“สมศักดิ์” ชี้ความล้มเหลวการเมืองไทยแก้ยาก เหตุนักการเมืองฮั้วผลประโยชน์ ขาดคนคานอำนาจ ระบุหากยังปล่อยให้มือใครยาวสาวได้สาวเอาหนีไม่พ้นปฏิวัติ แนะ ปชช. เลือกนายกฯ ที่คุณสมบัติ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และคำปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสมศักดิ์ โกศัยสุข”
วันที่ 20 ก.พ.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่าปัญหาที่มันเกิดในประเทศไทยทุกวันนี้ เป็นเพราะการเมืองที่ล้มเหลว คนที่เราเลือกให้ไปทำหน้าที่ในสภา มันทรยศไม่ทำหน้าที่แถมยังโกงพี่น้องประชาชนอีก ถ้า ส.ส.เป็นตัวแทนของประชาชนจริงๆ เมื่อคณะรัฐมนตรีทำชั่วแม้อยู่พรรคเดียวกันก็ต้องถอดถอน ถ้าคอร์รัปชันโกงกินก็ไม่ต้องยกมือสนับสนุน ประเทศไทยสามารถยื่นถอดถอนได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ปัญหามันอยู่ที่รัฐบาลไทยมันฮั้วกัน คนดีที่จะร่วมลงชื่อมันมีไม่ถึง ทำให้พี่น้องก็ต้องมานั่งออกแรงอยู่อย่างนี้แหละ
“พี่น้องมาวันนี้ถือว่ามาทำการกวาดล้างสิ่งปฏิกูลให้หมดไป เรามาชุมนุมไม่ได้ทำให้ประเทศชาติไม่มั่นคงตรงไหน มีแต่ทำให้ประเทศชาติมั่นคง พี่น้องทหารพรานที่อยู่แถวชายแดนได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 50 บาท ส่วนตำรวจตรงนี้ได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 400 บาท ถ้าคิดจะเอามั่นคงอย่างนี้ก็เอามั่นคงต่อไปเถอะ ไม่ได้อิจฉาแต่อยากให้ขึ้นเบี้ยเลี้ยงให้ทหารด้วย ทหารเขาลำบากกว่าที่นี่เยอะ ตรงนี้ไม่ต้องกลัวไม่มีใครยิง มีแต่มือตบทั้งนั้น”
นายสมศักดิ์กล่าวถึงนักวิชาการที่บอกเป็นยุคโลกาภิวัตน์ไม่มีเขตแดนนั้น นักวิชาการพวกนี้เป็นพวกหัวลูกโป่ง สมองกลวง ไม่รับรู้ข้อเท็จจริง ถามว่าเวลาไปต่างประเทศต้องทำพาสปอร์ตไหม ไม่มีประเทศใดในโลกที่ไม่มีเขตอธิปไตยที่แน่นอน ความคิดโลกาภิวัตน์ เป็นการล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้ว เพื่อเข้าไปเอาประโยชน์กับประเทศที่ยังไม่พัฒนา อย่างไรก็ดี เราไม่ได้ปฏิเสธการค้าเสรี แต่ต้องรู้ว่าอาชีพอะไรเป็นของคนไทยเราต้องรักษาไว้ไห้คนไทย เพื่อให้ผลประโยชน์ตกเป็นของประเทศไทยมากที่สุด
“ยุทธศาสตร์ด้านต่างประเทศ ฮุนเซนมีแต่ได้ ขณะที่รัฐบาลไทยมีแต่เสียกับเสีย 1.เสียคนไทย เสียสิทธิ เสียศักดิ์ศรีประเทศที่ต้องไปถูกศาลเขมรลงโทษ ทั้งที่อยู่ในดินแดนไทย 2.เสียดินแดนที่บรรพบุรุษต่อสู้เสียเลือดเสียเนื้อตามบริเวณเขตแดนไทย-เขมร 3.เสียปราสาทเขาวิหารไปแล้ว ทั้งที่เป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นของไทยมาแต่เนิ่นนาน”
นายสมศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลหลักนิติธรรม คือต้องเอาธรรมนำหน้า ไม่ใช่เอากฎหมายใหญ่กว่าหลักธรรม รัฐต้องจัดสรรทรัพย์ยากรแจกจ่ายให้ประชาชนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ไม่ใช่ปล่อยให้ใครมือยาวสาวได้สาวเอาหรือกีดกันไม่สนับสนุนส่งเสริมให้คนจนถาวร แล้วเอาประชาชนเป็นตัวประกัน พอเลือกตั้งก็เอาเงินไปแจก ได้อำนาจก็เข้ามาก็โกงกิน 4 ปีเลือกตั้งใหม่ก็ไปแจก ประเทศหายนะก็เพราะมีนักเลือกตั้งอย่างนี้ เมื่อโกงมากๆ ประชาชนต่อต้าน ทหารก็ยึดอำนาจ พอยึดอำนาจก็ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จากนั้นก็ไปซื้อเสียงเลือกตั้ง วนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์อยู่อย่างนี้
อย่างวันนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ บอกยังไม่ยุบสภาขออยู่แก้ปัญหาค่าครองชีพสูงก่อน ตรงนี้ก็มันเป็นมาตั้งนานแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ แสดงว่าไม่มีน้ำยาที่จะบริหารประะเทศ เป็นประธานความมั่นคงก็เละ เป็นประธานน้ำมันปาล์มก็เละอีก ความแตกต่าง น้ำมันปาล์มที่ตลาดปีนังลิตรละ 25 บาท ปาดังเบซาร์ จังโหลน ติดกับประเทศไทยทาง จ.สงขลา ตอนนี้ลิตรละ 20 บาท ส่วนที่หาดใหญ่ลิตรละ 70 บาท ส่วนน้ำมันดีเซล เพราะอะไรในมาเลเซียถูกกว่าเราลิตรละ 15 บาท ขณะที่คนมาเลเซียมีรายได้ต่อหัวสูงกว่าเรา 3.5 เท่า ขนาดมาเลเซียเป็นประเทศเล็กๆ ติดกับด้ามขวานของเรา
นายสมศักดิ์กล่าวว่า คุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยขอแค่มีจิตสำนึกธรรมดาเท่านั้น พี่น้องจบ ป.3 ป.4 ก็บริหารได้ การบริหารประเทศต้องเลือกคนดีมีธรรมะ ใครที่มีศีลธรรมมากว่าคนอื่นคนนั้นควรได้บริหารประเทศ เพราะเขาไม่โกงไม่กิน เพราเขารู้จักอับอาย ถ้าไม่โกงไม่กินมั่นใจว่าคนไทยอยู่ดีมีสุขทุกคน ดังนั้นอย่าให้เครดิตกับคนจบด๊อกเตอร์ จบเมืองนอก แต่ให้ดูพฤติกรรมว่าสมควรเคารพหรือไม่ พูดภาษาไทยคำอังกฤษคำอย่างนี้ใช้ไม่ได้ เราอย่าไปกลัวว่านายอภิสิทธิ์ไม่เป็นแล้วใครจะมาเป็นนายกฯ เมื่อประเทศไทยก็มีนายกมาแล้วถึง 27 คน แต่มีได้เรื่องไม่กี่คน พี่น้องต้องกำหนดคุณสมบัติคนที่มาเป็นนายกฯ อย่ากำหนดคน คือ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และปฎิบัติตามคำปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การพูดอย่างทำอย่างประเทศมันไปไม่ได้ รัฐบาลประกาศเป็นนโยบายเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2551 ว่า จะสร้างความสมานฉันท์ในประเทศให้ได้ แต่วันนี้มาสร้างความแตกแยกในประเทศมากขึ้นกว่าเดิม