“ประพันธ์” ซัด รบ.โง่เขลา ร้องยูเอ็นทั้งทีแต่ไม่บอกเขมรรุกรานไทย ชี้ชัดปะทะไทย-เขมร ไม่เข้ากฏบัตรสหประชาชาติต่างชาติแทรกแซงไม่ได้ เมินข้อหากีดขวางการจราจร พ.ร.บ.มั่นคงฯ ชี้แม้กระทั่งชีวิตและความตายยังเสียสละได้เพื่อชาติแผ่นดินนี้ ลั่นถ้าไม่มีใครทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินไทยจนเสียให้เขมร จะยอมสละชีวิตบั้นปลายตั้งกองกำลังไปสู้กับเขมรเอง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย นายประพันธ์ คูณมี
วันที่ 13 ก.พ.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน กล่าวว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เวลาเป็นฝ่ายค้านพูดจามีหลักเกณฑ์ เคารพประชาธิปไตย เรียกร้องให้คนอื่นฟังเสียงประชาชน พอตัวเองเป็นรัฐบาล ประชาชนมาพูดให้เหตุผล กลับมองว่าเป็นพวกก่อความวุ่นวาย กีดขวางทางจราจร เล่นการเมืองข้างถนน หน้าตาก็ดูดีไม่น่าเชื่อจะตอแหลได้ขนาดนี้ ดังนั้นเราจะชุมนุมจนไปเรื่อยๆ จนกว่านายอภิสิทธิ์จะออก ข้อหากีดขวางการจราจร พ.ร.บ.มั่นคงฯ เรื่องแค่นี้ไม่ได้หวาดกลัวเลย แม้กระทั่งชีวิตและความตายยังเสียสละได้ เพื่อชาติแผ่นดินนี้
ทั้งนี้ ปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา พัฒนาขึ้นสู้ระดับนานาชาติ การที่กัมพูชายกเอาข้อพิพาทขึ้นสู่เวทีสหประชาชาติ ก็เหมือนกับครั้งเอาปราสาทเขาพระวิหารขึ้นสู่ศาลโลก แค่เปลี่ยนจากเวทีศาลโลกเป็นสหประชาชาติ ภายใต้การประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ได้ยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยการสมรู้ร่วมคิดกับประเทศมหาอำนาจบางประเทศหนุนหลังกัมพูชา แต่นายอภิสิทธิยังมัวจับประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ทะเลาะต่อปากต่อคำกับประชาชน แล้วอย่างนี้มันจะพาชาติไปรอดไหม
อย่างไรก็ดี เรื่องกฎบัตรสหประชาชาติมีข้อกำหนดว่า ถ้าเป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศ ชาติอื่นจะเข้าแทรกแซงไม่ได้ ยกเว้นมีการใช้กำลังรุกรานโดยไม่เป็นธรรม หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สำหรับปัญหาไทย-กัมพูชา ไม่ได้เข้ากฏบัติสหประชาชาติเลย อีกทั้งคนที่ถูกรุกรานคือไทย แต่ด้วยความโง่เขลาของรัฐบาลไทย กลายเป็นกัมพูชาชิงตัดหน้าไปฟ้องยูเอ็นก่อน ปัญหาคือหากนายอภิสิทธิ์มัวเถียงประชาชนอยู่เช่นนี้ เราจะกลายเป็นจำเลยในเวทีการประชุม ตนเปิดดูคำประท้วงที่กระทรวงการต่างประเทศทำไปถึงยูเอ็น ไม่มีข้อไหนที่จะบอกว่ากัมพูชารุกรานประเทศไทยเลย ขณะที่กัมพูชาอ้างแผนที่ 1 : 200,000 ฟ้องยูเอ็นว่าไทยรุกรานทำให้กัมพูชาต้องปกป้องดินแดน ดังนั้นถ้าไทยเดินเข้าสู่เวทีเจรจาย่อมเสียเปรียบแน่นอน
นายประพันธ์กล่าวถึงคำพูดนายอภิสิทธ์ ที่ว่า “หากยึดตามคำพิพากษาศาลโลก เฉพาะตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา หากตีเส้นเลยขอบปราสาทออกมาเท่ากับสละสิทธิอีกแล้ว” ตรงนี้เท่ากับว่า นายอภิสิทธิ รู้ว่ากัมพูชาได้เฉพาะตัวปราสาท แต่วันนี้ยังไม่เห็นนายอภิสิทธิ์ เรียกร้องให้กัมพูชา ถอนวัด ค่ายทหาร ชุมชน ออกจากเขตแดนไทยเลย
ทั้งนี้ ขอเตือนนายอภิสิทธิ์ว่า ร่างตกลงเจบีซี จะผ่านสภาไม่ได้ เพราะจะยิ่งเป็นการตอบรับแผนที่ 1 : 200,000 และยอมรับเขตอธิปไตยของกัมพูชา หากนายอภิสิทธิ์มีข้อเสนอที่ดีกว่าก็เอามาแสดง อย่าเถียงแบบข้างๆ คูๆ
“ขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ว่า ถ้าแม้ไม่มีใครมาทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินไทย และยอมให้แผ่นดินไทยตกเป็นของกัมพูชา ผมจะยอมเสียสละชีวิตในบั้นปลายของผม จะหาทางตั้งกองกำลังไปสู้กับมัน เราจะไม่ยอมให้แผ่นดินไทยตกเป็นของกัมพูชาอย่างแน่นอน ผมเคยเป็นนักรบมาแล้วทหารป่าก็เคยเป็นมาแล้ว ถ้าแผ่นดินไทยเป็นของเขมร ผมจะปลุกคนไทยตั้งกองกำลังสู้กับมัน” นายประพันธ์กล่าวทิ้งท้าย
