กกต.ไม่ครบองค์ประชุม ทำที่ประชุมเลื่อนถกกรณี “พนิช” ติดคุกแขมร์ เสียสถานภาพหรือไม่ “สดศรี” คาดคงคุยพรุ่งนี้ ชี้ยังต้องรอหนังสือจาก กกต.ก่อน แย้มตั้งอนุฯ วินิจฉัยข้อกฎหมาย เสี้ยม ส.ส. ยื่นประธานรัฐสภา ชงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแทน ยัน ส.ส.ประชาธิปัตย์ ยังทำหน้าที่ได้จนกว่าทำเข้าสู่กระบวนการศาล
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ประชุม กกต.ไม่ได้มีการประชุมนัดพิเศษเพื่อหารือถึงกรณีนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ถูกศาลกัมพูชามีคำพิพากษาจำคุก 9 เดือนโดยให้รอลงอาญาซึ่งอาจเป็นเหตุให้จะเป็นเหตุให้ความเป็นสมาชิกภาพ ส.ส.ต้องสิ้นสุด เนื่องจากนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.ติดภารกิจไปร่วมพิธีเปิดการเฉลิมฉลองการสถาปนา กกต.แห่งสาธารณรัฐอินเดีย ครบรอบ 60 ปี และร่วมประชุมสัมนานานาชาติที่เมืองนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ในระหว่างวันที่ 23-26 ม.ค.นี้ ขณะที่นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ได้ลาป่วยทำให้ กกต.ไม่ครบองค์ประชุมที่ 3 ใน 4 ของ กกต.เท่าที่มีอยู่หรือไม่น้อยกว่า 4 คนจาก 5 คน
ด้าน นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า วันเดียวกันนี้ (24 ม.ค.) กกต.ไม่ได้มีการประชุม แต่เป็นได้ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ อาจจะมีการหยิบยกกรณีคุณสมบัติของนายพนิช ขึ้นมาหารือเบื้องต้นในที่ประชุม ก่อน แต่ทั้งนี้ กกต.คงต้องรอหนังสือตอบกลับของกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) มายัง กกต.ก่อน เพราะสำนักงาน กกต.ได้เคยสอบถามไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 มกราคมเพื่อขอทราบถึงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายรวมถึงต้องขอคำพิพากษาจากศาลกัมพูชาด้วย และกรณีศาลในที่นี้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 นั้นหมายถึงศาลในต่างประเทศด้วยหรือไม่ ซึ่งเมื่อ กกต.ได้รับหนังสือตอบกลับจาก กต.แล้วก็คงต้องนำเข้าที่ประชุม กกต.เพื่อวินิจฉัยรวมถึงเป็นไปได้ที่ กกต.จะตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอีกครั้งก่อน และหาก กกต.เห็นว่านายพนิชสิ้นความเป็นสมาชิกภาพแล้วก็ต้องส่งเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนายพนิช ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 วรรคท้าย
“แต่หากต้องการให้กรณีนี้จบเร็ว ก็ให้ ส.ส.หรือ ส.ว.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ใช้สิทธิยื่นต่อประธานแห่งสภาตามมาตรา 91 วรรคหนึ่งเมื่อเห็นว่านายพนิชอาจพ้นสมาชิกภาพมาตรา 106 (11) หรือไม่ เพื่อให้ประธานแห่งสภานั้นๆ ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยโดยไม่ต้องผ่าน กกต.ก็ทำได้ ดังนั้น ไม่ว่า กกต.จะวินิจฉัยหรือ ส.ส.จะเข้าชื่อ1ใน 10ยื่นต่อประธานแห่งสภาเรื่องก็จบที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอยู่ดี โดยศาลจะต้องวินิจฉัยว่าศาลกัมพูชาในทีนี้รวมหมายถึงศาลในต่างประเทศด้วย หรือไม่ที่เป็นเหตุให้นายพนิชต้องพ้น ส.ส.หรือไม่” นางสดศรีกล่าว
เมื่อถามว่า ขณะนี้นายพนิชสามารถเข้าร่วมประชุมสภาเพื่อลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ นางสดศรีกล่าวว่า ขณะนี้นายพนิชยังคงมีสถานะเป็น ส.ส.อยู่เช่นเดิม จนกว่าเรื่องจะขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญแล้วนายพนิชจึงหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราวก่อนมีคำวินิจฉัยของศาล อีกทั้งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่สามารถอนุญาตให้ ส.ส.ขาดการประชุมหรือลาการประชุมไม่ เกินจำนวน 1 ใน 4 ของจำนวนวันสมัยประชุมที่มีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า 120 วันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 (10) ดังนั้น กกต.ไม่มีอำนาจในขณะนี้ให้นายพนิชหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่นายชัยต้องใช้อำนาจประธานสภาฯที่อาจให้นายพนิช หยุดปฏิบัติหน้าที่ตาม มาตรา 106 (10) แต่ต้องไม่เกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนดได้เพื่อรอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัยก่อนเพื่อมิให้เกิดปัญหาในการลงมติต่อร่างกฎหมายต่างๆ รวมถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อาจกลายเป็นปัญหาในภายหลังได้ว่าจะเป็นโมฆะหรือไม่