xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” โชว์หลักฐานฉีกหน้าพรรคการเมือง-สื่อชั่ว ใช้วิชามารหวังดิสเครดิต อ้างสมคบแม้วล้มรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” แถลงโต้นักการเมืองชั่ว-หนังสือพิมพ์ชั่ว สมคบกันป้ายสีทำลายชื่อเสียง กล่าวหามั่วว่าเดินทางไปต่างประเทศวางแผนล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ แสดงหลักฐานวันเวลาเข้าออกประเทศพร้อมเที่ยวบิน รวมถึงจดหมายยืนยันการเข้าพักโรงแรมตอกหน้าชัดเจน ย้ำพำนักทำธุระส่วนตัวที่ฮ่องกงตลอดจนกระทั่งเดินทางกลับไทย ระบุ “เทพไท-ศิริโชค” รู้เรื่องบัดซบนี้ดี พร้อมเตือน “สุทธิชัย หยุ่น” ให้ระวัง “หางเริ่มโผล่


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัมภาษณ์  

วันนี้ (8 ก.พ.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้แถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ ตอบโต้รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 8 ก.พ.โดยอ้างแหล่งข่าวในทำเนียบรัฐบาล ระบุว่าหน่วยงานด้านการข่าวกำลังจับตาการเคลื่อนไหวเชื่อมโยงของคนบางกลุ่มก่อนการชุมนุมของพันธมิตรฯ และมีการยกระดับการชุมนุมขับไล่รัฐบาลว่า ข่าวดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นการจงใจปล่อยข่าวเพื่อทำลายชื่อเสียง และทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเอง และเป็นข่าวที่ออกมาจากพรรคที่เคยส่งคนไปตะโกนว่า “ปรีดีฆ่าในหลวง” หรือ “พล.ต.จำลองพาคนไปตาย” โดยการปล่อยข่าวผ่านหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ สื่อในเครือเนชั่น

“เรื่องนี้ถือว่าบัดซบที่สุด เป็นการสมคบกับระหว่างนักการเมืองเลว กับหนังสือพิมพ์ที่เลวไร้จุดยืนและได้รับสัมปทานสื่อ มีผลประโยชน์ร่วมกับรัฐบาลชุดนี้ ผมยังไม่รู้ว่าเป็นใครปล่อยข่าวนี้ แต่ถ้าอยากรู้ก็ต้องไปถามคุณเทพไท (เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) หรือ นายศิริโชค (โสภา คนใกล้ชิดนายกฯ) น่าจะรู้ดี” นายสนธิระบุ

ทั้งนี้ รายงานข่าวดังกล่าวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ระบุว่า “มิสเตอร์เอส” ที่เป็นระดับแกนนำพันธมิตรฯ เดินทางไปฮ่องกงเมื่อวันที่ 22 ม.ค.2554 ด้วยเที่ยวบิน CX0702 พร้อมๆ กับ “นาย ช. นามสกุล ส.” คนสนิทอดีตนายกรัฐมนตรี จากนั้นทั้งคู่เดินทางออกจากฮ่องกงไปคูเวต และอ้างว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่อดีตนายกฯ ผู้นั้นกำลังพำนักอยู่ที่คูเวตพอดี จากนั้นทั้งมิสเตอร์เอสได้เดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 24 ม.ค.พร้อมกัน โดยมิสเตอร์เอสกลับจากคูเวตด้วยเที่ยวบิน KU 0411 ขณะที่ นาย ช.กลับจากคูเวตด้วยบิน TG 0629 พร้อมตั้งข้อสังเกตอีกว่าการเดินทางของกลุ่มบุคคลดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการชุมนุมของพันธมิตรฯ เพียง 1 วัน และหลังจากนั้นจะมีการชุมนุมของคนเสื้อแดง

นายสนธิย้ำว่า เขาเดินทางไปฮ่องกงเมื่อวันที่ 22 ม.ค.จริง และกลับวันที่ 24 ม.ค.จริง แต่พำนักและทำธุระส่วนตัวอยู่ที่นั่นตลอด ไม่ได้ไปที่คูเวตตามที่มีรายงานข่าวอ้างแต่อย่างใด โดยเดินทางด้วยเที่ยวบิน CX702 และเดินทางกลับด้วยเที่ยวบิน CX713 และกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 11.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานในการแถลงข่าวชี้แจงของนายสนธิครั้งนี้ ได้นำหลักฐานทั้งหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) และหนังสือที่ทางการฮ่องกงออกให้สำหรับคนที่เดินทางเข้าประเทศนั้นบ่อยๆ โดยมีสิทธิพิเศษไม่ต้องเข้าคิว ที่เรียกว่าทราเวล พาส (Travel Pass) ที่ยืนยันวันเวลาเข้า-ออกประเทศทั้งประเทศไทย และฮ่องกง อย่างชัดเจน

แกนนำพันธมิตรฯ ผู้นี้ยังย้ำอีกว่า เขาพำนักอยู่ที่ฮ่องกงตลอด ตั้งแต่วันที่ 22-24 ม.ค. โดยเข้าพักที่โรงแรมเพนนินซูล่า ซึ่งมีเอกสารจากโรงแรมที่ยืนยันถึงการเข้าพักโรงแรมดังกล่าว ขณะที่ข้อกล่าวหาที่บอกว่ากลับมาด้วยเที่ยวบิน KU 0411นั้นเดินทางถึงประเทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิในช่วงสายของวันที่ 24 ม.ค. ก็ไม่ใช่ตนเอง


เอกสารยืนยันการเข้าพักในโรงแรมเพนนินซูล่าฮ่องกงของนายสนธิ ระหว่างวันที่ 22-24 ม.ค.2554 ลงนามโดยผู้จัดการโรงแรม นายโจเซฟ แซมเพอร์แมนส์

“เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการโกหกของกลุ่มคนชั่ว ทั้งนักการเมืองชั่ว และหนังสือพิมพ์ชั่ว สมคบกันเพื่อทำลายชื่อเสียงของตัวเอง คงเป็นเพราะรัฐบาลนี้กลัวว่าตัวเองทำความชั่วไว้มาก เลยกลัวการถูกเปิดโปง ขณะที่ เครือเนชั่นนั้น ผมขอเตือนไปถึง สุทธิชัย หยุ่น และผู้บริหารเนชั่นว่า หยุดใช้วิธีการชั่วๆ เพื่อทำลายคนอื่น ซึ่งในช่วงหลังผมตั้งข้อสังเกตว่าเครือเนชั่นตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับพันธมิตรฯ ตลอด ดังนั้นขอเตือนว่าระวังให้ดี เพราะหางเริ่มโผล่ ได้รับผลประโยชน์จากสัมปทานสื่อจากรัฐบาลนี้จนสำลัก” นายสนธิระบุ

นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า จากข่าวดังกล่าวยังมีการนำไปขยายความจากนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการอิสระ ที่จัดรายงานทางวิทยุชมชนคนรักประชาธิปไตย ทางคลื่นเอฟเอ็ม 92.25 เมกะเฮิรตซ์ เมื่อตอนเช้าวันนี้อีกด้วย โดยมีความพยายามสื่อให้เห็นว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ ในครั้งนี้มีเบื้องหลัง โดยพยายามเชื่อมโยงไปถึง ทักษิณ ชินวัตร และคนเสื้อแดง ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าในระยะหลังนายเจิมศักดิ์มีการปกป้องนายอภิสิทธิ์อยู่บ่อยครั้ง

สำหรับเหตุผลของการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมาได้เสนอเงื่อนไข 3 ข้อให้รัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำเนินการ คือ หนึ่ง ให้ยกเลิกเอ็มโอยู 43 สอง ให้ถอนตัวจากการเป็นภาคีกรรมการมรดกโลก และสาม ให้ผลักดันกัมพูชาที่รุกล้ำแดนไทยออกไป
ตารางสายการบินที่กล่าวอ้างว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล เดินทางไปยังประเทศคูเวต โดยตารางซึ่งไม่มีที่มาที่ไปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์การเมือง-โซเซียลเน็ตเวิร์ก หลายแห่งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวโคมลอยเรื่องแกนนำพันธมิตรฯ ชื่อย่อ S เดินทางไปคูเวตเพื่อพบกับอดีตนายกฯ วางแผนจัดการชุมนุมล้มรัฐบาล ที่ถูกเผยแพร่ใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ และถูกนำมาเผยแพร่ซ้ำในเว็บไซต์นายสุทธิชัย หยุ่น
หลักฐานตราประทับใน Travel Pass ของฮ่องกงยืนยันว่านายสนธิเดินทางเข้าฮ่องกงวันที่ 22 ม.ค. และออกวันที่ 24 ม.ค. แสดงให้เห็นว่ามิได้เดินทางไปคูเวตแต่อย่างใด
หลักฐานตราประทับในพาสปอร์ตไทยระบุการออกจากประเทศไทยในวันที่ 22 ม.ค. และเข้าประเทศไทยวันที่ 24 ม.ค. โดยเที่ยวบิน CX713 จากฮ่องกงมิใช่เที่ยวบินKU 0411 จากคูเวตตามที่มีการอ้างในข่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น