“อภิสิทธิ์” โยน กต.-กห.แจงวิปรัฐบาลเพื่อกำหนดท่าทีให้ตรงกัน หลัง ส.ส.ความเห็นแตกเรื่องเจบีซี แถย้ำเอ็มโอยู-เจบีซี ไม่เป็นการรับแผนที่ระวางดงรัก และต้องเดินหน้าต่อให้ได้ ไม่ค้านประชุมจีบีซีที่อินโดนีเซีย ชี้จะประชุมที่ไหนก็อยู่ที่เนื้อหาสาระของ 2 ประเทศเท่านั้น ประเทศอื่นไม่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (28 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อรับทราบรายงานบันทึกผลการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ที่ยังมีความแตกต่างว่า ขณะนี้ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหมชี้แจงในที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เพื่อให้วิปรัฐบาลได้กำหนดท่าที เพราะยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในเรื่องสถานะของตัวบันทึกที่จะเป็นหนังสือสัญญาหรือไม่ และมีความจำเป็นจะต้องเห็นชอบ หรือเพียงแค่รับทราบหรืออะไร เพราะวันนั้นที่อภิปรายกันในสภา และมีความเห็นของกรรมาธิการยังไม่ตรงกัน
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องเรื่องดังลก่าวจะมีการหารือกัน ซึ่งได้ขอประธานไว้แล้ว และประธานได้บอกให้คุยกันว่ามีข้อยุติที่ตรงกันหรือไม่ โดยเป้าหมายของรัฐบาลคือควรจะต้องมีการประชุม เจบีซี และยืนยันว่าตัวบันทึกทั้ง 3 ที่มีการเสนอต่อสภาไม่ได้มีประเด็นอย่างที่หลายฝ่ายห่วง ยืนยันว่าไม่มีการรับแผนที่ระวางดงรัก และเรายังจะขอให้สภา มีมติให้ชัดด้วยซ้ำ ว่ามีข้อสังเกตอย่างนี้และคณะรัฐมนตรีจะมีมติต่อไป มีการท้วงติงและในบันทึกมีใครพูดอะไรไว้แล้วเรายังไม่ได้โต้แย้งก็จะทำหนังสือโต้แย้งไป รวมทั้งมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ เวลาที่มีเอ็มโอยู เจบีซี ทุกอย่างครอบคลุมทุกอย่างที่เป็นข้อห่วงใย ของคนที่หวงแหนแผ่นดินไทยทั้งนั้น
“เมื่อวันศุกร์ที่แล้วผมได้ชี้แจงชัดเจน ทุกคนที่มาอ้างว่าเอ็มโอยู เจบีซี ไปยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 อ่านข้อความทั้งหมดจะชัดว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่รับจะต้องเป็นแผนที่ที่เป็นผลงานของคณะกรรมการปักปันเขตแดน ซึ่งกรณีของแผนที่ระวางดงรัก ทางศาลโลกก็ยืนยัน นักวิชาการที่ให้ข้อมูลกับพันธมิตรฯ ก็ยืนยันว่าไม่ใช่แผนที่ที่เป็นผลงานของคณะกรรมการปักปัน ยกเว้นพันธมิตรฯ จะคิดว่าแผนที่นี้เป็นผลงานของคณะกรรมการปักปันเท่านั้น ถือว่าเอ็มโอยูยอมรับ” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ คิดว่าจะทำให้ผลงานประชุมในเรื่องดังกล่าวราบรื่นตามที่รัฐบาลเสนอหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นดุลพินิจของสมาชิก เพียงแต่อยากจะเรียนว่าถ้าเรามีความเห็นที่จะไม่ให้กระบวนการของเจบีซีเดินหน้าต่อ เราก็ต้องพร้อมที่จะไปต่อสู้ในทุกเวที ซึ่งเราคาดการณ์ได้เลยว่ากัมพูชาต้องไปใช้เวทีอื่น ในเมื่อเรามีเอ็มโอยู เจบีซี อยู่แล้วเราบอกว่าไม่ทำตามกัมพูชาก็ต้องไปหาเวทีอื่นเล่น ซึ่งตนเห็นว่าประโยชน์ของประเทศไทย อยู่ที่การทำให้เรื่องนี้อยู่ระดับทวิภาคี แทนที่จะปล่อยให้เรื่องบานปลายอีกหลายต่อหลายประเทศ ซึ่งไม่มีความเข้าใจในเรื่องนี้ดีเท่ากับเราและกัมพูชา
เมื่อถามว่า ล่าสุด พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ทำหนังสือถึงกองทัพไทยว่าพร้อมที่จะประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซีที่ประเทศอินโดนีเซีย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ดี เราสนับสนุนกลไกทวิภาคีทุกกลไก ให้เดินหน้าจะจัดที่ไหนก็ว่ากัน แต่ถ้ายืนยันว่ามาประชุมก็ดี แต่ยังไม่ทราบถึงเรื่องการส่งหนังสือดังกล่าวมา ซึ่งกองทัพคงจะพิจารณา ยืนยันเราอยากให้กลไกเดินหน้า
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้กองทัพไม่เห็นด้วยที่จะประชุมที่อินโดนีเซีย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ใจเขาคิดว่าถ้าสมมติทำตามปกติได้ก็ดี ซึ่งรอบนี้จะต้องไปจัดที่กัมพูชา และเราคงจะต้องทำให้มีการประชุมให้ได้ เพราะอยากให้กลไกทุกกลไกเดิน เมื่อถามว่าช่วยตอบด้วยว่าการประชุมที่กัมพูชา หรืออินโดนีเซีย เราจะได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่มี เรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะเท่าที่ติดตามทั้งกรณีเจบีซี และจีบีซี จะประชุมที่ไหนก็ตามมันเป็นการประชุมที่เนื้อหาสาระอยู่กับ 2 ฝ่ายนี้เท่านั้น คนอื่นไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่ากระทรวงกลาโหมขัดข้องหรือไม่ที่จะไปประชุมที่อินโดนีเซีย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงต้องฟังหน่วยงานว่าขัดข้องหรือไม่ แต่กลาโหมยังไม่ได้แจ้งมาที่ตน