“มาร์ค” จอมแถ มึนแดงไปชุมนุมศาลอาญา ไม่รู้จะอยู่ยาว โยนเจ้าหน้าที่คุย ชี้ซ้อม รปภ.ทำเนียบปกติ อ้างพันธมิตรฯ ขู่บุกก่อน ยันไม่ให้ยึดสถานที่ราชการ ซัดผู้ปราศรัยบางรายพูดไม่จริง แนะเอาข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกัน ทำไม่รู้ม็อบยกระดับเสาร์นี้ อ้าง “ปานเทพ” ไล่มานานแล้ว บอกพูดยากม็อบมามีประโยชน์ต่อที่ประชุมมรดกโลก ย้ำไม่ถอนตัว ปัดรัฐจ่อสลาย พธม. อ้างขอแค่พื้นที่จราจรบางส่วน
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมและจะไปที่ศาลอาญาและศาลฎีกา เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ถูกจำคุกอยู่ว่า ไม่ทราบประเด็นที่จะไปเสนอคืออะไร แต่ยืนยันฝ่ายตุลาการมีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่และเชื่อมั่นว่า ระบบของเราเป็นระบบที่ยึดถือความถูกต้อง เรื่องของกฎหมาย เราจะต้องให้ความมั่นใจต่อตุลาการว่าท่านสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเที่ยงตรงได้ อย่างไรก็ตาม เวลามีการเคลื่อนไหวหรือมีข่าวเกี่ยวกับจุดที่อาจเป็นเป้าหมาย ซึ่งอาจเกิดความวุ่นวายก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว อย่างก่อนหน้านี้มีสถานทูตของกัมพูชาเราก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดในลักษณะที่อาจมีการชุมนุมยืดเยื้อ นายกรัฐมนตรีกล่าวปฏิเสธว่า ยังไม่ทราบ อันนี้ทางเจ้าหน้าที่คงต้องไปพูดคุย เมื่อถามว่าหากมีปัญหาการชุมนุมยืดเยื้อเพิ่มอีกจะแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่อยากให้มี และคิดว่าผู้ชุมนุมเองคงต้องคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไป
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อมรับมือความปลอดภัยที่ทำเนียบมีความหมายอะไรเป็น พิเศษหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความหมายคือเขาก็ซ้อมไม่มีอะไร เมื่อถามว่า พันธมิตรฯมองว่าการซ้อมคือการขู่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ได้ขู่แต่เขาเป็นคนพูดก่อนว่าจะบุกเข้ามาในทำเนียบฯ เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ยอมเด็ดขาดให้มีการยึดทำเนียบฯ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราไม่ต้องการที่จะให้มีการกระทำที่เป็นเรื่องการบุกรุกสถานที่ราชการและไม่คิดว่าเป็นประโยชน์กับใคร
“ประเด็นของพันธมิตรฯ ที่ต้องการให้รัฐบาลรักษาผลประโยชน์ของประเทศนั้น ผมได้ย้ำหลายครั้งว่าเป้าหมายไม่ได้ต่างกัน เพียงแต่ความคิดความอ่านมันต่างกันว่าควรจะทำอย่างไร ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะต้องทำอยู่แล้ว ฉะนั้น มันควรจะเป็นเรื่องที่สามารถมาแลกเปลี่ยนข้อมูลได้มากกว่าที่จะมามุ่งโจมตีกัน และผู้ที่ขึ้นปราศรัยบางรายก็ไม่มีเนื้อหาสาระที่เป็นความจริงเลย ตอนนี้ไปเรื่องอื่นหมดแล้ว” นายกรัฐมนตรีกล่าว
เมื่อถามว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะยกระดับการชุมนุมในวันเสาร์นี้ (5 ก.พ.) โดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ บอกชัดว่าจะขับไล่นายกฯ นายอภิสิทธิ์กล่าวปฏิเสธว่า ยังไม่ทราบแนวทางเป็นอย่างไร แต่นายปานเทพก็ขับไล่มาตั้งนานแล้ว เมื่อถามว่าการยกระดับขับไล่นายกฯ คิดว่าจะมีเหตุอะไรบานปลายหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ทราบ เป้าหมายการชุมนุมก็เรื่องหนึ่ง วิธีการชุมนุมก็อีกเรื่องหนึ่ง ขอให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า การชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ต้องการรักษาอธิปไตยตรงนี้ คิดว่าจะมีประโยชน์อะไรต่อเวทีมรดกโลกหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คิดว่าความจริงต้องดูความพอดี สิ่งที่จะช่วยเรามาในมรดกโลกคือ ต้องสะท้อนให้เห็นว่าพื้นที่ซึ่งจะมีการเข้ามาบริหารจัดการเป็นพื้นที่ที่มีปัญหา และมรดกโลกต้องการเห็นว่าเรามีกลไกในการแก้ไขปัญหาในลักษณะของสองฝ่ายแบบสันติ ฉะนั้นตรงนี้จะเป็นประโยชน์ที่สุดและก็เป็นแนวทางที่รัฐบาลเดินอยู่ เมื่อย้ำถามว่า หมายถึงในทางกลับกันการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯจะเป็นประโยชน์ตรงนั้นไหม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เวลานี้ตนเองตอบยาก เพราะประเด็นที่หยิบยกขึ้นมาเคลื่อนไปพอสมควร ฉะนั้นไม่ทราบ
“แต่อย่างที่เรียนคือ เรื่องมรดกโลก การเคลื่อนไหวที่เรียกร้องให้ถอนตัวในขณะนี้ ผมมองว่าไม่เป็นประโยชน์ มันจะเป็นประโยชน์ได้อย่างไร ในเมื่อเราต้องไปคัดค้านกัมพูชา ถอนตัวมาก็ไม่มีคนคัดค้าน ไม่มีคนไปทำความเข้าใจกับประเทศอื่นๆ แทนที่จะช่วยให้โลกเข้าใจเรามากขึ้น กลายเป็นฟังความจากฝ่ายกัมพูชาข้างเดียว ผมไม่เข้าใจจะมาเรียกร้องให้โลกฟังกัมพูชาข้างเดียวทำไม” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ส่วนกรณีที่พันธมิตรฯ พูดบนเวทีว่ารัฐบาลจะสลายการชุมนุมนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มีและเห็นบางคนมาต่อว่ารัฐตัดสัญญาณ ก็ไม่มี รัฐบาลไม่ได้ทำอยู่แล้ว เมื่อถามว่า แนวทางการเปิดเส้นทางในตอนกลางวันเนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมมีน้อย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็อยากทำ ให้ทางตำรวจพยายามทำอยู่ และนี่อาจเป็นเหตุผลที่เขาพยายามจะจุดประเด็นการสลายการชุมนุม ซึ่งความจริงเพียงแค่ต้องการให้เขาเปิดการจราจรบางส่วนเท่านั้นเอง เมื่อถามว่า นายกฯ กังวลหรือไม่ที่วิธีการชุมนุมของพันธมิตรฯ จะเปลี่ยนรูปแบบอีก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องถามเขา