นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมเพื่อเตรียมการจัดงานระดมทุนพรรคในวันที่ 12 มี.ค.ว่า แม้จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล การจัดงานดังกล่าวก็จะไม่เลื่อน เพราะทราบมาว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 15-18 มี.ค. แต่ยังไม่ได้แจ้งเป็นทางการ ส่วนจะยุบสภาเมื่อไร อยู่ที่นายกฯ เพราะสภาชุดนี้เหลือไม่กี่เดือน ถ้านับจากเดือนมี.ค. ก็จะเหลือ 9 เดือน จะยุบเดือนไหนก็ได้ จะยุบครึ่งปีแรกหรือครึ่งปีหลัง แต่คิดว่าแน้วโน้มน่าจะครึ่งปีหลังมากกว่า
เมื่อถามว่างบกลางปี และรัฐธรรมนูญผ่านแล้วอยู่ในเงื่อนไขที่จะยุบสภาได้หรือยัง นายชุมพล กล่าวว่า ต้องดูสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะฉะนั้นตนฟันธงได้เลยว่า เป็นครึ่งปีหลัง เพราะเงื่อนไขตามกติกา แม้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจภายในสิ้นเดือนมี.ค. ก็จะจบหมด แต่ต้องดูว่ากกต.มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งมากน้อยแค่ไหน นี่คือปัญหาใหญ่ ขณะเดียวกันกกต.ก็กำลังดำเนินการสรรหา ส.ว. ใหม่ จะมีการยื่นตีความหรือไม่ที่ ส.ว.ลาออกไป
นอกจากนี้ เหตุการณ์ชายแดนก็ยังมีปัญหาอยู่ ความเคลื่อนไหวต่างๆ แม้อยู่ในระดับที่ไม่แรงจัดก็ไม่น่ากระทบกระเทือนเท่าไร แต่ก็น่าจับตา เพราะผบ.ทบ. ระบุว่า สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นจะยุบสภาตอนนี้ และพันธมิตรฯ ก็บอกว่ายุบสภาตอนนี้เพื่อหนีปัญหา ไม่ได้แก้ปัญหา เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น ทำไมไม่ให้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ผ่านไปก่อน ฝ่ายทหารก็บอกว่า ทำไมไม่แต่งตั้งโยกย้ายทหารผ่านไปก่อนแล้วค่อยยุบสภาปลายเดือนต.ค.และต้นเดือนพ.ย.สวยที่สุด เพียงแต่ว่านายกฯ มีสปิริตสูง ไปถามท่านมากก็บอกว่าไม่อยู่ครบวาระ ซึ่งนายกฯ ก็ต้องฟังทุกฝ่าย รวมทั้งส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
เมื่อถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะกระทบรัฐบาลหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ การถอดถอนไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต ถ้าพูดเรื่องการทุจริต ต้องถอดถอนด้วย แต่อย่าให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นก็แล้วกัน
เมื่อถามว่าจะมีอุบัติเหตุหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ดูรูปการณ์แล้วไม่น่าจะมีอะไรถึงขนาดนั้น เวลานี้เสื้อแดงก็ค่อนข้างจะลดระดับความรุนแรงพอสมควร ทุกฝ่ายเริ่มเข้าใจสถานการณ์มาก ทุกคนต้องอยู่เพื่อประเทศชาติแล้ว ซึ่งนปช. ฝ่ายตุลาการก็ผ่อนปรนให้มากมาย ฝ่ายพันธมิตรฯ ก็ลดลาวาศอกที่จะเคลื่อนไหวเรียบร้อย ทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง ก็ลดระดับกันทั้งคู่ เมื่อถามว่าการเกิดอุบัติเหตุจะเกิดจากสาเหตุใด นายชุมพล กล่าวว่า อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ เราก็ไม่รู้ แต่บางครั้งเล็กๆน้อยๆ ที่เราไม่คาดคิดก็ได้
เมื่อถามว่าคิดว่าไม่มีส่วนกดดันการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า คงเป็นเรื่องตามครรลองประชาธิปไตย ซึ่งตนฟันธงว่ายุบสภาครึ่งปีหลัง แต่อำนาจจริง ๆคือนายกฯ ตอนนี้เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวกำลังเดินไปดี อย่าเพิ่งมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเลย โดยเฉพาะเดือนก.พ.มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 1.8 ล้านคน มากกว่าเดือนม.ค.เยอะ ปีนี้มีเงินเข้าประเทศจำนวน 6 แสนกว่าล้านบาทมากกว่าปี 53 มีเงินจากการท่องเที่ยว 15.84 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามสำหรับนโยบายหาเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนาเราไม่เน้นตัวเลข แต่ขึ้นอยู่กับเหตุและผลมากกว่า เราไม่เคยเล่นตัวเลข ไม่เล่นหวย ล็อตเตอรี่ หรือเชื่อโชคลาง แต่จะยืนอยู่ด้วยควาถูกต้อง มีเหตุ มีผล อยู่บนสถานการณ์ที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เราเป็นพรรคขนาดกลาง เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งเราไม่ได้คาดหวังจะเป็นพรรคใหญ่ แต่จะรักษาระดับส.ส. 40-50 คน ไม่หวังมากกว่านั้น หรือไปแข่งขันกับใคร และไม่หวังเดินตามข้อเสนอของนายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ ประธานคณะกรรมการศึกษาและปฏิรูปการเมือง ที่บอกว่าหัวหน้าพรรคที่ได้คะแนนสูงสุด จะได้เป็นนายกฯ
เมื่อถามว่างบกลางปี และรัฐธรรมนูญผ่านแล้วอยู่ในเงื่อนไขที่จะยุบสภาได้หรือยัง นายชุมพล กล่าวว่า ต้องดูสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะฉะนั้นตนฟันธงได้เลยว่า เป็นครึ่งปีหลัง เพราะเงื่อนไขตามกติกา แม้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจภายในสิ้นเดือนมี.ค. ก็จะจบหมด แต่ต้องดูว่ากกต.มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งมากน้อยแค่ไหน นี่คือปัญหาใหญ่ ขณะเดียวกันกกต.ก็กำลังดำเนินการสรรหา ส.ว. ใหม่ จะมีการยื่นตีความหรือไม่ที่ ส.ว.ลาออกไป
นอกจากนี้ เหตุการณ์ชายแดนก็ยังมีปัญหาอยู่ ความเคลื่อนไหวต่างๆ แม้อยู่ในระดับที่ไม่แรงจัดก็ไม่น่ากระทบกระเทือนเท่าไร แต่ก็น่าจับตา เพราะผบ.ทบ. ระบุว่า สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นจะยุบสภาตอนนี้ และพันธมิตรฯ ก็บอกว่ายุบสภาตอนนี้เพื่อหนีปัญหา ไม่ได้แก้ปัญหา เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น ทำไมไม่ให้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ผ่านไปก่อน ฝ่ายทหารก็บอกว่า ทำไมไม่แต่งตั้งโยกย้ายทหารผ่านไปก่อนแล้วค่อยยุบสภาปลายเดือนต.ค.และต้นเดือนพ.ย.สวยที่สุด เพียงแต่ว่านายกฯ มีสปิริตสูง ไปถามท่านมากก็บอกว่าไม่อยู่ครบวาระ ซึ่งนายกฯ ก็ต้องฟังทุกฝ่าย รวมทั้งส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
เมื่อถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะกระทบรัฐบาลหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ การถอดถอนไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต ถ้าพูดเรื่องการทุจริต ต้องถอดถอนด้วย แต่อย่าให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นก็แล้วกัน
เมื่อถามว่าจะมีอุบัติเหตุหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ดูรูปการณ์แล้วไม่น่าจะมีอะไรถึงขนาดนั้น เวลานี้เสื้อแดงก็ค่อนข้างจะลดระดับความรุนแรงพอสมควร ทุกฝ่ายเริ่มเข้าใจสถานการณ์มาก ทุกคนต้องอยู่เพื่อประเทศชาติแล้ว ซึ่งนปช. ฝ่ายตุลาการก็ผ่อนปรนให้มากมาย ฝ่ายพันธมิตรฯ ก็ลดลาวาศอกที่จะเคลื่อนไหวเรียบร้อย ทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง ก็ลดระดับกันทั้งคู่ เมื่อถามว่าการเกิดอุบัติเหตุจะเกิดจากสาเหตุใด นายชุมพล กล่าวว่า อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ เราก็ไม่รู้ แต่บางครั้งเล็กๆน้อยๆ ที่เราไม่คาดคิดก็ได้
เมื่อถามว่าคิดว่าไม่มีส่วนกดดันการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า คงเป็นเรื่องตามครรลองประชาธิปไตย ซึ่งตนฟันธงว่ายุบสภาครึ่งปีหลัง แต่อำนาจจริง ๆคือนายกฯ ตอนนี้เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวกำลังเดินไปดี อย่าเพิ่งมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเลย โดยเฉพาะเดือนก.พ.มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 1.8 ล้านคน มากกว่าเดือนม.ค.เยอะ ปีนี้มีเงินเข้าประเทศจำนวน 6 แสนกว่าล้านบาทมากกว่าปี 53 มีเงินจากการท่องเที่ยว 15.84 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามสำหรับนโยบายหาเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนาเราไม่เน้นตัวเลข แต่ขึ้นอยู่กับเหตุและผลมากกว่า เราไม่เคยเล่นตัวเลข ไม่เล่นหวย ล็อตเตอรี่ หรือเชื่อโชคลาง แต่จะยืนอยู่ด้วยควาถูกต้อง มีเหตุ มีผล อยู่บนสถานการณ์ที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เราเป็นพรรคขนาดกลาง เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งเราไม่ได้คาดหวังจะเป็นพรรคใหญ่ แต่จะรักษาระดับส.ส. 40-50 คน ไม่หวังมากกว่านั้น หรือไปแข่งขันกับใคร และไม่หวังเดินตามข้อเสนอของนายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ ประธานคณะกรรมการศึกษาและปฏิรูปการเมือง ที่บอกว่าหัวหน้าพรรคที่ได้คะแนนสูงสุด จะได้เป็นนายกฯ