กกต.เตรียมระดมทีมสืบสวนสอบสวน สนองนโยบายรัฐรับมือการเลือกตั้ง คาดจะรุนแรง ด้านศาล รธน.วินิจฉัยคุณสมบัติ “ไพบูลย์” ส.ว.สรรหา เสนอความเห็นต่อสถานภาพการดำรงตำแหน่งของ คุณหญิง จารุวรรณ เมฑกา อดีตรักษาการผู้ว่าการ สตง.พรุ่งนี้
วันนี้ (10 ก.พ.) นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เตรียมจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง ส.ส.หัวข้อ เรื่อง “การสืบสวนสอบสวนในกระบวนการเลือกตั้ง” ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 14-17 ก.พ.นี้ ที่ จ.ระยอง เพื่อเตรียมการรับมือกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากกรณียุบสภา หรือครบวาระ เนื่องจากคาดการณ์ว่า เมื่อมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง
โดยในการดำเนินการครั้งนี้ จะเป็นการจัดทำแผนปฏิบัติการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งทั่วไป ทั้งในด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นการขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง การสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง เพื่อการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นตามกฎหมาย ระเบียบ และมติ กกต.ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีการจัดทำแผนปฏิบัติงานให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม และรอบครอบครบถ้วนสมบูรณ์ และต้องสามารถหาผู้รับผิดชอบหน้าที่ ขั้นตอนการปฏิบัติการประสางาน ตลอดจนรายงานให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้
ด้านศาลรัฐธรรมนูญจะออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำวินิจฉัยกรณีประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของคณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้วินิจฉัยให้สมาชิกภาพของ นายอิทธิพล เรืองวรบูรณ์ ส.ว.สรรหา สิ้นสุดลง เนื่องจากกระทำการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 119(4) ประกอบมาตรา115(5) กรณีบุพการี คู่สมรส หรือบุตรของผู้ดำรงตำแหน่ง ส.ส.หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่ง กกต.ตรวจสอบพบว่า บุตรชาย ของ นายอิทธิพล นั้น มีตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรี จึงอาจเข้าข่ายให้ นายอิทธิพล ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ว.
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังจะอ่านคำวินิจฉัยกรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และสมาชิก ส.ว.16 คน เข้าชื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สมาชิกภาพความเป็น ส.ว.ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายประธานวุฒิสภา สิ้นสุด เนื่องจากกระทำการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 116 ประกอบมาตรา 266 ที่ห้าม ส.ส.และ ส.ว.ใช้สถานะ หรือตำแหน่งเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซง เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่นหรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งกรณีนี้ นายเรืองไกร และพวก กล่าวหาว่า นายไพบูลย์ ใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปแทรกแซงฝ่ายข้าราชการ กรณีส่งความเห็นเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งของคุณหญิง จารุวรรณ เมณฑกา อดีตรักษาการผู้ว่าการ สตง.ในขณะนั้นว่ายังมีตำแหน่งเป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินต่อไป
