xs
xsm
sm
md
lg

พธม.ชี้ทหารลงนามหยุดยิงเสี่ยงเสียดินแดนถาวร เชื่อแก้ยากถ้า “มาร์ค” ยังนั่งนายกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โฆษกพันธมิตรฯ ชี้ไทยเสี่ยงเสียเปรียบ ลงนามหยุดยิงทำเขมรเดินหน้าขึ้นทะเบียนพระวิหารมรดกโลกง่าย เสี่ยงเสียดินแดนถาวร ซัดไม่เลิกเอ็มโอยูทำทหารใช้แสนยานุภาพลุยไม่ได้ คาด “ฮุนเซน” เดินแผนยื่นศาลโลกตีความต่อ จี้รัฐตอบทำยังไงให้เขมรพ้นพื้นที่ เชื่อแก้ยากถ้า “มาร์ค” ยังเป็นนายกฯ


วันนี้ (20 ก.พ.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ แถลงถึงกรณีที่ไทยและกัมพูชาลงนามในข้อตกลงหยุดยิงถาวร โดยมีเงื่อนไข 8 ข้อว่า การลงนามในสถานการณ์ที่กัมพูชายึดครองพื้นที่ไทยอยู่ ถือเป็นความเสียเปรียบอย่างมาก อีกทั้งยังจะทำให้พื้นที่เขาพระวิหารเป็นพื้นที่สันติภาพถาวร และกัมพูชาสามารถเดินหน้าในการขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้ เป็นอันตรายอย่างยิ่งกับการสูญเสียดินแดนอย่างถาวร

นายปานเทพกล่าวอีกว่า เมื่อไม่ผลักดันทหารและชุมชนกัมพูชาออกจากพื้นที่ประเทศไทย รวมทั้งไม่ยกเลิก MOU 2543 หลังจากนี้ผลที่ตามมาคือ ฝ่ายไทยไม่สามารถใช้แสนยานุภาพทางการทหารใดๆ อีกต่อไปมาบนโต๊ะเจรจาเพื่อทำให้กัมพูชาถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งกัมพูชาก็จะเดินหน้ายื่นให้ศาลโลกตีความตามที่นายฮุนเซนได้ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ โดยอ้างผลทางวิชาการของนักวิชาการ 7.1 ล้านที่จ้างโดยกระทรวงการต่างประเทศ ว่าพื้นที่ทั้งหมดเป็นของกัมพูชา รวมทั้งอ้างการยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตามที่ไทยได้ลงนามใน MOU 2543 ทำให้กัมพูชาสามารถรุกคืบเพื่อให้ได้พื้นที่ในทางปฏิบัติ ทั้งให้กำลังทหารเข้ายึดและในเวทีมรดกโลก เพื่อให้รับรองพื้นที่ 4.6 ตร.กม.เป็นของกัมพูชา โดยที่ทหารไทยไม่สามารถผลักดันได้

นายปานเทพกล่าวด้วยว่า ยิ่งไปกว่านั้นการลงนามในข้อตกลงที่ห้ามใช้อาวุธหนัก แม้จะมีการปะทะกัน เป็นการลดระดับแสนยานุภาพทางการทหารของฝ่ายไทยให้เท่ากับกัมพูชาทันที เป็นการมัดแสนยานุภาพทางการทหารของฝ่ายไทยมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่พันธมิตรฯ ได้เตือนมาตลอดก่อนที่จะมีการลงนาม เพราะข้อเรียกร้องของภาคประชาชนและพันธมิตรฯเคยเสนอให้ยกเลิก MOU 2543 โดยอาศัยเหตุว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ละเมิดข้อตกลงในการใช้กำลังโจมตีไทยก่อน แต่ทันทีที่ไทยลงนามก็เสมือนกับการละเลยสิ่งที่สามารถทำได้ก่อนหน้านี้ โดยกัมพูชายึดครองดินแดนไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลยืนยันว่าการเจรจาสามารถรักษาอธิปไตยได้จริง ต้องตอบให้ได้ว่าจะจัดการอย่างไรให้กัมพูชาออกจากพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ทั้งที่เขาพระวิหารและภูมะเขือ รวมทั้งพื้นที่ที่จะกลายเป็นมรดกโลก เนื่องจากเป็นพื้นที่สันติภาพถาวร จุดนี้รัฐบาลจะแก้ไขอย่างไร

“ประเทศไทยตกอยู่ในสถานการณ์ที่เพลี่ยงพล้ำอย่างยิ่ง การลงนามแบบนี้โดยไม่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาอธิปไตยของชาติ ไม่มีเงื่อนไขผลักดันให้กัมพูชาออกไปจากพื้นที่ ส่งผลให้เราเสียดินแดนทั้งในทางพฤตินัยและนิตินัย รวมทั้งในเวทีนานาชาติ ยากต่อการทวงคืนมากขึ้นไปเรื่อยๆ” โฆษกพันธมิตรฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในสถานการณเช่นนี้จะมีวิธีการแก้ไขปัญหาต่อไปอย่างไร นายปานเทพกล่าวต่อว่า การแก้ไขค่อนข้างยากหากนายอภิสิทธิ์ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ เพราะเมื่อรัฐบาลที่อ่อนแอเช่นนี้ ได้ยืนหยัดที่จะลงนามเช่นนี้ เชื่อว่าไม่มีทางยกเลิกหรือเปลี่ยนแนวทาง อย่างไรก็ตาม หากมีรัฐบาลใหม่ที่ต้องการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว ต้องเร่งดำเนินการยกเลิก MOU 2543 คัดค้านการขึ้นทะเบียนมรดกโลก และต้องยกเลิการลงนามหยุดยิงถาวร เพื่อผลักดันกัมพูชาออกจากดินแดนไทย โดยใช้กรณีตัวอย่างที่สมรภูมิร่มเกล้าเมื่อปี 2530 ที่ไทยปะทะกับลาว หลังจากที่ในช่วงแรกลาวได้ยึดยอดเขาร่มเกล้าแล้ว ฝ่ายไทยได้ใช้กองทัพอากาศ เครื่องบินเอฟ 5 เข้ากดดันยิงถล่มฐานทัพปืนใหญ่ในฝั่งประเทศลาวกว่า 20 กม. ทันทีที่ไทยเอาจริง ลาวก็ยุติการยิงแล้วหันมาเจรจาทันที โดยที่ฝ่ายไทยได้เปรียบด้วย แสดงให้เห็นว่าหากไม่ใช้แสนยานุภาพทางการทหาร การเจรจาบนโต๊ะก็จะอ่อนแอไปด้วย

“ข้อตกลงหยุดยิงถาวรนี้ยังเป็นเพียงการลงนามของฝ่ายทหาร มีผลผูกพันถึงการใช้กำลังทหารเท่านั้น หากรัฐบาลหรือฝ่ายการเมืองมีนโยบายทางการทูตที่ชัดเจนแล้ว ข้อตกลงดังกล่าวก็สามารถยกเลิกได้เช่นกัน” นายปานเทพกล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น