“อภิสิทธิ์” เดินหน้านโยบายขายฝัน ลั่นประชาชนจะมีบำเน็จบำนาญ เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ คนขับแท็กซี่เข้าถึงแหล่งเงินทุน ชี้แก้ไขเพิ่มเติมกติกาใน รธน.เรียบร้อยแล้ว พร้อมให้โอกาส ปชช. เลือกเดินหน้ากับ ปชป.หรือจะเดินวนกับความขัดแย้ง ชัดเจนหลังหารือ กกต.
วันที่ 8 มี.ค.2554 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในงานระดมทุนว่า 2 ปี กว่าที่ผ่านมา ขอยืนยันว่าด้วยความเชื่อ ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างประชาชนกับพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนนำรัฐบาล เราจึงเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ และแก้ไขปัญหาต่างๆ แม้มีเหตุการณ์ปรากฎการณ์ท้าทายสังคม ประเทศชาติอย่างยิ่ง ความขัดแย้งความตั้งใจบางฝ่ายที่จะขัดขวางการทำงาน นอกจากนี้นโยบายที่รัฐบาลจะเดินหน้า คือ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ประชาชนที่ไม่มีออมเงินในยามยากลำบากจะสามารถเข้าสู่หลักประกันสังคมได้เป็นครั้งแรก จ่าย 70-100 บาท จะมีประชาชนหลายแสนคนเข้าร่วมในโครงการดังกล่าว
นอกจากนี้จะผ่านกฎหมายกองทุนเงินออมแห่งชาติ ให้ประชาชนมีโอกาสมีบำเหน็จบำนาญเป็นของตัวเองครั้งแรก และประชาชนนอกระบบกำลังจะนำมาสู่การเข้าโครงการที่จะทำให้การประกอบอาชีพมีความมั่นคงจดทะเบียนผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ เพิ่มจุดผ่อนผันให้คนไทย คนขับแท็กซี่ เข้าถึงแหล่งเงินทุน วันนี้ยังใช้กองทุนน้ำมันตรึงไม่ให้ราคาดีเซลแพงกว่า30 บาท เพื่อไม่ให้การขนส่งแพงขึ้นเพื่อใช้ข้ออ้างต่างๆ ให้ของแพงขึ้น เรื่องการขาดแคลนปาล์มน้ำมัน ที่ขาดแคลนและขายเกินราคาเราจะมุ่งหน้าและเร่งรัดให้น้ำมันพืชมีเพียงพอและขายได้ในราคา 47 บาท
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ในการทำงานของรัฐบาลนี้ เมื่อใดที่เงินช่วยเหลือถึงมือประชาชนยากจน เมื่อนั้นเศรษฐกิจจะฟื้นได้ เราได้ทำมาตั้งแต่หลังวิกฤตเศรษฐกิจ ตนจึงบอกว่าวันนี้ต้องเดินหน้าเพิ่มรายได้ และยืนยันค่าแรงขั้นต่ำต้องขึ้นอีก และได้ประกาศชัดเจนว่าค่าแรงขั้นต่ำในสองปีข้างหน้าควรต้องเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เป็นอย่างน้อย ไม่อย่างนั้นประชาชนจะไม่สามารถสู้กับของแพงได้ ขณะเดียวกันก็จะมีการเพิ่มราคาของโครงการประกันรายได้ของเกษตรกรด้วย
“เราได้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกติกาเรียบร้อยแล้ว จังหวะเวลาที่ประชาชนจะได้คืนอำนาจเพื่อตัดสินใจจึงต้องเป็นระยะที่มีความเหมาะสม วันศุกร์นี้ผมจะเเดินทางไป กกต. เพื่อไปถามว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการจัดทำระเบียบ และถ้าได้คำตอบชัดเจนผมจะสามารถบอกได้ว่าจะคืนอำนาจให้ประชาชนเมื่อไหร่ และเป็นโอกาสให้ประชาชนตัดสินใจอีกครั้ง ว่าจะเลือกเดินหน้าไปกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือจะเลือกเดินไปกับพรรคการเมืองที่ต้องการเดินวนกับความขัดแย้งทางการเมือง ต้องการให้ประเทศติดล่มอยู่กับความขัดแย้งและไม่รู้ว่าทำไปทั้งหมดเพื่อใคร ดังนั้นทางเลือกของประชาชนจึงแบ่งออกอย่างชัดเจน ในสัปดาห์หน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านจะเปิดอภิปราย เค้าบอกไฮไลต์อยู่ที่เหตุการณ์ปีที่แล้ว แต่วันนี้ประชาชนต้องการรู้ว่าใครจะมาแก้ปัญหาปากท้องให้เขา ผมจึงบอกว่าเรากำลังเดินเข้าสู่การเลือกตั้งที่มีทางเลือกให้ชัด”