โฆษกพันธมิตรฯ เย้ย รบ.อภิสิทธิ์ ถูกตบหน้าอย่างแรง เปรียบเสมือนบุคคลไร้ความสามารถ เหตุปล่อยให้ครอบครัว “วีระ” หันไปพึ่ง “นักโทษแม้ว” เจรจากัมพูชาแทน ถลกหนังนโยบายการต่างประเทศล้มเหลว ดึงประเทศที่สามเข้ามาจุ้นปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา เป็นเหตุให้กองทัพตัดหาง ไม่เข้าร่วมประชุมจีบีซีที่อินโดนีเซีย เพราะกระทบต่ออธิปไตยไทย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง การเสวนา "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน"
วันนี้ (5 เม.ย.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้บนเวทีเสวนาราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน กรณีการให้ความช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในคุกกัมพูชา ว่า พันธมิตรฯ มีความชัดเจนในเรื่องจุดยืนตั้งแต่แรกว่าคนไทยทั้งสองถูกจับในอธิปไตยไทยและเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องช่วยคนไทยให้พ้นอิสรภาพ ไม่ว่าจะเป็นการกดดันเรื่องการทูต การใช้กำลังทหารหรือปิดด่านตามแนวชายแดนก็ดี
แต่ในที่สุดรัฐบาลไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อปกป้องสิทธิความเป็นพลเรือนคนไทยตามรัฐธรรมนูญ จนบุคคลทั้งสองถูกจับกุมยาวนานกว่า 4 เดือนแล้ว ดังนั้น เมื่อครอบครัวของนายวีระ และ น.ส.ราตรี ไม่สามารถพึ่งอำนาจรัฐได้อีกต่อไป ครอบครัวของนายวีระจะเดินหน้าขออภัยโทษหรือจะยื่นอุทธรณ์ พันธมิตรฯ ก็สนับสนุนทุกแนวทางเพื่อคืนอิสรภาพให้คนไทยทั้งสอง ทั้งนี้ต้นเหตุปัญหาเกิดจากนายอภิสิทธิ์ไม่เข้มแข็ง
“การที่นายอภิสิทธิ์โยนภาระให้ครอบครัวของนายวีระดำเนินการโดยลำพังเพื่อเสนอขออภัยโทษ หรือยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐบาลกัมพูชา เท่ากับเป็นยอมรับคำตัดสินของศาลกัมพูชาเหนืออธิปไตยไทยทั้งสิ้น ในที่สุดก็ต้องหันไปพึ่งนักโทษหนีคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อเจรจาให้มีการปล่อยตัวนายวีระและ น.ส.ราตรี เท่ากับเป็นการตบหน้ารัฐบาลเปรียบเสมือนเป็นบุคคลไร้ความสามารถอย่างสิ้นเชิง” นายปานเทพกล่าว และว่า
เหตุการณ์ได้บานปลายจนเกิดเหตุการณ์กัมพูชายิงถล่มไทยตามแนวชายแดนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ขณะนี้ที่รัฐบาลไทยได้พึ่งมติคณะมนตรีแห่งสหประชาชาติ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงอย่างถาวร โดยไม่มีการสอบสวนว่าใครเป็นฝ่ายยิงก่อน เท่ากับเป็นการยอมรับมติองค์กรระหว่างประเทศทั้งที่ไทยถูกรุกรานก่อน จนล่าสุดรัฐบาลยังยืนยันที่จะเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) โดยกระทรวงกลาโหมปฏิเสธที่เข้าร่วมเจรจาร่วม เพราะถือเป็นดึงประเทศอินโดนีเซียซึ่งถือเป็นประเทศที่ 3 เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ ที่รัฐบาลย้ำหนักย้ำหนาว่าปัญหาชายแดนไทย-เขมรเป็นปัญหาทวิภาคี เท่ากับเป็นเครื่องยืนยันแล้วว่ารัฐบาลนี้สอบตกในเรื่องการปกป้องอธิปไตยไทย จนฝ่ายความมั่นคงไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับนโยบายการต่างประเทศที่จะนำพาชาติไปสู่การสูญเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้