xs
xsm
sm
md
lg

“เทือก” รับลูก ผบ.ทบ.ขวางทหารอินโดฯ คุมพื้นที่ทับซ้อนไทย-เขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุเทพ เทือกสุบรรณ (แฟ้มภาพ)
“เทพเทือก” รับลูก “ประยุทธ์” ขวางส่งทหารอินโดฯ เข้าดูแลพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ให้แค่สังเกตการณ์เท่านั้น เผยจำเป็นต้องประชุมสภาผ่านเจบีซี 3 ฉบับ เพื่อไม่ให้เขมรนำไปเป็นข้ออ้างที่จะไม่ร่วมประชุมทวิภาคีกับไทย ติงพันธมิตรฯ ให้มีเหตุผลที่จะขวางการประชุม กล้าพูดไม่ทำให้ไทยเสียดินแดนแม้แต่นิ้วเดียว



วันนี้ (24 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ออกมาให้ระบุว่าการประชุมเจบีซีไทย-กัมพูชา ไม่ควรมีประเทศที่ 3 และควรประชุมในประเทศใดประเทศหนึ่งระหว่างไทยกับกัมพูชา และไม่เห็นด้วยที่จะให้ทหารต่างชาติเข้ามาดูแลพื้นที่ทับซ้อนว่า ตนอยากชี้แจงว่าหลักอธิปไตยเราต้องยึดเอาไว้ ขอเรียกร้องที่บอกว่าจะต้องมีทหารต่างชาติเข้ามาอยู่ในพื้นที่ด้วยก่อนที่จะมีการเจรจา อย่างนี้ก็คงไม่ใช่ แต่เราเห็นว่าทั้ง 2 ประเทศควรจะมาคุยกัน จะคุยกันที่ไหนก็แล้วแต่ แต่ประเทศที่ 3 ซึ่งก็คือประเทศอินโดนีเซียที่จะมาเป็นสักขีพยาน มาเป็นผู้สังเกตการณ์ของการประชุมนั้นมาได้หากเรามีการประชุมกัน

นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องการประชุมที่หยุดชะงักเพราะมีการประชุมครั้งก่อนๆ มา 2-3 ครั้งแล้ว แต่รายงานการประชุมยังไม่ได้ผ่านการรับรอง ดังนั้นจึงต้องนำเรื่องเข้าไปสู่การรับรองในรัฐสภา ซึ่งจะมีการพิจารณากันในวันพรุ่งนี้

“การรับรองรายงานการประชุมดังกล่าวก็เพื่อที่จะให้การประชุมครั้งต่อไปเดินหน้าไปได้ ถ้าเราไม่รับรองรายงานการประชุมนี้ ประเทศกัมพูชาเขาก็อาจจะรู้สึกว่าประชุมไปก็ไม่มีประโยชน์ ซึ่งประเด็นสำคัญก็คือเราต้องการให้การประชุมคณะกรรมการปักปันเขตแดนทั้ง 2 ฝ่ายได้เดินหน้าต่อไป และยืนยันว่าไม่มีเรื่องเขตแดนที่เราสูญเสียแม้แต่นิ้วเดียว และเชื่อว่าคณะกรรมาธิการของรัฐสภา หรือกระทรวงการต่างประเทศ จะได้นำข้อเท็จจริงเรื่องนี้มาบอกกับประชาชนได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้ใครไปประสานกับทางกัมพูชาเพื่อให้ยอมประชุมแบบทวิภาคีตามที่เราต้องการ เพราะเวลานี้มันเลยขั้นตอนแล้ว เป็นขั้นตอนของกัมพูชาไปแล้ว นายสุเทพกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศมีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องทำ และถ้าจำเป็นจะให้นายกรัฐมนตรีสนับสนุนอย่างไร นายกรัฐมนตรีก็พร้อม ซึ่งการเจรจาของทั้ง 2 ประเทศนี้ยังต้องดำเนินต่อไป ไม่ได้เลยขั้นตอนไปไหน แต่ว่ามีคนมาสังเกตการณ์เพิ่มเท่านั้น

ส่วนกองทัพเห็นพ้องในแนวทางการแก้ปัญหา หรือการรักษาอธิปไตยแบบที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่หรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่า แน่นอน ทั้งกองทัพและกระทรวงการต่างประเทศเห็นพ้องต้องกันกับแนวทางของรัฐบาล เมื่อถามว่าที่ผ่านมาเราเรียกร้องให้มีการประชุมระดับทวิภาคี แต่ทางสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะดำเนินตามพหุภาคี ซึ่งความจริงก็มีการสรุปที่จะไปที่อินโดนีเซียแล้ว แต่ทาง ผบ.ทบ.กลับมาพูดเช่นนี้ จึงทำให้ดูเหมือนไปกันคนละทิศละทาง นายสุเทพกล่าวว่า อย่าไปแปลผิดความหมายไป เพราะทุกท่านจะพูดในแนวทางเดียวกัน ไม่มีอะไรแตกต่างกัน

“ข้อเรียกร้องหรือเงื่อนไขบางอย่างของกัมพูชา เช่นที่บอกว่าจะให้มีทหารของอินโดนีเซียมาตั้งอยู่ในพื้นที่นี้เสียก่อน ก่อนที่จะมีการเจรจากันซึ่งอย่างนี้ก็ต้องมีการพูดคุยกันว่าพื้นที่ตรงนี้ยังเป็นพื้นที่ไทย ถือว่าเป็นของไทย แม้ว่ากัมพูชาจะอ้างว่าเป็นของกัมพูชาก็ตาม เพราะยังไม่มีการปักปันเขตแดน เพราะฉะนั้นหากจะให้ใครมาอยู่ก็ต้องมาอยู่ด้วยกัน ถ้ามีทหารเข้าไปอยู่ ก็ต้องมีทหารไทยและทหารกัมพูชา และทหารอินโดนีเซียก็ได้ แต่ถ้าจะเอากองกำลังทหารต่างชาติมาดูแลพื้นที่บริเวณนั้นแทน อย่างนี้ประเทศไทยเห็นว่าไม่สมควร” รองนายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงสถานการณ์ที่พรุ่งนี้จะมีการประชุมพิจารณากรอบเจบีซี 3 ฉบับ โดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบอกว่าจะเคลื่อนขบวนไปที่รัฐสภาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่กังวลใจอะไรมาก เพราะเชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมก็ต้องมีสติ มีเหตุผล และต้องเข้าใจความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ และต้องเข้าใจข้อเท็จจริง จะไปคิดแปลกแยกออกไปจากข้อเท็จจริงมากๆ ก็คงไม่ได้ เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ไปตั้งบังเกอร์ไว้จะไปทำอะไรได้ ถ้ากลุ่มนี้เขาต้องการจะไป นายสุเทพหัวเราะและไม่ตอบคำถาม
กำลังโหลดความคิดเห็น