“สนธิ” ชี้ “อภิสิทธิ์” กลายพันธุ์เป็น “ทักษิณ 2” เล่นการเมืองน้ำเน่า โกหกเอาตัวรอดเหมือนกัน ซ้ำปล่อยให้มีทุจริตทั้งแต่งตั้งโยกย้าย โกงกินคำโตเลียนแบบทักษิณ แฉมีใบสั่งให้ “วิเชียร” รื้อคดีลอบยิง 200 นัด หลังพบสำนวนโยงใยคนในรัฐบาล ขณะเดียวกัน เตรียมฟื้นข้อหากบฏแกนนำ พธม.บุกทำเนียบ ทั้งที่ศาลอุทธรณ์เคยยกไปแล้ว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”
วันนี้ (29 ม.ค.) เวลา 21.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวานฯ สิ่งที่เราเห็นจากนักการเมืองอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือนายศิริโชค โสภา นั้นไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ เพราะคนพวกนี้คือน้ำเน่าที่พวกเราคิดไปเองว่าเป็นน้ำดี ประเทศไทยนั้นเหมือนคนป่วยที่ป่วยมานานแล้ว และอยากจะเล่าถึงการเกิดขึ้นของพรรคการเมืองที่กลายพันธุ์เป็นสัตว์นรก ไม่เว้นแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์
นายสนธิกล่าวต่อว่า คนในพรรคประชาธิปัตย์ที่บอกว่าตัวเองอึดอัด ไม่ชอบนายสุเทพ แต่ก็ยังอยู่กับพรรค และทำตามมติพรรคเพราะกลัวพรรคเสียนั้น ก็จะขอถามกลับว่าแล้วชาติเสียหายไม่เป็นไรหรือ คนพวกนี้หน้าไหว้หลังหลอก ปากก็บอกเห็นด้วยกับพันธฑมิตรฯ แต่พรรคว่าอย่างไรก็ว่าตามติพรรค คนพวกนี้น่าขยะแขยง น่ารังเกียจ ไม่เอาชาติมาก่อน แต่เอาพรรคมาก่อน
นายสนธิกล่าวถึงการเกิดของพรรคประชาธิปัตย์ว่า หลังจากคณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 แล้ว ก็มีกลุ่มคนที่มีเชื้อเจ้าหรือศักดินาทั้งหลายไม่พอใจคณะราษฎร และพยายามตั้งตัวเป็นกบฏ คือกบวรเดช แต่หลังจากคณะราษฎรปราบกบฏบวรเดชแล้ว ก็จัดให้มีการเลือกตั้งแบบฝรั่ง พวกศักดินาก็คิดว่าต้องตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ของชนชั้นตัวเอง นั่นคือจุดกำเนิดพรรคประชาธิปัตย์ ตอนแรกก็เป็นพรรคที่ยืนหยัดในหลักการ แต่ประชาธิปัตย์ก็คือประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ทำลายนายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส ทั้งในประวัติศาสตร์ที่แท้จริง นายปรีดีเป็นคนที่จงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์มากที่สุด คนที่ส่งคนไปใส่ความนายปรีดีในโรงภาพยนตร์คือคนของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่ต่างอะไรจากที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พาคนไปตาย
นายสนธิกล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์มากลายพันธุ์ตอนไอเอ็มเอฟมายึดประเทศไทยปี 2540 แล้วไม่รู้จักคุณค่าประเทศไทย ไปเอานักเรียนนอกมาปกครองบ้านเมือง เริ่มจากนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ ที่ไปเอาแบบฝรั่งมา คิดแบบบฝรั่ง เอาบีไอบีเอฟเข้า ให้ธนาคารต่างชาติปล่อยกู้คนไทยดอกเบี้ยถูกๆ แล้วรุมกระทืบทีหลังจนเศรษฐกิจพัง ในปี 2540 ที่เศรษฐกิจล่มทสลายส่วนหนึ่งเป็นเพราะ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แต่คนที่เปิดประตูให้เกิดความฉิบหายคือประชาธิปัตย์ ตอนที่เปิดประตูให้ไอเอ็มเอฟเข้ามา และพรรคประชาธิปตัย์คือพรรคที่ออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่แก้ ทำให้ประเทศไทยต้องขายทรัพย์สินให้ฝรั่งในราคาถูก จากราคา 100 บาทซื้อไป 10 แล้วเอากลับมาให้คนไทยผ่อนต่อในราคา 100 บาทเต็ม
ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถแปรรูป ปตท.แล้วเอาพรรคพวกมาถือหุ้นได้ และเกือบจะแปรรูปการไฟฟ้าฯ ได้ ก็เพราะพรรคประชาธิปัตย์ออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ เหมือนกับที่เซ็นเอ็มโอยู. 2543 เปิดโอกาสให้คนของ พ.ต.ท.ทักษิณเอาไปทำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชายกปราสาทพระวิหารให้เขมร เมื่อมีเอ็มโอยู 2543 พ.ต.ท.ทักษิณก็ต่อยอดมาตลอด
ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เอาชาติเป็นตัวตั้ง ต้องยกเลิกเอ็มโอยู แล้วทำไมไม่ยกเลิก เพราะว่าพรรคนี้ได้กลายพันธุ์ จากประชาธิปัตย์ไปเป็นไทยรักไทย และนายอภิสิทธิ์ ก็ได้กลายพันธุ์ไปเป็นทักษิณ 2 ไปแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณตอนเป็นนายกฯ เอาตำรวตจทหารที่เป็นเพื่อนตัวเองมาคุมตำแหน่งสำคัญๆ ในการแต่งตั้งโยกย้ายแม้ไมได้เรียกเงินแต่ก็ให้ทำงานให้ตอบแทน พรรคประชาธิปัตย์ต่างจากทักษิณตรงไหน การแต่งตั้งตำรวจวันนี้ เป็นการเอาคนไปวางเพื่อทำงานให้ตัวเอง โดยให้พรรคภูมิใจไทยดูแลการแต่งตั้งทางภาคอีสาน ตัวเองดูแลทางตะวันออกและภาคใต้ แล้วก็เรียกเงินทุกคนหมด คุณงามความดี ความถูกต้อง เอาประชาชนมาก่อนอยู่ที่ไหน
นายสนธิกล่าวต่อว่า ผู้กำกับที่ต้องการจะขึ้นมาต้องจ่าย 3 ล้าน 5 ล้าน 7 ล้าน ขึ้นอยู่กับว่าจะไปอยู่ที่ไหน มีการตั้งโต๊ะเก็บเงินเรียบร้อย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราจะหลงใหลในมายาภาพต่อไปทำไม ประชาธิปัตย์ที่เราเห็นไม่ใช่ประชาธิปัตย์ในอดีต เมื่อก่อนสู้กับเผด็จการทหาร แต่เมื่อผลประโยชน์มันเข้ามาก็เปลี่ยนไป เมื่อก่อนกินเป็นแค่เรียกหัวคิว 3 เปอร์เซ็นต์ แต่เดี๋ยวนี้ทักษิณสอนให้รู้จักกินคำโตๆ ใครมีอำนาจก็กินคำโตๆ ตามทักษิณ เพราะฉะนั้น พรรคการเมืองไม่ว่าประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ชาติไทยพัฒนา ภูมิใจไทย มันต่างกันตรงไหน มันต่างกันตรงแค่ปรคะชาธฺปัตย์และพรรคร่วมฯ ยังขายความหล่อของนายอภิสิทธิ์ได้ และยังขายความกะล่อนได้อีก เพราะประชาชนคนไทยไม่ได้พิจารณาทั้งหมดให้เห็นภาพรวม นายอภิสิทธิ์พูดอะไรก็ฟังเฉพาะทีเขาพูดในทีวี เมื่อเขาพูดเก่งก็เห็นด้วย แต่นายอภิสิทธิ์จะหลอกคนได้เฉพาะคนที่ด้อยปัญญา และลุ่มหลงคลั่งไคล้ในความหล่อ แต่คนที่มีปัญญาอย่างพี่น้องในที่นี้เขาหลอกไม่ได้
นายสนธิกล่าวต่อว่า ตอนเราไล่ทักษิณ ก็มีคนถามว่าไม่เอาทักษิณแล้วจะเอาใคร ตอนนี้ก็มีคนถามว่า ถ้าไม่เอาอภิสิทธิ์แล้วจะเอาทักษิณหรือ ก็จะขอตอบว่าไม่เอาทั้งอภิสิทธิ์และทักษิณ คำพูดที่ทักษิณโกหก กับที่อภิสิทธิ์โกหก ก็กำลังจะเท่าๆ กันแล้ว อีกไม่กี่วันจะเอามาให้ดูว่าทักษิณโกหกอะไร และอภิสิทธิ์โกหกอะไรบ้าง
นายสนธิกล่าวว่า นอกจากโกหกแล้วยังพยายามบิดเบือนคดีที่คนร้ายลอบยิงตน ซึ่ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ทำไว้ แต่มีความพยายามของรัฐบาลที่จะให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เอาสำนวนมารื้อใหม่ เพราะสำนวนเก่าโยงถึงคนบางคนในรัฐบาล ตอนที่ตนโดนยิง นายอภิสิทธิ์พยายามแสดงถึงคนที่ใช้หลักนิติรัฐ บอกว่าจะให้จับตัวคนร้ายมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครจะจัดการขั้นเด็ดขาด เพราะเป็นคดีที่อุกอาจ แต่จากวันนั้น ถึงวันนี้ คดีก็ยังเงียบ เพราะสำนวนมันโยงทางอ้อมถึงคนในรัฐบาล นี่คือการโกหกของอภิสิทธิ์
“ผมอยากให้เขาแก้สำนวน เพราะว่าหลักฐานในสำนวนคุณมีผมก็มี ดูว่าใครกันที่จะติดคุก”
นายสนธิกล่าวต่อว่า นายอภสิทธิ์อยากไล่ พล.ต.อ.วิเชียรออกจะแย่อยู่แล้ว เพราะเคยเรียก พล.ต.อ.วิเชียรไปพบ แล้วบอกให้เอาตำรวจไปกดดันพันธมิตรที่จะไปชุมนุมที่สระแก้ว และพันธมิตรฯ ที่จะมาชุมนุมที่นี่ พล.ต.อ.วิเชียรตอบกลับไปว่า ถ้าเป็นโยบายของรัฐบาลขอให้สั่งเป็นลายลักษณ์อักษรมา แต่คนอย่างนายอภิสิทธิ์ขนาดเพื่อนตัวเองถูกจับในประเทศไทยไปติดคุกในเขมรยังไม่กล้าทำอะไร แล้ว พล.ต.อ.วิเชียนให้ทำคำสั่งเเปนลายลักษณ์อักษรหรือจะกล้า แล้วนายอภสิทธิ์ก็โทร.ไปบอก พล.ต.อ.วิเชียรว่า ที่สั่งไปนั้นให้ยกเลิก เห็นหรือยังว่าทำไมจึงอยากปลด พล.ต.อ.วิเชียร
นายสนธิกล่าวว่า อยากให้ พล.ต.อ.วิเชียรไปดูดีๆ ถ้าเขาสั่งให้ยิงถ้าเราปีนเข้าทำเนียบ ซึ่งเราไม่เข้าอยู่แล้ว เพราะไม่ใช่ทำเนียบประเทศไทยแต่เป็นทำเนียบประเทศเขมร อยากบอก ผบ.ตร.ว่าอะไรก็ตามที่เขาสั่งมา ให้ขอเป็นลายลักษณ์อักษร
นายสนธิ กล่าวอีกว่า วันที่นายอภสิทธิ์ขึ้นเป็นนายกฯ ได้นัดพบกับตนที่บ้านนายกอร์ปศักดิ สภาวะสุ นั่งคุยกัน 2 คน ตนได้บอกว่า การที่จะเอา พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ กลับมาเป็น ผบ.ตร.นั้นเป็นความผิด เพราะ พล.ต.อ.พัชรวาทมีคดีถูกกล่าวโทษ ซึ่งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาสอบสรุปว่ามีมูล แล้วส่งเรื่องกลับมาที่สำนักนายกรัฐมนตรีเพ่อให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิด ช่วงนั้นเป็นช่วงปลายรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และกำลังมีการตั้งเรื่องให้นายสมชายเซ็นตั้งกรรมการสอบไว้แล้ว แต่นายสมชายพ้นจากตำแหน่งเสียก่อน วันนั้นนายอภิสิทธิได้รับเลือกในสภาให้เป็นนายกฯ แต่ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง วันนั้นนายอภิสิทธิ์รู้ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวน แต่นายอภิสิทธิ์ไม่กล้าลงนาม เพราะนายสุเทพไปคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในการจัดตั้งรัฐบาลโดยมีข้อตกลงว่าต้องปกป้อง พล.ต.อ.พัชรวาท(น้องชาย พล.อ.ประวิตร) เลยไปขอร้องนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ที่เป็นรักษาการนายกฯ อยู่ ซึ่งนายชวรัตน์ก็เซ็นคำสั่งย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แทนที่จะตั้งกรรมการสอบ
“เห็นได้ชัดว่า นี่คือวิธีเอาตัวรอดของนายอภิสิทธิ์ครั้งแรก ผมถามเขา เขาก็บอกยังไม่เห็นเรื่อง โกหก เพราะเขารู้ว่าเรื่องอ่ยูที่นายสุเทพแล้ว แต่เขาไม่อยากเปลืองตัว เห็นไหม ยังไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ ก็ออกลายแล้ว และในที่สุด ตัวเองก็ถูก กตร.ที่คุมโดย พล.ต.อ.พัชรวาทตบหน้า ป.ป.ช.ชี้มูลว่ามีความผิดคดี 7 ตุลาฯ ต้องไล่ออกจากราชการ แต่ ก.ตร.บอกว่าไม่ผิด ให้กลับเข้ารับราชการ จนวันนี้นายอภิสิทธิ์ก็ยังไม่กล้าลงนามคำสั่งให้ออกจากราชการ ทั้งที่ พล.ต.อ.พัชรวาทเกษียณไปแล้ว”
นายสนธิกล่าวต่อว่า คนในรัฐบาลนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มนักเรียนนอก กลุ่มวัยรุ่น มีเสื้อไบแฝงอยู่ 2-3 คน จะไบกับใครไม่รู้ แต่มีการไบกันในค่ายทหารและมีคนอัดเทปเก็บไว้แบล็กเมล์อยู่
นายสนธิกล่าวอีกว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็เหมือนกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อแผ่นดินแล้ว คือมีเงินเดือนแถมให้ ส.ส.เดือนละ 1 แสนต่อคน ซึ่งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ปฏิเสธไม่รับ แล้วเงินนี้มาจากไหน ก็ได้จากนายทุนพรรคที่เขาช่วยเรื่องการย้ายสายการบินในประเทศกลับไปอยู่สุวรรณภูมิแล้วรัฐบาลนี้ต่างจากทักษิณตรงไหน ต่างตรงที่หน้าตาดี พูดเก่ง ชาติตระกูลดี อยู่ในแวดวงศักดินาเป็นตัวแทนของกลุ่มที่ทักษิณจะล้มล้างเท่านั้น เคยด่าทักษิณไว้มากมายเป็น 100 ข้อ แต่พอเข้ามาก็ทำอย่างที่ทักษิณทำ มิหนำซ้ำยังเข้าไปทำมาหากินในเรื่องน่ำมันปาล์มอีก ทำลายประชาชนด้วยการขึ้นราคาน้ำมันปาล์ม เพื่อให้น้ำมันปาล์มเถื่อนที่พรรคพวกลักลอบเข้ามา โดยมีโรงงานใหญ่อยู่ที่สุราษฎร์ธานี และมหาชัย
“นี่ไงพรรคประชาธิปัตย์ สะอาดนักเหรอ เห็นรึยัง คนเรารู้จักหน้าไม่รู้จักใจ วันนี้การต่อสู้ของเรา เรื่องดินแดนมาที่หนึ่ง แต่เบื้องหลังเรากำลังสู้กับคนชั่วช้าที่เอาป้ายมาแขวนคอบอกว่าผมเป็นคนดี”
“ส.ส.ประชาธิปัตย์มีเกือบ 200 คน จ่ายเดือนละแสนต่อคน ตกเดือนละ 20 ล้าน ปีหนึ่ง 240 ล้าน 2 ปี 480 ล้าน แล้วเอาเงินมาจากไหน อยู่มา 2 ปี เราไม่เคยเห็นพ่อรูปหล่อพูดสักคำว่าจะทำให้การเมืองสะอาด ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ไม่พูดสักคำ การเมืองทุกวันนี้จึงบัดซบ ชั่วช้า น่าเจ็บใจที่สุด พรรคที่เราคิดว่าขึ้นมาแล้ว คนที่ชาติตระกุลดีขึ้นมา จะมาล้างสิ่งเน่าๆ ออกไป หน้าตาหล่อๆ แต่พอถอดเสื้อออกมาข้างในมีแต่หนอนเล่าๆ เต็มไปหมด”
นายสนธิกล่าวต่อว่า นอกจากจะมีความพยายามบิดเบือนคดีที่ตนถูกยิง เพราะโยงไปถึงคนในรัฐบาลแล้ว คดีที่พันธมิตรฯ บุกทำเนียบ ซึ่งเราสู้ในศาลอุทธรณ์จนตัดข้อหากบฏทิ้งไป เราจึงไปมอบตัวแล้ว แต่ตอนนี้จะมีการรื้อใหม่ โดยจะหาทางยัดข้อหากบฏเข้าไปอีกครั้ง ก็เลยอยากถามว่า นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพจะต่างไปจากทักษิณ ชินวัตร ตรงไหน
นายสนธิย้ำอีกว่า การเมืองทุกวันนี้ ไม่มีอะไรเลย พรรคเพื่อไทยจับมือกับนายสุเทพไว้แล้ว โดยแอบจับมือผ่านนายวิชัย รักศรีอักษร เจ้าของคิงเพาเวอร์ และนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เจ้าของแกรมมี่ ทั้งสองคนสนิทกับทั้งนายเนวินและ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวเชื่อมให้สองคนมาเจอกันและหาทางร่วมือกันทางการเมือง ถ้าวันนั้นเกิดขึ้น อยากจะดูพวกที่หลงใหลคนหน้าหล่อว่าจะทำอย่างไร แล้ววันนั้นเชิญมาห้อยโหนเหมือนเดิมก็แล้วกัน
การเมืองไทยทุกวันนี้พิสูจน์ชัดไม่ว่าประชาธิปัตย์จะมา นายอภิสิทธิ์จะมาล้วนแล้วแต่น้ำเน่าทั้งสิ้น ไม่มีอนาคตให้เราเลย ขอเวลาวันสองวันจะเอาหลักฐานมาให้พี่น้องดูว่า 6 ปีทักษิณโกหกอะไรไว้บ้าง แล้ว 2 ปี นายสุเทพ นายอภิสิทธิ์โกหกอะไรไว้บ้าง พี่น้องจะเห็นว่า มีลักษณะเหมือนกัน คือตลบตะแลงเอาตัวรอดไปวันๆ พอโดนจับได้ ก็พูดไปอีกอย่าง แล้วกลัวว่า 2 ปีกว่า ที่นายอภิสิทธิ์โกหกจะมากกว่า 6 ปีที่ พ.ต.ท.ทักษิณโหกด้วยซ้ำ