นายกฯ ชี้ ไทย-กัมพูชา คุยเจบีซี-จีบีซี ได้ไม่ต้องรอประชุม กก.มรดกโลก ยันไทยพร้อมตลอดเวลา ระบุ ท่าทีเขมรดีขึ้นตามลำดับ ยังกั๊กโอนตัว “วีระ” กลับคุกไทย อ้างมีปัญหามาก ตอนนี้เดินหน้าเฉพาะสุขภาพ-อภัยโทษ เพราะสำคัญกว่า
คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (10 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ว่า ต้องทำคู่ขนานกันไปเพื่อให้แยกแยะปัญหาในภาพใหญ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรกับปัญหาในระดับภาค ปฏิบัติในพื้นที่ เพื่อหามาตรการลดความตึงเครียด โดยวันนี้ (10 มี.ค.) นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จะมาพบ และคงสรุปมาว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะความชัดเจนในเรื่องของการที่อินโดนีเซียจะส่งผู้สังเกตการณ์เข้ามา ทั้งนี้ ท่าทีของกัมพูชาดีขึ้นตามลำดับ แต่การประชุมเจบีซียังมีประเด็นปัญหาเรื่องสถานที่ สำหรับประเทศไทยนั้นอยากให้เกิดการประชุมทั้ง 2 รูปแบบ ภายในเดือนมีนาคมนี้ และไทยเองก็พร้อมตลอดเวลา
“ประเด็นที่จะหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในการประชุมเจบีซีนั้นคือการหารือ ว่า พัฒนาการที่นำมาสู่ความตึงเครียด มีอะไรบ้าง มีอะไรที่มันน่าตกลงกัน เพื่อจะไม่ให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งกัน โดยที่ไม่กระทบสิทธิที่ต่างฝ่ายต่างอ้างซึ่งกันและกัน กระบวนการทั้งหมดสามารถเดินไปได้ โดยไม่ต้องรอการประชุมของคณะกรรมการมรดกโลก เพราะถ้าทำได้จริงๆ จะช่วยลดภาระของคณะกรรมการมรดกโลกด้วย”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ 2 คนไทยที่จำคุกอยู่ในประเทศกัมพูชา ภายหลังนายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กูล เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ออกมาเปิดประเด็นว่า ไทยสามารถขอโอนตัวนักโทษจากกัมพูชาได้ เพราะได้ลงนามความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทย กับราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา (สนธิสัญญาโอนตัวนักโทษ) ว่า มีอยู่ 2 ประเด็น คือ 1.กรณีการโอนตัวให้กลับมารับโทษในประเทศ เราได้ทำข้อตกลงไป แต่มันมีหลักเกณฑ์ของมันอยู่ ซึงก็จะพิจารณาว่าเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ เพราะที่ผ่านมามันมีปัญหาพอสมควรว่าได้รับโทษเท่าไรแล้ว 2.การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งต้องพิจารณาข้อมูล ข้อเท็จจริงทั้งหมด
“ขณะนี้คิดว่าเราต้องเดินไปในเรื่องที่จะดูแลสุขภาพเรื่องสุขภาพ กับเมื่อครอบครัวได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ เราต้องติดตาม”
ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ควรจะเข้ามาดูแลในเรื่องของสุขภาพของนายวีระ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า องค์กรสากลเขาดูแลส่วนหนึ่ง และคิดว่าเขาจะมีโอกาสที่จะเข้าถึงตัวมากกว่า
ผู้สื่อขาวถามว่า หากมีการโอนตัวนักโทษ นั่นหมายถึงเราไปยอมรับคำพิพากษาอะไรด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่านายวีระ คงไม่ต้องการให้เกิดปัญหากับประเทศ ยืนยันว่า แนวทางตอนนี้คือเรื่องอภัยโทษ กับเรื่องของการดูแลสุขภาพ เป็นแนวทางที่สำคัญที่สุด แนวทางอื่นมันมีปัญหาอย่างอื่นมากกว่า