xs
xsm
sm
md
lg

“จำลอง” เมินต่ออายุ พ.ร.บ.มั่นคง - “ประพันธ์” ชี้ลงนามหยุดยิงส่อขัด ม.190

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
แกนนำพันธมิตรฯ ไม่สนต่ออายุ พ.ร.บ.มั่นคง กี่ปีก็ไร้ปัญหา ชี้แค่กฎหมายความมั่นคงของ ครม. ยันข้อตกลงหยุดยิงเขมรได้ประโยชน์ ทำลูก “ฮุนเซน” สร้างผลงานสืบทอดอำนาจ เชื่อรัฐโง่ยึดประโยชน์ตนเป็นหลัก ซัดแปลกยอมเสียดินแดนมากกว่าเสียหน้า - “ประพันธ์” ชี้ส่อขัด ม.190 ฉะรัฐรีบลงนาม

วันนี้ (20 ก.พ.) ที่สะพานมัฆวานฯ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เตรียมเสนอคณะรัฐมตรีเพื่อต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงว่า ไม่มีผลใดๆ ถึงจะต่ออายุเป็นปีก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากภาคประชาชนาได้ให้เวลากับรัฐบาลมาเป็นปี รวมทั้งบอกว่าหากถึงวันที่ 25 ม.ค.แล้วรัฐบาลไม่ทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน เราก็จะมาชุมนุมปักหลักพักค้างที่นี่ ซึ่งตอนที่ประกาศนั้นยังไม่ยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความเข้มข้นกว่าด้วยซ้ำ กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ใช้เพื่อความมั่นคงของชาติ แต่เป็นความมั่นคงของคณะรัฐมนตรีเท่านั้น

พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า การลงนามข้อตกลง 8 ข้อนั้นคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือนายฮุนเซน อย่างน้อยก็เป็นการหนุน พล.ท.ฮุน มาเนต ลูกชายของตัวเอง ในการมอบหมายให้มาลงนามกับฝ่ายไทย เพื่อสร้างผลงานสืบทอดอำนาจเผด็จการของตัวเอง ที่สำคัญกัมพูชาก็ยังอยู่ในแผ่นดินไทย โดยห้ามสร้างถนนหรือสิ่งปลูกสร้าง ทั้งที่กัมพูชาสร้างของตัวเองเสร็จไปนานแล้ว เช่นนี้แล้วรัฐบาลไปลงนามได้อย่างไร จึงวิเคราะห์ได้เพียงว่ารัฐบาลไทยโง่หรือยึดประโยชน์พวกพ้องตัวเองแลกกับผลประโยชน์ของชาติเท่านั้น รัฐบาลนี้ยังมีความแปลกในการยอมเสียดินแดนมากกว่ายอมเสียหน้า เพราะหากทำตามข้อเสนอของเราถือว่าเป็นการเสียหน้า จึงเลือกการเสียดินแดนดีกว่า

ขณะที่ นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ตั้งข้อสังเกตกรณีการลงนามข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายทหารทั้ง 2 ประเทศว่าอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่ว่าด้วยการลงนามในสัญญากับต่างประเทศ โดยกล่าวว่า ข้อเจรจาทั้ง 8 ข้อที่ระบุในข้อตกลงหยุดยิงนั้นมีผลกระทบต่อการสูญเสียดินแดนและอธิปไตยได้ ดังนั้นการที่รัฐบาลมอบหมายให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก ไปเจรจาลงนามกับฝ่ายกัมพูชา โดยมี พล.ท.ฮุน มาเนต รอง ผบ.ทบ. บุตรชายของนายฮุนเซน นายกฯกัมพูชานั้น รัฐบาลหรือกองทัพสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ระบุชัดเจนว่า การเจรจาใดๆที่มีผลกระทบต่อดินแดนและอธิปไตย ต้องขอกรอบเจรจาและขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ทั้งนี้โดยปกติทั่วไปการเจรจาลงนามการหยุดยิงนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของฝ่ายริหาร โดยนายกรัฐมนตรี หรือ รมว.ต่างประเทศ เท่านั้น ฝ่ายทหารไปทำการเจรจาโดยลำพังนั้นไม่ได้ และยังเป็นเรื่องที่น่าแปลก เนื่องจากในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ก็จะมีการประชุมข้อพิพาทไทย-กัมพูชาในที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) อยู่แล้ว เหตุใดรัฐบาลจึงเร่งรับให้ฝ่ายทหารไปดำเนินการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า การดำเนินนโยบายทั้งทางการทหารและทางการทูตล้วนเป็นไปในทางที่ทำให้ประเทศ เสียเปรียบ แล้วยังมีความพยายามขัดขวางการเคลื่อนไหวของประชาชนที่ต่อสู้เพื่อปกป้องดิน แดนอธิปไตยตลอดเวลา รวมทั้งกรณีของนายณฐพร โตประยูร อดีตทนายความของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ก็มีคนในรัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องในการเกลี้ยกล่อมให้ยอมรับผลการตัดสินของศาลกัมพูชา ในกรณีนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ทั้งๆ ที่ 2 คนนั้นไม่ประสงค์ที่จะยอมรับกระบวนการของศาลกัมพูชา แต่รัฐบาลพยายามให้คนไปล๊อบบี้ทนายเพื่อให้ยอมขออภัยโทษตามที่รัฐบาลต้องการ เช่นเดียวกับการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็เช่นเดียวกันที่ต้องการเล่นงานประชาชนที่ออกมาทำหน้าที่รักษาดินแดนของชาติ

นายประพันธ์ยังได้กล่าวถึงการพบกันของ รมว.ต่างประเทศไทย และกัมพูชาบนเวทีอาเซียน ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ด้วยว่า เราได้เสนอไปว่ารัฐบาลจะต้องไม่ยินยอมให้กัมพูชานำเรื่องขึ้นสู่ศาลโลก เพราะจะเป็นการยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 รวมไปถึงข้อตกลงหยุดยิงถาวรที่เราได้เสนอไปล่วงหน้าแล้วว่าไม่ควรลงนาม หากกัมพูชายังอยู่ในดินแดนไทย แต่รัฐบาลก็เร่งรีบไปลงนามกับทางกัมพูชาแล้ว ดังนั้น ภาคประชาชนจึงไม่สามารถที่จะเสนอใดๆ ได้อีก เพราะเสนอไปรัฐบาลก็ไม่ฟัง การที่นายกฯ อภิสิทธิ์ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จะมีการประชุมเตรียมการเพื่อกำหนดท่าทีต่อการประชุมในวันที่ 22 ก.พ.นั้น ตนสงสัยว่ากำหนดท่าทีอะไร เพราะไปลงนามยอมกัมพูชาทุกอย่างแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น