มาร์ค-เทือกจมน้ำมันปาล์ม!!

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

 
00 เริ่มโหมโรงตีปี๊บกันรายวันไปแล้วสำหรับมาตรการจับกุม “ปลาซิว ปลาสร้อย” เพื่อสังเวย “วิกฤติน้ำมันปาล์ม” กลายเหยื่ออันโอชะอันดับแรกๆของ “นักการเมืองขี้ฉ้อ” แต่ดันมีอำนาจกับตำรวจจอมสร้างภาพ ถามว่าทำไมต้องมาลงที่ แม่ค้า-พ่อค้า รายย่อยแบบนี้ ก็ต้องตอบว่าพวกนี้มันเหมือนกับ “หมูในอวย” แถมไม่มีกำลังมาต่อต้าน ขณะเดียวกันต้องถามต่อไปอีกว่าเมื่อจับกุมแม่ค้าปลาซิวเหล่านี้แล้วปัญหาจะคลี่คลายหรือไม่ ก็ต้องตอบแบบฟันธงอีกว่า “ไม่มีทาง” เพราะนี่คือการสร้างภาพฉาบฉวย “แบบกระจอก” เท่านั้น ซึ่งนักการเมืองกระจอกก็มักชอบทำอยู่เสมอ

00 เพราะอย่างที่บอกนี่คือการไล่จับกุม ปลาเล็กปลาน้อย ไม่ใช่ต้นตอที่แท้จริง เพราะตัวการไม่กระทบกระเทือน อย่าง “ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว” เป็นรายใหญ่ๆ ไม่มีการแตะต้อง เพราะพวกนี้ล้วนเป็น “ทุนใหญ่” ขาใหญ่ และมีไม่น้อยให้เงินอุดหนุนพรรครัฐบาล และมันก็ถูกที่ชาวบ้านแม่ค้าร้านโชห่วยที่ถูกจับบอกว่าตนเองซื้อมาจาก “ห้าง” ขวดละ 47 บาทแล้วมาขายต่อขวดละ 49-50 บาท กำไรแค่ขวดละ 2-3 บาท ซื้อมาไม่เกินครั้งละ 2-3 ลังเพราะมีเงินหมุนได้แค่นั้น อีกมุมหนึ่งกลายเป็นว่าไปทำลายร้าน “โชห่วย” ที่กำลังจะตายอยู่แล้วให้ “ตายสนิท” ต่อไปก็จะเหลืออยู่แต่ “ห้างยักษ์ใหญ่” ของต่างชาติ ได้กำไรก็ขนเงินกลับบ้าน “แม่มมัน” นี่หรือวิธีบริหารจัดการของ “นายกฯนักเรียนนอก” เออ เจริญละ !!

00 ต้องบอกว่านี่คือการบริหารจัดการที่ล้มเหลวของ รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และภายใต้การกำกับดูของ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงที่ชื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ อีกแล้วครับพี่น้อง เพราะงานนี้เขา “แถ” เข้ามาควบคุมในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ และต้องบันทึกจดจำเอาไว้ให้ขึ้นใจว่าถ้าลองคนนี้เข้าไปจับเรื่องอะไรก็แล้วแต่ มักมีแต่เรื่องความ “ฉิบหาย” มาเยือนชาวบ้านทั้งสิ้น
 
00 อย่าเพิ่งเชื่อก็ได้ แต่ขอให้ลองหลับตาทบทวนผลงานมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่าสมัยที่เป็น รมช.เกษตรฯ มีเรื่องอะไร ทำให้ รมว.เกษตรฯตอนนั้นคือ นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ พังมาแล้วด้วยเรื่องอะไร ชวน หลีกภัย พังมาแล้วใช่หรือไม่ อ้อขณะเป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ก็ไม่อาจควบคุมสถานการณ์ได้ ปล่อยให้ “แดงเผาเมือง” ผู้นำมหาอำนาจต้องหนีหัวซุนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์โลก และขอโทษ “พี่เมีย” คนปัจจุบันที่ชื่อ นิพนธ์ อีกแล้วครับทั่นก็เกือบตายที่มหาดไทย จำได้ป่าว !!

00 คราวนี้กำลัง “จับคู่” กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดันหลังให้ไปจับมือยอมให้ เนวิน ชิดชอบ กับ ประวิตร วงษ์สุวรรณ เชิดอยู่ข้างหลัง ก็กำลังจะ “จมน้ำมันปาล์ม” ตายอย่างน่าสะอิดสะเอียน เพราะเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ไอ้ที่คุยว่า “ฝาสีชมพู” จะวางขายไม่อั้น แล้วเป็นไงทำได้อย่างที่โม้ไว้หรือไม่ ชาวบ้านยังแย่งจนแทบเหยียบกันตายเหมือนเดิม แถมเวลานี้ “วิกฤติน้ำตาล” กำลังจ่อคอเข้ามาอีก หลังจากหาซื้อยากมานานเป็นเดือนแล้ว อ้อไอ้ประเภทที่ยืนยันว่า “ไม่ขาดแคลน” บอกไว้ล่วงหน้าเลยว่าให้คิดเป็นตรงกันข้าม นั่นคือต้อง “ขาดแคลน-แพง” แน่นอน ทุด !!

00 ไม่รู้เป็นเพราะหวังว่าจะให้ปัญหาเรื่องน้ำมันปาล์มฝาสีชมพูออกมาสู่ตลาดให้มากกว่านี้จนทำให้ปัญหาเริ่มคลี่คลายลงหรือเปล่า จึงมีข่าวว่าจะเลื่อน “ญัตติซักฟอก” ของฝ่ายค้านออกไปวันที่ 15-19 มี.ค.นี้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามนาทีนี้ถือว่า “มาร์ค” อาการหนัก “หมดสภาพ” นักเรียนนอกไปแล้ว

00 ประเด็นต่อมาก็คือความล้มเหลวในการรักษาอธิปไตย ทำลายศักดิ์ศรีของชาติ ทำให้ต้องเสียดินแดนอย่างถาวร และที่สำคัญข้ออ้างถึงผลดีเอ็มโอยู 43 ในเรื่องการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชาป้องกันประเทศที่สาม หรือองค์การระหว่างประเทศเข้ามาแทรกแซงก็ “ขี้หกทั้งเพ” เพราะล้มเหลวกลายเป็นตรงกันข้ามทุกเรื่อง ทั้งเรื่องทวิภาคีที่ “ผู้นำกุ๊ย” ฮุนเซน เอาเท้าลูบหน้าย้ำเป็นครั้งร้อยว่า “ไม่คุยด้วย” หากจะคุยต้องมีประเทศที่สามอยู่ด้วย ชัดมั๊ย มาร์ค !!