xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ซัดนายกฯ พร้อม 3 รมต.ตัวการ “วีระ-ราตรี” ติดคุก - แฉ “มาร์ค” เคยโกหกเพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” ซัดรัฐบาลอภิสิทธิ์สุดโสมม แต่สร้างภาพเป็นคนดี เบื้องหลังอาจเลวกว่ารัฐบาลทักษิณ ระบุ “มาร์ค-สุเทพ-ประวิตร-กษิต” ตัวการทำ “วีระ-ราตรี” ติดคุก เชื่อทั้ง 4 คนไม่มีแผ่นดินอยู่แน่นอน ประมวลคำโกหก“มาร์ค” เพียบ ตั้งแต่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน จนล่าสุดอ้างคำตัดสินศาลกัมพูชาไม่ผูกพันดินแดน เย้ยเป็นนักการเมืองระดับเดียวกับ “จตุพร” ดีกว่าหน่อยแค่หน้าหล่อ


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”  

วันที่ 1 ก.พ. เวลา 21.20 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวานฯ ระหว่างการชุมนุม “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า ตั้งแต่เกิดมา จนอายุ 63 ปี ยังไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนที่ระยำเท่ากับรัฐบาลนี้ ที่ระยำเพราะว่าตัวเองสกปรกโสโครกโสมมแต่สร้างภาพเป็นคนดี เปรียบเทียบเหมือนกับเอาเสื้อผ้าสวยๆ คลุมส้วมไว้ คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่รักชาติบ้านเมือง เราสู้ด้วยความสบายใจเพราะเขาเปิดหน้าชก แต่รัฐบาลนี้แกล้งทำเป็นคนดี ทำตัวเป็นผู้ดี แต่เบื้องหลังแล้ว รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ดีกว่าทักษิณ หนำซ้ำยังจะเลวกว่าเสียอีก

นายสนธิกล่าวต่อว่า กรณีนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ถูกศาลกัมพูชาตัเสินจำตุกโดยไม่รอลงอาญานั้น แสดงให้เห็นว่านายฮุนเซนและรัฐบาลนี้จงใจจะเล่นงานนายวีระโดยเฉพาะ น่าเจ็บใจที่เรามีนายกฯ ชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีรองนายกฯ ชื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีรัฐมนตรีกลาโหมชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และมีรัฐมนตรีต่างประเทศชื่อนายกษิต ภิรมย์ ทั้ง 4 คนนี้ คือมูลเหตุในการสร้างหลักฐานให้เขมรเล่นงานนายวีระและ น.ส.ราตรี

กรณีที่นายอภิสิทธิ์บอกว่า ที่ไปกล่าวหาว่าเขาโกหก ให้ยกตัวอย่างสักตัวอย่างว่าโกหกอย่างไรนั้น นายสนธิกล่าวว่า ตนจะยกตัวอย่างให้ดู แต่ก่อนที่จะไปสู่การจับผิดโกหกหลอกลวงของนายอภิสิทธิ์จะย้อนความจำสักนิด กรณีที่กัมพูชาบอกว่า ได้สร้างวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ ที่บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร ตั้งแต่ปี 2541 ก่อนที่เกิดเอ็มโอยู 43 ซึ่งถ้าคิดสักนิดก็จะรู้ว่าในปี 2541 นั้น เป็นช่วงรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่มีนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็น ผบ.ทบ. ซึ่งสนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร และตอนนี้ไปเล่นการเมืองอยู่กับพรรคเพื่อไทยแล้ว ขณะนั้น รมว.ต่างประเทศคือนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ส่วน รมช.ต่างประเทศ คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร คำถามจึงมีอยู่ว่าถ้าเขมรสร้างวัดบนพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ความผิดนี้ก็เกิดขึ้นในยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ชัดเจน เพราะฉะนั้นประชาธิปัตย์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่ปี 2541 แล้ว

นายสนธิกล่าวต่อว่า เมื่อไทยเสียดินแดนให้เขมร คนที่ยกมือให้พรรคประชาธิปัตย์ถือว่ามีส่วนสมรู้ร่วมคิดทำให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดน เพราะเป็นผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ที่ปล่อยให้เขมรรุกล้ำดินแดนตมาสร้างวัดตั้งแต่ปี 2541 และเมื่อเซ็นเอ็มโอยู. 2543 ทักษิณจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็สวมตอเข้าไปพัฒนาในการยกดินแดนให้เขมร เหมือนตอนประชาธิปัตย์เปิดเสรีการเงินให้ประเทศไทยล้มละลายในปี 2540 เอ็มโอยูที่ทำต่อเนื่องมาเป็นฝีมือของทักษิณ แต่ฝีมือที่แท้จริง คือ ประชาธิปัตย์ และพรรคการเมืองพรรคนี้เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่มักจะสร้างความเสียหายให้ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเอาที่ดิน สปก.ไปให้เศรษฐี การขายทรัพย์สินให้ต่างชาติ แม้แต่การเสียปราสาทพระวิหารก็เพราะอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

หลังจากนั้น นายสนธิได้ยกตัวอย่างสิ่งที่นายอภสิทธิ์เคยโกหก เริ่มตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน ได้เปิดอภิปรายรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และบอกว่าประชาชน 1 คนหรือแสนคนที่ลุกขึ้นมาเรียกร้อให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบนั้น ถือว่าไม่ขัดกับหลักประชาธิปไตย แต่ปรากฏว่ามีรองนายกฯ ในรัฐบาลนายอภสิทธิ์บอกว่าการชุมนุมพันธมิตรฯ ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย

นอกจากนิ้ นายอภิสิทธิ์ยังเคยบอกว่า เวลาคนในรัฐบาลมีปัญหาไม่จำเป็นต้องรอให้กฎหมายจัดการ เวลามีปัญหาประเทศส่วนใหญ่ไม่รอให้กฎหมายจัดการ แต่ต้องมีสำนึกทางการเมือง ซึ่งจะสูงกว่าคนธรรมดา แต่วันนี้สำนึกที่นายอภิสิทธิ์เคยพูดตอนเป็นหัวหน้าฝ่ายค้านหายไปไหน

ในช่วงการอภิปรายรัฐบาลนายสมัคร กรณีปัญหาปราสาทพระวิหาร นายอภิสิทธิ์เคยบอกว่า เราไม่ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 แต่ยึดสันปันน้ำ ซึ่งถ้ายึดถือสันปันน้ำจริงๆ วันที่ 7 คนถูกจับที่จังหวัดสระแก้ว ต้องปฏิเสธ แล้วบอกว่านั่นเป็นพื้นที่ของไทย นี่คือการโกหกสุดๆ เมื่อ 7 คนไทยถูกจับ ไม่ได้แสดงอาการปกป้อง แล้วยังไปกระทืบซ้ำอีก

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2553 นายอภิสิทธิ์ไปพูดกับพี่น้องพันธมิตรฯ ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง บอกว่า รัฐบาลนี้ไม่มีประโยชน์อื่นใดนอกจากประโยชน์ชาติ ยืนยันว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่ตนจะเอาแผ่นดินไทยไปแลกกับผลประโยชน์อื่น ถ้าตนทำเช่นนั้น ไม่ใช่แค่ว่าตนไม่ใช่คนไทย แต่ไม่ควรจะอยู่ในแผ่นดินนี้ด้วยซ้ำ นายสนธิ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ พล.อ.ประวิตร นายสุเทพ นายกษิต ขอทำนายอนาคตทั้ง 4 คนไว้ตั้วแต่วันนี้ว่า จะไม่มีแผ่นดินอยู่แน่นอน ตนได้สวดมนต์ภาวนาทุกเช้า ท่ามกลางสิ่งศักดิสิทธิ์ บอกว่าไอ้อีคนไหนมีเจตนาให้แผ่นดินไทยสูญเสียให้ต่างชาติ ขอให้พ่อแม่ครูบาอาจารย์สิ่งศักดิสิทธิ์ทั้งหลาย ดลบันดาลให้ไอ้อีพวกนั้นได้รับผลกรรมในชาตินี้ และให้ผลกรรมต่อเนื่องไปยังลูกหลานของมันด้วย

นายสนธิกล่าวว่า เอ็มโอยู 2543 คือปฏิญญาของการขายชาติ เมื่อเป็นเช่นนี้ เอ็มโอย 2543 คือสัญลักษณ์อัตตาของนายอภิสิทธิ ที่มุ่งแต่รักษาอัตตาของตัวเอง โดยแลกกับแผ่านดินไทย คนอย่างนี้ควรอยู่ในเมืองไทยหรือเปล่า สมควรเป็นคนไทยหรือเปล่า คนอย่างนี้กำลังทำให้ไทยเสียดินแดนโดยนิตินัย แต่พฤตินัยเสียไปแแล้ว การเสียดินแดนแบบนี้ไม่ต่างกับการขายชาติ เหมือนการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ แล้วทักษิณเอาไปแปรรูป ปตท.เป็นของพรรคพวก

ตอนเป็นนายกใหม่ๆ กระสันจนตัวสั่น บอกว่าจะแก้ไขการเมืองที่ล้มเหลว พูดยังไม่ทันสิ้นคำ แต่ก็ไปสมคบกับเนวิน ชิดชอบ นักการเมืองน้ำเน่า จัดตั้งรัฐบาล เป็นการเมืองที่เน่าที่สุด จนนึกไม่ถึงว่าพรรคที่มีอุดมการณ์อย่างประชาธิปัตย์จะกลายเป็นพรรคน้ำเน่าไปได้

นายอภิสิทธิ์ยังโกหกเรื่องกฎเหล็ก 9 ข้อ บอกจะทุ่มเทประสบการณ์เพื่อทำให้เป็นรัฐบาลที่ซื่อสัตย์สุจริตอย่างเคร่งครัด แต่รัฐบาลวันนี้โกงกินมากกว่ายุคทักษิณ ชินวัตรเสียอีก เพราะว่าโพลสำรวจจากนักธุรกิจในหอการค้าไทย เขาไม่โกหก เพราะเขาค้าขายกับรัฐบาล สำรวจมา บอกรัฐบาลนี้โกงกินเรียกเงินใต้โต๊ะมากที่สุด

นายสนธิกล่าวอีกว่า นายอภสิทธิ์ยังเอาแต่สร้างภาพ วันๆ ไม่ทำอะไร พูดจาสร้างภาพอย่างเดียว ข้อเท็จจริงไม่สนใจ สร้างภาพก่อน เรื่องอื่นช่างมัน พอเกิดเรื่องก็ใช้ความตอแหล คำพูดสละสลวยหลอกแม่ยกเอาตัวรอด บอกว่าจะคัดค้านการทุรติต ก็ทำได้แค่ถ่วงเวลา ที่ทำบ่อยที่สุดคือตั้งกรรมการศึกษา เช่น โครงการถนนตัดขึ้นเขาใหญ่ พอมีคนประท้วงก็ตั้งคณะกรรมการพิจารณา แต่ตอนนี้ก็ปล่อยให้สร้างจนเสร็จแล้ว ที่ตั้งกรรมการขึ้นมาก็เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ พอเผลอก็ปล่อยผ่าน อย่างเช่น โครงการประมูลข้าว รถเมล์เอ็นจีวี รถไฟฟ้าสายสีม่วง ต่อสัญญาสัมปทานช่อง 3 ต่อสัญญาคิงเพาเวอร์ ผ่านหมด

นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ มา 2 ปี แต่นักการเมืองของเขาโกงปลากระป๋องเน่า ทุจริตชุมชนพอเพียง แต่ไม่ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.แม้แต่เรื่องเดียว โกหกว่าเป็นรัฐบาลพอเพียง เอาคำว่าพอเพียงไปทำโครงการ ชุมชนพอเพียง ที่มีการทุจริต ด่าเขาว่าประชานิยมหาเสียง คุณก็เอางบฯ ทุ่มซื้อเสียงล่วงหน้า แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นประชาวิวัฒน์

คุณเขียนนโยบายรัฐบาลว่าจะขยายอายุความคดีทุจริต ก็กลายเป็นเรื่องโกหก และมีคดีที่หมดอายุความในรัฐบาลนี้ เช่น คดีนายเสนาะ เทียนทอง กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่หมดอายุความก่อน มีการสมรู้ร่วมคิดกับนายเสนาะหรือเปล่า

“คุณโกหกว่าจะจับคนร้ายที่ลอบยิงผมให้ได้ก่อนเดือนตุลาคม 2552 นี่มันผ่านมา 2 ปีครึ่งแล้ว คุณไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย เพราะผลการสอบสวนมันโยงทางอ้อมไปหาคนของคุณในรัฐบาล คุณถึงเงียบ ไอ้โกหก”

นายสนธิกล่าวต่อว่า นายอภสิทธิ์โกหกว่าจะยึดสันปันน้ำ แต่ปล่อยให้เขมรมายึดวัดแก้วฯ อย่างไม่มีกำหนด โกหกเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.53 ว่า 7 คนไทยไม่สมควรขึ้นศาลกัมพูชา แต่ในที่สุดก็ยอมให้ศาลกัมพูชาพิพากษทั้ง 7 คน ที่ถูกจับในเดินแดนไทย คุณบอวก่ามันผูกพันเฉพาะบุคคล ไม่เกี่ยวกับดินแดน แต่เราไม่โง่ เรารู้อยู่แล้วว่าถ้าเขาจับ 7 คนไปขึ้นศาลกัมพูชา แล้วเรายอมให้เขาทำอย่างนี้เท่ากับยอมรับว่าศาลกัมพูชามีอำนาจอธิปไตยบนพื้นที่ที่คนไทยถูกจับ

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 9 ม.ค.หลังจากที่ชาวบ้านหนองจานซึ่งถูกเขมรยึดที่ดินทำกินมาออกทีวี นายอภิสิทธิ์ก็ตกใจเพราะทำให้เสียภาพพจน์ ก็เรียกชาวบ้านเข้าไปทำเนียบ บอกว่าจะตรวจสอบเพื่อเอาที่ดินคืนให้ แล้วห้ามชาวบ้านพูดว่า 7 คนไทยถูกจับในเขตไทย แล้วรัฐบาลจะช่วย ซึ่งก็ไม่มีทางช่วยได้ เพราะนายอภสิทธิ์กราบแต่นายฮุนเซน

นายอภิสิทธิ์ยังจัดฉากเอาชาวบ้านอีกกลุ่มที่มีหุ้นส่วนค้าขายตามแนวชายแดนอยู่ที่ปอยเปต ไม่ได้รับผลกระทบเรื่องที่ดินทำกิน มาบอกว่าสระน้ำของยูเอ็นอยู่ในกัมพูชา ทั้งที่เจ้าของที่จริงๆ เขายืนยันว่าอยู่ในฝั่งไทย นอกจากนี้ ยังโกหกว่า ยังมีทหารไทยอยู่ที่วัดแก้วฯ จนเขมรมันติดป้ายประจานว่าทหารไทยเคยมียึดที่นี่และถอยออกจากวัดแก้วฯ ไปแล้ว เมื่อเสียหน้าก็เลยกดดันเขมรให้ทุบป้ายเสีย

นายสนธิกล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์ยังโกหกว่าเพราะมี เอ็มโอยู 43 คณะกรรมการมรดกโลกจึงเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหารออกไปอีก 1 ปี ทำให้เรามีเวลาประท้วง แต่ในความจริงเป็นเพราะนายอภสิทธิ์ให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ ลงนามในข้อประนีประนอมกับกัมพูชา และยูเนสโกก็ยอมรับว่าไทยลงนามยอรับการตั้งคณะกรรมการ 7 ชาติขึ้นมาดูแลพื้นที่แล้ว ในเมื่อเราเซ็นชื่อแล้ว จะประท้วงอะไรอีก

นายอภิสิทธิ์ยังเคยบอกจะทำประชามติก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับบอกว่าไม่จำเป็นเพราะจะทำให้เสียเวลา นอกจากนี้ ยังบอกว่า การมีเอ็มโอยู. 2543 ทำให้สหประชาชาติไม่เข้ามาแทรกแซง แต่กฎบัตรสหประชาชาติข้อ 2 วรรค 7 ระบุชุดเจนว่าห้ามสหประชาชาติเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ และยังมีกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.190 เมื่อถูกจับได้กลางสภา ก็ออกมาอ้อมแอ้มๆ

“คุณเป็นคนหนุ่ม สมัยก่อนผมชื่นชมและหวังในตัวคุณมาก ไม่เคยคิดว่าคนอย่างคุณจะกลายพันธุ์เป็นคนประเภทนี้ได้ คิดไม่ถึง นักการเมืองอย่างสมัคร สุนทรเวช จตุพร พรหมพันธุ์ วันนี้คุณต้องดีใจ ที่เทียบชั้นจตุพรไปแล้ว แต่จตุพรมันแพ้คุณ 2 ประการ คุณเหมือนมาร์ค แอนโทนี แต่จตุพรเหมือนคางคาก แต่ถ้าลอกหน้ากากออกมามันก็คางคกเหมือนกัน”นายสนธิกล่าว

นายสนธิกล่าวต่อว่า น่าเจ็บช้ำที่ผู้มีอำนาจรัฐไม่รักชาติบ้านเมือง นายวีระ น.ส.ราตรี และอีก 5 คน ไม่ได้ไปเหยียบดินแดนเขมร เขาให้สัมภาษณ์ชัดเจน นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ เพื่อนของนายอภิสิทธิ์ยังบอกว่าเขายังอยู่ในดินแดนไทย ถ้านายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ที่ต้องการดูแลชาติบ้านเมือง รักชาติรักแผ่นดินก็ต้องไม่ยอมจำนน

“นายสุเทพหยุดปากเสียได้แล้ว วันนี้ลืมตัว ถือว่าเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง คุมทหารตำรวจนึกว่าตัวเองอมตะนิรันดร พี่น้องชาวใต้ที่กำลังดูอยู่ ผมฝากให้คิดสักนิดว่า ที่ผมพูดนั้นมีส่วนไหนโกหกบ้าง ถ้ามีส่วนไหนโกหก หรือถ้าคิดว่าผมโกหก เรามาโต้กัน ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว คุณอภิสิทธิ์ คุณโต้วาทีเก่ง พร้อมไหม เอาคุณ พรรคพวกของคุณ เช่น ศิริโชค โสภา หรือนายสุเทพ เลือกคนที่อยู่บนเวที ใครก็ได้ อาจารย์ปานเทพ อาจารย์เทพมนตรี หรือผม หรือคุณคำนูณก็ได้ มาออกทีวีพร้อมกัน ให้เวลาเท่าๆ กัน แน่ใจไหม เอาไหม ผมท้าคุณเดี๋ยวนี้”

นายสนธิกล่าวต่อว่า เป็นเวรกรรมบ้านเมือง หมดจากไอ้เหลี่ยมก็มาเจอไอ้หล่อ นักการเมืองเมืองไทยเก็บเงินไว้ที่บ้านคนละเป็นพันล้าน ประชาธฺปัตย์ไม่ใช่ผประชาธิปัตย์ที่เราเคยภูมิใจ มันเป็นพรรคที่ไม่มีอุดมการณ์ และต้องใช้เงิน บางคนได้คนละ 2 แสน 3 แสนต่อเดือน แล้วแต่ความสำคัญของแต่ละคน มันไม่ได้ต่างจากพรรคเพื่อไทย

“ส.ส.ที่รับเงินอยู่ คุณต้องรู้ว่าผมพูดความจริง ขอให้รู้ว่าพวกคุณวันนี้คือผีดิบที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่มีจิตวิญญาณเลยแม้แต่นิดเดียว ด้วยเหตุนี้คุณจึงอยากมีอำนาจ คุณเห็นทักษิณทำสำเร็จ ด้วยการซื้อเสียง ไปๆ มา ๆ ที่คุณมาร่วมกับผม ก็เพราะคุณก็ต้องการมีอำนาจ คุณต้องการล้มทายาทอสูรทักษิณ ไม่ได้เจตนาเพื่อรับใช้บ้านเมือง แต่จะเข้ามาเป็นทายาทอสูรอีกตัวหนึ่ง”

“เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เราเคยอยู่ในทำเนียบ เวลานี้นายสมัครก็เป็นเถ้าไปแล้ว อำนาจไม่เข้าใครออกใครในวันที่คุณไม่มีอำนาจ เวรกรรมมีจริง สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะทำให้ใครก็ตามเข้ามาตามล่าคุณเหมือนที่คุณล่าพวกเรา ขอให้คุณมีภูมิคุ้มกันเท่าคนอย่างสนธิละกัน วันหนึ่งมีคนยิงคุณ 175 นัด จะรอดไหม อย่าหยิ่งยโสว่าวันนี้คุณคุมตำรวจต ทหาร พี่น้องตำรวจจากนี้ไป ถ้าได้รับคำสั่งทำรุนแรงกับประชาชน ให้มันเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรมา จะได้ไม่ติดตารางเอง ให้นักการเมืองชั่วๆ มันติดแทน

“ส่วนคุณอภิสิทธิ์ คุณไม่ใช่แค่โกหก แต่เล่าความเท็จเพื่อหลอกลวงประชาชน เมื่อหลอกลวงเสร็จก็จะปลิ้นปล้อนไปเรื่อย เพราะฉะนั้น คุณไม่ได้โกหกอย่างเดียว แต่โกหกหลอกลวงและปลิ้นปล้อนด้วย” นายสนธิกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น