xs
xsm
sm
md
lg

วิปรัฐบาลรับลูก “มาร์ค” เร่ง กม.ลูกเสร็จให้ทัน เม.ย. คุมเข้มฝ่ายค้านซักฟอกต่อเนื่อง 40 ชม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิทยา แก้วภราดัย (แฟ้มภาพ)
วิปรัฐบาลเข้มซักฟอก กำชับฝ่ายค้านอภิปรายต่อเนื่องตามกรอบเวลา 40 ชั่วโมง ถ้างอแง ยึกยักปิดอภิปรายทันที ส่วนเอกสาร และคลิปอยู่ที่ประธานจะพิจารณา หากให้นำมาเปิดในที่ประชุมต้องรับผิดชอบ พร้อมรับลูก “มาร์ค” เร่งผ่านกฎหมายลูกให้ทันก่อน เม.ย. เพื่อให้ยุบสภาต้น พ.ค. ขู่พรรคร่วมไม่ให้ความร่วมมือ นายกฯมีอำนาจยุบสภาได้ทันที

นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐ) แถลงภายหลังการประชุมว่า วันนี้ได้มีการพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภา ซึ่งประธานสภา ได้ออกจดหมายนัดเพื่อประชุมนัดพิเศษ โดยกำหนดการประชุม 3 วัน คือ 15-17 มี.ค.เพื่อพิจารณาญัตติกรณีพิเศษ เพื่อขออภิปรายทั่วไปไม่ใจวางใจนายกรัฐมนตรี และญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ พรรคเพื่อไทย กับคณะ 119 คน เป็นผู้เสนอ

จดหมายเรียกประชุมกำหนดวันอภิปรายไว้ 3 วัน แต่ได้มีการหารือกับวิปฝ่ายค้าน ซึ่งวิปฝ่ายค้านได้แจ้งตนมาตั้งแต่ต้นประสงค์จะอภิปราย 4 วัน ตนจึงได้แจ้งให้ฝ่ายค้านกำหนกรอบเวลาว่าเวลาที่ฝ่ายค้านต้องการใช้เวลาจริงๆ ทั้งหมดกี่ชั่วโมง ฝ่ายค้านขอมา 40 ชั่วโมง เพื่อการอภิปราย ตนก็เห็นชอบตามนั้น และแจ้งให้ทราบว่าฝ่ายรัฐบาลจะใช้เวลากึ่งหนึ่งก็พอ ฉะนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายจะมีเวลาชี้แจง 20 ชั่วโมง เผื่อเวลาหารือและประท้วงอีก 6 ชั่วโมง สุดท้ายได้มีการทำบันทึกความตกลงระหว่างตนกับประธานวิปฝ่ายค้าน

โดยระบุในรายละเอียดแจ้งไปยังประธานรัฐสภาเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา คือ 1.ฝ่ายค้านจะใช้เวลาอภิปราย 40 ชั่วโมง รัฐบาลตอบ 20 ชั่วโมง เวลาหารือ 6 ชั่วโมง ฝ่ายละ 3 ชั่วโมง หากใครใช้เวลาเกิน 3 ชั่วโมงให้ไปใช้เวลาจาก 40 ชั่วโมง หรือ 20 ชั่วโมงของตัวเอง 2.กรอบเวลาการอภิปรายทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันว่าการรอภิปรายต้องจบในวันที่ 4 ไม่เกิน 5 ทุ่ม โดยในวันที่ 15 มี.ค.ทั้ง 2 ฝ่ายจะใช้เวลาอภิปรายรวมกันไม่น้อยกว่า 17 ชั่วโมง วันที่ 16 มี.ค.ใช้เวลา 17 ชั่วโมง วันที่ 17 มี.ค.ใช้เวลาไม่เกิน 18 ชั่วโมง โดยเริ่มลงชื่อเข้าประชุม 09.00 น. เพื่อให้เปิดประชุมได้ตามเวลา

นายวิทยากล่าวว่า ฝ่ายค้านจะต้องอภิปรายต่อเนื่องตามกรอบเวลาที่กำหนด จะไม่มีการหยุดอภิปราย หรือเลือกเวลาดีหรือไม่ดีเพื่อจะได้ถ่ายทอดชาวบ้านดูหรือไม่ดูไม่ได้ จะไม่มีการเกี่ยง เพราะต้องการใช้เวลา 40 ชั่วโมงแล้ว ส่วนรัฐมนตรีก็ต้องตอบไม่เกิน 20 ชั่วโมง ทั้งนี้หากชี้แจงจบก็ต้องจบ จะไม่มีการลากยาวถ้าฝ่ายค้านมีการเกี่ยงงอนว่าวันนี้ไม่ขออภิปรายขอต่อพรุ่งนี้ ยังไม่ครบเวลา 17 ชั่วโมง ถือว่าฝ่ายค้านไม่ติดใจอภิปรายก็จบการอภิปราย ทั้งหมดเป็นข้อตกลงร่วมกัน

นายวิทยากล่าวว่า หากคำนวณตามระยะเวลาที่นายกรัฐมนตรีมีการตัดสินใจยุบสภาไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.จะมีการพิจารณากฎหมายตั้งแต่วันนี้ถึงเดือนเม.ย.จะมีเวลาพิจารณากฎหมายทั้งหมด 4 วัน กรอบของวิปรัฐบาลเห็นควรว่าพิจารณากฎหมายซึ่งคณะกรรมการพิจารณาแล้วเสร็จเบื้องต้นเพื่อส่งให้ ส.ว.พิจารณาต่อ นอกจากนี้ การพิจารณากฎหมายที่ ส.ว.แก้ไขให้จบ จะตั้งกรรมาธิการร่วมหรือส่งเรื่องยืนยันตาม ส.ว.แก้ไขก็จบ และจะมีการพิจารณากฎหมายที่คั่งค้างอยู่สำหรับระเบียบวาระที่เลื่อนขึ้นมาแล้ว 5 ฉบับให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลาที่มีอยู่ทั้งหมด

“นอกจากนี้จะมีการพิจารณาเป็นกรณีเร่งด่วนกรณีเดียวคือกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอแก้กฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายพรรคการเมือง และ พ.ร.บ.เกี่ยวกับคณะกรรมการการเลือกตั้งเข้ามาเมื่อไหร่ เราก็จะเปิดพิจารณากรณีนั้นเป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง ฉะนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ดี การกำหนดตารางการทำงานของวิปรัฐบาลก็อยู่ภายใต้กรอบเวลาว่าทุกอย่างต้องจบภายในเดือน เม.ย.นี้เป็นอย่างช้า เพราะนายกรัฐมนตรีแจ้งชัดเจนแล้วว่าจะยุบสภาไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค. เพื่อป้องกันความไม่ประมาท ท่านอาจจะยุบก่อนนั้นได้ หรือไม่เกินนั้น เราก็พยายามเคลียร์งานที่คั่งค้างให้จบ” นายวิทยากล่าว

ผู้สื่อข่าวการอภิปรายที่จะมีการเปิดคลิปวิดีโอเห็นว่าจะมีคณะกรรมการ จะมีหลักในการพิจารณาอย่างไรว่าตัดต่อหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ส.ส.จะอภิปรายเรื่องใดก็ตาม ไม่สามารถนำเอกสารหรือพยานหลักฐานมาประกอบการอภิปราย เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากประธานสภา แนวปฏิบัติที่ผ่านมาปีที่แล้วประธานกำหนดให้ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลตั้งตัวแทนฝ่ายละ 3 คน และตัวแทนจากสำนักเลขาธิการสภาร่วมพิจารณาเอกสาร หรือคลิป ก่อนการนำแสดง คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน โดยทางเราได้เสนอชื่อไป 3 คนจากชุดเดิมปีที่แล้ว คือ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา หัวหน้าคณะ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา นายอรรถวิชญ์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. ทั้งนี้ ถ้าไม่มีการตรวจสอบประธานอาจไม่ให้นำเสนอก็ได้ถือเป็นอำนาจ เพราะหากเกิดความผิดพลาดประธานต้องรับผิดชอบด้วย ทั้งนี้ประธานสามารถตรวจสอบเอกสารหรือคลิปได้แต่เพียงผู้เดียวได้ก่อนอนุญาตให้นำเข้ามาอภิปราย

ส่วนต้องส่งตรวจล่วงหน้านานเท่าไหร่นั้น นายวิทยากล่าวว่า แล้วแค้ประธานสภาฯจะพิจารณา ส่วนตรวจสอบแล้วจะทราบว่าจริงหรือไม่อย่างไรก็เป็นอำนาจประธาน เมื่อถามว่าถ้าไม่มีผู้เชี่ยวชาญมีแต่ ส.ส.อาจจะไม่รู้ว่าจริงหรือไม่อย่างไร นายวิทยากล่าวว่า ก็เป็นอำนาจประธานที่จะตั้งใครมาเป็นกรรมการร่วมกับ ส.ส.ได้

สำหรับกฎหมายลูกตามเวลาที่ระบุว่าจะทุกอย่างจะแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.นั้นหมายความว่ามั่นใจว่าจะผ่าน นายวิทยากล่าวว่า สภามีหน้าที่ผ่านกฎหมายหากแก้มา ถ้าไม่ผิด กฎหมายก็ผ่าน เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลอย่างน้อย 2 พรรคไม่เห็นด้วยกับการยุบสภาในช่วงเวลาดังกล่าว เขาอาจไม่โหวตหรือสนับสนุน ก็อาจจะผ่านยาก นายวิทยากล่าวว่า ตนมั่นใจว่าไม่มีปัญหา เพราะถ้ากฎหมายไม่ผ่าน นายกรัฐมนตรีก็มีอำนาจยุบสภา และ กกต.มีหน้าที่ออกระเบียบ แต่ตนคิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะมีแนวทางเดียวกันทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น