“ประพันธ์” เปิด 17 รายชื่อสมาชิกกลุ่มการเมืองคิงเพาเวอร์ ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ให้ ปชป.ผ่านทาง “สุเทพ” ชี้ชะตากรรมของประเทศชาติอยู่ในกำมือคนพวกนี้ ส่วน “อภิสิทธิ์” ไร้ค่าเป็นแค่หุ่นเชิด พร้อมจี้คน ปชป.ร่วมมือกับประชาชน อย่านิ่งดูดายปล่อยให้ “เทือก-มาร์ค” ทำลายประเทศ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”
วานนี้ (22 ก.พ.) นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมุนมของพันธมิตรฯ ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีว่า การเมืองทุกวันนี้ถูกครอบงำด้วยกลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นมรดกบาปจากนายทักษิณทั้งนั้น นักการเมืองทุกวันนี้เอาแบบทักษิณหมด มาจนถึงปัจจุบันก็กลายเป็นอภิมหาโคตรโกง อภิมหาหน้าด้าน
หลังจากที่นายทักษิณหมดอำนาจลง การโกงกินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ตนต้องเอาเรื่องนี้มาพูด เพราะคนที่คุมกลไกอำนาจรัฐอยู่ในขณะนี้ และบงการรัฐบาลอภิสิทธิ์ในตอนนี้ คือกลุ่มธุรกิจ กลุ่มทุนกลุ่มนี้ นายอภิสิทธิ์เป็นเพียงหุ่นเชิดไม่มีราคาอะไรเลย ตนถึงไม่เคยเคารพเลย ถ้าเป็นคนดีจริงก้มหัวให้ความชั่วทำไม
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า สนามบินสุวรรณภูมิมีการลงทุนเป็นแสนล้าน แต่เงินที่ลงไปกลายเป็นขุมทองให้ระบอบทักษิณ และเมื่อกลุ่มการเมืองใหม่มาแทนก็คือรัฐบาลชุดปัจจุบันนั่นเอง โดยมีการโกงหมดทุกโครงการ คตส.ก็ตรวจสอบแล้ว แต่ที่อัปยศที่สุดคือโกงเรื่องพื้นที่ทำเป็นเชิงพาณิชย์ที่เป็นร้านค้าต่างๆ และโกงสัญญาที่จะทำเป็นร้านค้าปลอดภาษีคิงเพาเวอร์ 2 อันนี้เป็นการโกงที่มโหฬารที่สุด และคนที่รวยจากการโกงนี้มากสุดเวลานี้คือนายทุนใหญ่ที่สุดของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย พูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของบริษัท คิงเพาเวอร์ และนายวิชัย รักศรีอักษร
นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า ความผิดของคิงเพาเวอร์ คือได้สัมปทานเปิดร้านค้าปลอดภาษีในสนามบินสุวรรณภูมิโดยที่ไม่ต้องประมูล และยังได้สิทธิในพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้วย ร้านค้าต่างๆต้องจ่ายให้คิงเพาเวอร์ เรียกได้ว่าทั้งสนามบินเป็นห้างสรรพสินค้าของนายวิชัย รักศรีอักษร
เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง 19 ก.ย. ก็ได้มีคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและสรุปว่ามีความผิดจนให้ยกเลิกสัญญากับคิงเพาเวอร์ไปแล้วพร้อมกับเรียกค่าเสียหาย แต่พอเปลี่ยนรัฐบาล นายสุเทพไปเอานายเนวินมากอดกับนายอภิสิทธิ์ นั่นเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมือง
นายประพันธ์กล่าวแจงว่า กลุ่มอำนาจใหม่ทางการเมือง มีดังนี้ 1.นายศรีสุข จันทรางศุ เป็นคนวางแผนให้นายวิชัยไปจูบปากกับนายเนวิน และเอาเนวินไปจับกับสุเทพ 2.นายปิยะพันธ์ จำปาสุต วันนี้ถูกภูมิใจไทยตั้งให้เป็นประธานบอร์ดท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ทอท. ซึ่งก็เป็นพวกเดียวกันกับนายวิชัย จนกระทั่งไปกลับมติไม่ยกเลิกสัญญาคิงเพาเวอร์ แถมต่อสัญญาให้อีกต่างหาก 3.นายวิชัย รักศรีอักษร จำเป็นต้องอาศัยอำนาจการเมืองเพื่อธุรกิจของตัวเอง และกลายเป็นมิตรแท้ของนายสุเทพ และนายเนวิน 4.นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม เวลานี้เป็นปลัดคมนาคมในสังกัดภูมิใจไทย
5.นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้งสนามบินหาคนที่ไม่ใช่คนของคิงเพาเวอร์ไม่มีเลย 6.นายเนวิน ชิดชอบ คนนี้ที่เป็นเพื่อนรักกับนายวิชัยอย่างเหนียวแน่น 7.นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง มือขวานายเนวิน เป็นกรรมการบอร์ดการบินไทย
8.นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ 9. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ก่อนหน้านี้บริษัทของสองพ่อลูกนี้ อยู่ในสภาวะล้มละลาย แต่วันนี้กิจการเฟื่องฟู หลุดพ้นจากหนี้สินทั้งปวง 10.นายธีรพล นพรัมภา อดีตเลขาฯนายสมัคร ตอนนี้กลายเป็นมือขวาและเพื่อนคู่คิดของนายเนวินไปแล้ว
11.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ คนนี้สั่งคนในประชาธิปัตย์ทุกคนห้ามด่าว่าบริษัทคิงเพาเวอร์ ระหว่างที่คิงเพาเวอร์ถูกบอกเลิกสัญญา ก็เดือดร้อนสำนักงานกฎหมายเสนีย์ ปราโมทช โดย นายบัญฑิต ศิริพันธุ์ ต้องไปเป็นทนายให้ เรียกได้ว่าเอาใจนายวิชัย อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะเป็นกลุ่มธุรกิจทุนการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปัตย์ผ่านทางนายสุเทพ 12.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ วันนี้ก็ได้ร่วมก๊วนการเมืองนี้ไปเรียบร้อยแล้ว กลายเป็นคู่หูคู่คิดนายสุเทพ
13.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา คนนี้ก็ได้ร่วมเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของนายวิชัย ไปเรียบร้อยแล้ว
14.อากู๋แกรมมี่ นายไพบูลย์ ดำรงด์ชัยธรรม เป็นขาใหญ่และร่วมกลุ่มนี้ด้วย คนนี้ใกล้ชิดนายทักษิณมาก ตอนนี้ก็ได้ซื้อหุ้นมติชนไปแล้ว ตอนนี้มีหุ้นประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ 15.นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ พี่เมียนายสุเทพเลยเป็นคู่คิดที่สนิทแนบแน่นที่สุดกับสุเทพ เรื่องใดที่มีผลประโยชน์ในแผ่นดินนี้และเป็นเรื่องที่ประชาธิปัตย์เกี่ยข้อง ต้อง 2 คนนี้เท่านั้นเป็นคนตัดสินใจ 16.นายโสภณ ซารัมย์ ทำทุกอย่างตามที่เนวิน และชวรัตน์กำกับ ไม่มีหน้าที่ทำอย่างอื่น 17.พล.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เชื่อว่าคนนี้มีหุ้นในคิงเพาเวอร์ไม่น้อย และอาจเป็นตำรวจที่รวยที่สุด
นี่คือคอนเนกชันใหม่ทางการเมือง วันนี้นายวิชัยกลับมาใหญ่กลับมากร่างอีกครั้ง ภายใต้รัฐบาลที่มีสุเทพ เนวิน ประวิตร ชวรัตน์ คุมอยู่ ซึ่งเป็นคนของเขาทั้งนั้น ส่วนนายอภิสิทธิ์นี่ไม่อยากพูดถึงเรียกว่าแค่ขี้เล็บ เป็นเพียงหุ่นเชิด
การเมืองของประเทศวันนี้ รัฐบาลวันนี้ อยู่ในกำมือกลุ่มคนพวกนี้ และนักการเมืองเหล่านี้มีประวัติอย่างไรทุกคนรู้หมดว่าไว้วางใจไม่ได้ คนพวกนี้แหละที่มากำหนดชะตากรรมบ้านเมืองในยามนี้ ทั้งเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา เรื่องธุรกิจ การโกงคอร์รัปชัน อยู่ที่คนกลุ่มนี้ทั้งนั้น ใครจะทำโครงการอะไรทั้งหมดในประเทศนี้ต้องมาวิ่งเต้นที่นี่ ส่วนนายอภิสิทธิ์เอาไว้เกาะโพเดียมอย่างเดียว
นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า อยากถามพี่น้องประชาชน และผู้ใหญ่ในประชาธิปัตย์ ว่าจะนั่งดูดายให้ชาติบ้านเมืองถูกทำลายด้วยคนพวกนี้ต่อไปหรือไม่ ถ้าคนในประชาธิปัตย์เห็นว่านายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ สองคนนี้กำลังทำลายชาติบ้านเมือง ต้องร่วมมือกับประชาชนเอา 2 คนนี้ออกไป เราต้องลุกขึ้นมาช่วยกันขับไล่นักการเมืองพวกนี้ออกไปเสีย ไม่อย่างนั้นประเทศชาติล่มสลายแน่นอน
ประพันธ์ คูณมี ปราศรัย 22 ก.พ.2554
“ขอบคุณพี่น้องชาวไทยซึ่งอยู่ต่างประเทศ ผมขอพูดสักท่านหนึ่ง ซึ่งท่านมีความตั้งใจดีมาก อยู่ถึงนอร์เวย์ ส่งอีเมล์มาว่า "อยู่ถึงนอร์เวย์แต่รอฟังพี่ประพันธ์ และติดตามการชุมนุมตลอดนะคะ อยากให้พี่พูดถึงประเด็นการปล่อยตัวชั่วคราวของพวกแดง คือเห็นได้ชัดว่ามีความร่วมมือจากฝั่งรัฐบาลแน่นอน แล้วนี้ประเทศเราจะถึงแก่หายนะไหมคะ ยิ่งรัฐบาลอยู่นานบ้านเมืองจะล่มสลายไหมคะ รู้สึกห่วงพ่อแม่พี่น้องคนไทยจังเลย เครียด เครียดค่ะ พี่น้องรักษาสุขภาพด้วย ท่นน้ำอุ่นเยอะๆ นะคะ เอาใจช่วยไม่เคยขาด" นี่คนไทยที่อยู่ที่นอร์เวย์ อีกท่านหนึ่งรู้สึกจะเป็นคนไทยอยู่ภาคใต้ อยู่ที่ภูเก็ต ท่านบอกว่า ผมคนหนึ่งที่ติดตามการปราศรัยของพี่ประพันธ์ อาจจะจำได้ที่ภูเก็ต งานเสวนาปกป้องแผ่นดิน เคยเข้าไปทักพี่ว่ามีพ่อยกจะเชิญไปท่านเลี้ยงอาหาร แต่พี่ไปกับพันธมิตรฯ ภูเก็ต ร้านอาหารบนเขา ประมาณ 5 ทุ่ม หรืออาจไม่กล้าไปเพราะผมเป็นคนแปลกหน้า ไม่เป็นไรครับ แต่ขอชมว่า พี่ใจกล้าจริงๆ สมกับเป็นลูกผู้ชาย สู้นะครับ คนภูเก็ตก็ฟังเยอะ ตอนนี้ผมและพี่ๆ แกนนำพันธมิตรฯ ภูเก็ต ถ่ายทอดสด จัดเวทีเล็กๆ ปลายแหลมสะพานหินภูเก็ต คู่ขนานกับสะพานมัฆวานรังสรรค์ ผมก็เหมือนพี่ คือผมไม่กลัวตาย ถ้าสู้กับคนโกงชาติ ขายชาติ ไว้เจอกัน ขอบคุณจากพันธมิตรฯ ภูเก็ต
มีแบบนี้เยอะครับ วันนี้ผมมีโอกาสไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือหลายท่าน ก็ได้รับกำลังใจที่ดีมาก ทุกคนติดตามฟังรายการทาง ASTV ฟังการปราศรัย และสนับสนุนการยืนหยัดต่อสู้ชุมนุมของพวกเราครั้งนี้ทั้งนั้นเลยครับ ต้องปรบมือและขอบคุณพี่น้องประชาชนเหล่านั้น และผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลาย รวมทั้งพี่น้องที่อยู่ต่างประเทศ ไม่เพียงส่งกำลังใจมา ก็ยังส่งเงินส่งทองมาบริจาคช่วยพวกเราด้วย
พี่น้องที่เคารพรัก ก่อนที่ผมจะพูดถึงเรื่องที่ผมเตรียมมา อยากจะพูดคุยกับพี่น้องวันนี้ ผมฟังพี่สนธิพูดแล้ว ผมยืนอยู่ข้างหลังเวที ยอมรับว่าผมก็น้ำตาซึมเหมือนกันนะครับ สะเทือนใจ สะเทือนใจกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผมสะเทือนใจก็คือว่า ชีวิตทางการเมืองผม บอกตรงๆ ผมตั้งใจจะเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปตลอดชีวิต ซึ่งผมเข้าใจว่า พี่ชวน พี่บัญญัติ ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนก็รู้ดี และคนที่ชวนให้ผมสมัครเป็นสมาชิกแบบตลอดชีวิต คือ คุณชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ที่ผมปักใจเชื่อว่าผมจะอยู่และฝากอนาคตและฝากชีวิตไว้กับพรรคประชาธิปัตย์ ก็เพราะผมเชื่อว่า พรรคนี้ คนอย่างพี่ชวน ลูกชาวบ้านก็สามารถเป็นหัวหน้าพรรคได้ เป็นนายกฯ ได้ พวกผมก็มาจากลูกชาวบ้าน ไม่มีคำว่า ม.ร.ว.นำหน้า ไม่มีคำว่า เป็นพวกไฮโซไฮซ้อ ไม่มีชาติตระกูลสูงส่ง ผมก็เป็นแค่ลูก แม่เป็นครู พ่อเป็นข้าราชการธรรมดาไม่ได้ใหญ่โตอะไร เราก็เชื่อว่า โดยวิถีทางทางการเมือง โดยประเพณีและวัฒนธรรมทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าใครมีความสามารถ มีอุดมการณ์ มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเสียสละทำงานให้กับส่วนรวม ให้กับบ้านเมือง ก็น่าจะได้รับการสนับสนุนส่งเสริมเหมือนกับต้นแบบที่ผมเห็น ถ้าเด็กสมัยนี้เขาก็เรียกว่าเป็นไอดอล พี่ชวนก็เป็นต้นแบบที่ทำให้พวกเรามีความเชื่อเช่นนั้น แต่มาในตอนหลัง ความเชื่อเช่นนี้ของผมเริ่มหมดไปโดยลำดับ นี่คือความจริงว่า ทำไมผมจึงต้องออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์
แล้วสอง ผมมาทบทวนว่า ตั้งแต่ที่ผมเข้าสู่การเมือง และเข้าสู่พรรคประชาธิปัตย์ ผมไม่เคยเรียกร้องเอาประโยชน์ใดๆ จากพรรคประชาธิปัตย์เลย นี่คือความสัตย์จริง เห็นว่าเรื่องใดที่จะเป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมือง ผมก็กระโดดออกมาร่วมกับพี่น้องประชาชน เมื่อครั้งพฤษภาทมิฬ พล.อ.สุจินดา ปฏิวัติรัฐประหารรัฐธรรมนูญ สืบทอดอำนาจให้กับกลุ่มและพวกตนเอง ผมก็ออกมาสู้ ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเจ็บจะตาย จะยากลำบากอย่างไร ก็สู้ร่วมกับท่าน น.ต.ประสงค์ พล.ต.จำลอง สู้จนกระทั่ง พล.อ.สุจินดา พ้นจากอำนาจ เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พี่น้องก็รู้ว่ามันเป็นความรุนแรง เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายขนาดไหน เหตุการณ์ทางการเมืองครั้งนั้นนำมาสู่การเลือกตั้งและทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้ง และทำให้พี่ชวนได้เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งแรกในชีวิต 35/1 เมื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ และต้องยุบสภาด้วยกรณี ส.ป.ก.4-01 พล.อ.ชวลิต ขึ้นมาเป็นนายกฯ พล.อ.ชวลิต ทำให้บ้านเมืองเสียหาย เกิดเศรษฐกิจล้มละลายระเนระนาด สถาบันการเงินปิดหมด ผมก็ออกมาสู้ขับไล่ พล.อ.ชวลิต จนกระทั่งสามารถขับไล่ พล.อ.ชวลิต ออกไป ผมก็ดีใจมีความสุขที่พี่ชวนกลับมาเป็นนายกฯ รอบที่ 2 ครับพี่น้อง
นี่คือความผูกพัน ที่เคารพ และที่ไปทำอะไรมา ผมไม่เคยไปปรึกษาหรือไปขอความเห็น ผมทำตามความเชื่อ ความคิด และเห็นว่าอะไรควร อะไรไม่ควร อะไรถูกต้องอะไรไม่ถูกต้อง นี่คือความสัตย์จริง ที่ชาวประชาธิปัตย์ที่ไม่รู้จักผม อาจจะเขียนข้อความมากระแนะกระแหนผม แต่วันนี้หากไปหมดแล้วครับ เขาคงจะเริ่มเข้าใจแล้วว่า ประพันธ์ไม่ได้มีประโยชน์ส่วนตนอะไรที่มาสู้ตรงนี้ สู้เพื่อบ้านเพื่อเมือง เพื่อแผ่นดิน เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมโดยแท้ ไม่มีอะไรเป็นส่วนตน แล้วผมก็ออกมาโดยไม่ได้มีความแค้นเคืองอะไรกับใครเลย พรรคก็มีความรักความเมตตาผม ไม่ว่าคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ท่านแต่งตั้งผมเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี ในคราวนี้ที่คุณอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ ผมก็ตั้งใจทำงาน ผมกล่าวได้ว่า ผลงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ในช่วงเวลาที่คุณหญิงกัลยาเป็นรัฐมนตรี และผมไปช่วยทำงานนั้น ผมท้าได้เลยว่า หายากที่จะมีรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ คนไหนมีผลงานโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับ อย่างคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช แต่สุดท้ายคุณหญิงถูกปรับออกจากรัฐมนตรี เพียงเพราะไปตรวจไม้ชี้ป่าช้า นั่นละครับพี่น้อง อันนี้อาจจะทำให้ทหารบางคน และนักการเมืองขาใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะไม่พอใจ ไปปรับคุณหญิงกัลยาออกมา แต่ไม่เกี่ยวกับผม ผมลาออกมาก่อนแล้ว ไม่ได้โกรธแค้นเพราะปรับคุณหญิงแล้วออกมาอย่างนี้
สุดท้ายก็คือ สิ่งที่ผมเจ็บปวดที่สุด แล้วน้ำตาซึม ก็คือว่า ในวันที่เราจะออกมาชุมนุมขับไล่ทักษิณรอบที่ 2 ผมได้มีโอกาสไปทานข้าวกับท่านนายกฯ ชวน แล้วท่านก็เอาหลักฐาน ซีดีต่างๆ มาเปิดให้ผมฟัง ผมก็รู้ว่าบ้านเมืองชิบหายเพราะมีคนคิดร้ายต่อชาติ ต่อสถาบันสูงสุด มันด่าป๋าเปรม โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมว่าพี่ชวนก็คงช้ำใจ ที่สำคัญก็คือ ทักษิณโกงบ้านกินเมือง ในรอบแรกนั้นเราก็ออกมาสู้ เพราะเราไม่ต้องการเห็นบ้านเมืองมีนักการเมืองที่โกง ทุจริต อยากเห็นนักการเมืองน้ำดี อย่างพี่ชวน และพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีโอกาสบริหารบ้านเมือง อันนี้พูดโดยสัตย์จริงในใจลึกๆ คือหวังอย่างนั้น แต่มาวันนี้ ที่มันช้ำใจที่สุดคืออะไรครับ เราสู้กับคนโกง ไล่รัฐบาลทักษิณไป นึกว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค แล้วก็เป็นคนที่ท่านนายกฯ ชวน ก็ชื่นชมว่านายอภิสิทธิ์คงจะเป็นคนดี เป็นนักการเมืองหนุ่มที่จะฝากอนาคต ความหวังของบ้านเมืองไว้ได้ แต่ปรากฏว่า มันเลวยิ่งว่าเขาอีก มันจะไม่ช้ำใจอย่างไรครับพี่น้อง เรื่องโกง เรื่องทุจริต ที่ระบอบทักษิณทำเอาไว้ วันนี้ผมกล่าวได้เต็มปากเลยว่า คนของท่านที่ท่านรักทั้ง 2 คน ไม่ว่าอภิสิทธิ์ หรือสุเทพ ทำเหมือนเขาหมด แล้วก็หนักหน่วง เลวยิ่งกว่าเขาอีกครับพี่น้อง มันจะไม่ให้เราเจ็บปวดได้อย่างไร เพราะฉะนั้นเมื่อเราหนีออกมาจากสิ่งนั้นแต่กลับมาเจอเรื่องนี้ ที่ช้ำกว่านั้นก็คือ
และฝากกราบเรียนไปถึงท่านอดีตนายกฯ ชวน พี่บัญญัติ และผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคเหมือนกันว่า พวกเรามาชุมนุมวันนี้ คนที่จะมาเล่นงานเรา ตั้งข้อหา ดำเนินคดี หาทางจะทำลายสลายการชุมนุม คือหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่สั่งให้ตำรวจและ ครม.มีมติประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง พี่ครับ มันอัปยศไหมเรามาชุมนุมเพื่อปกป้องแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยของชาติ เปิดโปงคนโกงคนชั่ว แล้วทำไมกลายเป็นพรรคคุณมาทำร้ายทำลายพวกเรา มันเจ็บปวดไหมครับ ที่ผ่านมา ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาพวกผมเป็นพวกก่อการร้าย เป็นพวกกบฏ เป็นพวกผู้ร้าย เป็นโจร เป็นแก๊งโจร เป็นซ่องโจร สารพัด นั่นมันก็สุดจะฝืนทนอยู่แล้ว มาวันนี้ไม่ได้สำนึกเลยว่า ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนี้ หรือปล่อยให้คนพวกนี้ทำอยู่อย่างนี้ คนพวกนี้แทนที่จะเป็นมิตร เป็นพลังของประชาชนที่จะร่วมกันทำงานกับท่านเพื่อสร้างความดีงามให้กับบ้านเมือง สร้างสรรค์การเมืองที่ดีให้กับชาติบ้านเมือง เราก็เลยต้องยืนกันอยู่คนละฝั่ง ด้วยเหตุชะนี้เท่านั้นเองครับ ไม่มีเหตุโกรธแค้นเป็นส่วนตัวอะไรเลย
เพราะฉะนั้น ถ้ายังปล่อยให้สุเทพ อภิสิทธิ์ ลาก ดึงพรรคประชาธิปัตย์ไปอย่างนี้ มันก็แน่นอนละครับ พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องถึงกาลอวสาน ด้วยเหตุที่ประชาชนจะไม่มีวันให้อภัย ผมเฝ้ารอ รอมานานแล้วว่า เอ๊ะ พรรคประชาธิปัตย์ก็มีวัฒนธรรมในการต่อสู้ทางความคิดและหลักการ ทำไมจึงปล่อยให้เด็กวานซืน ซึ่งไม่ประสีประสาอะไรเลย นายอภิสิทธิ์ ผมบอกตรงๆ นะครับ พี่ชวน พี่บัญญัติ อย่าโกรธผมนะ ไอ้เด็กคนนี้ผมไม่นับถือมันเลยแม้แต่เศษธุลี มันเป็นคนใช้ไม่ได้ ไม่มีอะไรที่มีคุณค่าต่อชาติบ้านเมืองและประชาชน รวมทั้งต่อพรรคประชาธิปัตย์ และจะเป็นคนทำให้พรรคประชาธิปัตย์ฉิบหาย และพี่บัญญัติพูดกับผมเองว่า วันนี้พรรคการเมืองมันไม่เหลืออยู่แล้ว มันกลายเป็นลูกจ้างของบริษัทธุรกิจทุนการเมือง นี่พี่ญัติเป็นคนให้คำนิยามเองว่า พรรคการเมืองเวลานี้มันเป็นอย่างนี้ มันก็เป็นจริงครับ และไม่ได้เป็นจริงเฉพาะพรรคอื่น พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นแบบนี้กับเขาไปแล้วครับ แล้วมันจะเหลืออะไร บ้านเมืองจะพึ่งใคร ไม่มีแล้ว ต่อให้เลือกตั้งอีกกี่ครั้งคนก็ไม่มีความหวังกับการเลือกตั้งแล้ว เพราะเลือกตั้งจะได้พวกพรรคประเภทนี้กลับมาผสมพันธุ์กันผัดหน้าทาแป้งกันใหม่ ไม่มีอะไรดีขึ้นสำหรับชาติบ้านเมืองเลย ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจึงจะมานั่งงอมืองอเท้าดูเด็กวานซืนสมคบกับจรกาปู้ยี่ปู้ยำชาติบ้านเมือง ดูดายอยู่ได้ทำไมครับ วันนี้ถึงเวลาแล้วที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังมีสำนึกแห่งความรักชาติบ้านเมือง และยังมีอุดมการณ์ ควรจะต้องออกมา ถ้าไม่ออกมา
เรื่องที่ผมจะพูดต่อไปนี้ จะเป็นเรื่องที่ผมจะบอกให้รู้ว่า บ้านเมืองเวลานี้มันเป็นธุรกิจทุนการเมืองจริงๆ ครับ มันไม่มีการเมืองที่สร้างสรรค์ ที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองเลย และการเมืองวันนี้ตกอยู่ภายใต้กลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเดี๋ยวผมจะฉายภาพให้ดูว่ามันมีไอ้หน้าไหนบ้างที่สมคบคิดกันเป็นคนครอบงำประเทศ ครอบงำการเมือง และครอบงำสังคมอยู่ในขณะนี้ และชักพาชาติบ้านเมืองไปสู่หุบเหวแห่งความหายนะครับพี่น้อง
การเมืองวันนี้ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์วันนี้ เป็นมรดกบาป และเป็นผลสืบทอดมาจากการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชั่นต่อเนื่องมาจากระบอบทักษิณ มรดกบาปจากระบอบทักษิณทั้งนั้น และนักการเมืองวันนี้เลียนแบบและเอาอย่างทักษิณ ชินวัตร ทั้งนั้น ไม่ว่าการบริหารพรรค บริหารการเมือง และการทุจริตคตโกงในวงการธุรกิจและวงการราชการ เอาแบบทักษิณทั้งนั้น หาว่าเขาโกงเชิงนโยบาย หาว่าเขาโคตรโกง ปัจจุบันนี้มันอภิมหาโคตรๆ โกงเลยครับ และเป็นอภิมหาหน้าด้านๆๆ โกงทั้งนั้นเลยครับ นี่คือความจริง
วันที่ทักษิณหมดอำนาจไป โครงการทุจริตที่ใหญ่ที่สุด คือ การโกงและการทุจริตในการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ และวันนี้ผมจะพูดให้ฟังต่อจากเมื่อวานนี้ ว่าผมจะเอาเรื่องทุจริตในสนามบินสุวรรณภูมิมาพูดให้พี่น้องฟัง เพราะคนที่เป็นคนคุมกลไกอำนาจรัฐอยู่ในขณะนี้ และบังคับบัญชาบงการรัฐบาลนายอภิสิทธิ์อยู่ในขณะนี้ คือ กลุ่มธุรกิจกลุ่มทุนกลุ่มนี้ครับ นายอภิสิทธิ์เป็นเพียงหุ่นเชิด ไม่มีราคาอะไรเลยครับ ผมถึงไม่เคารพไงครับ ถ้าเป็นคนดีจริงจะก้มหัวให้กับความชั่วทำไม ต้องกล้าสู้ ถ้าคุณไม่กล้าสู้กับความชั่ว การทุจริตคตโกง การขายชาติ คุณก็ควรจะไสหัวคุณออกไปจากแผ่นดินนี้ ไม่ควรจะมานั่งอยู่ทำไมกับตำแหน่งนายกฯ สำคัญว่าเป็นนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยอวดอ้างความมีอุดมการณ์และโจมตีพรรคอื่นว่าซื้อเสียง โกงทุจริต แล้ววันนี้คุณจะชี้หน้าด่าใคร เมื่อคุณชี้ไป 1 นิ้ว อีก 4 นิ้วมันชี้ไปที่พรรคคุณและตัวคุณทั้งนั้นเลย
เมื่อทักษิณหมดอำนาจไปใครเข้ามาแทน เดี๋ยวผมจะพูดให้ฟัง แต่ก่อนจะถึงตรงนั้น พี่น้องดูเรื่องการทุจริตในสนามบินสุวรรณภูมิก่อน สนามบินสุวรรณภูมิเป็นโครงการที่ลงทุนนับแสนล้าน ที่ผมบอกว่านับแสนล้าน เฉพาะตัวอาคาร อาคารเทียบท่าจอดสนามบินส่วนหนึ่ง 4 หมื่นกว่าล้าน รันเวย์อีก 3-4 หมื่นล้าน โดยรอบรอบมีหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน เมื่อรวมแล้วเราลงทุนไปกับสนามบินนี้เป็นแสนล้าน แต่แสนล้านที่รัฐบาลไทยลงไปกลายเป็นขุมทองให้กับกลุ่มธุรกิจการเมืองในระบอบทักษิณไปแล้วในชุดก่อน เมื่อทักษิณไปแล้วก็มีกลุ่มใหม่เข้ามาแทนที่ กลุ่มใหม่ที่เข้ามาแทนที่ก็คือ รัฐบาลชุดปัจจุบัน การทุจริตเริ่มแรกเริ่มจากทุจริตก่อสร้างอาคารสนามบิน ตัวอาคารสนามบิน ที่ทุจริตคือ มีการแก้แบบ มีการแก้รายการวัสดุก่อสร้าง มีการปรับลดจำนวนอุปกรณ์ มีการปรับลดเงื่อนไขสัญญา และมีการปรุงแต่งราคากลางของเนื้องาน แก้ไขมาเพื่อประมูล ปรากฏบริษัท อีตั้นไทย ประมูลได้ 36,660 ล้านบาท ตัวอาคารนะครับ ราคาต่ำกว่าราคากลางแค่ 127 ล้านเท่านั้นเอง นี่แสดงว่าฮั้วกันอยู่แล้ว เมื่อมีการประมูลได้ สร้างอาคารขึ้นมา ปรากฏว่าตัวอาคาร 1.สร้างล่าช้า 2 ปี ต้องมีค่าปรับ รัฐบาลไม่ได้ปรับเขา ผู้ใช้บริการสนามบินต่างประณามว่าเป็นสุสานแห่งความอัปยศ ห้องน้ำไม่มี เดินไปทางไหนมีแต่ร้านค้าเต็มไปหมด กลายเป็นพื้นที่ร้านค้า กลายเป็นศูนย์การค้าของ นายวิชัย รักศรีอักษร ทั้งสนามบินเลยครับ
ความอัปยศทั้งหลายในสนามบินนั้น เมื่อมีการทุจริตคอร์รัปชั่นในการก่อสร้างตัวอาคารสนามบิน สิ่งที่เป็นเครื่องประกอบตัวอาคาร ไม่ว่าเครื่องเอ็กซเรย์ CTX ไม่ว่ารถเข็น ไม่ว่าระบบสายพานลำเลียง ไม่ว่าระบบแคทเธอริ่ง งานก่อสร้างอื่นที่เป็นองค์ประกอบในสนามบินสุวรรณภูมินั้น โกงหมดทุกโครงการไม่ต้องพูดถึง คตส.ตรวจสอบแล้ว แต่เรื่องหนึ่งที่เป็นการโกงที่อัปยศที่สุด คือโกงเรื่องพื้นที่ที่จะทำเป็นเชิงพาณิชย์ ที่เป็นร้านค้า และโกงสัญญาที่จะทำเป็นร้านค้าปลอดภาษีของบริษัทคิงเพาเวอร์ 2 อันนี้เป็นการโกงที่มโหฬารที่สุด และคนที่รวยที่สุดที่ได้ประโยชน์สูงสุดจาก 2 เรื่องนี้ เวลานี้คือนายทุนใหญ่ที่สุดของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ครับพี่น้องครับ ผมจึงอยากจะให้พี่น้องดูซีดีชุดนี้ว่า นายคนนี้มีวิธีโกงในโครงการทั้งสอง ที่ผมพูดมาอย่างไร และทำไมต้องเข้ามาเกี่ยวกับการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ เพื่อไปแก้แค้นในสิ่งที่ถูกยกเลิกสัญญาในช่วงที่พวกผมไปตรวจสอบ พวกผมได้เข้าไปตรวจสอบการทุจริตคตโกงของบริษัทคิงเพาเวอร์ ไม่ว่าโกงพื้นที่พัฒนาในเชิงพาณิชย์ โกงพื้นที่สินค้าปลอดภาษี และได้สัมปทานได้สัญญามาโดยไม่ชอบอย่างไร เดี๋ยวท่านดูซีดีชุดนี้ เพราะผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศยังไม่ได้ดู และยังไม่รู้ว่าเขาโกงกันอย่างไร เมื่อพี่น้องดูแล้ว คนไทยที่อยู่ต่างประเทศ คนไทยที่อยู่ทางบ้านที่ไม่เคยดู จะได้มีพื้นฐานร่วมกัน ซีดีนี้ใช้เวลาประมาณเกือบ 20 นาที แล้วหลังจากนั้นผมจะสรุปให้ฟังว่า การโกงครั้งนี้นำมาสู่การเมืองวันนี้ และนำมาสู่การครอบงำรัฐบาลอยู่นี้อย่างไร และรัฐบาลที่บริหารประเทศอยู่นี้พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า เป็นรัฐบาลของบริษัทคิงเพาเวอร์ และนายวิชัย รักศรีอักษร ผมขอให้พี่น้องดูซีดีชุดนี้ร่วมกัน ที่เป็นผลงานในช่วงที่พวกผมเข้าไปตรวจสอบการทุจริต เชิญครับ
(..........VTR...........)
พี่น้องครับ ท่านที่สนใจขอซีดีไปดูชัดๆ อีกครั้ง ปัญหาก็คือ ท่านคงจะแปลกใจ ทำไมผมเอาเรื่องนี้มาพูด มันเป็นเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นในยุคสมัยทักษิณ ชินวัตร ที่ผมเอาเรื่องนี้มาพูดเพราะว่า การทุจริตคดโกงในสนามบินสุวรรณภูมินั้น มันเป็นอมตะนิรันดร์กาล มันกินกันแบบอกาลิโก กินกันต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลชุดนี้ และยังโกงยังทุจริตต่อไป ยังเป็นเงินที่นำมาใช้ในทางการเมือง และเป็นกระเป๋าเงินค้ำจุนพรรคการเมืองอยู่ในขณะนี้ ผมจึงจำเป็นต้องเอามาพูด และจะชี้ให้ท่านเห็นว่า ก่อนอื่นท่านต้องเข้าใจก่อนว่า มันมีการทุจริตกันมาอย่างไรซะก่อน แล้วปัจจุบันนี้ใครเป็นคนเข้ามารับผลกระโยชน์ต่อจากคราวที่แล้ว และเขาดำเนินการกันอย่างไร อำนาจทางการเมืองของรัฐบาลปัจจุบันเข้ามาเอื้อประโยชน์ใก้กับกลุ่มธุรกิจนี้อย่างไร จึงทำให้กลุ่มธุรกิจนี้เป็นกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มอำนาจทางการเมืองปัจจุบัน นี่คือปัญหาน่าสนใจ
พี่น้องครับ สรุปง่ายๆ ถ้าท่านดูจากซีดีนี้ก็คือ 1. บริษัทคิงเพาเวอร์ได้สัญญามาเป็นผู้ประกอบธุรกิจร้านปลอดภาษีที่สนามบินสุวรรณภูมิได้มาโดยที่ไม่ต้องประมูล นี่คืออันที่ 1 ทั้งๆ ที่บริษัทคิงเพาเวอร์เคยได้สัญญาอยู่ที่สนามบินดอนเมือง พอมีการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นคนละสนามบิน และสนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินที่ใหญ่มาก และมีพื้นที่ในการจะเปิดธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีใหญ่กว่าดอนเมืองเยอะ ความจริงแล้วบริษัทคิงเพาเวอร์ไม่ควรจะโอนสิทธิ์ในการจะได้สิทธิ์มาทำร้านค้าปลอดภาษีที่สุวรรณภูมิ แต่เขาหาวิธีซิกแซ็ก ด้วยกลอุบายต่างๆ อย่างที่พูดมาในซีดี ก็คือไปถามกฤษฎีกา บอร์ดการท่าอากาศยานเขาก็บอกว่าทำไม่ได้ต้องประมูล เพราะโครงการนี้มีมูลค่ามากกว่าพันล้าน เขาก็หาวิธีวิ่งเต้นจนกระทั่ง ถามกฤษฎีกาไป 3 ครั้ง 4 ครั้ง เปลี่ยนบอร์ดเปลี่ยนกรรมการก็เอากรรมการใหม่ไปถาม และใช้นักวิชาการจากจุฬาฯ มาทำศึกษาวิจัยเพื่อให้ความเห็นว่า ธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีที่สนามบินสุวรรณภูมิมูลค่าไม่ถึงพันล้าน ทั้งๆ ที่พื้นที่ 5 พันตารางเมตร และมูลค่าของสินค้า รวมทั้งมูลค่าสิ่งปลูกสร้างที่ทำขึ้นมา อย่างไรก็เกินพันล้าน แต่ทำแบบโกงหน้าด้านๆ โดยมีประธานบอร์ดการท่าฯ ชื่อ นายศรีสุข จันทรางศุ เป็นหัวเรือใหญ่ เพราะฉะนั้นเมื่อได้สัญญามาโดยไม่ชอบ แล้วคณะกรรมการพิจารณารายได้ช่วยกันมาหมด เดี๋ยวไปดูซีดีตามทีหลัง
แต่ที่ผมจะพูดให้ฟังคือว่า เมื่อบริษัทคิงเพาเวอร์ได้มาโดยไม่ชอบจากร้านค้าปลอดภาษีแล้ว และ 2.เรื่องการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ มันมี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งที่เป็นร้านค้าปลอดภาษี กับส่วนหนึ่งที่เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่มีร้านแมคโดนัลด์ แบคแคนยอน ธนาคาร ร้านขายหนังสือ พื้นที่ทำร้านค้าเหล่านี้ต้องเช่าพื้นที่ต่อจากบริษัทคิงเพาเวอร์ อันนี้เขาเรียกว่า พื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่บอกว่า ร้านค้าปลอดภาษีเขาได้ 5 พันตารางเมตร มันใช้ไป 1.1 หมื่นตารางเมตร เกินไป 6 พันตารางเมตร ร้านค้าเชิงพาณิชย์ ร้านค้าต่างๆ ได้มา 2 หมื่น ใช้เกินไปประมาณ 8 พัน สรุปแล้วทั้งสนามบินเลยกลายเป็นห้างสรรพสินค้าของ นายวิชัย รักศรีอักษร คิงเพาเวอร์ ด้วยเหตุฉะนี้ ส่วนทางเดิน ทางหนีไฟ ลิฟต์ มันรื้อทิ้งหมด แบบที่มีอยู่เดิม ที่เราเอาแบบไปดูนั้นเขารื้อทิ้งหมด ไม่ทำตามแบบ กลายเป็นว่าทางเดิน คนแก่ เด็ก แทนที่จะอยู่บนลิฟต์ เดินไปสนามบินหรือเดินตรงไปได้เลยไม่ต้องเดินอ้อม เราต้องเดินอ้อมไปเพื่อดูสินค้าจึงจะไปเข้าเครื่อง นี่คือพฤติกรรมการโกงแบบหน้าด้านๆ ทำได้โดยนักการเมืองและข้าราชการ รวมทั้งกรรมการบอร์ดของการท่าอากาศยาน เป็นคนร่วมหัวจมท้าย ร่วมมือกับกลุ่มคนเหล่านี้
ปัญหาก็คือ เมื่อมีการโกงอย่างนี้ มีพฤติกรรมอย่างนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อวันที่ 19 ก.ย.คณะกรรมการบอร์ดเปลี่ยนแปลง คนที่มาเป็นประธานบอร์ด คือ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร พล.อ.สพรั่ง มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่งเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินงานของโครงการท่าอากาศยาน รวมทั้งตรวจสอบเรื่องของบริษัทคิงเพาเวอร์ คณะกรรมการชุดนี้มี พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นประธาน และมี ร.ต.สุทิน สุเดช เป็นอัยการอาวุโส นายกมล ทรงเจริญ เป็นทนายความ รศ.ดร.สมเจตน์ ทินพงษ์ พ.ต.อ.อโณทัย บำรุงพงศ์ นางวาสนา หลักคงคา นางศรัญญา บุญวัฒน์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และมี พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อยู่ในคณะนี้ด้วย คณะกรรมการตรวจสอบแล้วสรุปมีความผิด เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาพูดรายละเอียด สรุปมีความผิดจึงมีความเห็นให้เลิกสัญญากับบริษัทคิงเพาเวอร์ และให้ใช้กฎหมายตามวิธีการปกครอง เลิกได้เลย หากไม่ปฏิบัติตามเข้ายึดพื้นที่บริหารได้เลย การท่าอากาศยาน บอร์ดการท่าอากาศยานมีมติให้เลิกสัญญากับคิงเพาเวอร์ไปแล้ว พอเปลี่ยนรัฐบาล เลิกสัญญาแล้วเรียกค่าเสียหาย เรียกค่าเช่าที่ใช้พื้นที่เกินกับบริษัทนี้แล้ว เขาจึงวิ่งเต้นให้มีการเปลี่ยนรัฐบาล หลังจากนั้นมีการจับขั้วทางการเมืองกันใหม่โดย สุเทพ เทือกสุบรรณ ไปเอาเนวินมากอดกับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดูภาพวันที่สุเทพ เทือกสุบรรณ กับเนวิน กับอภิสิทธิ์ ไปกอดกันแล้วนำมาซึ่งกลุ่มอำนาจทางการเมืองกลุ่มใหม่ มาพลิกตอนนี้ การโกงยังดำเนินการต่อมาด้วยเหตุนี้ นี่เป็นวันเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมือง
เมื่ออภิสิทธิ์กอดกับเนวิน ภายใต้การประสานงานของสุเทพ เทือกสุบรรณ จึงเกิดกลุ่มอำนาจใหม่ทางการเมืองขึ้นมา เดี๋ยวดูภาพว่ามีใครบ้าง นี่นายศรีสุข จันทรางศุ เป็นอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม และเป็นคนวางแผนให้นายวิชัย รักศรีอักษร ไปจูบปากกับสร้างพันธมิตรทางการเมืองกับนายเนวิน และเอานายเนวินมาจับกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ คนนี้เป็นคนวางแผนให้นายวิชัย รักศรีอักษร เพราะหลังจากถูกเลิกสัญญาแล้วจึงเข้ามามีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาล
ขอภาพต่อไป คนนี้ชื่อ นายปิยะพันธ์ จำปาสุต เป็นอดีตอธิบดีกรมการขนส่ง และมาเป็นคณะกรรมการบอร์ด ขสมก. และเป็นคนทำสัญญาเช่ารถเมล์ยูโร 500 คัน และมีเรื่องโกงเรื่องทุจริต ถูกตั้งกรรมการสอบ คนที่ตั้งกรรมการสอบ คือตามคำสั่งกระทรวงคมนาคม ที่ 69/2546 แต่งตั้งกรรมการสอบเรื่องทุจริตเช่ารถเมล์ยูโร 500 คัน เพราะ นายปิยพันธ์ จำปาสุต ได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นกรรมการและกรรมการบริหาร ขสมก. ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการบริหารกิจการ ขสมก. ให้เป็นประธานกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาโครงการเช่ารถเมล์ 500 คัน มีการทุจริต โดยการทำสัญญาซื้อสัญญาจ้างสัญญาซ่อมมากกว่าวงเงินที่ได้รับ ถึงร้อยละ 21 เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มบริษัท 3 บริษัทใหญ่ คือ บริษัทฮีโน่ มอเตอร์(ประเทศไทย) บริษัทตรีเพชร อีซูซุ เซลส์ และบริษัทธนบุรี มอเตอร์ นายปิยพันธ์ จำปาสุต เลยถูกใครตั้งกรรมการสอบครับ ถูกนายศรีสุข จันทรางศุ ตั้งกรรมการสอบ เพราะตอนนั้นนายศรีสุขเป็นปลัดกระทรวง ด้วยข้อหาว่า คณะกรรมการสอบสวนมีความเห็นว่ากระทำผิด พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน ว่าด้วยระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง สอบเสร็จ ระหว่างตั้งกรรมการสอบ นายศรีสุข กลับตั้งนายปิยะพันธ์ จำปาสุต ไปเป็นอธิบดีกรมการขนส่ง ดูซิครับเขาทำอย่างหน้าด้านๆ ทั้งๆ ที่อยู่ระหว่างถูกสอบ แล้ววันนี้นายคนนี้ถูกภูมิใจไทยตั้งเป็นประธานบอร์ดบริษัทการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย หรือ ทอท. พอนายคนนี้กลับมาเป็นประธานบอร์ด ซึ่งก็เป็นพวกเดียวกันกับนายวิชัย รักศรีอักษร เลยยกเลิกมติของคณะกรรมการบอร์ดที่ให้เลิกสัญยากับบริษัทคิงเพาเวอร์ กลับมติไม่เลิกสัญญา และให้บริษัทคิงเพาเวอร์ได้สัญยาต่อไป แถมยังมีการต่อสัญญาให้กับบริษัทคิงเพาเวอร์อีกต่างหาก
ภาพต่อไปครับ นี่คือคุณวิชัย รักศรีอักษร คนนี้จำเป็นต้องอาศัยธุรกิจการเมืองต้องอาศัยอิงอำนาจการเมือง จึงกลายเป็นมิตรแท้เพื่อนรักของสุเทพกับเนวินอย่างเหนียวแน่นทุกวันนี้ และมีอิทธิพลครอบงำรัฐบาลนี้ คนต่อไปครับ นี่คือ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม คนนี้เมื่อก่อนเคยเป็นเลขาฯ คณะกรรมการบอร์ดการท่าฯ ในสมัยที่นายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธาน วันนี้เป็นปลัดกระทรวงคมนาคม อยู่ในสังกัดภูมิใจไทย และเป็นกรรมการบอร์ดการท่าอากาศยานด้วย แล้วจะไปเหลืออะไร เรียกว่าแก๊งที่เคยรับใช้บริษัทคิงเพาเวอร์ เรียกว่าตบเท้ากลับคืนมา และทำทุกอย่างเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทคิงเพาเวอร์ ตามแนวทางที่เนวินและสุเทพวางนโยบายให้ทุกประการ
ภาพต่อไปครับ นี่คุณเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ พี่เมียคุณวีระ มุสิกพงศ์ ขณะนี้เป็ฯผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นคนที่ทำงานเรียกว่าทั้งสนามบินหาคนที่ไม่ใช่คนของคิงเพาเวอร์ไม่มีเลย ต่อไปครับ คนนี้ไม่รู้พี่น้องรู้จักไหมครับ นี่ก็คือ เนวิน ชิดชอบ คนนี้ที่เป็นเพื่อนรักกับนายวิชัย รักศรีอักษร จากที่เคยกอดทักษิณ วันนี้มากอดกับวิชัย รักศรีอักษร อย่างเหนียวแน่น และใช้โรงแรมพูลแมน เป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของการเมืองกลุ่มนี้ ต่อไปเราจะได้เห็นภาพ คนนี้คือมือขวาของนายเนวิน นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง มือขวาในการทำงาน และวันนี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการบอร์ดบริษัทการบินไทย และงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ จะเป็นคนนี้เข้าไปเกี่ยวข้องหมด คนนี้คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นลูกชายของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จับตาดูให้ดีนะครับตัวละครที่ผมพูดถึง บริษัทนี้ก่อนที่จะเข้าสู่การเมืองเรียกว่าล้มละลายไปแล้วพร้อมๆ กับบริษัทอีตั้นไทย หลังจากเข้าไปสวามิภักดิ์กับทักษิณ และได้มาจับมือกับสุเทพ ได้เนวินก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย วันนี้กิจการรุ่งเรือง หลุดพ้นจากการล้มละลายและภารหนี้สินทั้งหลาย เป็นขาใหญ่ในรัฐบาลนี้
ต่อไปครับ คนนี้นายธีรพล นพรัมภา อดีตเลขาฯ นายสมัคร สุนทรเวช คนนี้กลายเป็นมือขวา เพื่อนคู่คิดทางการเมือง นอกจากกนกศักดิ์ ปิ่นแสง แล้วก็มีคนนี้ร่วมกับ เนวิน ชิดชอบ วันนี้สมัครตายไปแล้วเลยมาอยู่กับเนวินครับ พวกนี้จะมีหัวคิดบรรเจิดมากในการทำมาหากิน
คนต่อไปครับหน้าคุ้นๆ พี่น้องครับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ คนนี้สั่งคนในประชาธิปัตย์ทุกคนห้ามด่าว่าบริษัทคิงเพาเวอร์ ห้ามไม่ได้คนเดียวคือ ประพันธ์ คูณมี แล้วก็ ระหว่างที่บริษัทคิงเพาเวอร์ถูกบอกเลิกสัญญา และฟ้องเป็นคดีกันที่ศาล ทำให้สำนักงานเสนีย์ ปราโมช โดยคุณบัณฑิต ศิริพันธุ์ ต้องมาเป็นทนายให้กับ นายวิชัย รักศรีอักษร และบริษัทคิงเพาเวอร์ เรียกว่าซื้อใจ วิชัย รักศรีอักษร แบบสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะวิชัย รักศรีอักษร บริษัทคิงเพาเวอร์ คือกลุ่มธุรกิจที่เป็นกลุ่มทุนสนับสนุนทางการเมืองให้กับพรรคประชาธิปัตย์ผ่านคุณสุเทพ มาโดยตลอดครับพี่น้อง และวันนี้ยิ่งเหนียวแน่นกว่าเดิม
ภาพต่อไป คนนี้กลายเป็น เรียกว่าสมาชิกร่วมก๊วนการเมืองนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยอำนาจบารมีทางทหาร หลังจากเกษียณจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. และก้าวเข้ามาสู่การเมือง ได้รับแรงสนับสนุนจากรุ่นน้อง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และรุ่นน้องในกองทัพขณะนี้ ทำให้ประวิตร สามารถมีอำนาจต่อรองจนสามารถกินโควต้ารัฐมนตรีกลาโหมในนามพรรคประชาธิปัตย์ จึงกลายเป็นคู่หูคู่คิดร่วมกับสุเทพ เทือกสุบรรณ และวันนี้ประเทศไทยเขาเชื่อว่า นายกฯ ที่แท้จริงคือ ประวิตร กับสุเทพ ไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคนนี้กลายเป็นกลุ่มการเมือง มีอนุพงษ์ร่วมด้วยคนนึง ในงานฉลองวันเกิด ในงานฉลองครบรอบ 3 ปี 4 ปีบริษัทคิงเพาเวอร์ 7 ปีบริษัทคิงเพาเวอร์ 10 ปี คนพวกนี้จะเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของบริษัทคิงเพาเวอร์ และนายวิชัย รักศรีอักษร และใช้โรงแรมพูลแมน เป็นที่พบปะสังสรรค์กันเป็นระยะๆ
ต่อไปครับ คนนี้เป็นขาใหญ่ และเป็นคนที่ร่วมกลุ่ม อากู๋แกรมมี่ นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม นี่เป็นคนใกล้ชิด สนิทสนมกับทักษิณ ชินวัตร มาก และเป็นคนเข้าไปซื้อหุ้นหนังสือพิมพ์มติชน น่าจะมีหุ้นอยู่ประมาณ 20-30% เพราะฉะนั้นหนังสือพิมพ์มติชนวันนี้ สมัยที่พวกเราออกไปแสดงความคัดค้าน แสดงความเห็นใจหนังสือพิมพ์มติชนเพราะกลัวอากู๋จะซื้อหุ้น จะกลายเป็นหนังสือพิมพ์ของทักษิณ วันนี้เป็นไปเรียบร้อยแล้วครับ คนต่อไป นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ พี่เมียนายสุเทพเลยเป็นคู่คิดที่สนิทแนบแน่นที่สุดกับสุเทพ เรื่องใดที่มีผลประโยชน์ในแผ่นดินนี้และเป็นเรื่องที่ประชาธิปัตย์เกี่ยข้อง ต้อง 2 คนนี้เท่านั้นเป็นคนตัดสินใจ
คนนี้ไม่ต้องบอก โสภณ ซาเล้ง เป็นรัฐมนตรีคมนาคม และอยู่ในกำกับของเนวิน ทำทุกอย่างตามนโยบาย แนวทางที่เนวินและ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล กำกับอย่างเดียว เขาบอกซ้ายก็ต้องซ้าย บอกขวาก็ต้องขวา ไม่มีหน้าที่ทำอย่างอื่น ต่อไปครับ คนนี้มีคนเชื่อว่า เขาน่าจะมีหุ้นอยู่ในบริษัทคิงเพาเวอร์ไม่น้อย อยู่ในระดับที่น่าจะเป็นคนถือหุ้นใหญ่พอสมควร พล.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ครับ ไม่ใช่ว่าเป็นเพียงแขกรับเชิญ เป็นคนที่มีธุรกิจ และเขาเชื่อว่าเป็นนายตำรวจที่รวยที่สุดคนหนึ่งในกรมตำรวจขณะนี้ เพราะว่าเคยเป็นคนใกล้ชิด มนตรี พงษ์พานิช และอยู่ในวงการการเมืองมาโดยตลอด
คนต่อไปครับ ภาพรวม ท่านจะเห็นคอนเน็คชั่น ชวรัตน์ ชาญวีรกูล, ธีระพล นพรัมภา, กนกศักดิ์ ปิ่นแสง, เนวิน ชิดชอบ, วิชัย รักศรีอักษร, สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นี่คือคอนเน็คชั่นใหม่ทางการเมือง
วันนี้ที่ผมเอาภาพพวกนี้มาให้พี่น้องดู และดูไปถึงโรงแรมพูลแมน โรงแรมพูลแมนนั้นเดิมที่ที่สร้างโรงแรมอยู่ซอยรางน้ำ เป็นที่ขององค์การ รสพ. แล้ววันนี้กลายเป็นโรงแรม 5 ดาวของกลุ่มธุรกิจคิงเพาเวอร์ วิชัย รักศรีอักษร ได้อย่างไร ถ้าไม่ร่ำรวยมาจากการทำธุรกิจในสนามบินสุวรรณภูมิ จะมีเงินมาสร้างโรงแรมมโหฬาร ใหญ่โตอย่างนี้ได้อย่างไร ที่สำคัญ เรื่องนี้ยังจะต้องตามต่อว่า แล้วที่ดินที่มาสร้างโรงแรมได้มาอย่างไร อาจจะได้มาโดยวิธีเดียวกันกับที่พูดมาแล้ว ทั้งๆ ที่เป็นที่หลวง ต้องมีการประมูล แต่ทำโดยวิธีถูกต้องหรือไม่ วันต่อไปจะได้มาพูดกับพี่น้อง
วันนี้ผมเอาเรื่องราวเบื้องหลังการทุจริตคอร์รัปชั่นในสนามบินสุวรรณภูมิมาพูดให้เป็นพื้นฐานก่อน แล้วคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เขาสอบและบอกเลิกสัญญาไปแล้ว วันนี้ นายวิชัย รักศรีอักษร กลับมาใหญ่อีกครั้งหนึ่งภายใต้รัฐบาลที่มีสุเทพ เนวิน ชวรัตน์ ประวิตร คุมรัฐบาลนี้อยู่ ซึ่งเป็นคนของเขาทั้งนั้น ส่วนนายอภิสิทธิ์ ไม่อยากจะพูดว่าขี้เท้า เอาว่าขี้เล็บแล้วกัน ไม่อยู่ในสายตาเลยครับ เป็นเพียงหุ่นเชิด ทั้งหมดรัฐบาลวันนี้ การเมืองประเทศไทยวันนี้ อยู่ในกำมือของคนเหล่านี้ที่ผมพูดมา แล้วนักการเมืองเหล่านี้มีประวัติการทำมาหากินทางการเมืองอย่างไร ผมเชื่อแน่ว่าพี่น้องคงไม่ต้องให้ผมบอก ทุกคนรู้หมดว่านักการเมืองพวกนี้ไว้วางใจได้หรือไม่ และคนพวกนี้คือคนที่มากำหนดชะตากรรมของประเทศชาติบ้านเมืองในยามนี้ และปัญหาไทย-กัมพูชา ปัญหาธุรกิจในสนามการโกงคอร์รัปชั่นทั้งหลายในประเทศนี้ อยู่ที่คนกลุ่มนี้ทั้งนั้น ใครจะทำโครงการอะไร ทำธุรกิจอะไร จะวิ่งเต้นเรื่องอะไร มาวิ่งเต้นที่นี่ ส่วนนายอภิสิทธิ์ไว้ผัดหน้าทาแป้งเกาะโพเดี้ยมอย่างเดียว หำน้อยทำหน้าที่อย่างนั้นอย่างเดียว
พี่น้องครับ เมื่อประเทศชาติบ้านเมืองเราเป็นอย่างนี้ อยู่ภายใต้กำมือของคนพวกนี้ และมีประวัติ มีพฤติกรรมในการทำงานการเมืองอย่างไร พี่น้องไม่ต้องสงสัย ปัญหาก็คือ ผมต้องการจะถามพ่อแม่พี่น้องประชาชน และถามพรรคประชาธิปัตย์ ถามผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ว่า คุณจะนั่งดูดายให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยการโกง การทุจริตของนักการเมืองเหล่านี้ต่อไป และคุณจะนั่งดูดายปล่อยให้ชาติบ้านเมืองสูญเสียดินแดน เสียอธิปไตยล่มจมไปกับมือของนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ ต่อไปอีกหรือไม่ ถ้าคนในพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า 2 คนนี้กำลังจะพาชาติบ้านเมืองล่มจม ท่านต้องลุกขึ้นมาร่วมมือกับประชาชนเอาเขาออกไปจากอำนาจเสีย ใช่ไหมครับพี่น้อง ถ้าพี่น้องประชาชนเห็นว่า เราจะปล่อยให้บ้านเมืองตกอยู่ในกำมือของคนพวกนี้ต่อไปไม่ได้ เราต้องลุกขึ้นมาและออกมาช่วยกันขับไล่นักการเมืองพวกนี้ออกไปจากการปกครองบ้านเมือง มิเช่นนั้นประเทศชาติของเราต้องล่มสลายแน่เลยครับพี่น้อง
ผมใช้เวลาไปพอสมควรด้วยพยายามรวบรัด วันนี้ขอเอาเป็นพื้นฐานให้ท่านได้เห็น แล้ววันต่อไปผมพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ เรื่องโรงแรม เรื่องสนามบิน เรื่องต่อสัญญา เรื่องประมูลรถเมล์ รถไฟฟ้า ท่านนึกถึงภาพคนพวกนี้เอาไว้ คนพวกนี้คือคนที่จะมาร่วมกัน เขาเรียกว่า ปล้นบ้านปล้นเมือง และเอาเงินของแผ่นดินของประชาชนไปค้ำบัลลังก์ทางการเมือง และหมุนเวียนกลับมาเสวยอำนาจโกงกินต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าเราทุกคนไม่ลุกขึ้นมาช่วยกัน ยังก้มหัวให้กับนักการเมืองพวกนี้ ผมคิดว่าแล้วแต่เวรกรรม ตัวใครตัวมันแล้วกันละครับ แต่ผมคนหนึ่งยังไงผมก็ไม่ยอม ถ้าพี่น้องไม่ยอมและอยากเห็นบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ขอเสียงปรบมือดังๆ แล้วเรามาร่วมกันต่อสู้กวาดล้างนักการเมืองเหล่านี้ออกไปจากบ้านเมืองของเราเสียที และผมไม่เชื่อว่าต่อให้เลือกตั้งอีก 500 ครั้ง ถ้านักการเมืองพวกนี้ยังอยู่ ประเทศไทยไม่มีวันเจริญรุ่งเรือง มีแต่จะถอยหลัง จมลงไปเรื่อยๆ ถ้าเราเห็นชอบร่วมกันว่าเราจะต้องสู้ ขอเสียงปรบมือดังๆ และปรบมือเรียกร้องพี่น้องเราออกมาทำหน้าที่ทดแทนคุณแผ่นดิน ช่วยกันกอบกู้บ้านเมืองร่วมกันครับ เอาละครับวันนี้ขอเพียงเท่านี้ก่อน แล้ววันพรุ่งนี้ เรามาคุยกันในเรื่องอื่นๆ ที่เป็นรายละเอียดต่อไป สำหรับวันนี้ขอบคุณนะครับที่ติดตาม สวัสดีครับ
