แนวร่วมเกษตรกรไทย บุกพรรคประชาธิปัตย์ จี้ “มาร์ค” แก้หนี้สินตามมติครม.“วิทยา” ลงมาคุยก่อนเชิญตัวแทนพบปลัดคลัง แต่ผิดคาด แกนนำโทร.หาม็อบหลังเจรจาบอกไม่เป็นผล ทำม็อบพังรั้วเข้าไปนั่งหน้าพรรคสำเร็จ ด้าน รองผบก.น.2 สั่งกำลังเสริมด่วน
วันนี้ (28 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มแนวร่วมเกษตรกรไทย กว่า 1 พันคน เดินเท้าจากกระทรวงการคลัง ไปยังถนนหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เร่งรัดแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เรียกร้องให้ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ลงมารับข้อเสนอของกลุ่มเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผลักดัน พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูหนี้เกษตรกร ต่อมา นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรค เป็นผู้ลงมาเจรจากับแกนนำ
จากนั้น นายวิทยา ได้ประสานไปยังปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และปลัดกระทรวงการคลัง ก่อนที่นายวิทยา จะปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า จะให้ตัวแทนไปพบกับ นายอารีย์พงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง และให้ผู้ชุมนุมรอคำตอบ อย่างไรก็ตาม หลังการหารือไม่นาน แกนนำได้โทรศัพท์มายังผู้ชุมนุมว่าการเจรจาไม่เป็นผล ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมฮือ ทลายแนวกั้นของตำรวจภูธรจังหวัดระยองที่มารักษาการณ์เข้าไปในพรรคได้สำเร็จ เพราะตำรวจได้ทำเพียงขวางไว้ชั่วคราว เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และคนสูงอายุ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปนั่งปักหลักนั่งเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกัน ภายในพรรคยังมีการประชุม ส.ส.ตามปกติ แต่ไม่มีแกนนำระดับสูงเข้าร่วม รวมทั้ง นายอภิสิทธิ์ และ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ซึ่ง พ.ต.อ.นิวัฒน์ ชูภู่ รองผบก.น.2 ได้ประสานขอกำลังเพิ่มเติมมายังพรรคประชาธิปัตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มแนวร่วมเกษตรกรมีทั้งหมด 9 ข้อ คือ 1.ให้นายกฯแก้ปัญหาให้เกษตรกร 510,000 ราย โดยไม่กำหนดว่าพิการ เสียชีวิต ก่อนหรือหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2552 2.ทบทวนมติ ครม.เรื่องการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรตามมติ ครม.วันที่ 7 เมษายน 2553 โอนหนี้เกษตรกรไปไว้ที่กองทุนฟื้นฟูฯ ให้จำหน่ายหนี้เป็นสูญ เกษตรกรที่อายุ 65 ปีขึ้นไปให้ยกหนี้เป็นสูญ 3.ให้นายกฯประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ 4.เร่งรัดสะสางปัญหาการแทรกแซงของนักการเมืองในกองทุนฟื้นฟูฯ 5.เร่งหาผู้ทำผิดการชำระหนี้แทนเกษตรกร เพราะมีการชำหนี้จริงเพียง 55 รายจากทั้งหมด 1,403 ราย 6.ระหว่างการดำเนินการให้ธนาคารกรุงไทย ธ.ก.ส.ออมสิน และ ธอส.ยุติการทวงถามหนี้ 7.ให้นายกฯเร่งรัดให้ธนาคารร่วมมือแก้ไขหนี้สิน 8.ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะนายทะเบียนเร่งรัดให้สหกรณ์ให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหา และ 9.ให้นายกฯแต่งตั้งคณะทำงานปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระเบียบการกู้เงินกองทุนหมุนเวียนช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน
วันนี้ (28 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มแนวร่วมเกษตรกรไทย กว่า 1 พันคน เดินเท้าจากกระทรวงการคลัง ไปยังถนนหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เร่งรัดแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เรียกร้องให้ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ลงมารับข้อเสนอของกลุ่มเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผลักดัน พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูหนี้เกษตรกร ต่อมา นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรค เป็นผู้ลงมาเจรจากับแกนนำ
จากนั้น นายวิทยา ได้ประสานไปยังปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และปลัดกระทรวงการคลัง ก่อนที่นายวิทยา จะปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า จะให้ตัวแทนไปพบกับ นายอารีย์พงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง และให้ผู้ชุมนุมรอคำตอบ อย่างไรก็ตาม หลังการหารือไม่นาน แกนนำได้โทรศัพท์มายังผู้ชุมนุมว่าการเจรจาไม่เป็นผล ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมฮือ ทลายแนวกั้นของตำรวจภูธรจังหวัดระยองที่มารักษาการณ์เข้าไปในพรรคได้สำเร็จ เพราะตำรวจได้ทำเพียงขวางไว้ชั่วคราว เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และคนสูงอายุ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปนั่งปักหลักนั่งเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกัน ภายในพรรคยังมีการประชุม ส.ส.ตามปกติ แต่ไม่มีแกนนำระดับสูงเข้าร่วม รวมทั้ง นายอภิสิทธิ์ และ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ซึ่ง พ.ต.อ.นิวัฒน์ ชูภู่ รองผบก.น.2 ได้ประสานขอกำลังเพิ่มเติมมายังพรรคประชาธิปัตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มแนวร่วมเกษตรกรมีทั้งหมด 9 ข้อ คือ 1.ให้นายกฯแก้ปัญหาให้เกษตรกร 510,000 ราย โดยไม่กำหนดว่าพิการ เสียชีวิต ก่อนหรือหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2552 2.ทบทวนมติ ครม.เรื่องการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรตามมติ ครม.วันที่ 7 เมษายน 2553 โอนหนี้เกษตรกรไปไว้ที่กองทุนฟื้นฟูฯ ให้จำหน่ายหนี้เป็นสูญ เกษตรกรที่อายุ 65 ปีขึ้นไปให้ยกหนี้เป็นสูญ 3.ให้นายกฯประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ 4.เร่งรัดสะสางปัญหาการแทรกแซงของนักการเมืองในกองทุนฟื้นฟูฯ 5.เร่งหาผู้ทำผิดการชำระหนี้แทนเกษตรกร เพราะมีการชำหนี้จริงเพียง 55 รายจากทั้งหมด 1,403 ราย 6.ระหว่างการดำเนินการให้ธนาคารกรุงไทย ธ.ก.ส.ออมสิน และ ธอส.ยุติการทวงถามหนี้ 7.ให้นายกฯเร่งรัดให้ธนาคารร่วมมือแก้ไขหนี้สิน 8.ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะนายทะเบียนเร่งรัดให้สหกรณ์ให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหา และ 9.ให้นายกฯแต่งตั้งคณะทำงานปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระเบียบการกู้เงินกองทุนหมุนเวียนช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน