี้ตกอยู่ภายใต้ความหวาดผวา และต้องคอยหลบภัยระเบิด M79 และไม่รู้ว่าจะโดนลูกหลงตายเมื่อไร ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองเกิดขึ้นจากความหละหลวมและความไร้ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งนั้น

4. เมื่อเกิดเหตุ ประชาชนที่เดือดร้อน ไม่ว่าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นเตอร์วัน ไม่ว่าผู้ประกอบการร้านค้าที่เช่าที่ห้างดังกล่าวนี้ขาย ถูกไฟไหม้เผาทรัพย์สินเสียหายหมด ตึกรามบ้านช่องได้รับความเสียหาย เศรษฐกิจได้รับผลกระทบกระเทือน เสียหายครั้งนั้นในเหตุการณ์พฤษภาฯ 19 พฤษภาฯ เสียหายไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านครับ ประชาชนไม่ได้รับการช่วยเหลือ ไม่ได้รับการชดเชยแม้แต่น้อย จนกระทั่งทุกวันนี้ นี่ไงผลงานคุณไง ถ้าคุณยังทำงานสุนัขไม่รับประทานอย่างนี้ คุณยังอยากทะลึ่งหน้าด้านกลับมาเป็นนายกฯ อีกเหรอ

กรณีที่ 5 กรณีการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ 193 วัน 193 วันของพันธมิตรฯ เราเจ็บ เราตายไปเท่าไร ตายไปสิบกว่าราย บาดเจ็บนับร้อยราย พิการไปหลายสิบราย พวกเราสละชีวิตและสูญเสียไปไม่น้อย เพื่อจะทำให้การเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลง และคุณได้มาเป็นนายกฯ นี่ก็เป็นต้นทุนที่คุณมาตีกินและเนรคุณประชาชนอีกเรื่องหนึ่งด้วย

เรื่องที่ 6 พี่น้องครับ เมื่อเย็นนี้คุณสุริยะใสพูดไปแล้ว วันนี้ขบวนการล้มเจ้า ขบวนการก่อการร้าย ขบวนการที่ซ่องสุมอาวุธเพื่อจะก่อเหตุรุนแรงในทางการเมือง รวมทั้งซ่องสุมอาวุธไปขายให้กองกำลังไม่ทราบฝ่าย หรือไปขายให้ผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ อาวุธของกองทัพหายไปจำนวนมาก ก็เป็นเพราะความหละหลวมและการไม่รักษาความสงบเรียบร้อย จึงทำให้ขบวนการก่อความวุ่นวาย ก่อความไม่สงบ ก่อการร้าย และขบวนการล้มเจ้า เติบโตขึ้นโดยลำดับ เพราะฝีมือการบริหารประเทศของคุณไง

นี่ผมสรุปไล่เรียงมาให้ดู และ 7. ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ถ้าคุณบริหารประเทศดี มันก็ไม่จำเป็นจะต้องมาใช้ พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน มันก็ไม่จำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง คุณเป็นคนที่ใช้กฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ความมั่นคง คุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชนมากที่สุดในบรรดานายกฯ ของประเทศไทย และแม้กระทั่งบ้านคุณ คุณยังเอากฎหมายนี้ไปประกาศใช้เพื่อคุ้มครองความเป็นสงบสุข อันเป็นการส่วนตัวของคุณ โดยไม่ได้เห็นแก่ความสงบสุขของพี่น้องประชาชนเพื่อนร่วมชาติเลยแม้แต่น้อย

และข้อนี้สำคัญ ข้อที่ 8 ในรัฐบาลของคุณ คุณใช้งบประมาณไปเพื่อแก้ไขปัญหาภาคใต้ 63,319 ล้านบาท เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ความไม่สงบในภาคใต้ และที่ผ่านมาเกิดเหตุความไม่สงบ 3-4 ปีนี้ ประเทศไทยใช้งบประมาณไปแล้วไม่น้อยกว่า 4 แสนล้าน แต่ปัญหาภาคใต้กลับหนักหน่วงกว่าเดิม พัฒนากลายเป็นคาร์บอมบ์ มีการต่อสู้ มีการก่อการร้าย แม้จำนวนการก่อเหตุจะน้อยลง แต่การความเสียหายรุนแรงและร้ายแรงกว่ารัฐบาลใดๆ ครับ

ก็แสดงว่ารัฐบาลคุณก็ล้มเหลว แก้ปัญหาอะไรไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียว คุณจะโยนความผิดไปให้คนอื่นก็ไม่ได้ เพราะไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องแสดงความสามารถในการแก้ไขปัญหานี้

ทั้งหมดนี้ ปัญหาความไม่สงบนั้น ยังไม่นับรวมปัญหาอาชญากรรม ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ฆ่า ข่มขืน เหตุก่อการอาชญากรรมร้ายแรงทั้งหลาย เต็มบ้านเต็มเมืองในยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช่มั้ยครับ

เพราะฉะนั้นสรุปแล้ว เรื่องความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง คุณก็ไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองได้ และคุณยังใช้เงิน ใช้งบประมาณไปมากกว่าทุกรัฐบาลที่แก้ไขปัญหา ส่วนผลงานนั้น ประสิทธิภาพของรัฐบาลคุณต่ำกว่าทุกรัฐบาลในเรื่องนี้ครับ

ส่วนปัญหาที่ 2 เรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง คือปัญหาเรื่องไทยต้องสูญเสียดินแดนครับ เรื่องไทยต้องสูญเสียดินแดนนี้ ก็เป็นผลงานและความรับผิดของนายอภิสิทธิ์เต็มๆ ครับ ทำไมผมถึงบอกว่าเป็นความรับผิดของเขาเต็มๆ พี่น้องดูนะครับ ผมอยากให้ฟังคำอภิปรายของเขา เดี๋ยวทีมงานเปิดคำอภิปรายของเขาหน่อย ว่าในวันเวลาที่เขาเป็นฝ่ายค้าน ปัญหาเรื่องนี้มันมีปัญหาอยู่แค่ไหนครับ แล้วมาถึงยุคคุณ ยุคนายอภิสิทธิ์ ปัญหามันลุกลามบานปลายมาถึงแค่ไหน และมันเป็นฝีมือของใครในการทำให้เกิดปัญหานี้ อยากให้ดูตอนที่คุณเป็นฝ่ายค้าน คุณด่าเขา อภิปรายเขา ในขณะนั้นปัญหามันอยู่แค่ไหน ฟังนายอภิสิทธิ์อภิปรายสักแป๊บครับ สั้นๆ

(VTR : อภิสิทธิ์อภิปรายในสภา)

เอาแค่นี้ก็พอแล้ว เห็นหรือยังครับ ที่ผมเอาเทปคำอภิปรายของนายอภิสิทธิ์มาให้พี่น้องฟังอีกครั้งหนึ่ง หรือท่านผู้ชมทางบ้านได้ฟังอีกครั้งหนึ่ง ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า วันที่นายสมัครเป็นนายกฯ และนายนพดลเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศนั้น ปัญหาบนปราสาทพระวิหารมีเพียงเรื่องที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก โดยเอาตัวปราสาทไปจดทะเบียนมรดกโลก และขอแผนผัง พื้นที่ที่เรียกว่าบัฟเฟอร์โซน บริเวณพื้นที่โดยรอบตัวปราสาท ไปเสนอกับองค์การมรดกโลก เพื่อจะเป็นพื้นที่บริหารจัดการ เรามีปัญหาเถียงกันอยู่แค่นี้ คนไทยไม่ยอม และก็เห็นว่านายนพดลทำให้ประเทศเสียหาย ถ้าไปยอม แค่นั้น เพราะตามคำพิพากษาศาลโลก เรายอมรับเพียงแค่ตัวปราสาทเท่านั้น ที่เป็นของกัมพูชา และนายอภิสิทธิ์ก็พูดจาอภิปรายว่าเขาฉอดๆ ว่าท่านไปตีเส้นออกมาก็เท่ากับท่านไปสละสิทธิ์แล้ว หาว่าเขาทำผิดเหมือนกัน

มาวันนี้ ดูการบริหารประเทศและจัดการปัญหานี้ของนายอภิสิทธิ์สิ คุณมันเลวหาที่ติไม่ได้ แล้วทำผิดพลาด ล้มเหลว อย่างไม่น่าให้อภัย ใช่มั้ยครับ แล้วยังเสือกทะลึ่งไปบอกว่า ถ้าเลือกผมจะพาบ้านเมืองเดินหน้า เลือกคุณก็พาประเทศลงนรกสิวะ

ก็เมื่อก่อนเรามีปัญหาแค่นี้ คุณเป็นนายกฯ 2 ปี วัดเขาก็เอาธงมาตั้งเรียบร้อยแล้ว แถมประธานกรรมาธิการ นายเจริญ คันธวงศ์ ก็ไปก้มกราบ หมอบกราบคาบแก้ว เอาของไปถวายสังฆทาน เอาจัตุปัจจัยไปถวายเขา ไปรับรองการมีวัดของกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว เขาเอาทหารมาตั้ง เขาเอาฐานปืนใหญ่มาตั้ง เขาตัดถนนขึ้นมา จากบ้านโกมุย จนกระทั่งถึงปราสาทพระวิหาร ถึงภูมะเขือ เขาสร้างสถานีเรดาร์ สถานีโทรคมนาคมบนปราสาทพระวิหาร บนเขาพนมดงรัก เขาทำจนขนาดนี้ แล้วคุณไปมุดหัวอยู่ที่ไหน แล้วทำไมคุณไม่แสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้

ก็นี่ไง ปัญหาบานปลายจนกระทั่งกัมพูชาหยิบยกเรื่องนี้ไปที่ประชุม UNSC ดึงอาเซียนเข้ามาเกี่ยวข้อง คุณก็ยังทอดหุ่ยไม่ทำอะไรเลย แถมยินดีและเชิญให้อินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์ และเข้ามาเกี่ยวข้องปัญหาพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชาอีก คุณมันแย่มาก

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ มันก็เป็นความล้มเหลวของคุณอย่างชัดเจน แล้วไม่นับรวมเรื่องที่ 7 คนไทยต้องถูกเขมรจับไปขึ้นศาลกัมพูชา และตัดสินลงโทษจำคุกคุณวีระ สมความคิด ต้องไปรับทุกข์ทรมานอยู่ในคุก และคุณก็ไม่เคยหาทางช่วยคนไทยเลยแม้แต่น้อย บอกแต่อย่างนั้นอย่างนี้ มีแต่หาทางให้คนไทยรับโทษ

แล้ววันนี้ก็เจอบทความของท่านผู้พิพากษาเลขานุการประธานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลายท่านก็พูดไปแล้ว มันไม่ได้มีเพียงอุทธรณ์หรือขออภัยโทษ เรายังสามารถใช้สิทธิ์ตามสนธิสัญญา ที่จะขอตัวคุณวีระกลับมารับโทษในประเทศไทย และในเรือนจำของไทย ซึ่งเราสามารถปฏิบัติกับคนไทยอย่างมีมนุษยธรรมได้ คุณก็เสือกไม่ทำ ผมถึงบอกว่านี่คุณล้มเหลว ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และวันนี้ดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร และตลอดแนวชายแดน 1.8 ล้าน มันจะสูญเสียหมดถ้าเอาคุณกลับมา วันนี้คุณอยู่มันก็เสียไปแล้ว คุณกลับมามันก็เสียเกือบค่อนประเทศแล้วครับ

เพราะฉะนั้นวันนี้ มันมีแต่ว่ามีนรกที่ไหนที่ไกลจากแผ่นดินไทย คุณควรจะไปนรกนั้น อย่ามาใกล้แผ่นดินไทยเลย ไม่ใช่มาหน้าด้านอยากจะกลับมาเป็นนายกฯ อีก

ส่วนประการที่ 3 ในด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ในด้านการบริหารราชการแผ่นดินก็ต้องถือว่าในยุคของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกกระทรวง ทบวง กรม ทุกหน่วยงาน มีหน่วยไหนบ้างไม่มีการโกง การทุจริต คุณแบ่งให้แต่ละพรรคไปควบคุมดูแลแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ทุกกระทรวง ทบวง กรม มันก็มือใครยาวสาวได้สาวเอา กระจายกันคอร์รัปชั่น หากินกันตามอำเภอใจ โดยคุณนั่งเป็นหัวหลักหัวตอ เป็นนายกฯ สวมแต่หัวถุงยางอย่างเดียว ไม่ได้ดูแลผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเลย หลับหูหลับตา แล้วแต่แต่ละพรรคจะทำอะไร จะโกงจะกินอย่างไร

ความเสียหายเฉพาะเรื่องโกงเรื่องทุจริต ก็ไม่น้อยกว่า 4 แสนล้านแล้ว ที่ผมเคยมาสาธยายให้พี่น้องฟัง ข้อมูลนี้ ทั้ง ป.ป.ช. ทั้ง ส.ว. ทั้งพวกเรา ที่รวบรวมข้อมูลตรงกันหมด และรวมทั้งหอการค้าเขาก็ให้ข้อมูลว่าทุกงานที่มีการประมูล ฝ่ายการเมืองเรียกเอาผลประโยชน์หมด

ในการแต่งตั้งโยกย้าย มีกระทรวงไหนบ้างไม่เสียเงินวิ่งเต้นโยกย้ายแต่งตั้ง คุณย้ายข้ามหัว ไม่มีระบบคุณธรรมเลย ระบบราชการเสียหายหมด นอกจากนั้น ระบบราชการแต่ก่อนนี้เขามีการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน โดยคิดจากผลงานของแต่ละกระทวง ทบวง กรม ได้ผลตอบแทนเท่าไรเอาไปแต่ละหน่วยงานไปแบ่งกัน ซึ่งมันก็เป็นธรรม พอมาถึงคุณ คุณมายกเลิกระบบนี้หมด แล้วคุณก็ไปใช้ระบบขึ้นเงินเดือน ซึ่งเป็นระบบเก่าที่ทำให้เกิดภาระแก่เงินคงคลังของประเทศ แล้วทำให้ราชการไม่สามารถวัดประสิทธิภาพในการทำงานได้ นี่ก็เป็นการบริหารที่ล้มเหลวของนายอภิสิทธิ์ อะไรที่เขาทำไว้ดีมันก็ไปยกเลิก อะไรที่เลวกว่ามันรีบเสนอเข้ามาทำเลยครับ

นอกจากนี้ ในการบริหารราชการบ้านเมืองของคุณ คุณก็ไม่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติของประชาชน เมื่อวานนี้ผมก็พูดไปแล้ว กรณีฟิลลิป มอร์ริส ที่นำเข้าบุหรี่มาขายในเมืองไทย ประเทศไทยจะได้ภาษี 68,881 ล้านบาท คุณก็ดันทะลึ่งไปแทรกแซงจนกระทั่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง และก็ทำให้โอกาสที่ไทยจะได้ภาษี เลยไม่ได้ภาษี นี่คุณรักษาประโยชน์ชาติหรือเปล่า คุณก็บริหารบ้านเมืองโดยทำให้ประเทศชาติ ประชาชน เสียประโยชน์

แล้วผู้แทนการค้าของคุณ นายเกียรติ สิทธีอมร ตั้งแต่คุณตั้งมา ผลงานชิ้นเอกของเขามีเรื่องนี้เรื่องเดียวครับ ไอ้ที่จะไปเจรจาการค้าให้ประเทศไทย ให้นักธุรกิจไทย คนไทย ได้ประโยชน์ ไม่มีแม้แต่เรื่องเดียว

ขณะเดียวกัน เกี่ยวกับอาชีพของคนไทย ผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ ที่เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย คุณก็ปล่อยให้ต่างชาติมาแย่งอาชีพคนไทย กลายเป็นพวกรัสเซียบ้าง ฝรั่ง คนจีนบ้าง มาแย่งอาชีพคนไทยในประเทศไทย อาชีพคนไทยเขาก็ไม่คุ้มครอง และการละเมิดกฎหมายโดยเอาที่ดิน ส.ป.ก.ไปทำโฉนดแล้วให้บริษัทธุรกิจไปทำโรงงานไฟฟ้า แล้วก็ไปละเมิด บุกรุกที่ป่าสงวน ตั้งโรงงานไฟฟ้าแบบนี้คุณก็ทำเพียงเพื่อให้กลุ่มธุรกิจของนักการเมืองและผู้สนับสนุนพรรคการเมืองได้ประโยชน์ ผมไม่เห็นคุณบริหารอะไรที่ทำให้ประเทศไทย ประชาชนไทย ได้ประโยชน์แม้แต่เรื่องเดียว

การประมูลจัดซื้อจัดจ้างในทุกกระทรวง ทบวง กรม ไม่ต้องพูดถึง มีการประมูลในกระทรวงไหนบ้างที่โปร่งใสบ้างในยุคนายอภิสิทธิ์ ช่วยยกมาสักเรื่องสิ ว่าการประมูลเรื่องนี้ทำให้รัฐ ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ ไม่มีแม้แต่เรื่องเดียว นอกจากประมูลได้ของแพง เสียเงินมาก คุณภาพต่ำ นักการเมือง นักธุรกิจได้ประโยชน์ ประชาชน ประเทศชาติ เสียหาย ทุกโครงการ ไม่ว่ารถไฟใต้ดิน ไม่ว่าจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ ไม่ว่าจะจัดซื้อจัดจ้างยุทโธปกรณ์ ทุกเรื่องเป็นแบบนี้หมดในยุคสมัยของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ส่วนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พี่น้องครับ แทบไม่ต้องพูดถึงว่าวันนี้เงินเฟ้อ สินค้าราคาแพง ขาดแคลน สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพง ขาดแคลน สินค้าเกษตรกรราคาตกต่ำ ผลงานเดียวที่ประชาชนพอจะนึกได้ว่าเป็นความคิดอันบรรเจิดของคุณคือชั่งกิโลไข่ขาย

มีเรื่องเดียว นอกนั้นไม่มีอะไรที่ประชาชนจะชื่นชมเลย แล้วก็เป็นผลงานที่อัปยศครับ ไม่มีใครจำได้ว่านายอภิสิทธิ์แก้ปัญหาเศรษฐกิจเรื่องอะไรให้ประชาชนบ้าง

สุดท้าย ผมพยายามรวบรัดนะครับ การศึกษา สังคม วัฒนธรรมของประเทศไทย พี่น้องครับ ถามว่าตั้งแต่นายอภิสิทธิ์มาเป็นนายกรัฐมนตรี สังคมดีขึ้นมั้ย สังคมมันมีแต่เสื่อมทราม เสื่อมโทรมลง เราถึงได้เห็นซากศพของเด็กเต็มวัดที่ไปค้นกันมา สภาพสังคมเหลวแหลก เน่าเฟะ วัฒนธรรมเหลวแหลก เน่าเฟะ การศึกษาก็ล้มเหลว มันทำเป็นอย่างเดียวคือเอาเงินไปแจกชาวบ้าน เอางบประมาณไปแจกชาวบ้าน แจกเพื่อหาเสียงอย่างเดียวมันจะมีประโยชน์อะไร เพราะมันไม่ได้สร้างผลผลิต ไม่ได้สร้างรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากผลาญเงินงบประมาณของประเทศชาติ และประชาชน เพื่อการหาเสียงของพรรคการเมืองเท่านั้นเอง

เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่าสภาพสังคมไม่มีอะไรดีขึ้น ถ้าการอยู่ในตำแหน่งของคุณ 2 ปีกว่ามานี้ ทำให้ประเทศดีขึ้น คุณไม่ต้องห่วงหรอกนายอภิสิทธิ์ ประชาชนเขาจะแซ่ซ้องสรรเสริญ และเขาจะแห่ไปเลือกคุณถล่มทลายเลย แต่วันนี้ที่คุณเดินไปที่ไหนก็เจอคนยกป้ายด่า ยกป้ายประท้วงนั้น คุณต้องโทษตัวคุณเอง ไม่ใช่ว่าประชาชนนั้นเขารับจ้างใครมา แต่เขาทนการหน้าด้านและพฤติกรรมการบริหารประเทศที่ล้มเหลวของคุณไม่ได้ต่างหาก คุณควรจะต้องมองตัวเอง

สุดท้ายครับ ที่อยากจะพูดกับพี่น้องชาวไทย ที่ผมพูดมานี้เป็นแต่เพียงหัวข้อ แต่ถ้าจะเอารายละเอียดในแต่ละเรื่อง เดี๋ยวมาพูดกันได้ ว่าการแก้ปัญหาใต้คุณแก้แบบไหน ใช้งบประมาณไปกี่แสนล้าน แล้วมันไม่คุ้ม มันเสียหายอย่างไร การแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เรื่องภัยคุกคามต่อสถาบัน ขบวนการก่อการร้าย ขบวนการล้มเจ้า คุณทำอะไร ทำไมขบวนการเหล่านี้มันถึงเผยแพร่เอกสารสิ่งพิมพ์คุกคามสถาบันอย่างน่ากลัว และการแก้ไขปัญหาทุกเรื่องที่ผมพูดมานี้ คุณทำอย่างไรและทำให้บ้านเมืองเสียหายอย่างไร เราก็ต้องมาพูดกันทีละเรื่อง ทีละด้าน ในวันต่อๆ ไป

แต่ที่ผมอยากจะพูดกับพ่อแม่พี่น้องในวันนี้ก็คือ ในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครั้งนี้ 2 ปีที่เขาอยู่ในตำแหน่ง ประเทศไทย สังคมไทย และพี่น้องประชาชนไทย ต้องมีต้นทุนอันมหาศาล เพื่อให้นายอภิสิทธิ์นั่งอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ต้นทุนอันมหาศาลนี้ก็คือความเสียหายของประเทศ หายนะของประเทศ หายนะของประชาชน การโกง การทุจริตที่เป็นต้นทุน เงินภาษีของประเทศที่ต้องสูญไป แม้กระทั่งเราต้องสูญเสียแผ่นดินไทย ก็ต้องเป็นต้นทุนให้คุณอยู่ในตำแหน่งของประเทศ

ต้นทุนวันนี้เราต้องสูญเสียไปจำนวนมหาศาล โดยผลตอบแทนที่ประชาชนได้รับจากความสามารถในการบริหารประเทศของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีอะไรครับ ผลตอบแทนที่ประชาชนได้รับ ก็คือ 1. ไข่ชั่งกิโลขาย 2. คำโกหกโป้ปดมดเท็จของนายอภิสิทธิ์ ทุกวัน 3. คำตระบัดสัตย์ เนรคุณประชาชน ผู้ให้โอกาสของนายอภิสิทธิ์ นี่คือสิ่งที่ประชาชนได้รับ 4. ก็คือ สังคมและประเทศชาติต้องบอบช้ำ และต้องรองรับความเสียหายมากมาย สถาบันถูกคุกคาม และภัยอันตรายที่มาเยือนประชาชน และคุกคามอธิปไตยของประเทศ กำลังทำให้ประเทศชาติหมดสิ้นซึ่งศักดิ์ศรี คนไทยหมดสิ้นซึ่งศักดิ์ศรี ประเทศหมดสิ้นซึ่งศักดิ์ศรี ก็ด้วยน้ำมือและฝีมือบริหารของเขาทั้งนั้น

ผมจึงมองไม่เห็นเลยครับ เพราะฉะนั้นผมอยากจะให้ อ.เจิมศักดิ์ ช่วยทำหนังสือพิมพ์ผลงานเด่นของนายอภิสิทธิ์มาแจกพวกเราหน่อย ว่า 2 ปี 2 เดือน ที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ หลังจากที่อาจารย์ช่วยทำหนังสือ "ร้อยฝันวันฟ้าใหม่" ซึ่งผมเห็นว่าเป็น "ร้อยบรรลัยต้มประชาชน" ไปแล้วนั้น ช่วยทำหนังสืออีกเล่มหน่อยว่า สุดยอดผลงานเด่นของนายอภิสิทธิ์ มีอะไรบ้าง พวกเราอยากอ่านเหลือเกิน

แล้วถ้ามันไม่มีผลงานเด่น มีแต่สร้างผลงานอัปยศและความหายนะให้กับชาติบ้านเมืองแล้ว คุณยังจะหน้าด้านกลับมาเป็นนายกฯ เพื่ออะไร ถามหน่อยสิครับ

พี่น้องครับ ที่ผมมาพูดกับพี่น้องวันนี้ก็เพื่อจะบอกว่า วันนี้เราโชคร้ายที่ต้องอยู่กับนายกรัฐมนตรีที่ไร้สำนึกและไร้ความรับผิดชอบ ความรู้ ความสามารถในการบริหารประเทศก็ด้อยประสิทธิภาพและตกต่ำ แถมสร้างความล้มเหลวและสร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมือง ความเข้าใจต่อปัญหาและวิธีที่จะแก้ไขปัญหาก็ไม่มี วิธีคิดที่จะนำพาชาติบ้านเมืองให้ก้าวไปข้างหน้า ไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่มีแนวทางวิธีการ ไม่มีนโยบายที่เป็นรูปธรรมปฏิบัติเห็นผลให้ประชาชนได้ชื่นใจแม้แต่เรื่องเดียว ไม่ว่าเรื่องใดเลย เพราะฉะนั้นผมจึงเห็นว่ามันน่าจะหมดเวลาสำหรับนายอภิสิทธิ์ ในการที่จะกลับมาสู่ตำแหน่งทางการเมืองและเป็นนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว เพราะเขาคือคนโกหก คนไร้ประสิทธิภาพ คนล้มเหลว และเป็นโมฆะบุรุษของประชาชนไทยครับ

ภารกิจของพวกเราวันนี้ เราต้องทำ 2 อย่าง 1. ปกป้องแผ่นดิน 2. หาทางกำจัดนายอภิสิทธิ์ให้ออกไปจากตำแหน่งทางการเมือ และไม่ให้มีโอกาสกลับมาปกครองบ้านเมืองอีกต่อไป

หน้าที่ของเราอันนี้สำคัญที่สุด และเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้านายอภิสิทธิ์กลับมาอีกครั้งหนึ่ง บ้านเมืองก็จะวินาศฉิบหายอย่างที่เราเห็นอยู่ในขณะนี้

วันนี้การต่อสู้ของพวกเรามาถึงจุดสำคัญ เราจำเป็นจะต้องสรุปบทเรียน ยกระดับ และหาแนวทางการต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพ และได้ผล คณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดินกำลังพยายามที่จะหาแนวทางเพื่อกดดันนายอภิสิทธิ์ทุกวิถีทาง เพื่อให้เขาได้สำนึกและหมดโอกาสที่จะกลับมาปกครองบ้านเมืองอีกต่อไป

เหตุผลก็เพราะว่า นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นนายกฯ ที่ดีจริง นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรม มีฝีมือ และมีความสามารถจริง นายอภิสิทธิ์ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ใช่ผู้นำประเทศไทยที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป

ด้วยเหตุนี้เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียกร้องให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ได้ออกมาช่วยกัน หยุดการเมืองที่ล้มเหลวด้วยมือของพวกเราเองครับ ขอบคุณครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น