xs
xsm
sm
md
lg

รบ.ตาสว่าง! สภากาชาด ยัน “วีระ” ป่วยจริง ปัดสวะครอบครัว ยื่นอภัยโทษเอาเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปณิธาน วัฒนายากร
สภากาชาดสากล เหลืออดรับอาสาเป็นหน้าเสื่อ ช่วยเหลือ “วีระ” แล้ว ยันคุกเขมรขัดมนุษยธรรม เตรียมจัดแพทย์ เข้าไปดูแล รบ.หายมึน รับ “วีระ” มีปัญหาสุขภาพจริง แต่ยังอ้ำอึ้งกรณีขอโอนตัวผู้ถูกจองจำ กลับไทย เฉไฉขอเทียบเคียง กม.ก่อน ยังใจดำปัดสวะเป็นหน้าที่ของครอบครัว “สมความคิด” ดำเนินการยื่นอภัยโทษเอง

วันนี้ (10 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ นายฌาคส์ สตรูณ ผู้อำนวยการคณะกรรมการสภากาชาดระหว่างประเทศ สำนักงานภูมิภาคกรุงเทพฯ เข้าพบว่าได้มีการพูดคุยถึงกรณีต่างๆ หลังจากที่เขาเคยได้พูดคุยกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 มี.ค.ซึ่งเขาได้มาแจ้งให้นายกฯ ทราบว่า มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเมืองไทย ซึ่งเมื่อเขามารับตำแหน่ง จึงอยากจะทำต่อในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาคใต้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางกาชาด และหน่วยงานต่างๆ จะหารือกัน เพื่อส่งเสริมทางด้านมนุษยธรรมความช่วยเหลือต่างๆ ที่ทางสำนักงานกาชาดได้ทำอยู่แล้ว โดยขณะนี้ได้มีการยกระดับกิจกรรม และไปพบกับหน่วยงานความมั่นคง ตำรวจ กระทรวงยุติธรรม เรียบร้อยแล้ว

นายปณิธาน กล่าวอีกว่า ขณะนี้จะทางกาชาดจะขอพบกับหน่วยงานความมั่นคงภายใต้ สังกัดสำนักนายกฯ และได้ขอให้ประสานเพื่อที่จะพบกับสภาความมั่นคง ซึ่งเป็นงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่จะไปสร้างขีดความสามารถในเรื่องความยุติธรรม ความเชี่ยวชาญทางด้านทักษะต่างๆ นอกจากนี้ นายฌาคส์ ได้ยืนยันว่า การไปเยี่ยมนายวีระ นั้น ได้มีการประเมินในเรื่องสุขภาพ และจากนี้จะมีการส่งตัวแทน และแพทย์ไปเพิ่ม ส่วนครอบครัว นายวีระ ต้องการอะไรจากสำนักกาชาด คงต้องเป็นเรื่องของครอบครัว นายวีระ ขอเอง เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้เข้าไปยุ่งอะไร

นายปณิธาน กล่าวอีกว่า จากกรณีที่กาชาดสากลไปเยี่ยม นายวีระ มีความเห็นตรงกันว่า นายวีระ มีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งทางรัฐบาลได้รับการร้องขอทางครอบครัว ให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลเพิ่มเติม และรัฐบาลเองก็มีความเป็นกังวลในด้านสุขภาพของนายวีระด้วยเช่นกัน จากการประเมิน 2-3 ประเด็น ที่ได้รับจากหน่วยงานของรัฐบาล คือ 1.การแจ้งจากสถานทูตไทยเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของนายวีระ 2.การรับฟังจากครอบครัวของนายวีระ เมื่อวันอังคารที่ 8 มี.ค.ในเรื่องของสุขภาพ และ 3.เราได้ประเมินสถานการณ์ข้างเคียงจาก นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ถูกกุมขัง ในระยะเวลาน้อยกว่า แต่มีปัญหาสุขภาพพอสมควร และจากที่ดูรายงานของนายพนิช ที่แจ้งให้ทราบเรื่องปัญหาสุขภาพ จึงทำให้นายกฯ เป็นกังวลในเรื่องนี้ จึงขอให้ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ส่งตัวแทนไปดูแล และแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ซึ่งรัฐบาลสามารถทำได้ในฐานะที่มีการร้องขอ ส่วนองค์กรสากลคงจะมีแนวทางของเขาเอง ที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ ให้ นายวีระ มีการดูแลรักษาสุขภาพที่ดี และดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ด้านมนุษยธรรม

เมื่อถามว่า อาการของ นายวีระ ที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ป่วยหนัก มีข้อเท็จจริงอย่างไร นายปณิธาน กล่าวว่า การรายงานทางแพทย์ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล ในเรื่องของรายละเอียดเรื่องของโรค แต่เรามีความเป็นกังวล เนื่องจากดูสภาพของนายวีระ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง อะไรจะทำให้สภาพไม่ดีขึ้น เพราะฉะนั้นกำลังเร่งดูว่าจะทำอะไรได้เพิ่มขึ้น

เมื่อถามว่า หากเกิดเหตุสุดวิสัยในเรือนจำกับนายวีระ จะทำให้เป็นปัญหาบานปลายระหว่างประเทศหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เป็นความเข้าใจตรงกัน ทางกัมพูชาเองก็เป็นกังวลเรื่องสภาพความเป็นอยู่ และด้านมนุษยธรรม เมื่อเทียบกับมาตรฐานหรือคนอื่นๆ เขาก็ได้มีการดูแลเต็มที่ แต่ขณะเดียวกัน เราก็เป็นกังวลเพราะต่างถิ่น ลักษณะที่อยู่ในขณะนี้ไม่ว่าจะแข็งแรงขนาดไหน หากอยู่นานก็จะเป็นปัญหา เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นความเห็นต่างกัน

เมื่อถามว่า สรุปว่า ทั้ง นายวีระ และ น.ส.ราตรี ทางรัฐบาลจะขออภัยโทษให้ทั้ง 2 คน เลยหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เป็นเรื่องของทางครอบครัว หากเขาขอไปทางเราก็ประสานในเรื่องของหลักฐาน และข้อมูลตามการร้องขอ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องของครอบครัวที่รัฐบาลร้องขอไม่ได้

เมื่อถามว่า การขอพระราชทานอภัยโทษจะใช้เวลาเท่าใด นายปณิธาน กล่าวว่า เข้าใจว่า เวลาที่อยู่ในการควบคุมประกอบกับคดี ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนน่าจะอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายละเอียด

เมื่อถามว่า กรณีที่เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ นำทนายไปยื่นอุทธรณ์ นางสาวราตรี จะเป็นเงื่อนไขอะไรหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ เป็นเรื่องส่วนบุคคลและเรื่องของแต่ละกลุ่ม จากการพูดคุยที่ผ่านมาก็ไม่มีรายละเอียดใดๆ ซึ่งทางกัมพูชาจะดูและพิจารณาเอง

เมื่อถามว่า กรณีที่มีสนธิสัญญาโอนนักโทษระหว่างกัน ตาม พ.ร.บ.การปฏิบัติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการดำเนินการตามคำพิพากษาคดีอาญา พ.ศ.2527 ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชา ลงนามไว้เมื่อวันที่ 4-5 ส.ค.52 ที่ระบุถึงการส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นทำได้จริงหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า มีรายละเอียดมาก ต้องนำมาเทียบเคียงกัน มีเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศอยู่หลายฉบับ ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะทำได้มากน้อยขนาดไหน และบางกรณีก็เกี่ยวข้องกับเรื่องของอธิปไตยประเทศจึงยังไม่มีชัดเจน

ซักต่อว่า ภายหลังมีข้อสงสัยว่าเหตุใดรัฐบาลไม่เคยระบุถึงช่องทางการใช้สนธิสัญญาก่อน หน้านี้ นายปณิธาน กล่าวว่า ในตอนแรกรัฐบาลต้องการให้การต่อสู้คดีเป็นไปตามความต้องการของครอบครัวก่อน หากจะไปเสนอเลยจะดูเหมือนการบีบบังคับ และดูไม่เหมาะสม เพราะขณะนั้นเข้าใจว่า นายวีระ มีความต้องการที่จะอุทธรณ์สู้คดี ทั้งนี้ ยืนยันว่า เมื่อรัฐบาลเป็นผู้ลงนามในสนธิสัญญาเองย่อมเข้าใจถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ เป็นอย่างดี ซึ่งจากนี้ไปจะมาพิจารณากันว่ามีเงื่อนไขที่จะสามารถเข้าสู่หลักเกณฑ์ใดได้บ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น