นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (18 มี.ค.) นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้เรียกนายวิทยา แก้วภารดัย ประธานวิปรัฐบาล และนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ไปหารือถึงการลงมติไม่ไว้วางใจ และได้ข้อยุติว่าจะให้มีการลงมติไม่ไว้วางใจ ในวันที่ 19 มี.ค. เวลา 9.30 น. เป็นต้นไป
**"เจ๊วา"เชื่อพรรคร่วมมีมารยาท
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า คิดว่าไม่น่ามีปัญหา แต่ยอมรับว่าตนเป็นคนพูดไม่เก่ง อาจทำให้เนื้อหาไม่ประทับใจเท่าไร แต่เราเป็นนักปฏิบัติ ผลงานที่ประจักษ์ และเชื่อว่าผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีกว่าการพูด แต่เรื่องลงมติก็เป็นไปตามระบบอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าประชาธิปัตย์ อาจจะโหวตสวน นางพรทิวา กล่าวว่า ตนได้ชี้แจงในสภาให้สั้นที่สุด และเรื่องที่พูด เป็นเรื่องที่พูดกันมาเดิมอยู่แล้ว อย่างที่บอกว่า การลงรายละเอียดอาจจะไม่ประทับใจเหมือนส.ส.ที่พูดกันเก่ง เพราะเราเป็นนักปฏิบัติมากกว่า
เมื่อถามว่าถ้าผลโหวตออกมาได้น้อยกว่าคนอื่น อาจจะนำมาซึ่งการปรับครม. นางพรทิวา กล่าวว่า ไม่หนักใจอะไรเลย ส่วนจะมีการขอความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันหรือไม่นั้น จริงๆ ก็เป็นมารยาททางการเมือง ซึ่งตนเองก็เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ ซึ่งนักการเมืองที่อยู่ในแวดวงก็ทราบดีว่าเป็นมารยาท ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และแกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีหากมีการโหวตสวนรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ( ภท.) ว่า เสียงที่ลงมติจะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้วินิจฉัย อีกทั้งจะให้เราพูดให้ถูกใจทุกคนคงไม่ได้ อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้ง คนต่างจังหวัดมักจะเลือกตัวบุคคลมากกว่าพรรค ไม่เหมือน กทม. ที่เลือกพรรคเป็นหลัก อย่าง จ.ชัยนาท คนก็เลือกนางพรทิวา นาคาศัย ไม่ได้เลือกพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่า กังวลว่าปชป. จะแทงข้างหลังหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า " ปชป.กับ ภท. กอดคอกันมานาน ตัวแนบชิดกันตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลแล้ว เหมือนเมียกับผัวไง คะ"
**ปชป.ยันไม่แทงข้างหลัง"เจ๊วา"
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่ว่า สมาชิกหรือผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์บางคน อาจจะไม่ยกมือสนับสนุน นางพรทิวา นาคาศัย เพื่อจะได้มีการปรับครม.ก่อนการเลือกตั้งว่า ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงการสร้างกระแสข่าว เพื่อให้เกิดความแตกแยกในรัฐบาลเท่านั้น
"ผมได้คุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แล้ว ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลก็จะให้การสนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เปรียบเสมือนการเป็นเจ้าของบ้าน เพราะการชี้แจงของรัฐมนตรีทุกๆ คน ก็รับฟังได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้สมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องไม่สนับสนุนนางพรทิวา"
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมีระบบการลงมติแบบฟรีโหวต เพราะในการลงมติทุกๆ ครั้งของพรรค ก็จะต้องเป็นไปตามมติของพรรคเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ปฏิบัติกันมานานแล้ว เชื่อว่า จะไม่มีการโหวตสวนมติของพรรคแน่นอน
**ปชช.เซ็ง!!ศึกซักฟอกมีแต่ข้อมูลเก่า
สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ที่มีต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จากกลุ่มตัวอย่าง 1,187 คน ระหว่างวันที่ 17-18 มี.ค. พบว่า ประชาชนร้อยละ 61.29 เห็นว่าไม่คุ้มค่า เนื่องจากข้อมูลของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นเรื่องเก่า ไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนัก หรือชัดเจนมากพอ มุ่งแต่เอาชนะกันเหมือนเดิม มีเพียงร้อยละ 38.71 เห็นว่าคุ้มค่า เนื่องจากได้รับข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ มากขึ้น
ชณะที่ ร้อยละ 78.91 ผิดหวังการอภิปราย เพราะบรรยากาศยังเหมือนเดิม มีแต่ทะเลาะกัน การใช้วาจาไม่สุขภาพ ขณะที่ร้อยละ 43.09 ประทับใจการชี้แจงประเด็นที่ถูกอภิปราย ของนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ประชาชนร้อยละ 54.14 ระบุว่า ยังนิยมพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม เพราะชื่นชอบนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 25.56 ระบุความนิยมลดลง เพราะเห็นการทำงานที่บกพร่อง ส่วนพรรคฝ่ายค้าน หรือพรรคเพื่อไทยนั้น ประชาชนร้อยละ 46.62 ระบุ นิยมพรรคลดลง เพราะการอภิปรายยังไม่ดีเท่าที่ควร
**"เจ๊วา"เชื่อพรรคร่วมมีมารยาท
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า คิดว่าไม่น่ามีปัญหา แต่ยอมรับว่าตนเป็นคนพูดไม่เก่ง อาจทำให้เนื้อหาไม่ประทับใจเท่าไร แต่เราเป็นนักปฏิบัติ ผลงานที่ประจักษ์ และเชื่อว่าผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีกว่าการพูด แต่เรื่องลงมติก็เป็นไปตามระบบอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าประชาธิปัตย์ อาจจะโหวตสวน นางพรทิวา กล่าวว่า ตนได้ชี้แจงในสภาให้สั้นที่สุด และเรื่องที่พูด เป็นเรื่องที่พูดกันมาเดิมอยู่แล้ว อย่างที่บอกว่า การลงรายละเอียดอาจจะไม่ประทับใจเหมือนส.ส.ที่พูดกันเก่ง เพราะเราเป็นนักปฏิบัติมากกว่า
เมื่อถามว่าถ้าผลโหวตออกมาได้น้อยกว่าคนอื่น อาจจะนำมาซึ่งการปรับครม. นางพรทิวา กล่าวว่า ไม่หนักใจอะไรเลย ส่วนจะมีการขอความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันหรือไม่นั้น จริงๆ ก็เป็นมารยาททางการเมือง ซึ่งตนเองก็เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ ซึ่งนักการเมืองที่อยู่ในแวดวงก็ทราบดีว่าเป็นมารยาท ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และแกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีหากมีการโหวตสวนรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ( ภท.) ว่า เสียงที่ลงมติจะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้วินิจฉัย อีกทั้งจะให้เราพูดให้ถูกใจทุกคนคงไม่ได้ อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้ง คนต่างจังหวัดมักจะเลือกตัวบุคคลมากกว่าพรรค ไม่เหมือน กทม. ที่เลือกพรรคเป็นหลัก อย่าง จ.ชัยนาท คนก็เลือกนางพรทิวา นาคาศัย ไม่ได้เลือกพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่า กังวลว่าปชป. จะแทงข้างหลังหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า " ปชป.กับ ภท. กอดคอกันมานาน ตัวแนบชิดกันตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลแล้ว เหมือนเมียกับผัวไง คะ"
**ปชป.ยันไม่แทงข้างหลัง"เจ๊วา"
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่ว่า สมาชิกหรือผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์บางคน อาจจะไม่ยกมือสนับสนุน นางพรทิวา นาคาศัย เพื่อจะได้มีการปรับครม.ก่อนการเลือกตั้งว่า ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงการสร้างกระแสข่าว เพื่อให้เกิดความแตกแยกในรัฐบาลเท่านั้น
"ผมได้คุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แล้ว ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลก็จะให้การสนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เปรียบเสมือนการเป็นเจ้าของบ้าน เพราะการชี้แจงของรัฐมนตรีทุกๆ คน ก็รับฟังได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้สมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องไม่สนับสนุนนางพรทิวา"
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมีระบบการลงมติแบบฟรีโหวต เพราะในการลงมติทุกๆ ครั้งของพรรค ก็จะต้องเป็นไปตามมติของพรรคเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ปฏิบัติกันมานานแล้ว เชื่อว่า จะไม่มีการโหวตสวนมติของพรรคแน่นอน
**ปชช.เซ็ง!!ศึกซักฟอกมีแต่ข้อมูลเก่า
สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ที่มีต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จากกลุ่มตัวอย่าง 1,187 คน ระหว่างวันที่ 17-18 มี.ค. พบว่า ประชาชนร้อยละ 61.29 เห็นว่าไม่คุ้มค่า เนื่องจากข้อมูลของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นเรื่องเก่า ไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนัก หรือชัดเจนมากพอ มุ่งแต่เอาชนะกันเหมือนเดิม มีเพียงร้อยละ 38.71 เห็นว่าคุ้มค่า เนื่องจากได้รับข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ มากขึ้น
ชณะที่ ร้อยละ 78.91 ผิดหวังการอภิปราย เพราะบรรยากาศยังเหมือนเดิม มีแต่ทะเลาะกัน การใช้วาจาไม่สุขภาพ ขณะที่ร้อยละ 43.09 ประทับใจการชี้แจงประเด็นที่ถูกอภิปราย ของนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ประชาชนร้อยละ 54.14 ระบุว่า ยังนิยมพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม เพราะชื่นชอบนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 25.56 ระบุความนิยมลดลง เพราะเห็นการทำงานที่บกพร่อง ส่วนพรรคฝ่ายค้าน หรือพรรคเพื่อไทยนั้น ประชาชนร้อยละ 46.62 ระบุ นิยมพรรคลดลง เพราะการอภิปรายยังไม่ดีเท่าที่ควร
