xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” จวก “มาร์ค” ขี้ขลาด อย่ามาทวงแค่ถนน 2 เลน -จี้เอาคืน 4.6 ตร.กม.จากเขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” ย้ำ “ฮุนเซน” เตรียมใช้ 4.6 ตร.กม.เป็นตัวตั้ง ยึดแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ฮุบดินแดนไทย จวก “มาร์ค” เอาตัวรอด เมินปกป้องดินแดน มัวทวงถนน 2 เลนจากพันธมิตรฯ แต่ไม่ทวงดินแดนที่โดนเขมรยึด แฉปล่อยนักการเมืองชั่วเจรจา “สก อาน” สวมตอผลประโยชน์ทางทะเลยุค “แม้ว” แลกเงินใต้โต๊ะ


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”  

เมื่อเวลา 21.08 น. วันที่ 10 ก.พ. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวานฯ ระหว่างการชุมนุม “รวมพลังปกป้อง”แผ่นดิน” ว่า ภาพรวมสาเหตุของปัญหาเขตแดนไทย-เขมรขณะนี้เกิดจากความพยายามของฝ่ายกัมพูชาที่จะใช้แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ให้ได้ เนื่องจากแผนที่ดังกล่าวจะส่งผลต่อตำแหน่งของหลักเขตที่ 73 ซึ่งจะส่งผลต่อการลากเส้นแบ่งในทะเลด้วย ดังนั้น นายฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา จึงพยายามจะเอาพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหารให้ได้ เพราะถ้าได้พื้นที่ตรงนี้ ก็เท่ากับว่าไทยเรายอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 นายฮุนเซนก็จะเอาเป็นตัวตั้งเพื่อไปอ้างว่าในเมื่อไทยยอมรับตามที่ยอมรับต่อคณะกรรมการมรดกโลก เพราะฉะนั้น การปักหลักเขตต่อไปจะต้องใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตลอดไป นี่คือวัตถุประสงค์แรกที่ต้องสู้กันอย่างถึงพริกถึงขิง

นายสนธิกล่าวต่อว่า แต่นายกฯ ไทยขี้ขลาดที่จะปกป้องผลประโยชน์ของคนไทย แต่ไม่ขี้ขลาดที่จะปกป้องผลประโยชน์เขมร ปล่อยให้มีการสวมตอผลประโยชน์ทางทะเลที่ทักษิณ ชินวัตรกับนายฮุนเซน ตกลงกันเอาไว้ก่อนแล้ว เพียงแต่รอเรื่องมรดกโลก ซึ่งถ้าฝ่ายกัมพูชาได้ 4.6 ตารางกิโลเมตร การแบ่งปันผลประโยชน์ทางทะเลก็จะเริ่มทันที ด้วยเอ็มโอยู 2544 ที่มีที่มาจากเอ็มโอยู 2543 แต่บังเอิญว่า ทักษิณ ชินวัตร ถูกขับไล่ออกนอกประเทศก่อน เอ็มโอยูจึงไม่สามารถเดินหน้าต่อได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากนายสมัคร สุนทรเวช เข้ามาเป็นนายกฯ ก็เดินหน้าต่อ ด้วยการออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาเพื่อสนับสนุนการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ เป็นผู้ลงนาม ซึ่งพันธมิตรฯ ได้ออกมาคัดค้าน ทั้งนี้ นายนพดลถือเป็นตัวการที่ทักษิณวางตัวไว้ให้เดินเรื่องมรดกโลก สานต่อเอ็มโอยู 2543 เอ็มโอยู 2544 และต่อไปยังอ่าวไทยที่มีก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน เนื่องจากนายนพดลเป็นทนายความที่ทักษิณสั่งซ้ายหันขวาหันได้

เมื่อนายอภิสิทธิ์เข้ามา ทั้งที่เคยพูดตอนเป็นฝ่ายค้านว่าไม่เอาแผนที่ 1 ต่อ 200,000 แต่ความที่ต้องการเอาตัวรอดไปวันๆ ก็พยายามให้เราเชื่อว่ายังยึดหลักสันปันน้ำ แต่พฤติกรรมของเขาตั้งแต่เป็นนายกฯ ก็เปลี่ยนไปทุกด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงไปคุยกระหนุงหระหนิงกับนายฮุนเซน แล้วกลับมาบอกว่าพื้นที่ 4.6 ตร.กม.แค่แมวดิ้นตาย เแสดงว่าไปตกลงจะให้นายฮุนเซนได้พื้นที่ 4.6 ตร.กม. เพื่อเอาไปหาเสียงกับคนเขมรใช่หรือไม่ นอกจากนี้มีคนบางคนไปพบนายสก อาน รองนายกฯ เขมรที่ฮ่องกง ซึ่งตนพอรู้คร่าวๆ ว่า มีการตกลงจะให้มีสันติภาพ ด้วยการยก 4.6 ตร.กม.ให้เขมร แล้วฝ่ายเขมรจะให้ผลประโยชน์ทางทะเล นั่นคือขบวนการสวมตอนั่นเอง

นายสนธิกล่าวต่อว่า เมื่อมีหลายฝ่ายออกมาทักท้วงนายอภิสิทธิ์ว่าไทยเสียดินแดน นายอภิสิทธิ์ก็ไปพูดกับประชาชนที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อวันที่ 8 ส.ค.53 ว่า ถ้าตนทำให้เสียดินแดนอย่าว่าแต่เป็นคนไทยเลย แผ่นดินไทยก็ไม่ควรจะอยู่ ซึ่งด้วยข้อเท็จจริงขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ต้องลาออกจากคนไทยแล้วและไปอยู่ต่างประเทศ เพราะไทยได้เสียเดินแดน 4.6 ตร.กม.ให้เขมรแล้ว นายอภิสิทธิ์พูดที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นว่าจะใช้ทั้งการทูตและการทหารในการผลักดันคนกัมพูชาที่บุกรุกดินแดนออกไป แต่ 7 เดือนผ่านไป นายอภิสิทธิ์ไม่ได้ใช้มาตรการอะไรเลย นอกจากยื่นหนังสือประท้วงให้นายฮุนเซนเอาไปเช็ดก้น

นายสนธิกล่าวอีกว่า วันนี้นายอภิสิทธิ์มายื่นคำขาดให้พันธมิตรฯ คืนพื้นที่จราจร 2 ช่อง แต่ไม่เคยยื่นคำขาดให้เขมรคืนพื้นที่ 4.6 ตร.กม. นี่คือสาเหตุที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ทนไม่ได้ถึงกับบอกว่าตอแหล คนถือศีลจะไม่พูดจาต่อว่าใคร นอกจากเหลืออดจริงๆ และทั้งชีวิต ตนไม่เคยเห็น พล.ต.จำลองโกรธใคร เพิ่งมาเห็นโกรธรัฐบาลเรื่องดินแดนนี้เอง

นายสนธิกล่าวว่า นอกจากมีการตกลงผลประโยขน์กับนายฮุนเซนแล้ว ทหารบางคนมีเมียน้อยถึง 4 คน ที่ส่งสินค้าอุปโภคบริโภคขายให้เขมร พวกเราจึงต้องมานั่งเหงื่อแตกอยู่ตรงนี้ เพราะรัฐบาลไม่ทำงาน ตรงกันข้าม การแสดงออกทั้งของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กลับเร่งให้ไทยเสียดินแดน เมื่อคนไทย 7 คนถูกจับ ก็รีบออกมาพูดว่าอยู่ในดินแดนเขมร จนพวกเราต้องไปหาหลักฐานมา เอาชาวบ้านที่เป็นเจ้าของที่มายืนยันว่าอยู่ในเขตไทย

นายสนธิระบุอีกว่า สมัยที่ทักษิณ ชินวัตร ยังอยู่ในประเทศไทย มีนักธุรกิจชาวอังกฤษเชื้อสายอียิปต์ เจ้าของห้างแฮร์รอดส์ คือนายโมฮัมเหม็ด อัลฟายเอ็ด ได้เดินทางมาประเทศไทย และสนใจจะขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับทางกัมพูชา ยังตกลงกันไม่ได้ แต่แหล่งข่าวของตนบอกว่าตอนนี้ไทยกับเขมรแอบให้สัมปทานขุดเจาะน้ำมันไปแล้ว เหลืออยู่แค่ว่าให้ตกลงกันให้ได้เรื่องพรมแดนก่อน ก็จะเริ่มขุดเจาะ มีสัญญาณเงินใต้โต๊ะที่พร้อมจะจ่ายให้นักการเมืองชั่วทั้งสองฝ่ายเอาไปเข้าพกเข้าห่อ พวกเราประชาชนผู้รักชาติคือก้างขวางคอชิ้นใหญ่ของนักการเมืองชั่วๆ ที่ขายชาติขายแผ่นดิน

นายสนธิกล่าวต่อว่า คนที่บิดเบือนเรื่องแผนที่หลายคนตายไม่ดี เอ็มโอยู 2543 คนเซ็นคือ รัฐบาลนายชวน หลีกภัย ก็เจ๊งไป ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นมาสานต่อเอ็มโอยู 2543 ก็โดนประชาชนไล่ นายสมัครมาก็เสียชีวิตไปแล้ว สำหรับนายอภิสิทธิ์ ถ้ายกเลิกเอ็มโอยู 43 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะคุ้มครอง แต่ยังจะทำต่อ รัฐบาลนี้ก็กำลังจะมีอันเป็นไปเช่นกัน เพราะเอ็มโอยู 2543 คือข้อตกลงขายชาติขายแผ่นดิน

“ถ้ายกเลิกเอ็มโอยู 43 มันจะตายเชียวหรือ แต่ถ้ายกเลิกแล้วคนไทยได้ดินแดนคืน เราได้เจรจากับเขมรเต็มที่ นี่คือผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ทำไมเพียงแค่นี้คิดไม่ออกเชียวหรือ” นายสนธิกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น