เจาะปัญหาไทย-กัมพูชาแบบครบวงจร(ตอนสี่)

“สอดแนมการเมือง”
โดย…ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

รู้เขารู้เรา ร้อยศึกบ่พ่าย “ซุนวู่”กล่าวไว้ในตำราพิชัยสงคราม!

เมื่อคนไทยรู้เขา..นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าเป็นบุรุษที่กระสันต์อยากเป็นนายกรัฐมนตรีนานๆ และเป็นนายกฯอีกครั้งหนึ่งหลังการเลือกตั้ง...

คนไทยยังรู้ทันเบื้องลึกอีกว่า..นายอภิสิทธิ์นั้น เป็นแค่นายกฯหุ่นเท่านั้นเอง ที่มีเทพเทือก-ยี้ห้อย-ป้อมปุ๊คลุ๋ค คอยชักคอยเชิดอยู่ตลอดเวลา!

นายกฯตัวจริงเสียงจริงเหล่านั้น ทำให้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯที่ทำได้แค่ยืนเกาะโพเดียม คอยพูดจาเสนาะหูเอาตัวรอดไปวันๆ ด้วยการโกหกพกลม สร้างความหวังลมๆ แล้งๆ ที่นายกฯ อภิสิทธิ์ทำจริงไม่ได้ ส่วนเรื่องรัฐบาลคอร์รัปชั่นโกงกินบ้านเมือง และเขมรรุกรานยึดครองดินแดนไทยนั้น

นายกฯอภิสิทธิ์ทำตัวเป็น“สากกะเบือ” ไม่กล้าปราบปรามการคอร์รัปชั่นในรัฐบาลของตนเอง แถมไม่กล้าป่าวร้องว่า กัมพูชารุกรานยึดครองดินแดนไทยให้ชาวโลกได้รับรู้เลย

เมื่อต้องพึ่งมือนักการเมืองชั่วหนุนให้ตนเป็นนายกฯ นายกฯอภิสิทธิ์ก็กลายเป็นรัฐบาลชั่วช้า เลวทรามไม่ต่างไปจากรัฐบาลทักษิณ..กระทั่งบางเรื่องยังเลวร้ายกว่าอีกด้วย

อภิสิทธิ์-จึงไม่สนใจหรือจงใจขยิบตาให้ คณะรัฐมนตรีโกงกินกันอย่างมโหฬาร จนเศรษฐกิจไทยตกอยู่ในสภาพข้าวยากหมากแพง ถึงขนาดคนไทยต้องเข้าคิวซื้อน้ำมันพืชเป็นครั้งแรกของชาติไทย!

อภิสิทธิ์-จึงเสมือนจงใจ-ตั้งใจ-สมยอม ให้รัฐมนตรีบางคนเอาแผ่นดินไทย“เท่าแมวดิ้นตาย” ไปยกให้ชาติเขมรเพื่อแลกกับผลประโยชน์ตามแนวชายแดนบนบก และน้ำมันใต้ท้องทะเลไทย-กัมพูชา ที่มีมูลค่ากว่า 5.5 ล้านๆบาท

อภิสิทธิ์-จึงเสมือนจงใจทำให้ชาติไทยเสียเปรียบ ต่อชาติเขมรแทบทุกเรื่องมาโดยตลอด ทั้งๆที่รู้ว่า..บริเวณผืนดินโดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร ถูกประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติฯมาตั้งแต่ปี 2541 โดยนายกฯ ชวน หลีกภัย เป็นผู้ลงนามฯในกฏหมายฉบับนั้น

ทำไมนายกฯอภิสิทธิ์ไม่ยอมจัดการให้ MOU2543 ซึ่งเกิดทีหลังเป็นสิ่งโมฆะล่ะ?

ความผิดปกติไม่ชอบมาพากลอยู่ตรง นายชวน หลีกภัย ที่รู้ทั้งรู้ว่า..ตนเคยลงนามในกฏหมายอุทยานแห่งชาติพระวิหารเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ทำไมยังเป็นตัวทำคลอด MOU2543 อีก?

นายชวนจึงเป็นคนทำให้เกิดเส้นแบ่งเขตแดนที่ทับซ้อนขึ้นเป็นครั้งแรก บนผืนแผ่นดินไทยหลังสันปันน้ำที่ยึดถือกันมา ตั้งแต่ปีคศ.1904 และปี ค.ศ.1907 เปิดช่องให้เขมรถือโอกาสแอบอ้างผืนดิน ในเขตแผนที่ฯ 1 ต่อ2 แสนทั้งหมด(ซึ่งเคยเป็นของไทยชาติเดียว) ยึดเป็นดินแดนของประเทศเขมรแต่เพียงผู้เดียว

เพื่อยืนยันว่า..ดินแดนดังกล่าวเป็นของชาติเขมรจริงๆ ฮุนเซนจึงส่งทหารเข้ามายึดดินแดน
ไทย ทั้งยอดภูมะเขือ-ตั้งหมู่บ้าน-ตลาด-วัด-สร้างเครือข่ายการสื่อสาร-สร้างถนนขนอาวุธ ขึ้นมาทำร้ายชาติไทยอยู่ตลอดเวลา

โดยรัฐบาลไทยนับแต่ นายชวน หลีกภัย ทักษิณ ชินวัตร พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ สมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปัจจุบัน ไม่เคยได้ดำเนินการผลักดันใดๆ ให้ทหารเขมรออกพ้นไปจากดินแดนไทยเลย

เรียกว่า..ฮุนเซนละเมิด MOU2543มาโดยตลอด จะยึดก็เฉพาะในข้อที่เขมรได้เปรียบไทยเท่านั้น เช่น เขมรยึดแผนที่ฯ1ต่อ2 แสน ที่เขมรได้ประโยชน์จากเส้นเขตแดน ซึ่งรุกล้ำลึกเข้ามาในดินแดนของชาติไทยนั่นเอง

นายกฯ ชวนเป็นนักกฏหมายมือฉมัง แต่ทำไมถึงทำเรื่องไม่ชอบมาพากลอย่างนี้ได้? จากปี2543 จนถึง ปี 2554 ไม่เคยมีคำตอบใดๆหลุดออกจากปาก นายชวน หลีกภัย เลย!

อภิสิทธิ์-รู้ทั้งรู้แก่ใจว่า MOU2543 ซึ่งรับรองแผนที่ฯ1ต่อ2 แสน ทำให้เกิดปัญหาเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชาตราบทุกวันนี้ เมื่อประชาชนและผู้รู้เรียกร้องให้ยกเลิก MOU2543 ยกทิ้งแผนที่ฯ 1 ต่อ 2 แสนเจ้าปัญหาไปเสีย

นายอภิสิทธิ์กลับดื้อดึงดันทุรังจะกอด MOU2543 ซึ่งทำให้ชาติไทยเสียเปรียบชาติเขมรในทุกด้านต่อไป โดยโกหกว่า..หากยกเลิก MOU2543 ไทยจะไม่มีเวทีพูดคุยกับชาติเขมร

ที่สำคัญไทยจะสูญเสียสิทธิการเจรจาแบบทวิภาคี และทำให้ไทยอาจจะเสียดินแดนอีกครั้งหากเขมรยกข้อพิพาทนี้ไปสู่ยูเอ็นหรือศาลโลก

สู่ยูเอ็นนั้น..สหประชาชาติมีกฏบัตรระบุชัดว่า ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวในความขัดแย้ง ต่อประเทศทวิภาคี..หากความขัดแย้งนั้น ไม่ส่งผลร้ายต่อความมั่นคงของโลกโดยส่วนรวม

ส่วนศาลโลกน่ะหรือ..ไทยได้ถอนตัวออกจากภาคีศาลโลกแล้ว หลังไทยสูญเสียตัวปราสาทพระวิหารให้กับชาติเขมร เพราะศาลโลกคือแหล่งมั่วสุมของชาตินักล่าอาณานิคม ที่ทำให้การตัดสินคดีความไร้ความยุติธรรมไงล่ะครับ

ส่วนเวทีเจรจาต้าอ่วยนั้น ทั่วโลกล้วนรู้ว่า..ชาติใดปฏิบัติการแข็งแกร่งกว่าในทุกรูปแบบย่อมได้เปรียบบนโต๊ะเจรจาไม่ว่าจะทวิภาคี หรือมีประเทศที่สามมาไกล่เกลี่ย หรือคอยสังเกตการณ์เป็นพยานเสมอ

ทว่า..อภิสิทธิ์-ไม่คิดจะครองความได้เปรียบใดๆต่อชาติเขมร การละเมิด MOU2543 ของเขมรฮุนเซน อภิสิทธิ์จึงทำเพียงแค่ส่งจดหมายประท้วงแล้วประท้วงอีก แต่เขมรฮุนเซนไม่ได้ให้ความสนใจแม้แต่น้อย เพราะวินาทีนี้..ชาติเขมรได้เปรียบชาติไทยทุกประตูไงล่ะครับ

อภิสิทธิ์-น่าแปลกใจที่อภิสิทธิ์ไม่สนใจข้อเรียกร้องของประชาชน และผู้รู้ที่อาวุโสใดๆ ในสังคมไทยเลย ดังเช่น ดร.อดุลย์ วิเชียรเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการมรดกโลก ได้เสนอให้ไทยถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลกโดยด่วน มิฉะนั้นไทยจะต้องเสียดินแดนให้กับชาติเขมรอย่างแน่นอน

แต่อภิสิทธิ์ก็ไขสือ..ทำหูทวนลม..แถมยังดื้อด้านประกาศ ไม่ถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลกโดยเด็ดขาด ด้วยการโกหกอีกว่า..หากถอนตัว..จะไม่มีเวทีคัดค้าน การขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของเขมร ทั้งๆที่ชาติเขมรนั้น..ได้ขึ้นทะเบียนตัวปราสาท เป็นมรดกโลกเรียบร้อยไปแล้ว

เหลือก็เพียงแค่แผนบริหารจัดการพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ซึ่งเป็นแผ่นดินของชาติไทย..แต่กัมพู
ชาแอบอ้างว่า เป็นแผ่นดินของกัมพูชาแต่เพียงผู้เดียว เพราะอยู่ในเขตแผนที่ฯ 1 ต่อ 2 แสน

มิถุนายน 2554 ที่ไกล้จะถึงนี่แหละ..ที่คณะกรรมการมรดกโลก จะตัดสินแผนงานบริหารจัดการพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ของกัมพูชาว่า..จะผ่านหรือไม่? หากผ่าน..การทวงคืนดินแดนไทยจะยุ่งและยากขึ้น เพราะมิใช่เรื่องของไทยกับเขมรอีกแล้ว แต่จะมีต่างชาติไม่ต่ำกว่า7 ชาติเข้ามาเกี่ยวข้องบนผืนแผ่นดิน ที่เขมรยึดไปจากประเทศไทยอย่างหน้าด้านๆ ไงล่ะครับ

ความเพลี่ยงพล้ำทั้งหมดของชาติไทย เกิดขึ้นจากน้ำมือของรัฐบาลอภิสิทธิ์ทั้งสิ้น!

ดังนั้น ภาคประชาชนจึงต้องออกมาชุมนุม แบบปักหลักพักค้างบนถนนมัฆวานฯ เพื่อนำข้อเท็จจริงและหลักฐานออกมาเผยแพร่ เปิดโปงให้เห็นถึงความชั่วและความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ทั้งการโกงชาติบ้านเมืองและทำให้ชาติไทยเสียดินแดนให้ชาติเขมร

การชุมนุมนี้ได้ส่งผลสะเทือนในทางลบ ต่อตัวนายกฯอภิสิทธิ์และรัฐบาลของเขา รวมทั้งพรรคปชป.อย่างรุนแรง เพราะเป็นการชุมนุมเพื่อผลักดันให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ ต้องทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยและดินแดนไทย มิให้เสียให้ชาติเขมรนั่นเอง

พูดตรงๆ ก็คือ..ประชาชนคนไทย ไม่ยอมปล่อยให้“นักมวยไทย-อภิสิทธิ์” ทำตัวสมยอมหรือซูเอี๋ยกับ“นักมวยเขมร-ฮุนเซน”แบบ“มวยล้มต้มคนดู”ไงล่ะครับ

แหม..ก็ชาติไทยมีศักยภาพเหนือกว่าเขมรทุกด้าน แต่ตลอด2 ปีกว่า..นายกฯอภิสิทธิ์ทำให้ชาติไทยพ่ายแพ้เขมรฮุนเซนทุกประตู

งานนี้เขียนบทไม่เนียน..มันผิดปกติและผิดธรรมชาติ จริงไหม..มาร์ค-เทือก-ป้อม-ห้อย..?