xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” อัด “มาร์ค” ตบตาคนไทยอีกแล้ว พล่ามไปเรื่อยสรุปให้เขมรยึดดินแดนไทยต่อไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
"ปานเทพ"ชี้หากเจบีซีผ่านสภา จะเป็นภัยต่อ ปท.อย่างใหญ่หลวง เผยลูกเล่น รบ.บอกไม่มีการลงนามหยุดยิงแต่สัญญาลูกผู้ชายจะไม่ยิงก่อน ถาม"มาร์ค"เขมรยึดพื้นที่อยู่ หากไม่ยอมเจรจาตามที่ไทยต้องการแล้วยึดครองต่อไปเรื่อยๆจะทำอย่างไร แถมทำให้เขมรกลับมาขึ้นทะเบียนมรกดโลกได้อีก ซัดเลิกตะเบง อย่ามุ่งแต่เอาชนะทางการเมือง เสียแผ่นดินใครจะรับผิดชอบ



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" การเสวนา "ราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน"  

วันที่ 22 ก.พ. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่าเรื่องที่ตนให้ติดตามผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ในเรื่อง 1.หยุดยิงถาวร 2.ปล่อยให้ประเทศที่สามเข้ามายุ่งหรือไม่ ถ้าเข้าข้อใดข้อหนึ่งประเทศไทยจะมีปัญหา ที่ ฮุนเซน ไม่ลงนามหยุดยิงถาวร เป็นเพราะไทยยอมให้อินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์ มีนัยยะ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2554 ไทยและกัมพูชามีข้อตกลง 8 ข้อ แต่พอพันธมิตรฯ จับได้ไล่ทันทักท้วงว่าขัดต่อ กฏหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 รัฐบาลก็ออกมาบอกว่าไม่มีการลงนามแต่เป็นสัญญาลูกผู้ชาย ตรงนี้ความหมายมันไม่ต่างกันคือ ถ้าเราต้องปฎิบัติตาม เท่ากับไทยเสียดินแดนอยู่ดี

นายปานเทพ กล่าวว่ามีคนท้วงว่ารัฐบาลไม่รู้เรื่อง ตรงนี้เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดว่าข้อตกลงหยุดยิงถาวร ถือเป็นแนวปฎิบัติที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาชายแดน นายกฯต้องรู้เรื่องด้วยแม่ทัพภาค 2 ถึงกล้าไปเจรจา นายกฯบอกในการประชุม เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากมติคณะมนตรีความมั่นคง เดินหน้าเจบีซี พื้นที่ชายแดนคลี่คลาย ไม่ต้องลงนามหยุดยิงถาวร ให้อินโดเข้ามาสังเกตการณ์ เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่มีการปะทะกันอีก นั้น ตนขอย้ำว่าไทยเสียเปรียบ เพราะในเวทีคณะมนตรีสหประชาชาติ ไทยไม่ได้ต่อสู้ว่า ตรงไหนคือแนวเขตแดนของไทย เขมรยึดครองแผ่นดินไทย ละเมิดเอ็มโอยู 43 การที่อินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์เพื่อยืนยันว่าจะไม่มีการปะทะกันอีก ความหมายตรงนี้ เท่ากับไทยสละการใช้กำลังผลักดันเป็นการถาวรแล้ว จากข้อเท็จจริงเขมรยึดครองดินแดนไทยอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าผลการเจรจาไม่เป็นที่พอใจของเขมร ต่อให้ไทยเจรจาอีก100 ปีก็ไม่สำเร็จ

“น่าเป็นห่วงเราช้ากว่ากัมพูชาไปหนึ่งก้าวเสมอ การให้อินโดนีเซียเป็นสักขีพยานว่าจะไม่ปะทะกันอีก นั่นก็คือเสียดินแดนถาวร และเมื่อเป็นพื้นที่สงบ จะทำให้กลับมาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกได้อีก”

นายปานเทพ กล่าวว่ารัฐบาลพยายามเอาบันทึกข้อตกลง เจบีซี เข้าสภาให้ได้ บอกว่าไม่มีข้อตกลงให้ทหารทั้งสองฝ่ายออกจากวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ พอเราจับได้ก็บ่ายเบี่ยงจนสุดท้ายมาทำจริงในทางปฏิบัติ ให้ทหารไทยออกจากพื้นที่ แล้วให้ทหารเขมรยึดครองตามเดิม ซึ่งผลมันก็ไม่ต่างจากที่เราเรียกร้องให้ขับไล่เขมรออกไปเพราะสุ่มเสียงต่อการเสียดินแดนถาวร

ขอย้ำอีกที ที่พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าร้อยกว่าปีที่แล้วเข้าไปพื้นที่ยากเลยไม่ได้เข้าไปทำหลักเขต ตรงนี้มีรายงานบันทึกผลการประชุมของสยามกับฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 1907 โดยทั้งสองฝ่ายส่งหนังสือไปยังรัฐบาลตน ว่า ประธานคณะกรรมการปักปันสยาม- ฝรั่งเศษ เห็นว่าตลอดแนวเขาดงรักถึงแม่น้ำโขง การกำหนดหลักเขตแดนไม่ยุ่งยากอะไรเลย แปลว่าเขตแดนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า นั่นคือสันปันน้ำจึงไม่ต้องทำเขตแดน ดังนั้นที่รัฐบาลพูดจึงเป็นเรื่องเท็จ ต้องเลิกตะเบงได้แล้ว ไม่อ่านหนังสือแต่อยากเอาชนะทางการเมือง เสียแผ่นดินใครจะรับผิดชอบ

อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าแผนที่1:200000 ไม่ใช่ผลงานของคณะกรรมการปักปัน แต่เราก็ได้รับมอบมาเป็นที่รับรู้ว่ามีแผนที่ฉบับนี้ ตรงนี้ไม่รู้จะพูดให้เป็นโทษกับประเทศไทยทำไม ในเมื่อคณะกรรมการที่ไปสำรวจให้ใช้ขอบหน้าผาแล้ว อีกอย่างแผนที่นี้คณะที่ไปสำรวจของไทยก็ไม่ได้เซนต์รับรอง แผนที่นี้จึงใช้ไม่ได้ ย้ำเอ็มโอยู43 จะไม่มีพิษภัย ถ้า 1.ไม่เอาแผนที่1:200000 ที่ฝ่ายไทยไม่ยอมรับมาใช้

นายปานเทพ กล่าวว่าเศร้าใจมาก บันทึกผลการประชุมเจบีซี ที่กำลังผ่านสภาจะเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง 1.ประเทศไทยไม่ปฏิเสธบันทึกผลการประชุม ที่นายวาคิมฮง ใส่ร้ายประเทศไทย ว่าไทยรุกรานเขมรตามแผนที่1:200000 2.ยอมรับเอ็มโอยู43 และทีโออาร์ 2546 ที่ระบุให้ใช้ภาพถ่ายทางบอากาศเป็นพื้นฐานตามแผนที่1:200000 อย่างนี้ไทยก็ต้องเสียเปรียบอีก และ 3.ให้ทหารทั้งสองฝ่ายออกจากพื้นที่ อย่างนี้ก็ทำให้เขมรเดินหน้ามรดกโลกอีกใช่หรือไม่

“หลังจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป ภาคประชาชนและสื่อ ต้องถามนายกฯให้ตรงประเด็นมากขึ้น กับกรณี ที่บอกว่าจะไม่ยิงก่อน ได้อินโดนีเซียมาเป็นสักขีพยาน ขณะที่เขมรยึดครองอยู่ หากเขมรไม่ยอมเจรจาตามที่ไทยต้องการแล้วยึดครองต่อไปเรื่อยๆจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่มีคำตอบก็เท่ากับว่าเราเสียดินแดนแล้ว” นายปานเทพ กล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น