กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง พร้อมจัดการเลือกตั้ง สนองนโยบาย “มาร์ค” พล่ามรายวันยุบสภา ก่อนครึ่งแรกของปี จี้ รบ.แก้ไขร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.ให้แล้วเสร็จก่อน มั่นใจจัดเลือกตั้งเป็นประโยชน์ต่อระบอบประชาธิปไตย ดีกว่าการทำรัฐประหาร
วันนี้ (9 ก.พ.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งกรณีนายกรัฐมนตรี ระบุจะมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ว่า กกต.เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ซึ่งในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราสุดท้ายบัญญัติว่า ในกรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญผ่านการพิจารณาแล้ว และการแก้ไขร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.ยังกระทำไม่แล้ว หากจะต้องมีการเลือกตั้งก็ให้อำนาจ กกต.ออกประกาศ ประกาศข้อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งได้ ซึ่งก็ถือว่า กกต.ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข แต่ทั้งนี้ ก็มีข้อกังวลของพรรคการเมือง ว่า การออกประกาศฯของ กกต.อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเกิดปัญหากับการทำงานของ กกต.ตรงนี้ทาง กกต.ก็เห็นว่า เพื่อให้พรรคการเมืองคลายกังวลมการออกประกาศฯไม่กลายเป็นข้อโต้แย้ง รัฐบาลก็น่าจะผลักดันให้มีการแก้ไขร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว.ให้แล้วเสร็จก่อน ซึ่งที่ กกต.เตรียมไว้เพียง 20 กว่ามาตรา หากรัฐบาลมีการประสานงานกับสมาชิกรัฐสภา และเป็นไปตามที่สมาชิกแต่ละพรรคการเมืองพูดว่าถ้าผ่านสภาคงใช้เวลาไม่นาน ก็เชื่อว่า การแก้ไขน่าจะแล้วเสร็จได้ภายใน 1 เดือน เพราะประเด็นที่จะต้องมีการแก้ไขก็ไม่ได้มีอะไรมาก
อย่างไรก็ตาม นางสดศรี ยอมรับว่า การครบวาระของ ส.ว.สรรหา 74 คน ในวันที่ 18 ก.พ. และอาจมี ส.ว.บางส่วนลาออกก่อนครบวาระเพื่อเข้ารับการสรรหาใหม่ อาจจะเป็นปัญหาต่อการพิจารณาผ่านร่างแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.ได้ แต่ก็คิดว่าจำนวนเสียง ส.ว.ที่จะผ่านร่างกฎหมายก็เพียงแค่กึ่งหนึ่ง และการสรรหา ส.ว.ก็คาดว่า จะเสร็จสิ้นในเดือน มี.ค.ดังนั้น ถ้าจะผลักดันให้มีการผ่านร่างแก้ไขกฎหมายลูกก็ไม่น่าจะมีปัญหา
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายกังวลว่าอาจจะไม่มีการเลือกตั้ง และเกิดการเปลี่ยนแปลง กกต.นางสดศรี กล่าวว่า เป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะเหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้น ขณะนี้ผสมปนเปกันไปมา จึงอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็ได้ เรื่องการเปลี่ยนแปลงนั้น กกต.ทราบดีว่ากกต.ต้องยึดโยงกับการเมือง แต่การจะมีปฏิวัติ รัฐประหาร แล้วทำให้ไม่มี กกต.แทนที่จะเป็นผลดีกับประชาธิปไตย ตนมองว่า น่าจะทำให้ถูกมองว่าถอยหลังมากกว่า กกต.ยืนยันว่า เราไม่ยึดติดกับตำแหน่ง ถ้า กกต.ต้องพ้นไป เพราะมีการรัฐประหารก็ไม่เป็นไร แต่การเลือกตั้งอย่างไรเสียก็ควรต้องมี เพราะเป็นการคืนอำนาจให้ประชาชน เนื่องจากไม่มีอำนาจไหนที่มีประโยชน์ และเที่ยงธรรมเท่ากับอำนาจที่มาจากประชาชน
นางสดศรี ยังกล่าวเชิญชวนให้ผู้มีรายได้ซึ่งต้องยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90, 91) ต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้ สามารถแสดงความจำนงบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองที่ชื่นชอบในแบบฟอร์ม ภ.ง.ด.90, 91 ด้วยการระบุรหัสแต่ละพรรคการเมือง โดยกรมสรรพากรจะหักภาษีที่ต้องจ่ายให้กับรัฐจำนวน 100 บาท ให้กับพรรคการเมืองซึ่งขณะนี้มีพรรคการเมืองทั้งหมด 51 พรรค ที่สามารถรับบริจาคได้ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมียอดบริจาคมากกว่าปีที่ผ่านมา