“กษิต” ระบุเขมรเหิมโจมตีไทยเพราะได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศส รัสเซียและอินเดีย เตรียมเดินทางแจง UNSC 14 ก.พ.นี้ พร้อมทวงถามความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ในฐานะพันธมิตรฯ ขณะเดียวกันจะถาม “ฮอร์ นัมฮง” ต้องการร่วมมือกันต่อไปหรือจะสู้รบ นอกจากนี้จะถามจีนถึงแหล่งที่มาจรวดที่ใช้ถล่มไทย อ้างไม่รู้บัวแก้วจ้างนักวิชาการทำวิจัยพื้นที่ทับซ้อน ผลออกมาขัดแย้งกับท่าทีของรัฐบาลไทย
นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บรรยายพิเศษในงานสัมมนา “ประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน : เหตุการณ์ปกติจริงหรือ” ตอนหนึ่งถึงปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาว่า เกิดจากประวัติศาสตร์และอุดมการณ์ทางการเมือง เนื่องจากยังมีการปลูกฝังว่าเคยถูกไทยปกครองมากว่า 700 ปี ก่อนที่ประเทศฝรั่งเศสจะเข้ามาปกครอง
นายกษิตกล่าวว่า การดำเนินการของกัมพูชาเพื่อต้องการปราสาทเขาพระวิหารและพื้นที่โดยรอบ และให้คณะกรรมการมรดกโลกเข้ามาบริหาร ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาคิดว่ารัฐสภาของไทยดำเนินการล่าช้า จึงเปิดฉากโจมตีประเทศไทยให้เกิดความรุนแรง โดยมีประเทศรัสเซีย อินเดีย และประเทศฝรั่งเศสให้การสนับสนุน
ทั้งนี้ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้จะเดินทางไปชี้แจงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ที่สหรัฐอเมริกา ตนเองจะมีการพูดคุยกับนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ถึงทิศทางในอนาคตว่าจะต้องการความร่วมมือต่อไปหรือจะเป็นการสู้รบต่อ เพราะการที่สมเด็จฯ ฮุนเซนไปขอความเห็นใจจากเวทีโลกว่าเป็นประเทศเล็กยากจน แต่ถูกไทยประเทศใหญ่กระทำ ไม่ได้เป็นสิทธิให้สามารถรุกรานประเทศไทยได้ โดยนายกษิตยืนยันว่าไทยเป็นฝ่ายถูกกระทำ พร้อมกันนี้ก็จะทวงถามความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาในฐานะพันธมิตรด้วย
นายกษิตกล่าวว่า กำลังประสานไปยังประเทศจีนเพื่อตรวจสอบจรวดที่ยิงเข้ามาในฝั่งประเทศไทยว่ากัมพูชาได้มาจากแหล่งใด ส่วนกรณีที่กรมสนธิสัญญาว่าจ้างนักวิชาการให้วิจัยกรณีพื้นที่ทับซ้อนที่ขัดแย้งกับท่าทีของรัฐบาลไทยนั้น ตนเองเพิ่งทราบว่ามีการดำเนินการว่าจ้างจริง คิดว่าเป็นการดำเนินการของข้าราชการประจำ นักการเมืองในอดีตที่เสียผลประโยชน์จึงมีการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนทำให้สังคมเกิดความสับสน
