xs
xsm
sm
md
lg

พธม.ยื่นบทความเตือนสติ ส.ส.-ส.ว.อีกรอบพรุ่งนี้ ลั่นลงมติรับรอง JBC เจอคดีแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
“ลุงจำลอง” เผยเตรียมนำบทความอดีตทนายสู้คดีพระวิหาร ยื่น ส.ส.-ส.ว.พรุ่งนี้ เตือนรับรองเจบีซีเจอข้อหาแน่ ซัด ส.ส.ซักฟอกไม่มีประเด็นเสียดินแดน “ประพันธ์” แนะสมาชิกสภารับฟัง ลั่นทำทุกทางยับยั้งให้ได้


วันนี้ (20 มี.ค.) ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีการพิจารณาบันทึกการประชุมคณะกรรมธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) 3 ฉบับของที่ประชุมร่วมรัฐสภาที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 มี.ค.นี้ว่า จากที่คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทยได้ทำหนังสือถึงสมาชิกรัฐสภา ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.เพื่อคัดค้านและเตือนไม่ให้พิจาณารับรองบันทึกเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ เพราะหากให้ความเห็นชอบจะทำให้ประเทศต้องเสียดินแดน และผู้ที่สนับสนุนเห็นชอบจะมีความผิดทางอาญาไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น การนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงผลเสียหายที่เกิดขึ้น ทางคณะกรรมการฯได้ขออนุญาตนำบทความ “จุดยืนที่เหนือกว่า” ของ ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ มาทำสำเนาเพื่อยื่นให้แก่ ส.ส.และ ส.ว.ทุกคนอีกครั้งหนึ่ง โดยจะไปยื่นผ่านสำนักเลขาธิการรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.)

“เป็นการเตือนครั้งที่ 2 ต่อสมาชิกรัฐสภา และหากวันที่ 29 มี.ค. มี ส.ส.และ ส.ว.คนไหนให้การรับรองบันทึกการประชุมเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ จะถูกเราดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด” พล.ต.จำลองกล่าว

พล.ต.จำลองกล่าวด้วยว่า ศ.ดร.สมปอง ถือเป็นเป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องข้อพิพาทไทย-กัมพูชาดีที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย โดยในบทความดังกล่าวได้มีการระบุถึงเงื่อนงำที่จะนำมาซึ่งผลเสียหายร้ายแรงหากรัฐสภาพิจารณาผ่านบันทึกการประชุมเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ ทั้งยังมีการตอกย้ำว่าการปักปันเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาได้ทำเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 1905-1907 แต่ในบันทึกเจบีซีกลับระบุให้มีการปักปันเขตแดนใหม่ ซึ่งเท่ากับการที่ทำให้ประเทศต้องเสียดินแดนเพิ่มเติม ตลอดแนวชายแดน 798 กิโลเมตร 7 จังหวัด ตั้งแต่อุบลราชธานี-ตราด ที่จะเสียอีกเฉลี่ยจังหวัดละ 200,000 ไร่

พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตลอด 4 วันที่ผ่านมา กลับพบว่ามี ส.ส.คนไหนนำปัญหาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเลย แสดงให้เห็นว่าสภาผู้แทนราษฎรไม่ใช่ที่พึ่งของประชาชน เป็นเพียงแหล่งทำมาหากินของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้งว่า เมื่อมีปัญหาสำคัญของชาติ สภาฯ ไม่เคยช่วยแก้ได้เลย ถึงวันนี้ควรที่จะมีผู้แทนมาพูดเรื่องการปกป้องดินแดนอธิปไตย แต่ก็ไม่มีใครทำ

ด้าน นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ ศ.ดร.สมปองออกมาแสดงความคิดเห็นนั้นเป็นสิ่งที่สมาชิกรัฐสภาต้องให้ความสำคัญ เพราะ ศ.ดร.สมปอง เป็นหนึ่งในทีมนักกฎหมายที่ร่วมต่อสู้คดีปราสาทเขาพระวิหารเมื่อปี 2505 จึงเป็นผู้ที่เข้าใจในข้อเท็จจริงมาโดยตลอดว่าประเทศไทยมีหลักกฎหมาย ข้อโต้แย้งเพื่อแสดงถึงจุดยืนในข้อพิพาทนี้ และจากบทความนี้แสดงให้เห็นว่าการพิจารณาบันทึกเจบีซีของรัฐสภาในครั้งนี้ ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่จะยืนยันว่าประเทศไทยเสียดินแดน ไม่เพียงปราสาทพระวิหารหรือบริเวณโดยรอบ แต่ยืนยันว่าเสียดินแดนตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชากว่า 800 กม. ดังนั้น ส.ส.-ส.ว. และรัฐบาลต้องรับฟังความคิดเห็นนี้

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ร่างเจบีซี 3 ฉบับนี้ได้มีการระบุให้มีการปักปันเขตแดนใหม่ตั้งแต่หลักเขตแดนที่ 23-51 รวมทั้งจุดที่มีสันปันน้ำเป็นเส้นเขตแดนด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้เท่ากับรัฐสภาไปให้การรับรองการปักปันเขตแดนใหม่ทั้งหมด สละสิทธิของไทยเองที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จตั้งแต่สยามกับฝรั่งเศส และถือเป็นการรับรองโดยรัฐสภาไทยเป็นครั้งแรก เป็นการสูญเสียดินแดนอย่างเป็นทางการ ทั้งที่การพิจารณาร่างบันทึกเจบีซีนั้นไม่ผ่านกระบวนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 กำหนดไว้ ไม่มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนหรือประชาพิจารณ์ให้เห็นถึงผลดีผลเสียก่อนที่รัฐสภาจะพิจารณา

“วันนี้การต่อสู้มาถึงจุดที่ประชาชนต้องตัดสินใจแล้ว เพราะเป็นจุดที่ประชาชนไม่สามารถถอยได้ หากรัฐบาลเดินหน้าแบบนี้ ที่จะนำไปสู่การสูญเสียแผ่นดินตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งภาคประชาชนต้องหามาตรการทุกวิถีทางที่จะหยุดยั้งการกระทำของรัฐบาลที่ทำให้เสียดินแดน” นายประพันธ์กล่าว

โฆษกคณะกรรมการฯ กล่าวอีกว่า ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลไทยและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใม่ทราบถึงความสูญเสีย แต่เป็นเพราะมีเจตนาสมยอมกับรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งเราก็เรียกร้องมาตลอดให้รัฐบาลเปิดเผยว่า การกระทำเช่นนนี้ทำให้ประเทศได้ประโยชน์อะไรจากการให้ความร่วมมือกับนายฮุนเซน รัฐบาลไม่สามารถอธิบายได้ถึงเหตุผลความจำเป็น แต่กลับไม่ล้มเลิกในเจตนาที่ทำประเทศต้องเสียดินแดน ส่วนกรณีการที่รัฐบาลเตรียมขยายเวลาการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ขอยืนยันว่าพวกเราไม่ไปไหนแน่นอน จะชุมนุมที่นี่โดยสงบเพื่อเป็นหนามตำใจรัฐบาลที่ไม่สามารถสลายพวกเราได้ จะหาช่องทางมาเล่นงานก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นการชุมนุมโดยสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
กำลังโหลดความคิดเห็น