xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ชี้ชัด รบ.ไม่โง่ก็โกง ข้อได้เปรียบโต้เขมรเยอะแต่ไม่ใช้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
“ปานเทพ” ถาม “มาร์ค” มัดมือเท้าทหาร เขมรยึดพื้นที่แล้วจะมีน้ำยาอะไรทวงคืนแผ่นดินไทย ซัด รบ.ทำพลาดมหันต์ ไม่อ้างเขมรละเมิดเอ็มโอยู 43 ไม่ยืนหยัดยึดสันปันน้ำ เชื่อถ้าประณามเขมรยิงใส่พลเรือนเขาต้องถอยกลับไปอยู่ตีนเขาแน่ อัดนักวิชาการ 7.1 ล้าน อ้างแต่สัมพันธ์ดีชาวบ้านเสียมเรียบ-ภูมิซรอล เคยนึกถึงน้ำตา ปชช.ที่เขาเสียที่ดินทำกิน เสียชีวิต บ้านเรือนจากการปะทะบ้างหรือไม่



วันที่ 22 ก.พ. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พรุ่งนี้มีเหตุการณ์สำคัญ 1.คณะรัฐมนตรีจะลงมติขยายประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง 2.เวลา 10.00 น. ตนและคณะอีก 9 คน ที่ได้รับหมายเรียกข้อหาฝ่าผืนประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทั้งนี้อยากให้พี่น้องยืนหยัดอยู่ที่นี่ไม่ต้องเดินตามเราไป เราจะสู้ทุกเม็ดในคดีความและจะดำเนินคดีกลับด้วย และ 3.ขอให้ติดตามกระแสข่าวประชุมรัฐมนตรีอาเซียนมีมติอย่างไร โดยเน้นจับตาในประเด็นการหยุดยิงถาวร ทั้งที่ทหารเขมรยังอยู่ในประเทศไทย และกรณีจะให้อาเซียนมายุ่งกิจการภายในของประเทศไทยไม่ได้

นายปานเทพกล่าวถึงคำพูดนายอัครพล ค่ำคูณ ที่พูดถึงความซาบซึ้งระหว่างกิจกรรมคนไทยที่เสียมเรียบ กับคนเขมรที่ภูมิซรอลนั้น เป็นการพูดแต่กิจกรรมของตนเอง ไม่สนใจปัญหาของชาติ ก่อนอื่นตนขอตั้งคำถามว่าเป็นกิจกรรมได้รับงบประมาณจากใคร ใช่งบ 7.1 ล้านหรือไม่ อย่างไรก็ดี นายอัครพลน่าจะมีโอกาสได้เห็นน้ำตาพี่น้องประชาชนที่เขาเสียที่ดินทำกินหลังเขมรเข้ามายึดเขาเสียน้ำตามาถึง 30 ปี และกรณีปล่อยให้เขมรสร้างถนนจนยึดยอดเขาในฝั่งไทย ทั้งเขาวิหาร ภูมะเขือ ขนอาวุธขึ้นไปแล้วยิงใส่ราษฎรไทยเสียชีวิต บาดเจ็บ บ้านเรือนเสียหาย ญาติพี่น้องเขาเหล่านั้นเสียน้ำตา

ส่วนที่อ้างว่าโลกไร้พรมแดนนั้น ทั่วโลกเขาทำกันในเรื่องข้อมูลข่าวสาร ไม่ใช่เขตพรมแดน หากนักวิชาการ 7.1 ล้าน เชื่อโลกไร้พรมแดน ถ้าเช่นนั้นเอาบ้านตัวเองเป็นศูนย์อพยพเขมรได้หรือไม่ นี่คือหลักการง่ายๆ และคำพิพากษาศาลโลก นักวิชาการเหล่านี้ไม่พูดประโยคสุดท้าย ว่า คำชี้ขาดทางกฎหมายของแผนที่ และเส้นเขตแดนพิพาท มิใช่ข้อเรียกร้องที่จะต้องกล่าวถึงในบทปฏิบัติการ ซึ่งชัดเจนศาลโลกไม่ได้พิพากษาแผนที่

ทั้งนี้ ธรรมนูญศาลโลก ระบุไว้ว่า (1.) ถ้าฝ่ายใดไม่พอใจจะขยายผลไปมากว่าคำพิพากษา ต้องยื่นร้องเรียนภายใน 10 ปี เมื่อกัมพูชาต้องได้เฉพาะตัวปราสาท บัดนี้ 49 ปี กัมพูชาไม่เคยขยายผลต่อศาลโลกได้เลย (2.) ข้อตกลงว่าด้วยเรื่องการสงวนสิทธิ ของเราเป็นข้อสงวนจะทวงคืนวันใดวันหนึ่ง (3.)ทำไม 50 ปี ที่ผ่านมากัมพูชาไม่เรียกร้องอะไร เพราะคดีปราสาทเขาวิหาร เป็นคดีสุดท้ายที่ไทยต่ออายุคำพิพากษาศาลโลก แปลว่าเราไม่ต้องขึ้นศาลโลกอีกแล้ว ดังนั้นสะเสียดินแดนเพิ่มเติมตามแผนที่ 1 : 200,000ได้อย่างไร

กัมพูชารู้ดีถึงขอบเขตคำพิพากษาว่าได้แค่ตัวปราสาทเขาวิหาร เมื่อมีเอ็มโอยู 43 เท่ากับไทยยอมรับแผนที่ 1 : 200,000 แล้ว ดังนั้น เมื่อกัมพูชาได้สิทธิ์ เขาคิดอะไร เริ่มจากกัมพูชาอ้างไทยรุกนานตามแผนที่ 1 : 200,000 ต่อสหประชาชาติ ซึ่งเขมรได้ประเมินท่าทีไทยแล้วว่าไทยโต้แย้งไม่ได้ จากนั้นจึง ลำเลียงอาวุธ กำลังพลขึ้นไปบนเขาวิหาร และเปิดฉากยิ่งถล่มไทย เพื่อหวังให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ให้ความเห็นแนะนำในกฎหมาย เพื่อให้สหประชาชาติยื่นศาลโลกตีความเพิ่มเติม ขยายผลเอ็มโอยู 43 ว่าไทยยอมรับแผนที่ 1 : 200,000 แล้ว

นายปานเทพกล่าวว่า แนวทางการดำเนินการของรัฐบาลมีสองแนวคิดเท่านั้นคือถ้าไม่โง่ ก็ โกง 1.กรณี 7 คนไทยถูกจับบนดินแดนไทย เดิมทีนายอภิสิทธิ์บอกว่าไม่ว่ากรณีใดกัมพูชาจะนำตัวคนไทยไปขึ้นศาลเขมรไม่ได้ ต่อมาพูดกลับลำบอกว่าคนไทยอยู่ในเขตกัมพูชา 2.ไม่ผลักดันทหารออกจากไทย ภูมะเขือ เขาวิหาร ซึ่งเป็นที่สูงตั้งป้อมยิงใส่คนไทย 3.พันธมิตรฯ เสนอ 3 ข้อเรียกร้อง รัฐบาลก็อ้างว่าจะทำให้ประเทศที่สามแทรกแซง เมื่อไม่อยากให้แทรกแซงเช่นนั้นเราก็เสนอว่าแล้ว ทำไมไม่ใช้ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ เช่น ตัดน้ำมัน ไฟฟ้า หรือใช้แสนยานุภาพทางอากาศ ก็ไม่ทำ 4.ที่การประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ก็ไม่สู้ในประเด็น ยืนยันเส้นเขตแดนของตนเอง ไม่ประณามเขมรว่ายิงใส่พลเรือน จนทำให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ สรุปให้ไทย-เขมร ทำข้อตกลงหยุดยิงอย่างถาวร ตรงนี้ เท่ากับมัดแสนยานุภาพทางทหารไทยถาวร และจะเสียดินแดนอย่างถาวรด้วย ที่สำคัญไม่พูดถึงเขมรละเมิดเอ็มโอยู 43 ต่อมาเมื่อประชาชนจับได้ว่าไทยเสียดินแดน ก็จัดนักวิชาการ 7.1 ล้าน มาสร้างกระแสบอกว่าอย่าไปสนใจที่ดินตรงนั้นเป็นของเขมรอยู่แล้ว การกระทำอย่างนี้โง่ หรือโกง หรือทั้งโง่และโกง

นายปานเทพกล่าวว่าเราเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 เพราะเรากลัวปกป้องอธิปไตยของชาติ มายุคนี้ไม่ไช่แค่กลัวปกป้องอธิปไตยของชาติ แต่กลัวคนไทยจะไม่ได้ไปเล่นที่กาสิโนในเขมรด้วยใช่หรือไม่ อย่างไรก็ดี วันนี้ต้องชมทหารที่เอาทูตทหารไปดูพื้นที่เสียหาย เป็นจิตวิทยาที่ถูกต้องและควรทำมานานแล้ว แต่ต้องแสดงความเสียใจ วันที่ 14 ก.พ. ประเทศไทยไม่ได้อ้างเขมรยิงใส่ประชาชนไทย บนเวทีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถ้าไทยยกข้อนี้อ้างสหประชาชาติ ต้องไม่ออกข้อเรียกร้องเพียงเค่หยุดยิงถาวร จะต้องบอกว่าทหารกัมพูชา ต้องกลับไปอยู่ที่ตีนเขาเหมือนเดิม และถ้าไทยสู้ว่าเขมรละเมิดเอ็มโอยู 43 เขมรก็ต้องกลับไปอยู่ตีนเขา และไม่หยิบยกสันปันน้ำเป็นข้ออ้าง ส่งผลให้ไทยไม่สามารถอ้างกฎบัตรสหประชาชาติข้อ 7 ที่ห้ามสหประชาชาติเข้ามายุ่ง นี่คือความบกพร่องและผิดพลาดที่สุดของ กระทรวงการต่างประเทศ

“เขมรเข้ายึดพื้นที่ รัฐบาลยังมีหน้ามาพูด เรายังไม่เสียดินแดน ตนขอถามข้อเดียวพื้นที่เขมรยึดครองตอนนี้ ถ้าเขาไม่ตกลงกับไทยจนได้ตามที่เขาต้องการ เมื่อมีข้อผูกมัดทหารด้วยการหยุดยิงถาวร แล้วนายอภิสิทธิ์จะใช้มาตรการอะไรทวงคืน นายอภิสิทธิ์ไม่เคยพูดกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา เป็นการตบตาประชาชนที่อำมหิตที่สุด”

นายปานเทพ กล่าวถึงกรณีที่สมาคมวิทยุและสื่อโทรทัศน์ จะเปิดเวทีสื่อกลาง “ทางออกกรณีไทยและกัมพูชาในมุมมองสื่อ” เราก็ถามลองใจกลับไปว่า ที่ทำเจตนาให้ประชาชนรับรู้ หรือแก้ต่างให้รัฐบาล อย่างไรก็ดี ทั้งนี้เรายังยืนยันท้าดีเบตคนละ 3 ชั่วโมง จะจับสลากใครก่อนหลังก็ได้เพื่อเปิดโอกาสให้สังคมเลือกว่าจะเดินทางไหน เพราะถ้าเราปล่อยให้รัฐบาลพูดฝ่ายเดียวต่อไป คนในประเทศจะไม่รู้ว่าดินแดนไทยถูกเขมรยึดครองอยู่ รับรอง 3 ชั่วโมงรัฐบาลจอดแน่อย่างไรก็ดี ตอนนี้สมาคมสื่อได้ตัดสินใจล้มเวทีนี้ไปแล้ว จึงจับได้ว่าสื่ออยู่ภายใต้การครอบงำของรัฐบาลและอำนาจทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น