แหลอีกแล้ว !! “ประพันธ์” ชำแหละ “มาร์ค” อภิปรายเจบีซีโกหกทุกบรรทัด

“ประพันธ์” ซัด “มาร์ค” ตอแหลหน้าด้านสุดๆ อภิปรายเจบีซีในสภาโกหกทุกบรรทัด ชี้สภาถอยรับรองเจบีซีวันนี้ถือเป็นชัยชนะของพันธมิตรฯ แต่ยังไม่ประมาท เชื่อ “อภิสิทธิ์” ต้องมีวิชามารเพื่อผ่านให้ได้ พร้อมแนะหากวันที่ 29 นี้สภาไม่ให้ผ่าน หรือสภาล่ม ไม่ควรอยู่ให้คนไทยเห็นหน้า เพราะแค่วันนี้จบประชุมสภามีคนอยู่ไม่ถึง 30 คน ก็ควรแทรกแผ่นดินหนีได้แล้ว ไม่เหลือเกียรติของการเป็นนายกฯอยู่เลย

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วันนี้ (25 มี.ค.) นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า สถานการณ์การต่อสู้ของพันธมิตรฯ มีคนเข้าใจและเห็นด้วยมากขึ้นทุกวัน ข้อเท็จจริงวันนี้ก็เป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่ง นายประพันธ์กล่าวว่า การที่รัฐบาลเสนอสภาเพื่อรับรองรายงานการประชุมเจบีซี โดยนายอภิสิทธิ์เป็นคนลงนามในหนังสือให้บรรจุวาระนี้ ซึ่งครั้งนี้ไม่ได้ประชุมเป็นวันแรกแต่เป็นครั้งที่ 3 แล้ว และเลื่อนมาตลอด และทั้ง 3 ครั้งหนังสือก็ระบุไว้ด้วยว่าเพื่อขอความเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภา แต่มาวันนี้รัฐบาลและกรรมาธิการชุดนายเจริญ คันธวงศ์ กลับตอแหลว่าเป็นการเสนอมาประชุมเพื่อให้สภารับทราบเท่านั้น

แล้วประธานกรรมาธิการก็เป็นคนประชาธิปัตย์ เป็นเรื่องตลกที่สุด พอรู้ว่าเรื่องนี้เสนอมาต้องถูกตีตกแน่ เพราะสมาชิกรัฐสภาค่อนข้างรับทราบข้อเท็จจริงหมดแล้ว ไม่ยอมเอาคอไปขึ้นเขียงแน่นอน ก็เลยแหลว่าเสนอสภามาเพื่อให้สภารับทราบ ความจริงแล้วประเทศไทย สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา ไม่ได้ตั้งมาเพื่อให้รับทราบการปฏิบัติงานของรัฐสภา แต่ทำหน้าที่ออกกฎหมาย ให้ความเห็นชอบนโยบายหรือร่างสัญญาใดๆที่รัฐบาลไปทำกับต่างประเทศ ไม่มีให้มารับทราบเฉยๆ ถึงเวลาก็สามารถกลืนน้ำลายตัวเองก็ยังทำได้ นี่แหละนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า กรรมาธิการและนายอภิสิทธิ์ ก็มาชี้แจงแถลงไขว่าที่มาให้สภารับรองนี้ ไม่ถือว่าเป็นหนังสือสัญญา ตอแหลไม่เป็นได้อย่างไร ในเมื่อมีบันทึกข้อตกลงชั่วคราว ข้อ 1 ข้อ 2 ว่าทั้งสองฝ่ายตกลงว่าจะทำแบบโน้นแบบนี้  ไม่ใช่สัญญาได้อย่างไร ทำไมหน้าด้านตอแหลอย่างนี้  วันนี้ทุกคนเศร้าใจที่มีนายกฯ แบบนี้ นับเป็นคนยังไม่ได้เลย คนที่กล้าโกหกคนอย่างไม่มียางอายแบบนี้

“คณะรัฐมนตรีโดยนายกฯ เสนอร่างบันทึกเจบีซี ให้สภาพิจารณา เลื่อนประชุมมาก็หลายครั้ง ประชุมเสร็จเหลือที่ประชุมไม่ถึง 30 คน เป็นนายกฯ ควรแทรกแผ่นดินหนีได้แล้ว ควรมีความละอาย ทำไมต้องรอถึงพฤษภาคมค่อยยุบสภา ยุบไปวันนี้เลยหรือลาออกไปเลย ถ้ามีสปิริตพอ” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์ ต่ออีกว่า ที่นายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่าบันทึกการประชุมนี้ไม่ใช่เรื่องเร่งรีบ นี่ก็ตออีก หนังสือก็บอกไว้เป็นวาระเร่งด่วน นายกฯก็บอกอยากให้เสร็จก่อนยุบสภา โดยบอกว่าหากปล่อยไปถึงช่วงรัฐบาลใหม่จะกลายเป็นช่องว่าง และรัฐบาลต่อไปจะยกปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ไปสู่ระดับพหุภาคี

“มันก็ไปสู่ระกับพหุภาคีตั้งแต่ยุคของแกแล้ว แหลทุกบรรทัด กัมพูชามันถึงเอาไปประชุม UNSC ไง แล้วยังบอกอีกว่าขอชื่นชมคณะกรรมการเจบีซี ที่ทำให้รัฐบาลมีจุดยืนในการต่อสู้ มีจุดยืนตรงไหน ไหนบอกซิ มีแต่จุดยืนที่จะขายชาติขายแผ่นดิน” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวว่า นอกจากนั้นนายอภิสิทธิ์บอกอีกว่าการที่รัฐสภามาประชุมครั้งนี้ ไม่ต้องไปรับรองสนับสนุนส่วนของระวางดงรัก แต่สมาชิกรัฐสภาสามารถช่วยได้คือเพียงลงมติข้อสังเกตของกรรมาธิการชุดนายเจริญก็พอแล้ว แต่มันก็ทำให้เข้าทางสมาชิกรัฐสภาที่ไม่กล้าเห็นชอบอยู่แล้ว ในเมื่อบอกว่าไม่ต้องลงมติรับรองก็ไม่รับรองจะได้ไม่เอาคอไปขึ้นเขียง สรุปวันนี้อะไรก็ไม่ได้ ติดขัดไปหมด

ต้องยอมรับว่า สมาชิกรัฐสภา นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พันเอกวินัย สมพงษ์ หมอชลน่าน ส.ส.ฝ่ายค้าน อธิบายได้เป็นเหตุเป็นผล ต้องขอชื่นชม ป่านนี้นายอภิสิทธิ์คงไปปรึกษาหารือกันว่าจะหาทางเอาชนะพันธมิตรฯ ไร เพื่อให้สภารับรองให้ได้ ความจริงแล้วที่พวกเราไม่เคลื่อนไปสภา ต้องขอชี้แจงว่าต้องเชื่อมั่นแกนนำ เพราะอ่านไต๋ออกว่าไปก็เมื่อยเปล่า ถนอมพลังไว้ก่อนเพราะ พล.ต.จำลองก็บอกว่าหากไปต้องเผด็จศึกม้วนเดียวจบ

โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร กล่าวอีกว่า วันนี้พวกเรายังไม่ไปไหนเพราะต้องรอดูความชัดเจน อ่านขาดแล้วว่าประชุมวันนี้ไปไม่รอด ไม่ต้องออกแรงไม่ต้องทำอะไรมันก็ไปเอง แต่นายอภิสิทธิ์จะต้องหาทางเอาเรื่องนี้ผ่านให้ได้ แน่จริงเดินหน้าให้ผ่านเลย จะได้เห็นมือเห็นตีนกัน และถ้าไม่ผ่าน ควรไปเกิดเป็นสุนัขและให้สุนัขมาเป็นนายกฯ แทน เพราะไม่มีศักดิ์ศรีไม่มีเกียรติของการเป็นนายกฯเลย ไม่มีราคาของความคนด้วย เพราะฉะนั้นวันที่ 29 นี้ หากไม่ผ่านอีก หรือสภาล่ม นายอภิสิทธิ์ไม่ควรอยู่ให้ประชาชนคนไทยเห็นหน้า

นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า จะไม่ประมาท คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรเฝ้าดูอยู่ว่านายกฯจะใช้วิชามารอะไร จะดูว่าดิ้นรนเพื่อการขายชาติอย่างไร ประชุมอีกครั้งเราก็ต้องฮึดอีกทีนึง วันนี้พันธมิตรฯได้ทำให้นายอภิสิทธิ์กลายเป็นตัวตลกไปแล้ว เสียผู้เสียคน เสียหมาหมดแล้ว ไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้นำประเทศได้เลยนี่คือชัยชนะ ถ้าพันธมิตรฯ ยังสามัคคีเหนียวแน่นอยู่แบบนี้ ต้องรักษาดินแดนไว้ได้แน่นอน ขอบคุณทุกคนที่มากันอย่างเหนียวแน่น และจะยืนหยัดสู้ด้วยกันจนกว่าจะมีความชัดเจนจึงจะสลายการชุมนุมได้  



ค่อต่อคำ “ประพันธ์ คุณมี ประศรัย”

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่านครับ วันนี้ท่าทางคึกคัก มากันถึงพันรึเปล่า ยังไม่ได้เป่านกหวีดเลยทำไมมาเยอะจัง ขอเสียงหน่อย สุดยอดเลยมากันทั่วทุกสารทิศ

พี่น้องครับ ความจริงพี่น้องพันธมิตรฯ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการชุมนุมสูงยิ่ง แค่ได้ฟังคำปราศรัยบนเวทีว่า วันที่ 25 วันศุกร์นี้จะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาผลการประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา และเราให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงกับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอดว่า การประชุมครั้งนี้จะมีผลต่อปัญหาดินแดนและอธิปไตยของประเทศอย่างไร เป็นความสำคัญ เป็นความเป็นความตายของบ้านเมือง เป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของการต่อสู้ของพวกเราในครั้งนี้ ปรากฏว่าพ่อแม่พี่น้องมากันล้นหลาม ปรบมือให้กับตนเองหน่อยครับ ทักทายพี่น้องทางบ้านด้วยครับ พวกเรามาทำหน้าที่แทนท่าน ท่านดูอยู่ทางบ้านส่งเสบียง ส่งกำลังบำรุงมาเยอะๆ แล้วกันนะครับ อย่าให้พวกเราขาดแคลน ใครที่ไม่ได้มาก็ส่งเสบียง ส่งกำลังบำรุงอย่าให้ขาดแล้วกันนะครับ

และยังมีพี่น้องที่มาจากต่างประเทศอีกเยอะนะครับ มาอยู่ที่นี่ และมาร่วมชุมนุม ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

พี่น้องครับ ผมคิดว่าวันนี้เรื่องผลการประชุมรัฐสภานั้น พี่น้องคงได้รับฟังไปอย่างเต็มอิ่ม กับบรรยากาศของวิชาการที่มี อ.เทพมนตรี อ.ปานเทพ อ.วีระพันธ์ มาลัยพันธ์ และอ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่สามารถยืนขึ้นอภิปรายอย่างได้อรรถรสคู่กับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อีกคนหนึ่ง ซึ่งอยู่เขตเดียวกัน โซนเดียวกัน คือ พ.อ.วินัย สมพงษ์ คนโคราช ต้องปรบมือให้ทั้ง 2 ท่าน ที่ได้ทำหน้าที่เป็นอย่างดี ส่วน ส.ส.ประชาธิปัตย์ อีกคนหนึ่งซึ่งน่าสงสาร ความจริงเป็นเด็กสาวผู้ไร้เดียงสาจริงๆ เค้าเรียกว่า ลูกแกะน้อยๆ ในดงหมาป่า แล้วกันนะครับพี่น้องครับ ความจริงแล้ว ดร.รัชดา ธนาดิเรก เป็นเด็กที่มีความใฝ่ฝันทะเยอทะยานที่อยากจะเป็นนักการเมืองที่ดีคนหนึ่ง ผมรู้จักกับคุณแม่ หรือผู้ใหญ่ของเขา และผมดูด้วยความเอ็นดู น่าสงสาร เผอิญว่าไปตกอยู่ในพรรคที่ประกอบไปด้วยเสือ สิงห์ กระทิง แรด อยู่มีนานเธอก็เสียศูนย์เลยครับ เธอเป็น ส.ส.เขตเดียวกับคุณองอาจ คล้ามไพบูลย์ ลง ส.ส.เขตเดียวกับคุณองอาจ มีข่าวซุบซิบดูเหมือนจะไม่ดี องอาจเลยต้องรีบแต่งงาน เพราะว่าเจ้าสาวจะเอาองอาจตาย แต่เมื่อเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แล้วสุดท้ายก็หนีไม่พ้น ซึ่งไม่อยากจะพูดมันมีเรื่องครหานินทาในทางที่ไม่เหมาะสม ดูเหมือนเธอจะทุ่มเท เอาใจใส่ทำงานนี้ในลักษณะเคลียร์ปมปัญหาช่วย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร อย่างทุ่มเท เอาจริงเอาจัง เกินกว่า ส.ส.ปกติธรรมดาทั่วไป ทั้งเป็น ส.ส.และยังเป็นที่ปรึกษาท่านผู้ว่าฯ กทม.ด้วย แต่น่าเสียดายที่ความรู้ความสามารถของเธอมันเข้าทำนอง ไม่อยากจะใช้คำพูดว่า คือความขยันแบบไร้สาระ เป็นความขยันที่ไร้สาระ เป็นความกระตือรือร้นเอาการเอางานที่ไร้คุณประโยชน์อันใดกับชาติบ้านเมือง ที่สำคัญคือ เป็นความขยันที่ทำลายตัวเองอย่างน่าเสียดาย ความจริงแล้วถ้าท่าน อ.มานี ซึ่งเป็นเพื่อนสมาชิกสภานิติบัญญัติรุ่นเดียวกับผม ฟังอยู่ ผมขอส่งความปรารถนาดีไปถึง อ.มานี ช่วยไปเตือนลูกหลานของท่าน ดร.รัชดา หน่อยว่าถ้าอยากจะก้าวหน้าทางการเมือง มีอนาคตทางการเมือง ควรเลือกจุดยืนแบบเดียวกับพี่ประพันธ์ คูณมี จะดีกว่า ควรศึกษาจุดยืนของพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ต่อสู้เรื่องนี้มาอย่างเอาจริงเอาจัง และมีความรู้ความเข้าใจปัญหาอย่างละเอียดถี่ถ้วน จะดีกว่า จะมีอนาคตกว่า มิเช่นนั้นแล้ว เขาจะเรียกว่า พวกที่จบด็อกเตอร์มาจากอังกฤษ สงสัยติดเชื้อโรควัวบ้ามากันทุกคนครับ

คือขยันผิดที่ผิดทาง เรื่องที่ควรทำไม่ทำ เรื่องที่ไม่ควรทำกลับทำ ถ้าเป็นยุคสมัยก่อน สมัยรัชกาลที่ 4 ที่ 5 จะมีบทหนึ่งว่า บรรดาสิ่งที่ไม่ควรทำ เจ้าก็ไม่ควรทำ เป็นเรื่องที่พระองค์ท่านทรงสั่งสอนข้าราชบริพาร ข้าราชการขุนนางทั้งหลายว่า อะไรที่ไม่ควรทำก็ควรจะรู้ อะไรที่ควรทำก็ควรจะรู้ จำแนกแยกแยะให้ได้ แต่วันนี้ดูเหมือน ทั้งหัวหน้าพรรคและลูกพรรค ผมคิดว่าเสียศูนย์ เสียผู้เสียคนไปหมด ไม่รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำครับพี่น้อง

ก่อนจะพูดจาลงรายละเอียดที่จะพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องวันนี้ เดี๋ยวผมจะลืมครับพี่น้อง วันนี้ได้เงินมาหลายตังค์เหมือนกัน มีผู้บริจาคจากพันธมิตรฯ ราชบุรี คุณไพโรจน์ คุณพรรณี ร่วมกู้ชาติมาด้วย 3,000 บาทครับพี่น้อง เดินชนกับท่าน ท่านสะกิดบริจาคเลยครับ ผมพยายามไปเดินชนบ่อยๆ เผื่อจะได้มาหลายตังค์หน่อย แต่ว่าจดหมายฉบับนี้ซิครับไม่อ่านไม่ได้ ผมเปิดดูปั๊บผมอ่านดู เอ๊ะจดหมายใคร ปรากฏว่าอย่างนี้ครับพี่น้อง ผมอ่านให้ฟังแล้วกันนะครับ "เรียนคุณประพันธ์ที่รัก ผมเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ยศพันโท เป็นพันธมิตรฯ มาตั้งแต่ 193 วันแล้ว ขณะนี้ก็ยังเฝ้าดูแลพี่น้องพันธมิตรฯ อยู่ตลอดเวลา" นี่เป็นนายทหารนะครับ อยู่ในราชการ "ขณะนี้ก็เฝ้าดูพี่น้องพันธมิตรฯ อยู่ตลอดเวลา ติดตามข่าวตลอด เมื่อวันที่ 14, 15 ที่ผ่านมา ก็ออกมาดูว่าตำรวจจะทำอะไรพันธมิตรฯ ก็เจอกันแน่" ตำรวจฟังเอาไว้นะครับ "ผมมีเพื่อนรุ่นพี่อยู่คนหนึ่ง เปิดร้านขายเสื้อผ้าสตรีอยู่ที่ตลาดบองมาร์เช่ แต่สุขภาพไม่ค่อยดี แต่ใจเป็นพันธมิตรฯ 100% ได้ฝากกำลังใจมาให้พันธมิตรฯ ทุกคน พร้อมกับฝากเงินมาบริจาค จำนวน 2,000 บาท ให้ ASTV 1,000 บาท สู้เพื่อเขาพระวิหาร 1,000 บาท ที่ผมเขียนมาหาคุณประพันธ์เพื่อบอกให้พันธมิตรฯ ทุกคนทราบว่า ไม่ต้องห่วงมีทหารหนุ่ม ทหารแก่ อยู่เคียงข้างพันธมิตรฯ เสมอ ผมอยู่กองทัพภาคที่ 4 อดีตผู้บังคับบัญชาผมคือ พล.อ.ปฐมพงษ์ ผู้นำผมเข้าต่อสู้คือ พล.อ.ปรีชา นายทหารที่พร้อมจะสู้เพื่อแผ่นดิน ผมก็เหมือนคุณประพันธ์ ขอเป็นรองข้าพระบาททุกชาติไป"ลงชื่อ พ.ท.ท่านขอสงวนนามแต่ท่านเขียนชื่อมา ผมไม่อ่านชื่อแล้วกัน ขออภัยผมนั่งเขียนอยู่บนรถถังอาจอ่านยากสักหน่อย ก็ไม่เป็นไรครับ ถ้าเขามาสลายเราก็ขับรถถังมาช่วยเราหน่อยแล้วกัน หรือขับมาไม่ได้ขอให้พี่น้องเราขอเช่าหรือขอยืมรถถังมาใช้งานชั่วคราวหน่อยแล้วกัน ท่านบริจาคช่วย 2,000 บาท ต้องขอบพระคุณ เป็นกำลังใจอย่างยิ่งสำหรับพวกเรานะครับพี่น้องครับ ปรบมือให้ท่านด้วยนะครับ ส่วนท่านอื่นๆ ที่บริจาคมา ผมอาจจะไม่ได้อ่านต้องขออภัย แต่ว่าคนนี้ซิครับ นี่เป็นนักศึกษาไทยที่ไปเรียนที่ญี่ปุ่น เป็นอาจารย์อยู่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มากับเพื่อนสาว ท่านมาบริจาค 1,000 เยน น่าจะประมาณ 300 บาท ที่สำคัญคือ บอกว่าเป็นพันธมิตรฯ อยู่สงขลาก็ฟัง ไปเรียนทำปริญญาเอกที่ญี่ปุ่น ก็ติดตามฟังรายการเวทีนี้ทุกวัน วันนี้มาที่นี่มาขอถ่ายรูปกับผมและบริจาค 1,000 เยน บอกว่าต้องรีบเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ผมบอกว่า รีบไปศึกษาให้จบไวๆ จะได้มาช่วยกันรับใช้บ้านเมือง และมาช่วยกันไล่คนเลวออกจากแผ่นดินไทย ช่วยกันครับพี่น้องครับ นี่เป็นพี่น้องที่ให้การสนับสนุนการต่อสู้ของพวกเรา และเป็นกำลังใจให้กับพวกเรามาโดยตลอด ซึ่งนายทหารท่านนี้ท่านเขียนชื่อ-นามสกุลจริงมาเรียบร้อย แต่ขอสงวนนาม แต่ท่านเปิดเผยกับผม

พี่น้องครับ ผมคิดว่าวันนี้สถานการณ์การต่อสู้ของพ่อแม่พี่น้องพวกเราที่มาชุมนุมอยู่ที่นี่ ย่างเข้า 2 เดือนเข้าไปแล้ว เรามาทำหน้าที่ด้วยความเสียสละ อดทน ต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดนและอธิปไตยของประเทศ มาบอกให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนและเอกราชของประเทศไทย พี่น้องครับ พี่น้องถามตัวเองซิครับว่า เรามานี่เราทำอะไรผิด เราทำอะไรไม่ถูก เราทำอะไรไม่เป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมืองบ้าง พี่น้องเคยสงสัยในเรื่องนี้ไหมครับ ถ้าไม่สงสัย เชื่อมั่นในความสุจริตใจของเราว่า เรามาไม่ได้รับจ้างใครมาไล่นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้รับเงินทักษิณไล่อภิสิทธิ์ เหมือนอย่างที่แม่ยกหรือคนที่สอพลอพรรคประชาธิปัตย์บางคนใส่ร้ายเรา ขอให้พี่น้องปรบมือดังๆ ส่งเสียงโห่ไปให้คนที่ยังไม่เข้าใจหน่อยครับ ผมคิดว่าคนที่จะสอพลอ ยกยอปอปั้น นิยมชื่นชมนายอภิสิทธิ์ เพียงใดก็ตามแต่ ผมคิดว่า 60 วันที่พวกเรามาชุมนุมอยู่ที่นี่ ผมคิดว่าพวกเราได้พูด ได้แสดงออก ได้ให้ข้อมูล ให้เหตุผล ให้ข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาที่สุด เพียบพร้อม สมบูรณ์แบบ มีเหตุผล มีข้อมูล เอกสารหลักฐานประกอบ ข้อเรียกร้อง ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลอย่างครบถ้วน แม้ว่าการพูดจาปราศรัยบนเวทีอาจจะมีอารมณ์มีถ้อยคำที่อาจจะไม่สุภาพ รุนแรงไปบ้าง แต่ผมคิดว่าเนื้อหาสาระส่วนใหญ่ โดยรวม 80-90% ผมคิดว่า เราเชื่อมั่นว่า เรามาทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเรียกร้องให้รัฐบาลทำหน้าที่ที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกประการครับ

ที่สำคัญ พี่น้องครับผมคิดว่าถ้าท่านมีใจเป็นธรรม ท่านที่อยู่ทางบ้าน ท่านที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับเราก็ตามแต่ แต่เมื่อท่านได้ฟังข้อเท็จจริง เรื่องราวมาทั้งหมดทั้งสิ้น ตั้ง 2 เดือนมาแล้ว ผมขอความกรุณาได้ไหมครับว่า หากพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไหน หรือผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ หรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สามารถนำหลักฐานข้อเท็จจริงมาหักล้างเหตุผลของพวกเราได้ และมีเหตุผลอันควรแก่การน่ารับฟังว่า การกระทำของเรานั้นเป็นผลร้าย หรือผลเสียหายต่อประเทศชาติบ้านเมืองมากกว่าข้อมูลข้อเท็จจริงที่เรานำเสนอนั้น รับฟังไม่ได้ หรือยังไม่มีเหตุผลเพียงพอนั้น ช่วยกรุณาเสนอมาได้ไหมครับบรรดาพวกสอพลอ ตอแหลรับใช้นายอภิสิทธิ์

ผมยังไม่เคยเห็นพวกสอพลอ ตอแหล รับใช้นายอภิสิทธิ์คนไหน แม้แต่ตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังไม่สามารถตอบข้อชี้แจงและโต้แย้งกับเหตุผลของพี่น้องประชาชน และพวกเราที่นี่ได้เลยใช่ไหมครับพี่น้องครับ จึงมีบางคนพยายามจะมาบอกว่า เวทีนี้พูดจาก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย คือไม่มีเหตุผลมาหักล้างเรา ก็พยายามจับจุดเล็กจุดน้อยมากระแนะกระแหน มาลบล้างหลักการใหญ่ๆ เนื้อหาสาระอันเป็นข้อสำคัญที่ประชาชนต่อสู้เรียกร้อง บางคนไม่มีอะไรจะพูด อย่าง นายบุญยอด สุขถิ่นไทย หรือคนอื่นๆ หรือนักวิชาการ นักจัดรายการที่สอพลอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มักจะพูดว่า ถ้ามีความคิดเห็นแตกต่างก็ถือว่าเป็นพวกขายชาติ จะถูกเวทีนี้ถล่ม ว่าพวกเราไม่เคารพความคิดเห็นของพวกเขา นี่คือเหตุผลที่เขาคิดได้ และยกมาโต้แย้งบนเวทีนี้ มีเพียงแค่นี้ครับ แต่แท้ที่จริงแล้ว ผมอธิบายไปแล้ว ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องพวกคุณมีความคิดเห็นแตกต่างจากพวกเรานะ พวกคุณมีจุดยืนที่แตกต่างจากพวกเรา นั่นก็คือ พวกเราปกป้องแผ่นดิน พวกคุณหาทางขายแผ่นดิน ใช่ไหมครับพี่น้อง พวกเรารักชาติ ปกป้องดินแดน เอกราชและอธิปไตยของประเทศ แต่พวกคุณหาเหตุผลไปสนับสนุนนายฮุน เซน และหาทางจะขายอธิปไตย ขายผลประโยชน์ของประเทศชาติ มันไม่ใช่เรื่องคิดต่างกัน มันเป็นเรื่องที่ คนพวกหนึ่งมีจุดยืนที่ผิด คนอีกพวกหนึ่งมีจุดยืนที่ถูกต้อง ไม่ใช่เรื่องคิดต่างกันแล้วประณามกัน เราประณามเฉพาะพวกที่ทรยศชาติ ขายชาติ และขายอธิปไตยของประเทศ และมองไม่เห็นการกระทำอันผิดพลาดร้ายแรงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนพวกนี้สมควรประณามไหมครับพี่น้องครับ

เพราะฉะนั้นสถานการณ์บ้านเมือง การต่อสู้นี้ ผมเชื่อมั่นว่ามีคนเข้าใจและเห็นด้วยกับพวกเราเป็นจำนวนมากขึ้นทุกวัน และพี่น้องครับ ข้อเท็จจริงวันนี้มันเป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่ง นั่นก็คือการประชุมรัฐสภาวันนี้ ที่จะรับรองผลบันทึกผลการประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ที่รัฐบาลเป็นผู้เสนอเข้าสภาเสียเองนะครับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นคนลงนามในหนังสือ ทำถึงประธานรัฐสภา ขอให้บรรจุวาระเรื่องนี้ เรื่องผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ Joint Boundary Committee-JBC 3 ฉบับเข้าสภา เพื่อขอความเห็นชอบจากรัฐสภา หนังสืออธิบายไว้ชัดเจนว่า ขอความเห็นชอบจากรัฐสภา และ อ.สมเกียรติ คงอ่านให้พี่น้องฟังแล้ว แต่ทำไม

เรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งประชุมวันนี้วันแรกนะครับ ประชุมมาแล้ว 3 ครั้ง แล้วเลื่อนมาจนกระทั่งมีครั้งสุดท้าย ตั้งกรรมาธิการชุดนายเจริญ คันธวงศ์ เป็นประธาน การประชุมทั้ง 3 ครั้ง เป็นการประชุมเพื่อขอความเห็นชอบ แต่ถูกประชาชนคัดค้าน และสมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกรัฐสภา คัดค้าน จึงไม่อาจพิจารณาลงมติได้ จึงเลื่อนมา การประชุมครั้งที่ 1, 2, 3 ที่เลื่อนมานั้นก็เป็นการประชุมเพื่อขอความเห็นชอบ แต่มาวันนี้ทำไมรัฐบาลและคณะกรรมาธิการชุด นายเจริญ คันธวงศ์ ถึงตอแหลบอกว่า เป็นเพียงการเสนอประชุมเพื่อให้สภารับทราบ ความตอแหลของรัฐบาลเป็นอย่างนี้เองครับ และประธานกรรมาธิการก็เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ มันเป็นเรื่องตลกที่สุดว่า วิธีคิด วิธีการทำงานของนายอภิสิทธิ์ พอรู้ว่าเรื่องนี้เสนอมาวันนี้สงสัยโดนตีตกแน่ สงสัยโดนสมาชิกรัฐสภาอภิปรายคว่ำแน่ เลยแหลไปว่า ไม่ได้มาขอความเห็นชอบนะครับ เพราะมันรู้อยู่แล้วว่า ขอความเห็นชอบคุณก็ไม่มีโอกาสได้รับความเห็นชอบจากสภา เพราะวันนี้สมาชิกรัฐสภารู้ข้อมูลข้อเท็จจริง ที่พวกเรานำไปมอบให้ค่อนข้างจะครบถ้วนสมบูรณ์หมดแล้วว่า เขาไม่มีวันเอาคอขึ้นเขียงเพื่อรับรองและเห็นชอบเรื่องนี้แน่นอน

ด้วยความที่เป็นคนแหลของนายอภิสิทธิ์ และประธานกรรมาธิการ นายเจริญ คันธวงศ์ เลยแหลว่า เสนอสภาเพื่อให้สภารับทราบ พี่น้องครับ ประเทศไทยสภาผู้แทนฯ ก็ดี วุฒิสภาก็ดี ไม่ได้ตั้งมาเพื่อเป็นที่รับทราบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐบาล สภาเป็นที่ออกกฎหมาย เป็นที่ให้ความเห็นชอบนโยบาย หรือให้ความเห็นชอบร่างสัญญาใดๆ ที่รัฐบาลทำกับต่างประเทศ ไม่ใช่ที่รับฟังรายงานการประชุมเพื่อรับทราบเฉยๆ ไม่มีครับ และหนังสือที่นายกฯ ทำถึงประธานรัฐสภา ระบุไว้ชัดเจนว่า เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเพื่อขอความเห็นชอบ พอถึงเวลาจริงๆ แม้กระทั่งกลืนน้ำลายตัวเอง ตลบแตลง ตระบัดสัตย์ พูดจากลับกลอกกลับไปกลับมา ก็ยังทำได้ นี่แหละคนชื่อ นายอภิสิทธิ์ ด้านชาชีวะ ดูซิครับพฤติกรรม

แล้วคณะกรรมาธิการ และนายอภิสิทธิ์ ก็มาชี้แจงแถลงไขว่า ที่ให้สภารับรองไม่ได้ถือว่าเป็นหนังสือสัญญา มันตอแหลไมครับพี่น้อง ไม่เป็นหนังสือสัญญาได้อย่างไร ในนี้ยังมีบันทึกข้อตกลงชั่วคราว มีข้อ 1 ข้อ 2 ว่าทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงกันว่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ นี่มันสัญญาชัดๆ เห็นอยู่เต็มตา เห็นอยู่ทนโท่ ให้เด็ก ป.4 มาอ่านเขาก็ต้องเรียกว่าสัญญา ให้เด็กเรียนนิติศาสตร์ ปี 1 เขาก็เรียกว่า สัญญา ปรากฏว่าเด็กนักเรียนอีต้มจบมหาลัยออกฟอร์ด บอกว่าไม่ใช่สัญญา ทำไมหน้าด้านตอแหล ตอแหลได้อย่างไร ผมยังแปลกใจว่า บรรดาแม่ยกที่หลงใหลได้ปลื้มนายอภิสิทธิ์ เอาอะไรคิด นายอภิสิทธิ์ไม่มีสมองคิดอะไรเลย นอกจากแหลไปแหลมาก็สามารถเป็นนายกฯ ประเทศไทย ปกครองแม่ยกประเภทแหลไปแหลมาได้เหมือนกัน ไม่เข้าใจ

คือคนเป็นนายกฯ พี่น้องครับ นายกฯ ประเทศไทยพูดจากลับกลอก ปลิ้นปล้อน ตลบแตลง ตระบัดสัตย์ ตอแหล นี่ผมรวบรวมมาหมดแล้วถึงความกลับกลอกของนายอภิสิทธิ์ จะเหลือคุณสมบัติที่จะเป็นนายกฯ ได้อย่างไร ที่สำคัญไปแหลอยู่ในสภาอันทรงเกียรติ ตกลงเป็นสภาอันทรงเกียรติหรือสภาอันตอแหลครับพี่น้องครับ นี่ไงเป็นวิธีคิด วิธีการทำงาน แล้วประธานกรรมาธิการ เจริญ คันธวงศ์ ที่เขาให้ไปศึกษา ปรากฏไปศึกษาอะไร ศึกษาแล้วมาตั้งข้อสังเกตมาให้สภาพิจารณา โดยกรรมาธิการไม่มีความเห็นเลยว่า มีความเห็นชอบกับรายงานการประชุมอันนี้หรือไม่ ซึ่งไม่เคยมีกรรมาธิการชุดไหนที่เขาให้ไปศึกษาแล้วไม่ทำความเห็นมา ปรากฏว่าทำความเห็นมาแค่ตั้งข้อสังเกต ข้อที่ 1 ข้อสังเกตข้อที่ 2 ข้อสังเกตข้อที่ 3 ความจริงหลายท่านพูดไปแล้ว นี่ก็ไม่ใช่หน้าที่กรรมาธิการ ตกลงทั้งนายกฯ และประธานกรรมาธิการ ทำงานไม่เป็น และทำงานประเภทแหล หลอกลวง เรียกว่า ลักไก่ เพื่อยืมมือรัฐสภารับรองรายงานบันทึกการประชุมที่ชุ่ยๆ จากวิธีคิดวิธีการทำงานที่ชุ่ยๆ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และประธานกรรมาธิการพรรคประชาธิปัตย์

ผมถึงบอกว่า วันนี้ทุกคน อ.ปานเทพ อ.เทพมนตรี ทุกคน รวมทั้งผมด้วย ผมเศร้าใจและผมละอายใจที่สุดครับ ที่ประเทศไทยมีนายกฯ แบบนี้ จะเรียกว่า เฮงซวย จะเรียกว่า ไร้สมรรถภาพ จะเรียกว่า ตอแหล คือเป็นคนที่ไม่ใช่คนก็แล้วกันครับมาเป็นนายกฯ คือนับเป็นคนไม่ได้เลยครับ คือคนที่กล้าโกหกคนอย่างไม่มียางอาย แต่พยายามบอกกับทุกคนว่า ตัวเองเป็นลูกผู้ดี มีสมบัติผู้ดี มีชาติตระกูล แต่หน้าด้านโกหกคนอย่างไร้ยางอาย อยากจะเป็นนายกฯ ผมไม่เข้าใจว่า ประเทศไทยยอมให้มีนายกฯ ด้าน ไร้ยางอาย ปกครองประเทศอยู่ได้อย่างไรครับ อันนี้มันสะท้อนคุณภาพของประเทศไทยเหมือนกันนะครับ

วันนี้ผมเจอหัวหน้าข่าวบันเทิงของ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ผมแอบน้อยใจนิดๆ ผมปราศรัยมีพี่น้องเข้ามาดูเป็นหมื่น แต่พอเปิดดูข่าวว่าดาราชื่อ แตง เร่ขายหอย ปรากฏคนเข้าไปดูเป็นแสนครับพี่น้อง ผมถามว่า ประเทศไทยเป็นอย่างนี้หรอ ข่าวดาราเร่ขายหอย หอยอะไร หอยนางรม หอยกระจี้ลี่ หรือหอยอะไร มีคนเข้าไปดูเป็นแสนครับพี่น้อง ผมเลยไม่แปลกใจ มิน่าเล่าประเทศไทยถึงมีนายกฯ หน้าด้าน ตอแหล ไร้ยางอายปกครองได้ เพราะคุณภาพของคนในประเทศยังงมงายอยู่อย่างนี้ นี่ไม่ใช่เพียงคนหลงใหลเข้าไปดูข่าวดารานะ ผมบอกว่า เอ๊ะ บางคนผมเคยเคารพนับถือ มีชาติตระกูล มีเชื่อพระวงศ์ มีฐานะ มีอันจะกิน มีการศึกษา จบเมืองนอกเมืองนา ทำไมยกยอปอปั้นนายกฯ ที่หน้าด้าน ไร้ยางอาย ตอแหล ทำงานก็ไม่เป็น วิธีคิดวิธีการทำงาน เข้าข่ายสุภาษิตไทย"คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว" วันๆ ไม่มีอะไร พอเขาจับได้ คุณเอาอย่างนี้เข้ามาทำไม รายงานการประชุมนี้ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ อันนี้ยังไม่แปร รายงานการประชุมนี้ยังไม่ผ่าน คุณเอาเข้ามาทำไม แหลไปว่า เอาเข้ามาเพื่อให้ทราบไงครับพี่น้องครับ นี่คือแหล พอเขาจับได้ พอเขาท้วงว่า รายงานอันนี้ ส.ส.เข้าชื่อกัน 70 กว่าคนขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า อันนี้เป็นหนังสือสัญญาไหม จะต้องมาขอความเห็นชอบไหม ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่วินิจงฉัย แต่ทำไมคุณเอามาให้พวกเราขอความเห็นชอบ ก็เอามาให้รับทราบไงครับ คือ แหลไปแหลมา ประเทศไทยถ้ามีผู้นำประเทศแบบนี้

ผมถึงบอกว่า ผมไม่แปลกใจที่ อาจารย์ท่านหนึ่ง มีคนถามท่านว่าถ้าไม่เอาอภิสิทธิ์แล้วจะเอาใคร ท่านโมโหมาก ท่านบอกว่า ถ้านายอภิสิทธิ์เป็นอย่างนี้ เขาพูดกับเพื่อนเขา มึงมาถามกูหรอว่าจะเอาใคร ก็เอาหมามาเป็นแทน นี่ไม่ได้หยาบคาย คือท่านบอกว่า ท่านละอายใจที่คนระดับครูบาอาจารย์ด้วยกันมาถามว่า ถ้าไม่เอาอภิสิทธิ์แล้วจะเอาใคร ท่านเลยตอบกลับว่า นี่ระดับด็อกเตอร์นะบอก ก็เอาหมาไงครับมาเป็นนายกฯ แทนนายอภิสิทธิ์ ถ้าคุณคิดได้แค่นี้ เอาหมามาปกครองคุณคงกราบไหว้หมา เพราะคนตอแหล หน้าด้าน ไร้ยางอาย คุณยังกราบไหว้ ยกย่องนับถือ แต่จริงๆ แล้วสุนัขยังมีความซื่อสัตย์ต่อประชาชนมากกว่าคนเหล่านี้ ยังรักบ้านรักแผ่นดินมากกว่าคนเป็นนายกฯ ทุกวันนี้ ท่านถึงตอบไปว่า เอาหมามาเป็นก็ได้ถ้าคนแบบนี้เป็นนายกฯ ได้ ครับพี่น้อง

พี่น้องครับ การประชุมวันนี้เป็นการประชุมที่ คนถ้าเป็นนายกฯ ต้องเอาปี๊บคลุมหัว มุดดิน แทรกแผ่นดินหนีได้แล้ว ตัวเองเป็นนายกฯ เสนอร่างบันทึกนี้มาในฐานะคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ไม่ใช่นายหมู นายหมา นายกา นายไก่เป็นคนเสนอสภาให้พิจารณา คณะรัฐมนตรีโดยนายกรัฐมนตรี คือ นายอภิสิทธิ์เป็นคนเสนอเรื่องนี้มาให้สภาพิจารณา แต่ปรากฏว่าเลื่อนการประชุม 2-3 ครั้ง มาประชุมได้วันนี้ กว่าจะประชุมได้ตั้งแต่เช้าจนกระทั่งถึงบ่ายเลื่อนประชุม กว่าจะประชุมได้ ประชุมเสร็จมีคนอยู่ในที่ประชุมไม่ถึง 30 คน เป็นนายกฯ ควรจะแทรกแผ่นดินหนีแล้ว ควรมีความละอาย

นายกฯ โปรตุเกสเพิ่งลาออก ได้รับคะแนนไว้วางใจในการเสนอนโยบายกู้เงิน เสนอแผนเศรษฐกิจ มีคนโหวตสนับสนุน 79 คน โหวตไม่เห็นด้วย 200 กว่าคน เขาก็ลาออก แต่ผมไม่รู้ว่าเรื่องนี้ พี่น้องถ้าหากมีการประชุมวันที่ 29 ที่แหลไปว่าจะมีการประชุมวันที่ 29 ถ้ามีการโหวตแล้วปรากฏว่าร่างบันทึกนี้ไม่ผ่านสภา โดยนายกฯ เป็นคนเสนอเอง ครม.เป็นคนเสนอเอง ถ้าไม่ผ่านจะหน้าด้านอยู่เป็นนายกฯ ไหมครับพี่น้อง ความจริงแล้วพี่น้องครับ มันไม่ควรจะรอถึงวันที่ 29 ด้วยซ้ำถ้าคนมียางอาย นี่ประชุมเรื่องสำคัญที่สุดของบ้านเมือง และตัวเองเป็นนายกฯ เป็นคนเสนอขอให้รัฐสภาเปิดการประชุมเพื่อให้คำรับรองในเรื่องนี้ มีคนนั่งประชุม 20-30 คน ส.ส.หนีหมดไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครให้ความร่วมมือกับนายกฯ ทำไมต้องรอถึงต้นเดือน พ.ค. ก็ยุบสภาวันนี้เลยซิ หรือไม่ก็ลาออก ถ้าแน่จริง ถ้ามีสปิริต และมีมารยาท และมีความรับผิดชอบ ผมถึงบอกว่า พี่น้องคนที่ชื่นชมนายอภิสิทธิ์ ถามหน่อยนายอภิสิทธิ์มีดีอะไร มีดีอะไร ทำความชั่ว ความเลว นิสัยก็เลว มารยาทก็เลว สปิริตความรับผิดชอบก็เลวต่ำกว่าทุกคนในการเป็นนายกฯ ที่ผ่านมา คุณไม่เคยเรียกร้องให้คนของคุณแสดงความรับผิดชอบเลยใช่ไหมครับพี่น้อง

ผมถึงบอกว่า ที่นายอภิสิทธิ์ชี้แจงกับคณะกรรมาธิการ บอกว่า นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า บันทึกการประชุมที่เอามาพิจารณาวันนี้ ไม่ใช่เรื่องเร่งรีบ นี่ก็ตอแหลอีก ไม่เร่งรีบแล้วเสือกเอามาประชุมวันศุกร์ทำไม แล้วในหนังสือก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นวาระเร่งด่วน แล้วคุณก็บอกเองว่าอยากจะทำให้เสร็จ รีบเสร็จก่อนจะยุบสภา ผมยังไม่แน่ใจว่าคุณจะได้ยุบรึเปล่า หรือคุณจะแกล้งแหลกับประชาชน ถึงเวลาอาจจะแหลไปอีกว่า ตอนนี้ยุบยังไม่ได้ครับเพราะว่าอันนั้นก็ยังติด อันนี้ก็ยังไม่ได้ทำ หารือ กกต.แล้วเขายังไม่พร้อม เดี๋ยวก็แหลอีกเหมือนที่แหลในสภาวันนี้ละครับพี่น้องครับ

มี ส.ว.เสนอว่า เรื่องนี้ควรให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ ถ้าคุณจะยุบสภาไม่ควรเร่งรีบเข้าตอนนี้ นายอภิสิทธิ์แหลไปอีกว่า ไม่ควรระบุว่าให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ เพราะผมเกรงว่าจะเกิดช่องว่าง ช่องว่างอะไร ช่องว่างก็คือ ถ้ารัฐบาลใหม่คุณไม่ได้เป็นนายกฯ พรรคพวกคุณก็จะไม่ได้รับประทานจากการที่ไปตกลงกับนายฮุน เซนไว้ มันจะเกิดช่องว่างให้คนอื่นหยิบชิ้นปลามันไปรับประทานใช่ไหม มันจะเกิดช่องว่างอะไรครับ ช่องว่างอะไร มันไม่ใช่เรื่องที่คุณเร่งรีบจะทำ

สองแหลต่อไปอีกบอกว่า ถ้าปล่อยให้เป็นรัฐบาลใหม่ เกิดเวลา เกิดช่องว่าง รัฐบาลกัมพูชาจะนำเรื่องนี้ยกระดับปัญหาชายแดนไปสู่การเจรจาระดับพหุภาคี พหุภาคีคือ การเจรจาหลายฝ่าย โถ่นายแหล เขายกไปถึงระดับพหุภาคีตั้งแต่สมัยแกเป็นนายกฯ นี่แหละ เขมรถึงเอาไปประชุม UNSC แล้วให้อาเซียนเข้ามาแทรกแซง มันเป็นพหุภาคีภายใต้การดำเนินการของแกแล้วนายแหล ไม่เกี่ยวอะไรเลย โกหกทุกบรรทัด เรื่องนี้กัมพูชาเขายกระดับไปสู่ระดับพหุภาคีแล้ว มันไม่ใช่ทวิภาคีแล้วคุณยังจะมาแหลอะไรอีก

นอกจากนี้ เขาบอกว่า ผมขอชื่นชมกรรมาธิการ JBC ที่ทำให้รัฐบาลไทยมีจุดยืนในการต่อสู้ มึงมีจุดยืนที่ไหน มีแต่จุดนอน สันหลังไม่มีกระดูกเลื้อยไปเลื้อยมา มีจุดยืนที่ไหนคนอย่างนายอภิสิทธิ์มีจุดยืนที่ไหน คุณมีจุดยืนตรงไหนช่วยบอกหน่อยซิ จุดยืนคือ ขายชาติ จุดยืนคือ เอาที่ดินไปประเคนให้ฮุน เซน นั่นหรอคือจุดยืน นั่นมันจุดขายชาติ มันจุดนั่ง จุดนอน จุดตาย ไม่ได้มีจุดยืนอะไรเลย และกรรมาธิการของคุณ นายเจริญ คันธวงศ์ มีจุดยืนอะไรไปกราบพระเขมร กราบพระปลอม แล้วยังมาเสนอรายงานให้คุณเพียงมีข้อสังเกตเฉยๆ ไม่มีความเห็นอะไร แถมเลขานุการของคณะกรรมาธิการยังมาแหลบอก หาสันปันน้ำไม่เจอครับพี่น้องครับ นี่คือปกป้องพวกเดียวกัน แม้ว่าจะทำงานห่วยแตก สุนัขไม่รับประทานยังชื่นชมปกป้องกันเอง ผมรู้สึกละอายใจจริงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มิได้สำนึกตัวเลยว่า คุณชื่นชมอะไรนายเจริญ คันธวงศ์ เพราะไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยครับพี่น้อง นอกจากแหลเหมือนคุณเท่านั้นเอง

นอกจากนั้น สิ่งที่รัฐสภาเขาบอกว่าอย่างนี้นะครับ การที่สมาชิกรัฐสภาที่มาประชุมครั้งนี้ สมาชิกรัฐสภาไม่ต้องรับรองหรอกส่วนนั้น หมายถึงส่วนระวางดงรัก กัมพูชาจะเห็นด้วยหรือไม่ สมาชิกรัฐสภาไม่ต้องรับรองส่วนนั้นหรอก สิ่งที่รัฐสภาไทยช่วยได้คือ ลงมติสนับสนุนข้อสังเกตของกรรมาธิการ JBC ดูมันพูดซิครับพี่น้อง คือ เอาอันนี้มาขอให้สมาชิกรัฐสภาให้ความเห็นชอบ แต่มาบอกว่า สมาชิกไม่ต้องลงมติสนับสนุนให้ความเห็นชอบอันนี้ เพียงแค่รับรอง สนับสนุนข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการชุดนายเจริญก็พอแล้ว แล้วมาขอความเห็นชอบทำพระแสงด้ามยาวอะไรถ้าไม่ให้เขาลงมติให้ความเห็นชอบ พอเป็นอย่างนี้มันก็ดีเหมือนกัน มันก็เข้าทางของบรรดาสมาชิกรัฐสภาที่เขาจะไม่ลงคะแนนเสียงเห็นชอบอยู่แล้ว เขาก็บอก ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องยกมือลงมติรับรองเรื่องนี้ จะได้ไม่ต้องเอาคอขึ้นเขียง

สรุปก็คือ อะไรก็ไม่ได้ติดมือไปสักอย่างในการประชุมวันนี้ แต่ที่แน่ๆ ครับพี่น้อง ก็ยังดีอยู่คือ ในการประชุมวันนี้ ต้องยอมรับว่าสมาชิกรัฐสภาที่อภิปราย ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ไม่ว่า อ.สมเกียรติ พ.อ.วินัย ที่ผมได้ฟัง แม้กระทั่งหมอชลน่าน ส.ส.ฝ่ายค้าน ข้อมูลที่เอาไปอภิปรายทั้งหมด เป็นข้อมูลจากเวทีพวกเราทั้งนั้นเลยครับพี่น้อง และอธิบายได้มีเหตุมีผล เป็นผลดีในเรื่องนี้ต้องให้เครดิต ถ้าเรื่องนี้ เฉพาะประเด็นนี้ ฝ่ายค้านบางคนพูดดีกว่าพรรคฝ่ายรัฐบาล พรรคฝ่ายรัฐบาลมีแต่อภิปรายไปในทางขายชาติ จะยกแผ่นดินให้กับเขมรอย่างเดียว ยกเว้น พ.อ.วินัย อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เท่านั้นครับพี่น้อง และรวมทั้งตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยไม่รู้ว่าเป็นนายกฯ ประเทศไทยหรือเป็นนายกฯ ประเทศเขมร หรือประเทศอังกฤษกันแน่ครับ

สรุปแล้วพี่น้องครับ ผลการประชุม JBC 3 ฉบับที่ไม่ผ่านความเห็นชอบของสภา แล้วต้องเลื่อนไป ผมคิดว่าพี่น้องอย่าเพิ่งประมาท ต้องดู เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วันนี้เสียหน้า หน้าแตกเย็บไม่ติด เสียหมาว่าอย่างนั้นแล้วกันพี่น้อง แต่นายอภิสิทธิ์นี้ หมอตรวจดีเอ็นเอแล้วมีความด้านหนาระดับภูเขาไฟ หรือว่ามีความด้านหนาระดับภูเขา ที่เขาเรียกว่า แกรนแคนยอน หลายชั้นครับ นายคนนี้ เอาว่า ตั้งแต่พี่น้องรู้จักมา พี่น้องเคยเห็นนายอภิสิทธิ์ขอโทษประชาชนไหมครับ เคยเห็นสำนึกผิดไหม นี่ความจริงถ้าฝ่ายรายการมี อยากเอาเทปที่บอกว่า ถ้าทำให้เสียดินแดน เป็นนายกฯ ผมก็ไม่ควรเป็น อยู่แผ่นดินไทยผมก็ไม่ควรอยู่ มันก็ควรจะไสหัวไปตั้งนานแล้วมันก็ยังไม่ไปเลย วันนี้ไม่ต้องสงสัยแล้ว ทุกคนเขารู้หมดแล้วว่า คุณนั้นทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนอย่างแน่นอน เหลืออย่างเดียว คุณตะแบงเอาสีข้างถูก อาศัยความด้านหนาไร้ยางอายของคุณที่เป็นคุณสมบัติผู้ดีติดตัวคุณมาแต่เกิดเท่านั้นเองครับพี่น้อง นี่คือคุณสมบัติผู้ดีนายอภิสิทธิ์เหลืออยู่อันเดียว นอกนั้นหมดแล้ว เหลืออยู่ความไร้ยางอาย และด้านหนาที่ติดตัวเท่านั้นเอง

วันนี้เราหวังจะเห็นการแสดงความรับผิดชอบของนายอภิสิทธิ์นั้นยาก วันนี้เชื่อไหม ป่านนี้ไปประชุมปรึกษาหารือกันว่า จะหาทางเอาชนะพี่น้องพันธมิตรฯ อย่างไรเท่านั้นเองครับพี่น้องครับ จะหาทางเอาชนะปานเทพ เทพมนตรี ประพันธ์ อย่างไรเพื่อให้สภาให้การรับรอง จริงๆ แล้วพี่น้องครับ ที่พวกเราไม่ยอมเคลื่อนขบวนไปที่หน้ารัฐสภา ต้องขอทำความเข้าใจชี้แจงพี่น้องในฐานะโฆษกรวมพลังปกป้องแผ่นดิน พี่น้องต้องเชื่อมั่นในการนำพวกเรา เราอ่านขาด อ่านไต๋นายอภิสิทธิ์ขาด ถ้าพี่น้องไปก็เมื่อยเปล่า เสียเวลาเปล่า สู้ด่าอยู่ตริงนี้มีพลังกว่า และไม่เมื่อยด้วย เพราะมีบางท่านเสนอมา แสดงความเห็นมาบอก พี่น้องอยากจะออกกำลังเต็มทน อยากจะเคลื่อนขบวนเต็มทนแล้ว เราบอกช้าก่อน ถนอมพลังไว้ก่อน เพราะลุงจำลองบอกว่า ถ้าไปต้องเผด็จศึกม้วนเดียวจบ วันนี้ข้อมูลการข่าวเราเป๊ะไม่ผิด ว่า 1.การประชุมไม่รู้จะเปิดได้หรือไม่ เห็นไหมเป็นไปตามนั้น กว่าจะเปิดได้หืดขึ้นคอ 2. แม้ประชุมได้โอกาสไม่ผ่านความเห็นชอบ หรือไม่ครบองค์ประชุมโหวตไม่ได้มีสูง เพราะทุกสายเช็กไปแล้ว หนึ่งลาการประชุม สองขาดการประชุม สามมาประชุมจะไม่เข้าห้องประชุม สี่แม้เข้าประชุมจะเข้าไปเฉพาะคนที่จะอภิปรายอัดรัฐบาล และจะไม่โหวตให้ความเห็นชอบครับพี่น้อง หลายคนที่เป็นแม้กระทั่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขาโทรมาหาผม โทรหา อ.ปานเทพ โทรไปหาคนโน้นคนนี้ เขายืนยันว่า พวกผมไม่เข้าประชุม หรือเข้าประชุมพวกผมจะไม่โหวตให้ นี่ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ครับพี่น้อง เพราะเขารับไม่ได้

เพราะฉะนั้นวันนี้ที่พวกเรายังไม่ไปไหน เรารอดูความชัดเจน เราอ่านขาดแล้วว่า นายอภิสิทธิ์ประชุมวันนี้ไปไม่รอด เรายังไม่ต้องออกอาวุธ ยังไม่ต้องออกแรงมันก็ไปเองแล้วครับพี่น้อง ส่วนที่บอกว่า เราควรเอาเอกสารไปแจก ประท้วง คัดค้าน กดดันสมาชิกรัฐสภา ไม่ต้องไป เพราะว่า ผมกับ อ.ปานเทพ กับลุงจำลอง ไปยื่นให้ ส.ส.จ่าหน้าซองถึงทุกคนหมดแล้ว ไม่ต้องให้พี่น้องไปเหนื่อย ผมไป 2 ครั้งกับ อ.ปานเทพ เอาไปแจกใส่ตู้ทุกคนเลยครับพี่น้อง ผมทำหน้าที่แทนท่านแล้ว ให้ตำรวจเขาระดมกำลังมาเต็มที่ เบิกกินเบี้ยเลี้ยงไปเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียตามสบายโดยไม่ต้องมาเหนื่อยกับพวกเรา เพราะฉะนั้นพี่น้องตำรวจที่ได้เบี้ยเลี้ยงวันนี้โดยไม่ต้องออกแรงอะไร ต้องขอบคุณพี่น้องผมที่ไม่ไปให้คุณยุ่งยาก

นี่คือสิ่งที่เราต้องตัดสินใจ แต่ว่าเรายังไม่หยุดนะครับ เพราะเรารู้ว่าไอ้หมอนี้มันแหล และมีความพยายามจะหาทางทำเรื่องนี้ผ่านให้ได้ จริงๆ แล้วผมอยากอัญเชิญพระเจ้าประคุณ ช่วยโหวตให้ผ่านหน่อยจะได้เห็นมือเห็นตีนพี่น้องบ้าง แน่จริงเดินหน้าซิอภิสิทธิ์อย่าถอย ถ้าไม่สามารถนำร่างบันทึกความตกลงเรื่องนี้ผ่านสภา คุณควรไปเกิดเป็นสุนัขให้สุนัขมาเป็นนายกฯ แทนคุณดีกว่า คุณไม่มีเกียรติเลย คุณไม่มีศักดิ์ศรีเลย คุณไม่มีคุณค่าของความเป็นนายกฯ รัฐมนตรีแห่งประเทศไทย ไม่มีคุณค่าของความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนผู้ทรงเกียรติเลย คุณไม่มีราคาของความเป็นมนุษย์เหลืออยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะประชุมวันที่ 29 ไม่ผ่านอีก สภาล่ม คุณไม่ควรจะอยู่ให้พี่น้องประชาชนไทยเห็นหน้า เรายังไม่ประมาท คณะกรรมการเฝ้าดูอยู่ว่า ไอ้หมอนี่จะใช้วิชามารอะไร จะเกณฑ์ ส.ส., ส.ว.มายกมือโหวตให้ จะติดปลายนวมพวกยกมือหรือเปล่า ดูซิว่าจะดิ้นรนเพื่อการขายชาติอย่างไร เราต้องดูครับ พี่น้องมาวันนี้ 25, 26, 27, 28, 29 ยังไงก็ต้องสลับสับเปลี่ยนกันมา ถ้าเกิดว่าประชุมอีกครั้งเราต้องพรึ่บเหมือนเดิม ทันทีที่มีอะไรเกิดขึ้น เราพร้อมจะดำเนินการเพื่อเช็กบิลนายอภิสิทธิ์

เอาละพี่น้องครับ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทำท่าเดินป้วนเปี้ยนแถวนี้ ส่งโน้ตมาแล้วผมยังไม่ลง ทำเดินไปเดินมาส่งสายตา กลัวผมจะพูดต่อ ไม่เป็นไรครับพี่น้อง ความจริงผมเตรียมมานี่เพิ่งพูดได้แค่ 1 ใน 5 เท่านั้นเอง แต่ว่าเวลาให้วิทยากรท่านอื่นๆ มาพูดคุยกับพี่น้อง สุดท้ายนี้คือ พี่น้องครับ การต่อสู้ของเรานั้น ยืนยันว่าไม่สูญเปล่า ด้วยพลังสามัคคี และด้วยการต่อสู้ที่มีเหตุผล มีความชอบธรรมของพวกเรา และยืนอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง วันนี้เราทำให้นายอภิสิทธิ์กลายเป็นตัวตลกของประเทศไทยและสังคมโลกไปแล้วครับ กลายเป็นบุคคลผู้ไร้ความสามารถ เสมือนไร้ความสามารถ บ้อท่า เสียผู้เสียคน เ สียหมาไปหมดแล้ว ไม่มีราคาในสายตาพี่น้องประชาชนต่อไป นายอภิสิทธิ์ไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้นำประเทศได้เลยในขณะนี้ เป็นเพียงซากศพที่เดินได้เท่านั้นเองครับพี่น้อง นี่คือชัยชนะของเรา และการที่เราทำให้คนไทยทั้งประเทศเข้าใจปัญหานี้ มันก็เกินคุ้มเกินพอ และเป็นชัยชนะของเราแล้วครับพี่น้อง ผมเชื่อมั่นว่า แผ่นดินนี้ถ้าพี่น้องยังสามัคคี ยืนยันหนักแน่นอยู่ เราต้องรักษาไว้ได้แน่นอน ถ้าหากว่ากัมพูชายังไม่ออก หมดจากรัฐบาลอภิสิทธิ์เมื่อไหร่เดี๋ยวพวกเราไปจัดการมันเองครับพี่น้อง ไม่ต้องให้นายอภิสิทธิ์มายิ่งเกี่ยว วันนี้ต้องขอขอบคุณพี่น้องทุกคนนะครับที่มาร่วมชุมนุมกันอย่างหนาแน่น และรู้ว่าเวลาใดที่ท่านควรจะทำหน้าที่อย่างไร ขอขอบคุณ และยืนยันว่า เรายังยืนหยัดต่อสู้ร่วมกันจนกว่าเรื่องนี้จะมีความชัดเจน และปัญหาเรื่องดินแดนของเราจะต้องได้กลับคืนมา ข้อเรียกร้องของเราจะต้องได้รับการตอบสนอง ตอบรับ และปรากฏเป็นจริงเท่านั้นเราจึงจะยอบหยุดการต่อสู้ และสลายตัว ใช่ไหมครับพี่น้องครับ วันนี้ขอบคุณพี่น้อง ขอเสียงปรบมือดังๆ ให้พี่น้องทุกคน และให้กำลังใจคุณวีระ ราตรีด้วยว่า พวกเรายังสู้และยังให้กำลังใจอยู่ พรุ่งนี้พบกันใหม่ครับพี่น้องครับ สวัสดีครับ