โฆษกเพื่อไทยตั้งโต๊ะแถลงโต้ รบ. ชี้เล่นละครตบตาประชาชน ยุบสภารายวัน เปลี่ยนฉายาหล่อลอยตัว ปล่อยขบวนการกักตุนน้ำมันปาล์ม จนขาดตลาดราคาพุ่ง แถมโยนบาปให้กระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบ จนกลายนายกฯ เทวดา ยุ “มาร์ค-เทพเทือก” ดึงพาณิชย์มาดูแลเอง จี้ “มาร์ค” กล้าผ่าทางตันกระบวนการยุติธรรมไทย
วันนี้ (18 ก.พ.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าอาจจะมีการยุบสภาก่อนเดือนมิถุนายนว่า นายสุเทพพูดในตอนเช้าแต่ช่วงบ่ายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กลับออกมาบอกว่ายังไม่ทราบเรื่อง นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยก็เคยออกมาให้ข่าวว่าจะมีการยุบสภาในช่วงเดือนมิถุนายน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเป็นกระบวนการของรัฐบาลที่แบ่งบทกันเล่นละครเพื่อตบตาประชาชนรายวัน ทั้งนี้ หากมีการยุบสภาเมื่อไหร่พรรคเพื่อ่ไทยก็พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งเมื่อนั้น แต่รัฐบาลควรจะให้ความสนใจกับการแก้ปัญหาให้กับประชาชนให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภคที่ราคาแพงขึ้น เช่น น้ำมันปาล์ม เพราะเดี๋ยวนี้มีอาชีพใหม่เกิดขึ้นคือ การเข้าคิวรอซื้อน้ำมันปาล์มของกระทรวงพาณิชย์ในราคาขวดละ 47 บาทแล้วนำมาแบ่งใส่ถุงขายในราคา 65-70 บาท โดยมีนักการเมืองร่วมหัวกันกับพ่อค้า ขณะที่บางแห่งประชาชนถึงกับชกต่อยกันเพื่อแย่งกันซื้อน้ำมันปาล์มเหมือนแย่งกันซื้อน้ำในทะเลทราย
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายสุเทพในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปตรวจสอบการกักตุนน้ำมันปาล์มนั้น นักการเมือง “ส. และ พ.” ที่อยู่เบื้องหลังการกักตุนน้ำมันปาล์มเพื่อเอาไปขายใต้ดินกว่า 3 ล้านขวดตลอด 2 เดือนที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ได้กำไรจากส่วนต่าง 23 บาทต่อขวดไปแล้วเกือบพันล้านบาท รัฐบาลความรู้สึกช้า นายสุเทพโยนบาปให้กับกระทรวงพาณิชย์แต่กระทรวงพาณิชย์กลับบอกว่าเมื่อต้นน้ำเน่ามาอย่างไร ปลายน้ำมันก็เน่าอย่างนั้น ดังนั้น ฉายาที่สื่อมวลชนตั้งให้กับนายอภิสิทธิ์ว่าหล่อหลักลอยนั้น น่าจะเพิ่มเป็น “หล่อลอยตัว” มากกว่า อย่างไรก็ตาม การที่นายอภิสิทธิ์บริหารประเทศโดยไม่แสดงความรับผิดชอบ ทั้งกรณีคนเสื้อแดงเสียชีวิต 91 ศพจากการสลายการชุมนุม จับตรงไหนก็เกิดการทุจริตตรงนั้นในรัฐบาล รวมทั้งเกิดปัญหาตามแนวชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาแต่รัฐบาลก็ยังอยู่ได้นั้น ตนขอยกระดับนายอภิสิทธิ์จากเดิมที่เป็น “โฆษกฯ เทวดา” สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี เป็น “นายกฯ เทวดา”
นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยหมดหวังกับรัฐบาลนี้ในการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง จึงอยากวิงวอนไปถึงนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลังและพ่อค้าแม่ค้าที่กักตุนสินค้าว่า ผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้ว พวกท่านรวยกันพอแล้ว ควรจะหยุดหากินบนความเดือนร้อนของประชาชนเสียที วันนี้ (18 ก.พ.) เป็นวันมาฆบูชา ขอให้ช่วยลด ละ เลิก การกักตุนและปั่นราคาเพื่อหาประโยชน์เสียที ทั้งนี้ ตนขอเสนอให้นายอภิสิทธิ์ยึดกระทรวงพาณิชย์กลับมาบริหารเอง เหมือนสมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เคยนั่งควบกระทรวงกลาโหมมาแล้ว เพื่อที่สุดท้ายจะได้รู้ว่าคนที่จบจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ นั้นจะมีปัญญาแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงในประเทศไทยหรือไม่ แต่ถ้าไม่กล้าก็ขอเสนอให้นายสุเทพนั่งควบกระทรวงพาณิชย์แทน และถ้าหากยังแก้ปัญหาไม่ได้อีกประชาชนจะได้รู้ว่ารัฐบาลนี้มีแต่เส้น ไม่มีน้ำยา
ด้าน นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ทั้งในกทม.และต่างจังหวัดนั้น น้ำมันปาล์มล็อตแรกที่กระทรวงพาณิชย์นำเข้ามา และขายในราคาขวด 1 ลิตรราคา 47 บาทนั้นไม่สามารถหาซื้อได้ โดยจากการลงพื้นที่ตลาดสดบางกะปินั้น พ่อค้าแม่ค้าระบุว่าไม่สามารถนำน้ำมันปาล์มขวดฝาสีฟ้าของกระทรวงพาณิชย์มาจำหน่ายในราคาขวดละ 47 บาทได้เพราะขณะนี้ในตลาดมืดขายกันอยู่ที่ราคา 70 บาท จึงไม่อยากนำขึ้นมาขายบนแผงค้า เพราะจะทำให้ต้องขายในราคา 47 บาทตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไม่เพียงแค่น้ำมันปาล์มเท่านั้น ยังมีสินค้าอีกประมาณ 15 รายการที่มีราคาสูงขึ้นและมีแนวโน้มที่จะขาดตลาดด้วย เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันทานตะวัน กะทิกล่อง น้ำตาลทราย ข้าวสารบางชนิด เนื้อสุกรชำแหละ ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นมผงขาดมันเนย อาหารกระป๋อง ผงซักฟอก สบู่ น้ำยาล้างจาน แชมพู และผ้าอนามัย ดังนั้นเมื่อพรรคเพื่อไทยเสนอให้รัฐบาลรีบแก้ไขปัญหาแต่รัฐบาลกลับปล่อยปละละเลย พรรคเพื่อไทยจึงได้ประสานกับผู้ประกอบการบางรายที่จำหน่ายสินค้าบางชนิดเช่น น้ำมันปาล์ม ข้าวสาร ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และปลากระป๋อง เพื่อจัดเป็นตลาดนัดสินค้าราคาถูกขึ้นที่พรรคเพื่อไทยในวันที่ 22 ก.พ.
นายวิมกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ พรรคกำลังประสานกับผู้ประกอบการอีกหลายรายเพื่อขอให้ช่วยนำสินค้าต่างๆ มาจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดเล็กน้อยเพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อเป้นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ พรรคไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายสินค้าราคาถูกเอง แต่เป็นเพียงผู้ประสานและเอื้อเฟื้อสถานที่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพื้นที่ต่างจังหวัดนั้น พรรคได้มอบหมายให้เป็นดุลยพินิจของ ส.ส.ในพื้นที่นั้นๆ ว่าจะประสานเพื่อหาช่องทางช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้อย่างไรบ้าง เนื่องจากพื้นที่แต่ละจังหวัดนั้นมีสภาพที่ไม่เหมือนกัน
นายพร้อมพงศ์แถลงถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมในวันที่ 19 ก.พ.เพื่อเรีกยร้องให้แกนนำ นปช.ที่ถูกคุมขังได้รับการประกันตัวว่า นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า กระบวนการยุติธรรมไทยขณะนี้ไม่ใช่ 2 มาตรฐาน แต่ไม่มีมาตรฐาน สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ชนนั้นแย่ยิ่งกว่าถูกกล่าวหาว่า 2 มาตรฐานแล้ว เพราะคนที่เป็นกลางซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้แต่งตั้งขึ้นมาเองนั้นก็ยังบอกว่าไม่มีมาตรฐาน ดังนั้นวันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ อัยการ ตลอดจนกระบวนการทางศาลควรจะต้องทบทวนบทบาทของตัวเองเพื่อเรียกศรัทธากลับคืนมา นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ต้องกล้าผ่าทางตันกระบวนการยุติธรรมไทย โดยจะต้องทำหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และดีเอสไอว่า รัฐบาลจะไม่คัดค้านการประกันตัวแกนนำนปช.เพื่อให้เกิดความปรองดอง ขอให้รัฐบาลทำอย่างจริงจัง ไม่ใช่พูดดีต่อหน้าแต่ในมือถือมีดอยู่ตลอดเวลา เพราะสุดท้ายอาจจะนำไปสู่เงื่อนไขของการยึดอำนาจได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นนายอภิสิทธิ์จะต้องรับผิดชอบ