“ลุงจำลอง” ย้ำผู้ชุมนุมอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง หากเคลื่อนไหวให้แกนนำ-โฆษกประกาศบนเวทีเท่านั้น ซัด ตร.ซ้อมยิงแก๊สน้ำตาข่มขู่ประชาชน ลั่นไม่กลัวยิงมาก็หนีไปก่อนแล้วเข้ามาใหม่ “ปานเทพ” ยันชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ สงบ ปราศจากอาวุธ ชี้ไม่มีเหตุให้สลายการชุมนุม ด้าน “ประพันธ์” จ่อตีแผ่รัฐโกงชาติ ขย่มอีกรอบ แฉ “วอลเปเปอร์” เอี่ยววิกฤตน้ำมันปาล์ม
วันนี้ (3 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยในการแถลงข่าวการชุมนุมประจำวันว่า หากจะมีการยกขบวนไปกดดันที่ใด หรือเข้าทำเนียบฯ เมื่อไรนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ จะปฏิบัติเช่นเดิม โดยให้แกนนำหรือโฆษกพันธมิตรฯ เป็นผู้ประกาศบนเวทีเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และป้องกันการแอบอ้าง เพราะมีความพยายามใช้วิชามารอยู่ตลอดเวลา
“แกนนำพันธมิตรฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการชุมนุมให้เกิดความรอบคอบที่สุด และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการชุมนุม เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 3 ข้อของเรา ซึ่งในวันที่ 5 ก.พ.นี้ พี่น้องประชาชนจะมีฉันทามติอย่างไรต้องติดตามต่อไป” พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า ขณะนี้มีผู้หวังดีมาเตือนว่าระวังการแอบอ้างการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นผลดีต่อพันธมิตรฯ อาทิ การเผาสถานทูตกัมพูชา หรือการบุกยึดทำเนียบฯ ในเวลาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันว่าหากมีการเคลื่อนไหวใดๆ จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ โดยขอให้ผู้ชุมนุมอย่าไปเชื่อคำลือต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การซ้อมยิงแก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจในทำเนียบรัฐบาลมีผลต่อการชุมนุมหรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่า การซ้อมดังกล่าวเสมือนการยั่วยุข่มขู่ เกรงว่าจะมีผู้ที่ไม่พอใจนำไปสู่การบุกเข้าทำเนียบหรือมาตรการอื่นๆ ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งทางแกนนำจะพิจารณาถึงมาตรการและช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนประกาศอย่างเป็นทางการ หากมีการใช้แก๊สน้ำตาต่อกลุ่มผู้ชุมนุมจริง พวกเราก็พร้อมรับมือ โดยให้หลบออกไปก่อนแล้วเข้ามาใหม่ แต่ขอเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หน้าที่ของตำรวจคือดูแลประชาชน และปกป้องดินแดน การมาทำร้ายประชาชนที่ออกมาปกป้องแผ่นดิน เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง รัฐบาลนี้มาแล้วก็ไป หากมีการกระทำไม่ถูกต้องก็อาจถูกเล่นงานได้หากมีรัฐบาลใหม่เข้ามา
ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของรัฐบาลเป็นภาษีของประชาชน ขอให้นำไปใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า กรณีการซ้อมในทำเนียบรัฐบาล คือการข่มขู่ประชาชนที่มีเจตนาในการปกป้องอธิปไตย หากนายกฯ อภิสิทธิ์มีความเชื่อว่าประชาชนเหล่านี้ออกมาปกป้องดินแดนก็ไม่ควรใช้ยุทโธปกรณ์ในการสลายการชุมนุมของประชาชน แต่ควรนำไปใช้สำแดงแสนยานุภาพบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาให้เกิดความเกรงกลัวและหยุดการละเมิดอธิปไตยของไทย
นายปานเทพกล่าวอีกว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ ยึดหลักการชุมนุมโดยรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ที่สำคัญคือ หลักอารยะขัดขืนของกลุ่มพันธมิตรฯ จะมีการประกาศล่วงหน้า เหตุเพราะพันธมิตรฯ ไม่ใช่กลุ่มจัดตั้ง แต่มีการสื่อสารถึงประชาชนโดยทางสาธารณะว่าจะทำอะไรล่วงหน้า เพราะฉะนั้น การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯต้องเป็นที่เปิดเผยและแจ้งล่วงหน้าโดยแกนนำเท่านั้น ใครก็ตามที่พยายามเคลื่อนไหวเพื่อใส่ความพันธมิตรฯ เจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่ที่ต้องจัดการจับกุม
ขณะที่ นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน กล่าวว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ให้เวลารัฐบาล 3 วัน โดยแนวทางการขับเคลื่อนต่อไปจะมีการประกาศบนเวทีอย่างเป็นทางการ โดยจะมีเหตุประกอบว่าเหตุใดจึงมีการยกระดับการชุมนุม และมาตรการอื่นๆ เพื่อในรัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ ในส่วนเนื้อหาของการปราศรัยบนเวทีจะมีการยกระดับเนื้อหาจากการปกป้องอธิปไตยของชาติ ซึ่งเป็นจุดยืนที่สำคัญ และเพิ่มเติมถึงการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเกี่ยวข้องในทุกเรื่อง เพื่อชี้ให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะได้ละทิ้งอุดมการณ์ความเป็นพรรคที่เลวน้อยไปจนหมดสิ้น ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ จะฉายภาพว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่เลวมากที่สุด อาทิ เรื่องที่ได้เปิดประเด็นไปก่อนหน้าที่อย่างการทุจริตน้ำมันปาล์มที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการทุจริตที่ละอายและอำมหิตที่สุดในการหากินบนความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จงใจให้เกิดความขาดแคลนและสร้างราคาขึ้นมาให้กลุ่มของตัวเองได้ผลประโยชน์ทั้งหมด เพื่อชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์หมดความชอบธรรมในการบริหารบ้านเมืองอย่างไร
“จะเห็นแล้วว่า สิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ เปิดเผยออกไปนั้นเป็นความจริง จนสื่อได้นำเสนอตีแผ่ข้อมูลการหาประโยชน์จากการกักตุนน้ำมันปาล์มโดยกลุ่มนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะคนที่ทำตัวเป็นวอลเปเปอร์” นายประพันธ์กล่าว
โฆษกการชุมนุมฯ กล่าวด้วยว่า การที่นายอภิสิทธิ์พยายามพูดเรื่องการยุบสภานั้น เป็นการโกหกประชาชน เพราะไม่ได้มีความตั้งใจที่จะยุบสภา แต่อยากจะอยู่ในตำแหน่งนานที่สุด เพื่อให้ผ่านการพิจารณางบประมาณ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ และผ่านโครงการที่มีการทุจริตคอรัปชั่นที่รอการอนุมัติอยู่ การพูดถึงเรื่องการยุบสภาเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อหวังลดกระแสการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จะประวิงเวลาออกไปอีก ทำให้ไม่สามารถยุบสภาได้ โดยเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายแทนที่จะมุ่งในประเด็นการทุจริต กลับมุ่งไปที่เหตุการณ์ปราบปรามคนเสื้อแดง ดูเหมือนเป็นการซื้อเวลาให้กับรัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์ต่อไปมากกว่า นอกจากพรรคประชาธิปัตย์ยังมีพฤติกรรมการซื้อตัว ส.ส.ไม่ต่างจากสมัยพรรคไทยรักไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดังนั้นบนเวทีของการชุมนุมจะเดินหน้าเพื่อเปิดโปงเรื่องต่างๆ เหล่านี้
ขณะที่ พล.ต.จำลองกล่าวว่า มีการพูดถึงการยุบสภาเพื่อหวังลดกระแสการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งตนยืนยันอีกครั้งว่าจะยุบหรือไม่ยุบสภานั้น ไม่ใช่เป้าหมายของการชุมนุม เพราะเรามีจุดประสงค์ 3 ข้อที่ชัดเจน หากมีการยุบสภาจริง ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ก็จะมีมาตรการในการรับมือ